แบรนด์มือถือชื่อดังจากยุโรป Wiko เปิดตัวมือถือรุ่นประหยัด ที่มาพร้อมกับหน้าจอใหญ่ สัดส่วน 18:9 อย่าง Wiko View Series โดยเจ้าซีรี่ย์นี้ ที่นำมาขายในประเทศไทย มีทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ Wiko View รุ่นเล็กราคาประหยัด, Wiko View XL หน้าจอใหญ่จุใจ, Wiko View Prime รุ่นท็อป กล้องหน้าคู่ เหมาะสำหรับคนชอบเซลฟี่ ซึ่งทั้งหมดออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ตามกลุ่มผู้ใช้งานโดยเฉพาะ ตัวเครื่องมีทั้งหมด 4 สี ให้ได้เลือกซื้อกัน ในราคาไม่ถึงหมื่น นอกจากนี้แล้วยังมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ และฟีเจอร์กล้องเด็ดๆ อีกด้วย
ทางทีมงานไทยแวร์ ได้มีโอกาสไปสัมผัสทั้งสามรุ่นมาแล้วภายในงาน ก็เลยนำประสบการณ์มาแบ่งปันให้แก่ทุกคน ว่าแต่ละรุ่นแตกต่างกันอย่างไร เผื่อใครที่กำลังมองหามือถือราคาประหยัดอยู่น่าจะตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
มาเริ่มกันที่ Wiko View Prime รุ่นเด่นของซีรี่ย์กันเลยดีกว่าครับ ดีไซน์ของเจ้าตัวนี้ ก็คงจะพูดได้ว่าเหมือนกับมือถือแบรนด์อื่นๆ ที่มีขายตามท้องตลาดทั่วไป แต่มันมีจุดเด่นตรงที่ มีขนาดหน้าจอกว้างถึง 5.7 นิ้ว (18:9) มาพร้อมกับกล้องหน้าคู่ ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล (เลนส์ธรรมดา) + 8 ล้านพิกเซล (เลนส์กว้าง) ถ่ายรูปเซลฟี่หน้าชัดหลังเบลอ จะแบบเดี่ยวก็ได้ หรือแบบหมู่ก็ดี และหากต้องการถ่ายรูปในที่แสงน้อย ก็มีแฟลชหน้าแบบซอฟต์ไลท์ ช่วยให้ภาพดูเป็นธรรมชาติอีกด้วย นอกจากนี้แล้ว ยังมีฟีเจอร์กล้อง Auto-Group Selfie ช่วยให้ถ่ายเซลฟี่มุมกว้างได้ถึง 120 องศา พร้อมโหมด Super Pixel ให้รายละเอียดภาพสูงถึง 64 ล้านพิกเซล เก็บได้แม้รายละเอียดเล็กๆ เหมาะกับคนที่ชอบถ่ายรูป
ในส่วนของสเปค ก็ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 7.1 Nougat มีซีพียูจาก Snapdragon รุ่น 430 ความเร็ว 1.4 GHz กับแรม 4 GB หน่วยความจำภายใน 64 GB มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ รองรับระบบ Dual SIM สามารถใช้งานทั้ง 3G และ 4G ได้ในเวลาเดียวกัน ในส่วนของสีก็มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Black, Gold, Cherry Red (สีนี้สวยมาก)
เชื่อหรือไม่ครับว่า เจ้ามือถือ Wiko View Prime กล้องหน้าคู่ ถ่ายรูปชัด สเปคดี จอกว้าง จับกระชับมือ มีราคาเพียง 7,490 บาท เท่านั้นเอง ถือว่าคุ้มมากสำหรับมือถือในกลุ่มนี้
Wiko View
Wiko View XL
สำหรับทั้งสองรุ่นนี้ สเปคแตกต่างกันแค่เพียง ขนาดหน้าจอ, แรม, และแบตเตอรี่ เราจึงของรวบการพรีวิวทั้งสองรุ่นนี้เข้าด้วยกัน เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า ทั้งสองรุ่นนี้ มีสัดส่วนอยู่ที่ 18:9 หน้าจอทั้งสองรุ่นเหมือนกับรุ่น View Prime โดยมี ขนาดหน้าจออยู่ที่ 5.7 นิ้ว (View) และ 5.99 นิ้ว (View XL) กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมกับกล้องหน้าแบบซอฟต์ไลท์ ให้ภาพถ่ายสวยดูเป็นธรรมชาติ
สเปคของทั้งสองรุ่นนี้ แตกต่างกันที่ รุ่น Wiko View มีหน่วยความจำ 16 GB ความจุแบตเตอรี่ 2,900 mAh กับรุ่น Wiko View XL มีหน่วยความจำ 32 GB และความจุแบตเตอรี่ 3,000 mAh ส่วนระบบปฏิบัติการใช้เป็น Android 7.1 Nougat ซีพียู Snapdragon 425 ความเร็ว 1.4 GHz แรม 3 GB พร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ และรองรับระบบ Dual SIM ใช้งานอินเทอร์เน็ตสองซิมในเวลาเดียวกัน เรียกว่าสเปคแทบจะไม่แตกต่างกันซักเท่าไร ตัวเครื่องมีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่สี Cherry Red, Black, Gold และสี Deep Bleen
รุ่นประหยัดอย่าง Wiko View สนนราคาอยู่ที่ 4,990 บาท ส่วน รุ่นหน้าจอใหญ่จุใจ Wiko View XL มีราคาค่าตัวอยู่ที่ 5,990 บาท
ทั้งสามรุ่น แตกต่างตามการใช้งาน ยกตัวอย่างเช่น หากคนที่ต้องการใช้มือถือราคาประหยัด ใช้งานได้ ถ่ายรูปชัด ก็ต้องเป็นรุ่น Wiko View หรือคนที่ชอบหน้าจอใหญ่จุใจ ก็มีรุ่น Wiko View XL ที่มีหน้าจอกว้างถึง 5.99 นิ้ว ให้เลือกซื้อ สุดท้ายรุ่น Wiko View Prime เอาใจคนชอบถ่ายรูปเซลฟี่ ด้วยกล้องหน้าคู่ ถ่ายรูปได้ทั้งแบบเดี่ยว และแบบหมู่ ปรับหน้าชัดหลังละลายได้
ท้ายนี้ ก็ขอสรุปสั้นๆ เลยว่า Wiko View Series ทั้งสามรุ่น มีจุดเด่นตรงหน้าจอสัดส่วน 18:9 ทำให้ตัวเครื่องไม่ใหญ่จนเกินไป มีกล้องที่ถ่ายรูปชัด เหมาะกับการถ่ายรูปเซลฟี่ ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนราคาประหยัด ที่คุ้มค่าคุ้มราคาจริงๆ นอกจากหน้าจอจะใหญ่จุใจแล้ว ยังถ่ายรูปชัดอีกด้วย โดยจะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 27 กันยายนนี้ สามารถหาซื้อได้ที่ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศเลย
|
How to .... |