รีวิว Huawei Mate 10 Pro สมาร์ทโฟนพลัง AI สุดแจ่ม พร้อมกล้องคู่รุ่นใหม่ที่เทพกว่าเดิม

รีวิว Huawei Mate 10 Pro

ปีนี้ สมาร์ทโฟนหลายค่าย เริ่มนำ AI เข้ามาเป็นจุดขายบนสมาร์ทโฟนกันแล้ว รวมไปถึง Huawei Mate 10 Pro ที่เรานำมารีวิวในบทความนี้ด้วย โดยสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ใช้ชิป Kirin 970 ซึ่งมี NPU (Neural Processing Unit) อยู่ในตัวสำหรับประมวลผล AI สเปคด้านอื่นก็น่าสนใจ อย่างชุดกล้องใหม่ที่มีค่ารูรับแสงกว้างถึง f/1.6 ทำให้รับแสงได้มากกว่าเดิม ถ่ายภาพในยามค่ำคืนได้ดีกว่าเดิม

คุณสมบัติที่น่าสนใจของ Huawei Mate 10 Pro

• ระบบปฏิบัติการ Android 8.0 Oreo พร้อม EMUI 8.0
• หน้าจอ OLED ขนาด 5.9 นิ้ว FullView Display สัดส่วนหน้าจอ 18 : 9 ความละเอียด 2160 x 1080 พิกเซล
• กล้องหลัง 20 MP แบบ Monochrome + 12 MP แบบ RGB, f/1.6 กันสั่น OIS ระบบโฟกัส PDAF+CAF+Laser+Depth auto focus รองรับการบันทึกวดีดีโอ 4K
  กล้องหน้า 8 MP f/2.0
• มี PC Mode ต่อมือถือเข้าหน้ากับหน้าจอทำงานในโหมด Desktop ได้ทันที (ใช้ตัวแปลง USB-C to HDMI) 
• รองรับการฟังเพลงแบบ Hi-Res
• รองรับ 4G ทั้งสองซิม
• ชิป Kirin 970 Octa-core CPU พร้อม NPU: Neural Network Processing Unit สำหรับประมวลผล AI
• รอม 128 GB
• แรม 6 GB
• แบตเตอรี่ 4000mAh รองรับ HUAWEI SuperCharge
• กันน้ำ IP67 (กันน้ำลึก 1 เมตร เป็นเวลา 30 นาที)
• GPS แบบใหม่ GEO Enchanted GPS Technology ทำงานได้แม้ในที่อับสัญญาณมากๆ อย่างเช่น ในรถไฟใต้ดิน หรืออุโมงค์
• รองรับ NFC

อุปกรณ์ภายในกล่อง

• อุปกรณ์หูฟังแบบ USB-C
• อะแดปเตอร์
• สายเคเบิล USB-C
• หัวแปลงหูฟังแบบ 3.5 มม เป็น USB-C 
• เคส
• คู่มือการใช้งานเบื้องต้น
• เข็มแทงซิม

แกะกล่อง Huawei Mate 10 Pro

Huawei Mate 10 Pro มาในกล่องที่ออกแบบมาได้ดูหรูหราทีเดียว เปิดฝากล่องมาจะพบกับตัวเครื่องนอนอยู่เท่ๆ เมื่อยกออกมาก็จะเจอกับอุปกรณ์ต่างๆ ซ่อนอยู่ในกล่องอีกที ซึ่งมีการเก็บแยกอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อนย ข้างในกล่องมีอุปกรณ์มาให้ครบครัน แม้แต่เคส เรียกได้ว่าแกะกล่องปุ้ป พร้อมใช้งานทันที อะแดปเตอร์ที่ให้มารองรับ SuperCharge ด้วย (ไม่แน่ใจว่าเครื่องที่ขายตามปกติให้เป็นอะแดปเตอร์รุ่นนี้หรือเปล่านะครับ)

ตัวเครื่องมีการผสมผสานระหว่างโลหะกับกระจก แอบสังเกตว่าเรือธงปีนี้ส่วนใหญ่จะใช้วัสดุแบบนี้กันทั้งนั้น อย่างเช่นใน Galaxy Note 8 หรือ iPhone X เป็นต้น ในส่วนของงานประกอบนั้นก็เนี้ยบมาก ซึ่ง Huawei ไม่ค่อยทำให้ผมผิดหวังอยู่แล้วเรื่องคุณภาพงานประกอบ สวยงาม และดูแข็งแรงดี

ด้านหน้าของตัวเครื่องมีหน้าจอ OLED ขนาด 5.9 นิ้ว แบบ FullView Display สัดส่วนหน้าจอ 18 : 9 ความละเอียด 2160 x 1080 พิกเซล ปุ่มควบคุมจะอยู่ในหน้าจอเลยนะครับ ด้านบนมีกล้องหน้าความละเอียด 8 MP รูรับแสง f/2.0

ด้านหลังเป็นผิวกระจก ดูสวยงาม แต่ก็แลกมาด้วยการเปรอะคราบนิ้วมือที่ง่ายดาย (เราแนะนำว่าควรติดฟิลม์หรือเคสใสเพื่อป้องกันรอยนิ้วมือ) มีกล้องคู่ที่ร่วมออกแบบกับ Leica และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ

ด้านบนมีเซ็นเซอร์อินฟราเรดให้มาด้วย ทำให้เราสามารถใช้งาน Huawei Mate 10 Pro เป็นรีโมทได้ด้วย (รอมในเครื่องมีแอปฯ Smart Remote มาให้ด้วย)

