Game: Valiant Force
Genre: Turn-Based RPG
Platform: Mobile (iOS, Android)
Developer: XII Braves
Publisher: FunPlus
Release Date: 14 June 2017
เรียกได้ว่าเป็นแนวเกมส์ที่พบเจออย่างมากหน้าหลายตา บนแพลตฟอร์มมือถือในปัจจุบันชนิดที่ว่า "เกลื่อนสโตร์" สำหรับเกมส์แนว RPG (Role Playing Game) ที่หากได้อยู่บนแพลตฟอร์มกำพืดของตนอย่างคอนโซลหรือพีซี (ที่นับพีซีด้วยเพราะมียุคหนึ่งที่เกมส์แนว Dungeon Crawler จากโซนยุโรปครองเมือง) เกมส์แนวดังกล่าวนี้ ก็จะมากด้วยเสน่ห์ตลอดมา ทั้งเนื้อเรื่องที่ประพันธ์ออกมาอย่างดีเยี่ยม ระบบการเล่นที่มอบอิสระในการปรับแต่งตัวละครได้ดั่งใจ ฯลฯ
แต่เมื่อเกมส์แนว RPG ที่ว่ามานี้ ได้มาอยู่บนมือถือ อุปกรณ์พกพาที่ใช้งานตลอดวัน เกมส์แนวดังกล่าวจึงถูกปรับเปลี่ยนรูปแบบการเล่นให้เข้ากับ "พฤติกรรม" ของผู้เล่นบนแพลตฟอร์มนี้ ด้วยการทำให้กิจวัตรในเกมส์แนว RPG ทั้งหลาย ต้องกระทำอย่างสานต่อแบบระยะยาว ผู้เล่นจะไม่สามารถเพิ่มระดับตัวละครของเราให้เก่งกาจ มีทักษะครบเครื่อง หรือมีอาวุธยุทโธปกรณ์ชั้นเลิศได้ใน "น้อยชั่วโมง" หากแต่ต้องค่อยๆ ทยอยไต่ระดับขึ้นเรื่อยๆ "รายวัน" จนครบสมบูรณ์และเข้าถึงช่วงบั้นปลายของเกมส์ในที่สุด
รายละเอียดชุดตัวละครเปลี่ยนเมื่อถูกเลื่อนขั้น
ซึ่ง Valiant Force หรือเกมส์ที่ผู้เขียนนำมาเสนอนี้เอง ก็มีหลายระบบเช่นกันครับ ที่เป็นสูตรสำเร็จของกิจวัตรเกมส์ RPG บนมือถือ แต่สิ่งที่ทำให้ตัวเกมส์แตกต่างและน่าสนใจกว่างานรูปแบบเดียวกันในท้องตลาดนั้น ดูจะเป็น "ความใส่ใจด้านรายละเอียดในระดับสูง" ที่ครอบคลุมตั้งแต่ระบบการเล่นของเกมส์ไปจนถึงงานออกแบบด้านวิจิตรศิลป์ทั้งหลายเลยทีเดียว แต่ความดีงามที่กล่าวมาทั้งหมด จะเลิศเลอขนาดไหน? และข้อที่ควรสังเกตจะมีอะไรบ้าง? เชิญหาคำตอบได้ในบทความรีวิวนี้เลยครับผม!
โหมดเนื้อเรื่องเกมส์แนว RPG บนมือถือเป็นเช่นไร Valiant Force ก็ยังคงเป็นเช่นนั้น (ฮ่าๆ) เรายังคงต้องผ่านด่านไปเรื่อยๆ และวกกลับมาเล่นใหม่เพื่อเก็บ "ดาว" อันเป็นหน่วยวัดความสำเร็จในเกมส์แนวนี้ให้ครบและรับรางวัลคนขยัน และยังคงต้องกลับไปเล่นด่านเหล่านั้นใหม่อีกรอบในระดับที่ยากและท้าทายมากขึ้นดั่งจารีตที่สืบสานกันมาของเกมส์แนวนี้...
