มี 2 ช่วงชีวิตสำคัญๆ ในการเลือกซื้อกล้องที่จำได้อย่างแม่นยำ ก็คือช่วงที่จะซื้อกล้อง DSLR ตัวแรก และตอนที่คิดจะขยับขึ้นไปเล่นกล้องฟูลเฟรม ซึ่งจากการที่เราได้ไปสัมผัสกับกล้อง DSLR 2 รุ่นใหม่ของทาง Canon ทั้ง EOS 6D MarkII และ EOS 200D ก็รู้สึกได้ว่า เป็นกล้องที่เหมาะมากสำหรับผู้เริ่มต้น ทั้งเริ่มจับกล้องครั้งแรก และเริ่มขยับมาเล่นฟูลเฟรม เอาเป็นว่า ลองไปชมพรีวิวของกล้องทั้ง 2 รุ่นนี้กันดูได้เลย
ในตอนที่กล้อง Canon EOS 6D รุ่นแรกออกมาใหม่ๆ ก็ค่อนข้างจะเป็นที่ฮือฮากันพอสมควรสำหรับหลายๆ คนที่ต้องการขยับขึ้นมาเล่นกล้องฟูลเฟรม แต่มาจนถึงวันนี้ ถ้าจะให้ย้อนกลับไปซื้อ 6D รุ่นแรก ก็คงจะไม่ตอบโจทย์นัก ทั้งเรื่องของจุดโฟกัสที่จำกัดเพียง 11 จุด, จอ LCD ติดกล้องที่พลิกแพลงไม่ได้ รวมทั้งไม่เป็นทัชสกรีน และการเชื่อมต่อต่างๆ
ซึ่งก็ถือเป็นฤกษ์งามยามดีสำหรับคนที่อยากหันมาเล่นกล้องฟูลเฟรม ไม่ว่าจะเป็นสายกล้องตัวคูณมาก่อน หรือตากล้องมือใหม่ ที่อยากจะเริ่มต้นด้วยฟูลเฟรมเลย เพราะทาง Canon ได้ต่อยอดกล้องเลขหลักเดียวไลน์ใหม่นี้ด้วย Canon EOS 6D MarkII พร้อมเทคโนโลยีของกล้องรุ่นใหม่ๆ ที่จัดเต็มมาอย่างครบครัน จนเรียกได้ว่า คนที่เคยใช้งานกล้อง 6D แบบผู้เขียน ปลื้มสุดๆ ไปเลย
อย่างแรกที่ค่อนข้างประทับใจคือ จุดโฟกัสที่เพิ่มขึ้นจาก 11 จุด มาเป็น 45 จุด ทำให้เราสามารถจัดองค์ประกอบภาพได้อิสระยิ่งขึ้น ลดความความกังวลเรื่องภาพเบลอจากการล็อกโฟกัสก่อนจัดองค์ประกอบไปได้เยอะเลย
จุดที่สองก็คือชิปประมวลผล DIGIC7 ที่อัพเกรดมาจาก DIGIC5+ ที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่มากโข ทั้งการโฟกัสที่รวดเร็วผ่านเทคโนโลยี Dual Pixel CMOS AF ทำให้สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้รวดเร็วมากขึ้นจาก 4.5 ภาพต่อวินาที มาเป็น 6.5 ภาพต่อวินาที (Live View ทำได้ 4 ภาพต่อวินาที), การจัดการจุดรบกวน เมื่อถ่ายภาพบนค่า ISO สูงๆ ได้ดีขึ้น หรือโหมดการถ่ายภาพ Panning ที่ติดมากับชิปประมวลผลตัวใหม่นี้มาด้วย
(ตัวอย่างภาพถ่ายต่อเนืองจาก EOS 6D Mark II ที่ 6.5 ภาพต่อวินาที)
ภาพทดสอบเปรียบเทียบจุดรบกวนของกล้อง Canon EOS 6D markII (ซ้าย) ค่า ISO 40,000 และ Canon EOS 70D (ขวา) ที่ค่า ISO 12,800 จะเห็นได้ว่าภาพจาก EOS 6D MarkII ถึงแม้ว่าจะใช้ค่า ISO ที่สูงถึง 40,000 แต่ก็ยังคงให้ไฟล์ภาพที่เนียน คมและสะอาด จุดรบกวนสังเกตได้ยากอยู่
ต่อมาเป็นเรื่องของฟีเจอร์ทั่วไปของกล้องใหม่ๆ ที่รุ่นไหนก็มีกัน และได้เดินทางมาถึง 6D Mark II แล้ว นั่นก็คือจอ LCD แบบทัชสกรีนที่ปรับหมุนได้หลายทิศทาง ทำให้เราถ่ายภาพได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นจิ้มเพื่อเลือกโฟกัส หรือถ่ายมุมสูงมุมต่ำ ก็จัดได้แบบสบายๆ แล้ว