ด้านข้างฝั่งซ้ายจะมีช่องสำหรับใส่ซิม ส่วนฝั่งขวาก็จะมีปุ่ม Power และปุ่มเพิ่ม/ลด เสียง

ด้านล่างมีช่อง USB-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ หรือเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ ข่าวดี คือ ตัดรูหูฟังออกไปแล้ว ทำให้เครื่องดูเรียบร้อยกว่าเดิมเยอะเลย

ซอฟต์แวร์ของ Huawei Mate 10 Pro

Mate 10 Pro มาพร้อมกับ Android 8.0 Oreo และใช้ EMUI 8.0 เหมือนเคย ซึ่งรอมตัวนี้เราพูดถึงกันไปหลายรอบแล้ว ก็ไม่อยากจะอธิบายซ้ำมาก เอาว่าเป็นรอมที่ใช้งานง่ายมากตัวหนึ่ง ไม่มีหน้า App Drawer (สามารถปรับให้มีได้นะ ใน Settings) และมีชอทคัท และรูปแบบการเรียกเมนูต่างๆ คล้ายกับ iOS ใครที่เพิ่งย้ายมาจาก Apple เรียนรู้การใช้งานได้ง่ายๆ เลย

ตัวรอมทำงานได้เร็วพอสมควร Optimize มาให้จัดการกับทรัพยากรเครื่องได้ดีมาก อย่างไรก็ตาม มีข้อตินิดนึง ตรงที่ EMUI 8.0 จะมีการติดตั้ง Bloatware เข้ามาเยอะพอสมควร

ใช้เป็นคอมพิวเตอร์ได้ด้วย Desktop Mode

เป็นฟีเจอร์ที่คล้ายกับของค่ายคู่แข่ง แต่ว่า Huawei ไม่ต้องต่อ Dock แค่แปลงสาย USB-C เป็น HDMI แล้วต่อจอก็ใช้งานได้ทันที ทั้งนี้จากการทดสอบพบว่า ต่อกับจอคอมพิวเตอร์ทำงานได้ดีไม่มีปัญหา แต่พอต่อเข้ากับจอทีวีแล้วภาพจะความละเอียดต่ำมาก ตรงนี้ไม่รู้เป็นที่ทีวีของผมหรือเปล่านะ

การควบคุมจะใช้คีย์บอร์ดหรือเมาส์แบบบลูทูธ หรือจะใช้ตัว Huawei Mate 10 Pro เป็นเมาส์เลยก็ได้ครับ ทั้งนี้เราสามารถใช้งานตัวสมาร์ทโฟนกับบน Desktop Mode แยกกันได้อย่างอิสระ แต่อย่างไรก็ตาม จะไม่สามารถเปิดแอปฯ ซ้ำ พร้อมกันได้นะครับ และแอปฯ บางตัวก็จะไม่รองรับการทำงานบน Desktop Mode ด้วย

ทดสอบกล้อง Huawei Mate 10 Pro

Huawei Mate 10 Pro มาพร้อมกับจุดขายว่า ใช้ AI ช่วยในการถ่ายรูป ซึ่งจากการทดสอบของทำงานได้ดีทีเดียว มันสามารถวิเคราะห์ได้อย่างแม่นยำว่าเรากำลังจะถ่ายอะไร ถ่ายคน, ถ่ายอาหาร หรือถ่ายวิว เป็นต้น และทำการตั้งค่าให้เหมาะสมกับการถ่ายภาพในจังหวะนั้น

ในช่วงกลางวัน เราไม่ได้ทดสอบอะไรมากนัก แต่เท่าที่ลองก็พบว่าวัดแสง และ White Balance ได้อย่างแม่นยำ 

ในช่วงกลางคืน และที่แสงน้อย เราถ่ายค่อนข้างเยอะ และทดลองในหลายๆ สถานการณ์ ซึ่งพบว่าภาพจะถูกดึงความสว่างให้อัตโนมัติ ให้เหมือนกับถ่ายท่ามกลางแสงดีๆ ซึ่งจุดนี้ Huawei ก็ทำได้ดีทีเดียว รวมถึงเรื่องการจัดการกับ Noise ด้วยที่เกลี่ยสีมาได้เนียนมาก

มาถึงปัญหากันบ้าง ในโหมดหน้าชัดหลังเบลอ เราพบว่าซอฟต์แวร์กล้องของ Huawei พยายามที่จะตัดขอบให้คม ซึ่งปัญหาที่พบคือ มันมักจะตัดขอบพลาด ผมเราจะแหว่งๆ รวมถึงหูที่อาจจะเป็นรูปไปด้วยซะงั้น

ผล Benchmark ของ Huawei Mate 10 Pro

การทดสอบด้วย AnTuTu benchmark ผลออกมา ความแรงอยู่ในระดับเรือธงของปีนี้อย่างสมศักดิ์ศรี เล่นเกมส์ หรือใช้แอปฯ โหดๆ ได้อย่างสบายครับ

ความเห็นจาก THAIWARE

Huawei Mate 10 Pro มีการทำการบ้านมาอย่างดี จัดเต็มในทุกด้าน โดยเฉพาะด้านกล้องที่ถ่ายภาพออกมาได้สวยกว่ารุ่นที่ผ่านๆ มาอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ยังมีลูกเล่นอีกหลายอย่างที่น่าสนใจ อย่างเช่น รองรับการฟัง Hi-Res, ระบบจัดการแบตเตอรี่สุดอึด, ระบบตัดเสียงรบกวนเวลาคุยโทรศัพท์ที่ทำได้ดีมาก และ ฯลฯ