แต่กระนั้น ในความเสมอต้นเสมอปลายที่ Valiant Force เป็น ก็มีระบบและองค์ประกอบความเป็นเกมส์ RPG ไม่น้อยเลยครับ ที่ถูกออกแบบมาได้ "น่าสนใจ สดใหม่ และแตกต่างจากเกมส์แนวเดียวกัน"
เริ่มกันที่ระบบคลาสตัวละคร อันเป็นจุดเด่นและจุดขายหนึ่งที่ Valiant Force นำมาแปะหลาบนหน้าปก โดยตัวละครในเกมส์ทั้งหมด จะถูกกำหนดหน้าที่ในการต่อสู้ด้วย "คลาส" ที่มีข้อดี/ข้อเสียต่างกันไปที่มีด้วยกันทั้งสิ้น 6 สาย ได้แก่
นอกจากนี้ แต่ละคลาสยังสามารถพัฒนาให้สกิลของคลาสแรกเริ่มของตนมีประสิทธิภาพมากขึ้น "หรือเปลี่ยนรูปแบบความสามารถให้แตกต่างออกไป" แต่ยังคงไว้ซึ่งแนวทางการเล่นตามหน้าที่หลักตามคลาสเริ่มต้นเช่นเดิม ด้วยการเลือกคลาสที่ต้องการจะพัฒนาขั้นต่อไป
การพัฒนา/ปรับเปลี่ยนความสามารถของตัวละครอันเป็นระบบและองค์ประกอบหนึ่งของเกมส์แนว RPG คือสิ่งที่ผู้เขียนชื่นชอบและใช้เป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจเลือกเล่นเกมส์แนวดังกล่าวตลอดมาครับ เพราะขึ้นชื่อว่าการ "สวมบทบาท(ในเกมส์)" นั้น สิ่งสำคัญที่ผู้เล่นควรจะได้รับจากการเล่น คือ "ทางเลือก"
ซึ่งใน Valiant Force นี้เอง แม้จะถูกปรับเปลี่ยนและลดองค์ประกอบของเกมส์แนว RPG ดั้งเดิมไปบ้าง แต่ถ้าผู้เล่นเข้าใจบริบทของแพลตฟอร์มมือถือที่ไม่สามารถควบคุมได้ลื่นไหลหรือมีพื้นที่ใช้สอยไม่มากนัก รวมไปถึงผู้เล่นหมู่มากก็ไม่ต้องการความซับซ้อนของเกมส์เพลย์ในแพลตฟอร์มนี้มากนัก ผู้เขียนจึงเห็นว่าการมีทางเลือกเท่านี้ได้ถือว่าแจ่มแล้วละครับ
ต่อด้วยระบบต่อสู้ ที่ใช้รูปแบบจากเกมส์แนว Turn-Based โดยใน Valiant Force จะแบ่งพื้นที่ตัวละครออกเป็น 2 ฝั่งเท่ากัน ฝั่งละ 9 ช่อง (กว้าง 3 x ยาว 3) และยูนิตทั้งสองฝ่ายจะสามารถข้ามมาโจมตีกันได้ (กรณียูนิตประเภทโจมตีระยะประชิด) โดยจังหวะในการต่อสู้ของเกมส์ จะไม่ใช่การสลับกันบังคับตัวละครตามเกจหรือค่าความเร็วของยูนิต หากแต่จะเป็นการ แบ่งเทิร์นบังคับแบบทั้งฝั่งไร้ซึ่งการจับเวลา ทำให้ผู้เล่นสามารถเลือกคิด ตัดสินใจ และเรียงลำดับความคิดว่าจะกำจัดศัตรูตัวใดที่เป็นปัญหามากที่สุดได้ก่อน เพื่อให้ในแต่ละเทิร์นการเล่นเกิดความเสียหายกับยูนิตของเราน้อยที่สุดและผ่านด่านได้อย่างสมบูรณ์พร้อมรับรางวัลตามเงื่อนไขที่ด่านนั้นๆ กำหนด
ยูนิตที่อยู่ทางซ้าย ขวา และข้างบนของตัวละครนี้ จะได้รับออร่าเพิ่มพลังป้องกัน 5% คิดจากค่าพลัง MAG ของตัวนี้
อีกหนึ่งองค์ประกอบส่งเสริมระบบการต่อสู้ ที่ซ้ำยังเป็นหนึ่งในจุดเด่นของเกมส์ นั่นคือ การจัดวางตำแหน่งยูนิตตัวละคร (Unit Formation) โดยตัวละครในเกมส์นี้ นอกจากจะมีค่าพลังสถานะที่แตกต่างกันออกไป และระดับความยากง่ายต่อการได้มาใช้งาน (เปิดกาชา ได้จากการทำเควสสำเร็จ ฯลฯ) ตามขนบธรรมเนียมของเกมส์แนว RPG บนมือถือทั่วไปแล้ว ก็มีส่วนของสกิลนี่แหล่ะครับ ที่ทำให้การต่อสู้ สนุก ท้าทาย และมีแนวทางการรับมือกับศัตรูในเกมส์ที่หลากหลาย
