จุดที่เราชอบ
| จุดที่เราไม่ชอบ
|
ด้วยความที่สมาร์ทโฟนเดี๋ยวนี้นิยมตัดรูหูฟัง 3.5 มม. ออกไป รวมกับเทคโนโลยีในปัจจุบันที่ก้าวหน้ามากขึ้น ทำให้หูฟังแบบไร้สาย มีการผลิตออกมาเป็นจำนวนมาก หลายรุ่น หลากแบรนด์ ก่อนหน้านี้เราเองก็เคยมีรีวิวหูฟังไร้สายไปแล้วหลายตัว แต่วันนี้เรามีหูฟังไร้สายอีกรุ่นที่มีความน่าสนใจมากมาแนะนำให้รู้จัก นั่นก็คือ ATH-CKR55BT จากค่าย Audio-Technica
ก่อนจะไปพูดถึงหูฟัง อยากจะแนะนำถึงแบรนด์นี้สักหน่อย เพราะเราพบว่าแบรนด์ Audio-Technica ไม่เป็นที่รู้จักกันสักเท่าไหร่ ในบ้านเรา ซึ่งว่ากันตรงๆ ผมก็ไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่นัก เพราะหูฟังของค่ายนี้ ในบ้านเรานั้นจะนิยมใช้กันเฉพาะในกลุ่มคนทำเพลง คนทำดนตรี ใช้กันอยู่ในสตูดิโอซะเยอะ รวมกับการที่หูฟังรุ่นสำหรับใช้งานทั่วไปของค่ายนี้ ก็ไม่ได้มีการนำเข้ามาจำหน่ายเยอะเหมือนกับคู่แข่งค่ายอื่นๆ ทำให้ชื่อ Audio-Technica ไม่เป็นที่รู้จักกันในบ้านเราสักเท่าไหร่ ทั้งๆ ที่ค่ายนี้เป็นที่นิยมมากในระดับโลก และเป็นแบรนด์หูฟังที่ขายดีที่สุดในญี่ปุ่นมาต่อเนื่องถึง 9 ปี
หูฟังแต่ละยี่ห้อมักจะมีคาแรคเตอร์เป็นของตนเอง อย่างถ้าเป็นหูค่าย Beats ก็มักจะทำเบสหนักๆ, หูค่าย Marshall ก็มักจะปรับแต่งเสียงมาให้เหมาะกับการฟังเพลง Rock หรือหูของ Sony ก็มักจะมีบุคลิคกรุ๊งกริ๊งนุ่มๆ แต่ถ้าพูดถึงหูค่าย Audio-Technica แล้วล่ะก็ จุดเด่นของเค้าคือ ความ FLAT ครับ (เสียงที่เล่นโดยปราศจากการปรุงแต่งให้เพี้ยนไปจากต้นฉบับ จริงๆ ก็ด้วยความ FLAT นี่แหละ ทำให้มันได้รับความไว้วางใจในการใช้งานในสตูดิโอ ค่ายที่ทำหูเสียงแนวนี้ที่มีชื่อเสียงในบ้านเรา ก็อย่างเช่น Shure, AKG)
เหลามาซะยาว ชักใบเรือพากลับเข้าฝั่งดีกว่า สำหรับหูฟังไร้สายรุ่น ATH-CKR55BT นี้ ยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยซาวด์ซิกเนเจอร์ของ Audio-Technica ซึ่งหลังจากผมได้ลองฟังมันมาสองสัปดาห์ ผมกล้าพูดเลยว่า ในบรรดาหูฟังไร้สายที่ราคาไม่เกินสี่พันบาท หูรุ่นนี้เป็นตัวที่ให้เสียงดีเป็นอันดับต้นๆ เลยล่ะ
ลูกเล่นที่น่าสนใจของ Audio-Technica ATH-CKR55BT
คุณสมบัติทางเทคนิค
อุปกรณ์ภายในกล่อง
Audio-Technica ATH-CKR55BT เป็นหูฟังไร้สายน้ำหนักเบา จุดเด่นคือการที่มีระบบแอมป์ในตัว ซึ่งตัวแอมป์จะอยู่ในกล่องเล็กบริเวณตรงกลางระหว่างสายหูฟังด้านซ้าย และด้านขวา
แต่ในทางกลับกัน เจ้าแอมป์นี่ก็ทำให้มีปัญหาด้านสมดุลตามมา สมมติเราใส่แบบเอาสายไว้ที่หลังคอมันจะไม่สามารถอยู่ตรงกลางได้พอดี มันจะโดนถ่วงตกไปไม่ฝั่งซ้ายก็ฝั่งขวาของคอ ส่งผลให้หูฟังเกาะหูได้ไม่สนิท ทางแก้ คือ ต้องใช้ที่หนีบที่ให้มาในกล่อง โดยอาศัยหนีบกับปกเสื้อ แต่เชื่อผมเถอะ มันหนีบยากพอควรเลย ท่าที่ง่ายที่สุด คือ ใส่แบบเอาสายไว้ด้านหน้า แล้วหนีบกับคอเสื้อด้านหน้าแทน ทั้งนี้เราจะไม่ใส่ที่หนีบก็ได้นะ เขาออกแบบมาให้ถอดออกได้
