ข้อดี
| ข้อสังเกต
|
ไม่ใช่เรื่องแปลก! ที่จะเห็นว่า Huawei nova 3e หน้าตาดูคุ้นๆ เหมือนกับ Huawei P20 Pro และ Huawei P20 ที่เราเคยได้แนะนำกันก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นทั้งหน้าจอ FullView Display 2.0 พร้อมรอยบาก notch รวมทั้งวัสดุผิวกระจกด้านหลังของมือถือ ที่มีโลโก้หัวเว่ย และเลนส์กล้องคู่ที่เรียงตัวกันตามแนวนอนของตัวเครื่อง จะแตกต่างก็เพียงเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ที่อยู่ด้านหลัง แทนที่จะเป็นด้านหน้าใต้หน้าจอ
ซึ่ง Huawei nova 3e จริงๆ แล้วมีอีกชื่อหนึ่งก็คือ Huawei P20 Lite นั่นเอง เพียงแต่ชื่อ nova เป็นแบรนด์ที่จำหน่ายในโซนตะวันออกกลาง หรือในบ้านเรานั่นเอง
และเราก็ได้โอกาสไปสัมผัสกับ Huawei nova 3e มา ก่อนที่จะเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 24 พฤษภาคมนี้ (เพื่อนๆ สามารถติดตามรายละเอียดการพรีออเดอร์ได้ที่นี่) เลยเก็บเป็นพรีวิวมาฝากกันจ้า
สเปค Huawei nova 3e
หากอยากได้ดีไซน์แบบ FullView ของ Huawei P20 series แต่ไม่มีความจำเป็นจะต้องไปถึงระดับเรือธง หันมาทางนี้ได้เลย
โดย Huawei nova 3e มีทั้งหน้าจอ FullView 2.0 แบบ IPS LCD พร้อม รอยบาก (notch) เช่นเดียวกับสมาร์ทโฟนระดับพรีเมี่ยม แต่อัตราส่วนในรุ่นนี้กลับยาวขึ้นมาอีกนิด เป็น 19:9 แน่ะ
ส่วนด้านหลังของตัวเครื่อง ก็ไม่ได้ลดความพรีเมี่ยมลงเลย ถึงแม้ว่าจะไม่มีสี Twilight แบบไล่สีสวยๆ แต่ก็ยังคงใช้วัสดุผิวกระจกสวยๆ พร้อมกันรอยขีดข่วนเช่นกัน ส่วนเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ย้ายมาอยู่ด้านหลังแทนที่จะอยู่ด้านหน้า ใต้หน้าจอ
และความประทับใจจากการได้สัมผัสก็คือ Huawei nova 3e นั้น บางมากๆ แถมยังมีน้ำหนักเบาอีกด้วย ยกกล้องขึ้นมาเซลฟี่ ก็ไม่ต้องกลัวเมื่อย และจับถนัดมือเป็นที่สุด
ทั้ง Huawei P20 และ P20 Pro ได้รางวัลกล้องสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดกันไป ซึ่งรุ่นน้องน้อยอย่าง Huawei nova 3e ก็เน้นฟีเจอร์ด้านกล้องเหมือนกัน เพียงแต่เป็นกล้องหน้าสำหรับการเซลฟี่สวยๆ โดยเฉพาะ ซึ่งตัวกล้องหน้านั้น มีความละเอียดสูงถึง 24 ล้านพิกเซล และทางหัวเว่ยได้นำเทคโนโลยี Nude Makeup Algorithm มาใช้ร่วมกับ 3D Facial Mapping (ระบบตรวจจับใบหน้า 96 จุด) ในการปรับโทนผิวหน้าได้อย่างแม่นยำด้วยเทรนด์การแต่งหน้าแบบ No Makeup ที่ทำให้โทนผิวหน้าเซลฟี่ สว่างใส และสวยดูเป็นธรรมชาติมาก