พอครบ 4 เทิร์นก็จะใช้สกิลพวกนี้ได้ (มีคัทซีนเท่ๆ ให้ดูด้วยนะ)
ขึ้นชื่อว่าเกมส์แนว RPG ไม่ว่าจะแพลตฟอร์มใดๆ ก็จำเป็นจะต้องมีสกิลให้ตัวละครของเราได้วาดลวดลาย และใน Valiant Force นี้ ก็ยังคงมีสกิลรูปแบบกดใช้ (Active) ให้ใช้งานในรูปแบบ "ท่าไม้ตาย" ที่ต้องรอคูลดาวน์ (Cooldown) หรือระยะเวลาพร้อมใช้ โดยสกิลรูปแบบที่ว่ามา จะเป็นการใช้ความสามารถต่างๆ ตามแต่ละคลาสของตัวละคร ไล่ตั้งแต่ การสร้างความเสียหายที่รุนแรงกับศัตรู การเรียกสัตว์อสูรมาช่วยต่อสู้ในสนามรบ ไปจนถึงการฟื้นฟูพลังชีวิตให้แก่ยูนิตร่วมทีม เป็นต้น
แม้จะเป็นองค์ประกอบของการต่อสู้ที่พบได้ตามเกมส์แนว RPG (ไม่ว่าจะแพลตฟอร์มใด) ทั่วไป แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้อยู่ดีละครับว่าสกิลรูปแบบกดใช้ (Active) ที่ว่ามานี้ คือเสน่ห์และหนึ่งองค์ประกอบสำคัญในระบบการต่อสู้ของเกมส์แนวดังกล่าว และใน Valiant Force นี้เอง ก็ยังได้ให้ความสำคัญกับส่วนนี้เป็นอันดับต้นๆ อยู่เช่นเดิม ด้วยการให้สกิลเหล่านี้มีระยะเวลาพร้อมใช้แต่สามารถกำหนดผลแพ้ชนะได้เลยทีเดียว
รับออร่าจากเพื่อนร่วมทีมได้ไม่จำกัด! ขอแค่ยืนให้ถูกบริเวณที่ออร่าตัวละครเหล่านั้นกำหนดไว้เป็นพอ!
ปิดท้ายองค์ประกอบของการต่อสู้ที่เด่นชัดอย่างสกิลรูปแบบติดตัว (Passive) ที่ในเกมส์นี้ จะใช้ชื่อและลักษณะการใช้งานในรูปแบบออร่า อันเป็น "กุญแจดอกสำคัญที่สุดในระบบ Unit Formation " ที่แต่ละตัวละคร จะมีความสามารถพิเศษเฉพาะตัวพร้อมเงื่อนไขการแสดงผล (Trigger) แตกต่างกันออกไป และกระจายความสามารถเหล่านั้น ไปยังยูนิตเพื่อนร่วมทีมให้มีความสามารถพิเศษแบบเดียวกันได้โดยอัตโนมัติ เพียงแค่อยู่ในช่องที่ออร่าของตัวละครดังกล่าวกำหนด เช่น
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ใช่ว่าผู้เล่นจะเลือกจัดกองทัพและร้อยเรียงออร่าของแต่ละตัวละครได้อย่างใจนึก เพราะเราจะสามารถนำยูนิตลงสนามได้มากสุดแค่ 5 ตัวเท่านั้น ทำให้ผู้เล่น ต้องวางตำแหน่งของแต่ละตัวละครให้อยู่ในช่องที่กระจายออร่าได้หลายทิศที่สุดหรืออย่างน้อยๆ ก็ควรจะมอบออร่าให้ถูกคลาสตัวละคร เป็นต้น
เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในองค์ประกอบการต่อสู้ที่ทำออกมาได้ดีมากๆ เพราะออร่าเหล่านี้ ล้วนแล้วแต่มีเอกลักษณ์ในการใช้งาน ส่งผลให้ผู้เล่น "สามารถปรับแต่ง จัดทัพทีมในแบบที่ตนเองต้องการได้อย่างอิสระ" อีกทั้ง เมื่อผู้เล่นคลุกคลีกับเกมส์ไปได้สักพักใหญ่ๆ ตัวเกมส์ก็ยังจะมีฟีเจอร์ให้สามารถสุ่มช่องกระจายออร่าใหม่ (Reroll Aura) ด้วยการนำตัวละครเดียวกันมาใช้เป็นวัตถุดิบมาเพิ่มความยืดหยุ่นในส่วนนี้อีกขั้นเพื่อตัดปัญหาการเสียเวลาในการเลี้ยงดูตัวละครทั้งหลายใหม่
