แม้ว่าในขณะนี้ระบบปฏิบัติการ Android 8.0 Oreo จะยังมีจำนวนผู้ใช้เพียง 1.1% และคนส่วนใหญ่จะยังอยู่ที่ Android 7.0 Nougat กัน (มีจำนวนผู้ใช้ 28.5%) แต่ Google ก็ไม่ได้หยุดพัฒนานะครับ ล่าสุดได้ปล่อย Android 9.0 P (Build: PPP1.180208.014 (ทดลองติดตั้งได้ใน Pixel, Pixel XL, Pixel 2, Pixel 2 XL)) เวอร์ชันทดสอบออกมาให้นักพัฒนาได้ลองใช้งานกันแล้ว
Google ได้ปรับเปลี่ยนหน้าตา และเพิ่มลูกเล่นใหม่ๆ เข้ามาหลายอย่างใน Android P จะมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง ลองมาดูกัน
Google ได้เพิ่มรูปแบบการทำงานให้เหมาะสมกับหน้าจอแบบแหว่ง โดยมีเทมเพลตที่เรียกว่า layoutInDisplayCutoutMode ให้ใช้งาน โดยจะย้ายพวกไอคอนแจ้งเตือน วันเวลา ไปไว้ที่ตามขอบได้
ด้วยเทคโนโลยี WiFi Round-Trip-Time (RTT) ทำงานผ่าน IEEE 802.11mc Wi-Fi protocol ในการระบุพิกัดของตัวเราได้ โดยไม่ต้องพึ่ง GPS
ใน Android 8.0 เวลาตั้งค่า Location จะมีตัวเลือกย่อยแยกออกไปอีก 3 ตัวเลือก คือ High accuracy, Battery saving และ Device only แต่ว่าใน Android P ได้ตัดตัวเลือกดังกล่าวออกไปแล้ว เหลือเพียงตัวเลือกเดียวในชื่อใหม่ว่า Location Accuracy
สามารถเล่นวิดีโอจากแหล่งต่างๆ ที่ใช้การเข้ารหัสแบบ HDR VP9 ได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเล่นผ่าน YouTube, Play Movies ฯลฯ และการที่รองรับไฟล์ภาพ HEIF ก็ช่วยให้เก็บภาพความละเอียดได้สูงขึ้นโดยใช้พื้นที่น้อยลง
ในหน้าการตั้งค่า Notification ได้เพิ่มส่วนการตั้งค่าใหม่ "Recently sent" ที่จะบอกรายละเอียดว่าแอปฯ ล่าสุดที่ส่งแจ้งเตือนมานั้นมาตอนไหน อย่างไรก็ตาม มันจะแสดงค่าได้แค่สามครั้งล่าสุดเท่านั้น และหากกดแตะไปที่ See all apps มันจะไม่มีการระบุเวลา
ตรงแถบ Navigation bar จะมีเพิ่มปุ่มหมุนหน้าจอเข้ามา ซึ่งเราสามารถกดแตะเพื่อหมุนหน้าจอได้ แม้ว่าจะตั้งค่าล็อกหน้าจอไม่ให้หมุนไว้แล้วก็ตาม
เวลาที่เราเส้นเพื่อปลดล็อกจะไม่โชว์เส้นที่เราลากแล้ว เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้มากขึ้น
เวอร์ชันเก่า Do Not Disturb จะเป็นการปิดเสียงทั้งหมด ยกเว้นไว้แค่ นาฬิกาปลุก และเบอร์โทรศัพท์ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น แต่ในเวอร์ชันใหม่ จะมีให้ตั้งค่าอย่างเช่น อนุญาตให้คนที่โทรเข้ามาซ้ำๆ สามารถแจ้งเตือนได้
เวลาที่เราใช้นิ้วปาดเพื่อลากเปิดหน้า Notification ตัวเครื่องจะมีอาการสั่นเล็กน้อย (สามารถปิดได้ในตั้งค่า)
บนหน้าต่าง PiP มีการเพิ่มชอทคัทในการเข้าไปตั้งค่าอนุญาตการเปิดแอปฯ แบบ PiP เข้าไปที่มุมซ้ายบน
บน Android O หน้า Settings จะมีการเพิ่มไอคอนใหม่สีสันสดใสเข้าไปในแต่ละหมวด และมีเมนูตั้งค่าใหม่ถูกเพิ่มเข้ามาอย่างเช่น Feature flags
บน Android P มี Easter Egg สีสันสดใส บาดตา การกดดู ก็ง่ายๆ แค่แตะไปที่ Android Verstion ในหน้า Settings รัวๆ เท่านั้นเอง
บน Pixel 2 หากเปิดใช้งานหน้าจอ Always-on จะมีการแสดงผลแบตเตอรี่คงเหลือเล็กๆ ให้เห็นที่ด้านล่างของหน้าจอแล้ว
การแสดงผล และรายการชอทคัทใน Quick settings ได้รับการออกแบบใหม่ให้สวยงาม และดูง่ายมากขึ้น รวมถึงเพิ่มชอทคัทเพื่ออำนวยความสะดวกมากกว่าเดิม
ฟีเจอร์นี้รอมของบางค่ายมีให้ใช้อยู่แล้ว แต่ Google ก็ได้ใส่เข้ามาใน Android P นั่นก็คือ เราสามารถกดเซฟภาพหน้าจอได้ด้วยการกดปุ่ม Power ค้างเอาไว้ และมี Editor ให้แก้ไขภาพให้ใช้งานด้วย
แถบเสียงใน Android P ได้กลายเป็นแนวตั้งแล้ว จากเดิมที่เป็นแนวนอน และยังมีชอทคัทในการเลือกช่องทางฟัง เวลาที่ต่อหูฟังอยู่ด้วยให้เลือกได้อย่างรวดเร็ว
คร่าวๆ สำหรับของเล่นใหม่ใน Android P ก็ประมาณนี้ครับ แต่อันที่จริง ก็ยังมีอีกหลายสิ่งที่เราไม่ได้พูดถึง มันเยอะยุ่บยั่บไปหมด สำหรับคนที่อยากใช้ Android P เร็วสุดก็ต้องซื้อสมาร์ทโฟนตระกูล Pixel มาใช้ หรือพวกที่เป็น Pure Android นะครับ เนื่องจากรุ่นดังกล่าวจะได้รับการอัพเดทไวกว่ารอมค่ายของผู้ผลิตต่างๆ พอสมควรเลยล่ะ
|
แอดมินสายเปื่อย ชอบลองอะไรใหม่ไปเรื่อยๆ รักแมว และเสียงเพลงเป็นพิเศษ |