เปิดตัวกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะ สำหรับสมาร์ทโฟนที่หลายคนรอคอยอย่าง Samsung Galaxy S9 และ Galaxy S9+ ที่มาพร้อมกับคอนเซปส์ "The Camera. Reimagined." (กล้องที่จะมาสร้างสรรค์จินตนาการขึ้นใหม่) การออกแบบตัวเครื่องในภาพรวม ภายนอกแทบจะเหมือนกับ Galaxy S8 แต่ว่าภายในนั้นได้รับการอัดสเปคมาใหม่ ใส่เทคโนโลยีมาเพียบ
Galaxy S9 และ S9+ มาพร้อมกับหน้าจอ QHD+ 5.8 นิ้ว และ QHD+ 6.2 นิ้ว ตามลำดับ ดีไซน์ของหน้าจอเป็นแบบ Infinity Display เหมือนกับใน Galaxy S8 ตัวหน้าจอรองรับเทคโนโลยี HDR10
ผิวสัมผัสเป็นกระจกทั้งด้านหน้า และด้านหลังเหมือนกับ Galxy S8 วัสดุแบบนี้ ทำให้เครื่องดูสวยหรูมากครับ แต่ก็มีข้อเสียด้านรอยนิ้วมือนี่แหละ ถ้าติดฟิล์มก็ช่วยได้ในระดับหนึ่ง หรือไม่ก็ต้องใส่เคสไว้นะครับ
อีกจุดหนึ่งที่มีการปรับเปลี่ยนก็ คือ เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือย้ายจากข้างกล้องมาไว้ด้านล่างแทนละ ซึ่งเราว่ากดง่ายกว่าเดิมเยอะเลย
ลำโพงของ S9 ได้ AKG ค่ายเครื่องเสียงชื่อดังมาทำการปรับแต่งให้ เป็นลำโพงแบบสเตอริโอ ที่ทาง Samsung ระบุว่าเสียงดังกว่าเดิมถึง 40% (เทียบกับ Galaxy S8) และยังมีระบบเสียงรอบทิศทาง Dolby Atmos ในตัวด้วย
Samsung Galaxy S9 สนนราคาค่าตัวอยู่ที่ 27,900 บาท
Samsung Galaxy S9+ (Plus) สนนราคาค่าตัวเริ่มต้นที่ 31,900 บาท (64 GB) / 33,900 บาท (128GB) / 37,900 บาท (256 GB)
Galaxy S9 ใช้ซีพียูตัวล่าสุดอย่าง Snapdragon 845 แต่สำหรับรุ่นที่วางจำหน่ายในประเทศไทยจะใช้ Exynos 9810 นะครับ ซึ่งนอกเหนือไปจากความเร็วที่แรงกว่า S8 แล้ว ตัวชิปประมวลผลรูปถ่าย และตัวชิปกราฟฟิก ก็ได้รับการปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นด้วย
ตำแหน่งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือย้ายจากด้านข้างมาอยู่ทางด้านล่างของกล้อง ส่วนสีมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Midnight Black (สีดำ), Lilac Purple (สีม่วง) และ Coral Blue (สีฟ้า)
ตัว Galaxy S9 จะมาพร้อมกับแรมขนาด 4GB ส่วน S9+ จะมาพร้อมกับแรมถึง 6GB หน่วยความจำภายในเครื่องมีให้เลือก 64GB/128GB และ 256GB สามารถใส่การ์ด MicroSD เพิ่มความจุได้มากสูงสุดอีก 400GB
สำหรับการเชื่อมต่ออื่นๆ ก็มีครบทั้ง NFC, LTE และ Bluetooth 5.0 ใช้พอร์ต USB-C ในการเชื่อมต่อ และชาร์จแบตเตอรี่ ที่น่าสนใจคือ ทาง Samsung ยังให้ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. มาเหมือนเดิมด้วยนะครับ ไม่ได้ตัดออกเหมือนกับค่ายอื่นๆ ที่เริ่มตัดทิ้งกันไปแล้ว
ในส่วนของแบตเตอรี่ Galaxy S9 ให้มา 3,000mAh ส่วน S9+ ให้มา 3,500mAh ทั้งคู่มีความจุเท่าเดิมเหมือนกับ Galaxy S8 และ S8+