นอกจากระบบการต่อสู้ที่ Valiant Force ทำออกมาได้สนุกและสร้างสรรค์แล้ว กราฟฟิกในด้านของโมเดลตัวละครเอง ก็ถือว่ามีความใส่ใจในรายละเอียดที่มากโขเช่นกันและมันเป็นอะไรที่เจ๋งมาก! โดยตัวละครในเกมส์ทั้งหลาย จะสามารถเลื่อนขั้น (หรือเลือกคลาสที่จะพัฒนาต่อไปได้) ให้มีความสามารถที่เก่งขึ้นไปได้ และในแต่ละขั้นของการไต่ระดับนี้เอง จะทำให้เสื้อผ้า ชุดเกราะ หรือโมเดลตัวละครเปลี่ยนไป และจะยิ่งอลังการสมยศขั้นมากขึ้นเมื่อพัฒนาไปจนระดับสูงสุด
ไม่เพียงแต่โมเดลตัวละครที่เปลี่ยนไป แต่ยังรวมถึงอาวุธและเครื่องแต่งกายประเภทผ้าคลุม ที่ผู้เล่นจะได้เห็นไอเทมทั้งเหล่านี้ ในรูปทรงที่ตรงกับปกของไอเทมชิ้นนั้นๆ จริงๆ เมื่อทำการสวมใส่ให้ตัวละครของเรา และอีกขั้นของความสวย หากอาวุธเหล่านี้ ได้ถูกทำการตีบวกเสริมแกร่งตามแต่ละระดับที่กำหนด ก็จะมีออร่าเปล่งออกมาเพิ่มความเท่ไปอีกขั้น หรือเอาง่ายๆ ว่าจัดเต็มนั่นเอง! (ฮ่าๆ)
อีกทั้งงานด้านวิจิตรศิลป์ทั้งหลาย (ดนตรีประกอบ, ภาพวาดตัวละคร ฯลฯ) ก็ออกแบบและสร้างสรรค์มาได้อย่างมีเอกลักษณ์และดูประณีตในรายละเอียดไม่แพ้กัน ทั้งนี้อาจเป็นเพราะในหลายกระบวนการพัฒนาเกมส์ Valiant Force นี้ เป็นฝีมือการสร้างของศิลปินสัญชาติญี่ปุ่นหลายท่านครับ ไม่ว่าจะเป็นดนตรีประกอบฉากของเกมส์ ที่ถูกประพันธ์โดยนาย Hitoshi Sakimoto ผู้ที่อยู่เบื้องหลังเกมส์ JRPG ชื่อดังมากมาย เช่น Final Fantasy XII, Final Fantasy Tactics, Breath of Fire และอื่นๆ อีกมากมาย หรือจะด้านเสียงพากษ์ก็ดี ที่ได้นักพากษ์เสียงอนิเมะตัวท็อปของวงการทั้งสองอย่าง Yūki Kaji (Attack on Titan, Nanatsu no Taizai) และ Yoshino Nanjō (Love Live!) มาให้เสียงตัวละครเอกของเกมส์
โดยรวม Valiant Force นั้น ถือได้ว่าเป็นเกมส์แนว RPG บนมือถือที่ทำออกมาได้ดีมีคุณภาพ ไม่ว่าจะด้านระบบการเล่น ที่สนุกและท้าทายด้วยการตัดสินใจที่ต้องรอบคอบ, ระบบออร่า ที่ต้องทำให้ผู้เล่นสามารถจัดทัพทีมของตนได้อย่างอิสระ และรายละเอียดต่างๆ ของเกมส์ที่ดูสวยงามได้กลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นสูง แต่ข้อสังเกตที่พ่วงมากับแพลตฟอร์มมือถือที่แก้ยังไงก็ไม่ตก คือ รูปแบบการเล่นที่ต้อง "สานต่อแบบระยะยาว"
แต่สำหรับใคร ที่ไม่มีทิฐิกับเกมส์หรือแพลตฟอร์มมือถือ หวังเพียงอยากจะเล่นเกมส์ที่สนุกและมีคุณภาพเป็นพอ ผู้เขียนขอแนะนำและยืนยันว่า Valiant Force จะตอบโจทย์ได้แน่นอนครับ
ข้อดี
| ข้อสังเกต
|
|
ทำไมไม่เรียกแมว! รักหนัง รักเกม ร๊ากกทุกคนนน ~ <3 |