ซึ่งไม่เพียงแค่ปรับโทนผิวเท่านั้น แต่ยังมีฟีเจอร์ในส่วนที่ทำให้การเซลฟี่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการลบริ้วรอยอย่างเป็นธรรมชาติ เพิ่มประกายตา และเงาผมอีกด้วย
รูปตัวอย่างเซลฟี่
เปรียบเทียบระหว่างโหมดออโต้กับโหมด Portrait จะเห็นว่ามีการปรับแต่งเพิ่มเติมในหลายๆ จุด ทั้งโทนผิวที่สว่างและเรียบเนียนขึ้น มีการเพิ่มเงาผมและแววต่าง และพื้นหลังจะถูกเบลอมากกว่าโหมดออโต้ ซึ่งภาพในโหมด Portrait ก็ยังดูเป็นธรรมชาติอยู่ . ไม่หลอกตา
ซึ่งไม่เพียงแค่สาวๆ เท่านั้นนะครับ แต่การเซลฟี่ ก็ใช้กับหนุ่มๆ ได้เช่นกัน โดย Huawei nova 3e ได้แก้ปัญหาโหมด Portrait กับผู้ชาย ด้วยการคงไว้ซึ่งรายละเอียดของใบหน้า เช่น หนวดเครา หรือรูขุมขน แต่มีการปรับผิวหน้ามันให้ดูดีขึ้นอีกด้วย
รูปตัวอย่างเซลฟี่ผู้ชาย
ก็ไม่รู้ว่ากล้องเห็นตัวแอดมินเป็นผู้ชายรึเปล่านะ? แต่ภาพที่ได้ก็ค่อนข้างโอเค หน้าถูกปรับให้เรียบเนียนขึ้นเช่นกัน แต่หนวดเคราเล็กๆ ก็ยังพอมีให้เห็นอยู่บ้าง (เหมือนไปรองพื้นมา) แต่ก็ไม่รู้ว่าถ้ามีหนวดเครามากกว่านี้ กล้องก็อาจจะคงเอาไว้ และน่าจะเพิ่มเงาผมให้กับหนวดเคราด้วยเป็นแน่
ซึ่งนอกจากเรื่องกล้องที่เป็นจุดเด่นแล้ว Huawei nova 3e ก็ยังมีจุดเด่นๆ ที่น่าสนใจดังนี้
|
โหมด Auto | โหมด Wide Aperture | โหมด Portrait |
เราสามารถใช้โหมด Wide Aperture หรือ Portrait ในการถ่ายให้เป็นแบบหน้าชัดหลังเบลอได้ ซึ่งความแตกต่างก็คือในโหมด Wide Aperture จะสามารถเบลอได้มากกว่าและปรับรูรับแสง เพื่อเพิ่มลดความเบลอได้ในภายหลัง รวมทั้งย้ายจุดที่จะโฟกัสได้ ส่วนโหมด Portrait จะเบลอฉากหลังได้น้อยกว่า แต่จะมีการปรับผิวนางแบบให้เหมือนโหมด Portrait ในกล้องเซลฟี่
สำหรับใครที่ชอบดีไซน์ Huawei P20 series แต่ไม่จำเป็นต้องใช้สมาร์ทโฟนถึงระดับเรือธง Huawei nova 3e ก็เป็นสมาร์ทโฟนระดับกลาง ที่เป็นตัวเลือกที่ดีครับ ด้วยดีไซน์และวัสดุแบบเดียวกัน ซึ่งดูแล้วพรีเมี่ยมมากๆ เลยครับ ส่วนด้านกล้องนั้น แม้คุณภาพกล้องหลังอาจจะไม่เท่ากับรุ่นใหญ่ แต่ก็สามารถใช้งานได้ดี ส่วนเรื่องเซลฟี่ ต้องยกให้รุ่นนี้เลย โทนสีที่ถ่ายออกมาสวยมากๆ
|
... |