ที่สายหูฟังฝั่งขวาจะมีปุ่มควบคุม มีแค่สามปุ่มเท่านั้น ตัวปุ่มออกแบบมาได้ดีครับ "คลำ" กดได้ง่าย กดไม่กี่ทีก็สามารถจำตำแหน่งการกดได้ รูปแบบคำสั่งก็มาตรฐานนะครับ กดทีเดียวเพิ่ม/ลด เสียง กดค้างเลื่อนเพลง ส่วนปุ่มกลางก็กดเพื่อหยุด/เริ่มเล่นเพลง แต่หากมีสายเข้าจะเป็นกดรับสาย/วางสายแทน
การชาร์จแบตเตอรี่ รูชาร์จจะอยู่ที่เดียวกับปุ่มควบคุม มีจุกยางปิดให้เรียบร้อย แต่จุกแบบนี้ ใช้ไปนานๆ ทีไรยางขาดทุกที
ตรงส่วนของหูดีไซน์มาได้สวยงามทีเดียว ใช้ความเงาตัดกับความด้านได้อย่างลงตัว ตัวบอดี้ออกแบบมาเล็กๆ สวมใส่สบาย ไม่ว่าคุณจะเป็นคนรูหูเล็ก หรือรูหูใหญ่
ในกล่องมีจุกมาให้ 4 ไซส์ (ขนาด XS/S/M/L) ถ้าใส่แล้วไม่ถนัด ก็ลองเปลี่ยนจุกกันดูนะครับ
อย่างเราเกริ่นไว้ในช่วงแรกว่า หูฟังของค่ายนี้จะมีจุดเด่นตรงให้เสียงที่ปราศจากการปรุงแต่ง ดังนั้นแต่ละย่านจะไม่มีย่านไหนโดดเด่นเป็นพิเศษ ต้องพูดว่าเน้นมาครบ เก็บทุกรายละเอียด
ย่านเสียงสูง
ผมวิจารณ์ย่านนี้หลังจากลองใช้มันเสพย์ Sweet Child O' Mine ของ Guns N' Roses ต้องพูดเลยว่าถ่ายทอดย่านเสียงสูงออกมาได้ดีทีเดียว เสียงริฟท์กีตาร์กระจ่างมาก เสียงสูงมาแบบใสๆ ไม่มีความสากมาให้ระคายหูเลย ผมลองเอามาฟังเพลงคลาสสิค Violin Sonata in F Minor, Op.5: I. Allegro appassionate จากอัลบั้มของ Ignatz Waghalter ที่มีการใช้ไวโอลินบรรเลงทั้งเพลง ก็ไม่ผิดหวังครับ ทำได้ดีเลย
ย่านเสียงกลาง
ในบรรดาหูฟังไร้สายที่ผมเคยลองมา ผมชอบเสียงกลางของค่ายนี้ที่สุดละ ของเค้ามาครบทุกเม็ด เสียงร้องละเอียดมาก สัมผัสเนื้อเสียงของตัวนักร้องได้แบบเด่นมาก ฟัง Tears In heaven เวอร์ชันไลฟ์ ของ Eric Clapton เรารู้สึกถึงความสาก ความสั่นของเสียงได้อย่างชัดเจน ทำให้ฟังได้อารมณ์สุดๆ เสียงกีตาร์ก็เก็บมาหมด ถือว่าทำได้เยี่ยมมากกับหูฟังไร้สายราคานี้
ย่านเสียงต่ำ
หลังจากลองฟังด้วย Would You Ever ของ Skrillex กับ Finale ของ L'arc ขอให้ความเห็นว่าทำได้แบบผ่านมาตรฐาน ได้ยินเบสครบทุกลูก และชัดเจน แต่ต้องบอกเลยว่าเบสมาแบบให้เห็นว่ามี แต่มาแตะๆ แล้วผ่านไป ไม่ได้มาซัดแบบจังๆ ดังนั้นคนที่ชอบฟังเพลงแบบเบสอัดๆ คอ EDM จ๋าเลย หูตัวนี้ก็คงจะไม่ตอบโจทย์สักเท่าไหร่
สำหรับผมแล้วหูฟัง Audio-Technica ATH-CKR55BT เป็นหูฟังไร้สายที่ให้เสียงดีเกินคาดกว่าที่คิดเอาไว้มาก คิดว่าคนที่ชอบฟังเพลง Rock, Classic หรือ Pop น่าจะชอบอย่างแน่นอน จริงๆ ก็ฟังได้ดีทุกแนวแหละ ยกเว้นขาตื๊ดเนื่องจากเบสไม่หนักเท่าไหร่ ใครมองหาหูฟังไร้สายอยู่ ตัวนี้ก็ถือเป็นรุ่นที่น่าสนใจมากทีเดียวเลยล่ะครับ ชอบก็สั่งซื้อจากทาง THAIWARE SHOP ได้เลยนะ (อันนี้ไม่ได้บอกว่าดีเพราะเราขายนะ เสียงเขาดีจริงๆ)
|
แอดมินสายเปื่อย ชอบลองอะไรใหม่ไปเรื่อยๆ รักแมว และเสียงเพลงเป็นพิเศษ |