นอกจากด้านการถ่ายภาพนิ่งแล้ว การถ่ายวิดีโอของ EOS 6D Mark II ก็มาพร้อมกับความละเอียด Full HD 60 fps ที่มีระบบกันสั่นแบบ 5 แกน Movie Digital IS ช่วยทำให้ภาพสั่นไหวน้อยลง แถมยังใช้งานกับเลนส์ที่ไม่มีระบบ IS กันสั่นได้อีกด้วย ส่วนด้านความละเอียด 4K นั้น EOS 6D Mark II ก็สามารถถ่ายได้ในรูปแบบของ Time-lapse เท่านั้น ยังไม่สามารถถ่ายเป็นวิดีโอเต็มๆ ได้ (ไม่งั้นจะทำให้ราคาของกล้องสูงกว่านี้)
ด้านการเชื่อมต่อสำหรับกล้อง EOS 6D Mark II นอกจากจะมี Wi-Fi สำหรับเชื่อมต่อแล้ว ยังได้เพิ่ม NFC ให้สามารถแตะกับมือถือเพื่อการเชื่อมต่อที่รวดเร็วขึ้น รวมทั้งมีการเชื่อมต่อทางเลือกแบบ Bluetooth ที่ประหยัดพลังงานมากกว่า มาให้ใช้งานกันด้วย
นอกจากรุ่นใหญ่แล้ว กลับมาดูที่รุ่นเล็กกันบ้าง กับ EOS 200D กล้อง DSLR ระดับ Entry-level สำหรับมือใหม่ ที่ต่อยอดมาจาก EOS 100D เน้นความเล็กยิ่งกว่ารุ่นเล็ก และดีไซน์เก๋ ที่ผู้เขียนขอบอกไว้ก่อนเลยว่า ถ้า 200D ออกมาตอนสมัยเรียน คงเป็นกล้องตัวแรกของเราแน่ๆ
เมื่อก่อนนั้น ถ้าพูดถึงกล้อง DSLR หลายๆ คนคงจะนึกถึงกล้องสีดำตัวใหญ่ๆ น่าเกรงขามเป็นแน่แท้ แต่ในยุคใหม่ๆ นี้ กล้อง DSLR ได้มีดีไซน์ที่แตกต่างออกไป โดยเฉพาะกล้อง Canon EOS 200D รุ่นนี้ ที่ออกมาด้วยสีที่น่ารักๆ อย่างสีขาว (Trendy White) และสีเงิน (Sophisticated Silver) ซึ่งนอกจากสีของตัวบอดี้แล้ว ตรงกริปหนังยังมีทั้งสีเทาและสีน้ำตาลเพิ่มความละมุนให้กับตัวกล้องอีกด้วย
ยังจำ EOS 1000D บอดี้สีแดงได้ไหม? ตอนนั้นถึงแม้ว่าบอดี้จะเป็นสีแดง แต่เลนส์คิทที่มาด้วย ก็ยังเป็นสีดำเหมือนรุ่นปกติ แต่สำหรับ EOS 200D จะไม่ปล่อยให้เป็นแบบนั้น โดนเลนส์คิท ที่มากับตัวกล้อง จะมีสีเดียวกับตัวบอดี้เพื่อให้เข้าธีมด้วย รุ่นสีเงิน ก็จะมีเลนส์คิทสีเงิน ส่วนรุ่นสีขาว ก็จะมีเลนส์คิทสีขาว เพื่อให้เข้าธีมกับตัวกล้อง
ส่วนด้านสเปคของ EOS 200D ก็ให้มาแบบไม่อายรุ่นพี่เลยเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นชิปประมวลผล DIGIC 7 ที่ช่วยเรื่องคุณภาพของภาพที่ถ่ายด้วย ISO ที่สูง, ระบบออโต้โฟกัส Dual Pixel CMOS AF ที่ทำให้โฟกัสได้เร็วขึ้น รวมทั้งในโหมด Live View และการถ่ายวิดีโอ, จอ LCD ทัชสกรีน ที่พลิกหมุนหน้าจอได้หลายทิศทาง เพิ่มความสะดวกในการถ่ายภาพ
นอกจากดีไซน์และสเปคแล้ว EOS 200D ก็มีอีกฟีเจอร์หนึ่ง ที่ตอบโจทย์มือใหม่เล่นกล้องด้วยอินเทอร์เฟซที่มีภาพประกอบเข้าใจง่าย รวมทั้งโหมด Selfie ที่จะปรากฏให้เลือกเมื่อพลิกหน้าจอ LCD กลับเพื่อถ่ายเซลฟี่ โดยในโหมดนี้จะช่วยในการถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ เพิ่มความสว่าง และปรับผิวให้เรียบเนียบขึ้นอีกด้วย
จุดที่ชอบ
| จุดที่ไม่ชอบ
|
จุดที่ชอบ
| จุดที่ไม่ชอบ
|
อย่างที่กล่าวไปข้างต้น สำหรับกล้อง DSLR ทั้ง 2 รุ่น เป็นกล้องที่เหมาะสมกับผู้ที่เริ่มต้นเล่นกล้อง ทั้งในระดับ APS-C และ Full-frame ด้วยราคาที่ไม่แรงจนเกินไป รวมทั้งขนาดที่กะทัดรัดและสเปคที่ค่อนข้างจะใช้งานได้ ในระดับราคาของตัวกล้อง เรียกว่าเป็นตัวเลือกตอบโจทย์คนเล่นกล้อง ที่ไม่อยากลงทุนซื้อรุ่นโหดๆ ได้เป็นอย่างดีเลยครับ
|
... |