สำหรับคนที่สงสัยว่า Exynos 9810 กับ Snapdragon 845 ชิปรุ่นไหนแรงกว่ากัน ของอ้างอิงผล Benchmark ของ GeekBench 4 พบว่า Exynos 9810 มีความเร็วต่อคอร์ที่สูงกว่า Snapdragon 845 นะครับ
แต่ความเร็วในการเปิดหน้าเว็บ, แต่งรูป และเล่นเกมส์ ดูเหมือนว่า ทาง Snapdragon 845 จะเร็วกว่านะ อย่างไรก็ตาม ในการใช้งานจริง ไม่น่าจะแตกต่างกันมากอยู่แล้วล่ะ ไม่ว่าจะซื้อรุ่นไหนมาก็ตาม
Galaxy S9 ยังคงให้ระบบสแกนลายนิ้วมือมาเหมือนเดิม แต่ในส่วนของระบบสแกนลายม่านตาก็มีการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นด้วย สามารถสแกนในที่มืดได้แล้ว
กล้องของ Galaxy S9/S9+ เป็นส่วนที่ได้รับการปรับปรุงมากที่สุด มีสเปคดังนี้
Galaxy S9
Galaxy S9+
ที่แตกต่างกันก็คือ กล้องหลังของ S9+ จะมีเพิ่มเลนส์เทเลเข้ามา และสามารถ Optical zoom ได้ 2x ด้วย
ตัวอย่างการถ่ายภาพแบบ Super Slow-Mo 960fps
ลูกเล่นของกล้องก็มีหลายอย่างถูกเพิ่มเติมเข้ามานะ อย่างเช่น สามารถแปลภาษา และบอกได้ทันทีว่าสิ่งที่อยู่ในภาพ คือ อะไร หากเป็นสถานที่ก็ระบุได้ว่า มันคือที่ไหน สะดวกมากๆ
อีกลูกเล่นหนึ่งที่เป็นของเล่นใหม่ นั่นก็คือ สติกเกอร์ AR Emoji ด้วยความสามารถของกล้องหน้ารุ่นใหม่ ทำให้สามารถจับความเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น จนสร้างเป็นสติ๊กเกอร์ AR ได้
ความลับในการทำงานของมันอยู่ที่เซ็นเซอร์ของกล้องหน้าตัวใหม่ ที่สามารถวิเคราะห์ใบหน้าได้แล้ว ซึ่งคาดว่ามีการทำงานร่วมกับ Iris Scanner ที่มีอยู่เดิม
Galaxy S9/S9+ มีเคสแบบทางการให้เลือกหลายแบบทีเดียว มีทั้งเคสแบบ LED View Cover ที่สามารถปกป้องหน้าจอ แต่ยังแสดงผลข้อมูลทะลุฝาพับมาได้ หรืออย่างเคสที่มาขาตั้งกางออกมาเพื่อวางตัวเครื่องแนวตั้งได้ เหมาะแก่การฟังเพลง ดูยูทูป เป็นต้น
เคสนี่ เราได้ไปสัมผัสของจริงมาแล้ว ต้องบอกว่างานเนี๊ยบมาก น่าใช้สุดๆ วัสดุเค้าดูดี เหมาะสมกับ Galaxy S9 มากๆ
แล้วก็ยังมีอุปกรณ์เสริมตัวใหม่ ที่เรียกว่า DeXPad ที่น่าจะมาแทนที่ DeX Station โดยมีการออกแบบใหม่ให้ใช้งานง่ายขึ้น และในขณะที่ใช้ เจ้า Samsung Galaxy S9 จะเปลี่ยนตัวเองให้ทำหน้าที่เป็นเสมือน TouchPad ได้ด้วย
เปิดรับพรีออเดอร์ วันที่ 27 ก.พ. - 5 มี.ค. 2561 ได้ที่ Samsung (ทุกสาขา), dtac, True, Ais และ Lazada
รับเครื่องวันที่ 9-11 มีนาคม 2561 และสำหรับรุ่น 256GB รับเครื่องวันที่ 29-31 มีนาคม 2561
แน่นอนว่า มีเครื่องราคาพิเศษด้วย สำหรับคนที่ซื้อเครื่องแบบติดสัญญา จัดโปรโมชั่นกันทุกค่ายครับ ไม่ว่าจะเป็น AIS, dtac หรือ TrueMove H
|
แอดมินสายเปื่อย ชอบลองอะไรใหม่ไปเรื่อยๆ รักแมว และเสียงเพลงเป็นพิเศษ |