“ลูกคือกล่องดวงใจแสนล้ำค่า ที่ไม่อาจหาสิ่งใดมาทดแทนได้” นี่ไม่ใช่ประโยคที่กล่าวเกินจริงแต่อย่างใด อันจะเห็นได้จากคุณพ่อคุณแม่หลายคู่ที่คอยไปรับไปส่งลูกๆ ตั้งแต่หน้าประตูบ้าน จนถึงปากประตูโรงเรียน เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝันต่างๆ บางคนก็ให้โทรศัพท์มือถือลูกไว้ใช้ แต่กับเด็กบางคนความรับผิดชอบยังไม่พอ อาจทำโทรศัพท์สูญหายบ่อยครั้ง ด้วยเหตุฉะนี้ นาฬิกาสมาร์ทวอทช์ จึงเป็นตัวเลือกที่คุณพ่อคุณแม่หลายคนให้ลูกน้อยใส่ติดตัวไว้
วันนี้ ไทยแวร์มีอุปกรณ์แกดเจ็ตน่าสนใจๆ สำหรับเด็กช่วงอนุบาล - ป.6 มาแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ หรือคุณผู้ปกครองได้รู้จักกัน นั่นก็คือ นาฬิกาโทรศัพท์สำหรับเด็ก imoo Watch Phone Z3 ที่จะช่วยให้คุณผู้ปกครอง สามารถติดต่อสื่อสารกับน้องๆ หนูๆ ด้วยการส่งแชท ส่งข้อความเสียง หรือการโทรศัพท์ได้ทุกที่ทุกเวลา พร้อมระบบติดตามการเคลื่อนไหว และมีฟีเจอร์แจ้งเตือนทุกการเคลื่อนไหวของเด็ก ไปยังแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน ระบบ Android และ iOS ของผู้ปกครองทันที (Real-Time) ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสบายใจขึ้นเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้นาฬิกาโทรศัพท์สำหรับเด็ก imoo Watch Phone Z3 ยังมีฟีเจอร์น่าสนใจๆ อีกหลายอย่าง เช่น รองรับระบบ 4G VoLTE, รองรับการโทรเข้า-ออก และการระบุตำแหน่งของผู้สวมใส่มากกว่า 200 ประเทศทั่วโลก (ต้องเปิดโรมมิ่งดาต้า), ใช้เทคโนโลยี IPX8 กันน้ำที่ความลึก 20 เมตร และระบบชาร์จเร็ว (Quick Charge) เป็นต้น ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมาข้างต้นนี้ สามารถติดตามรับชมได้จากรีวิวชิ้นนี้ได้เลยครับ
จุดเด่น
| จุดสังเกต
|
เมื่อทราบถึงจุดเด่น และจุดสังเกตไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราจะมาดูสเปคของนาฬิกา imoo Watch Phone Z3 กันนะครับ
หน้าจอ : AMOLED 1.41 นิ้ว, 320x360, 342 PPI
ขนาด : 53.39 x 41.02 x 14.08 มม.
ระบบปฏิบัติการ : Android 7.1
ชิปเซ็ตประมวลผล : Qualcomm Dragon Wear 2100
แบตเตอรี่ : 580 mAh, พร้อมระบบชาร์จเร็ว (Quick Charge)
สายนาฬิกา : ซิลิโคนดาวคอร์นนิ่ง TPSiV แบบนิ่ม
ระบบกันน้ำ : มาตรฐาน IPX8
เชื่อมต่อ : Wi-Fi และ Bluetooth 4.0
รองรับซิมการ์ดเครือข่าย :
เซ็นเซอร์ : Gyroscope, Accelerometer
หลังจากดูข้อมูลสเปคของ นาฬิกาเด็ก imoo Watch Phone Z3 กันไปแล้ว ก็จะมาแกะกล่องดูกันว่า ภายในกล่องจะอุปกรณ์อะไรบ้าง
เริ่มที่กล่องใส่นาฬิกา ด้านนอกเป็นทรงสีเหลี่ยมสีขาวตัดด้วยสีส้มสด เวลามองแล้วให้ความรู้สึกที่สดชื่นกระปรี้กระเปร่า ตัววัสดุทำจากพลาสติกแข็งแรงทนทาน ด้านบนสกรีนชื่อยี่ห้อ imoo (ไอมู่) สีส้ม ส่วนด้านหน้าเป็นชื่อรุ่น Z3 ที่ใช้สีส้มเช่นกัน
เมื่อเปิดฝาครอบออก จะเจอกับตัวเรือนนาฬิกา imoo Watch Phone Z3 อยู่บนฐานตั้งสีส้ม เวลามองทำให้หวนย้อนนึกถึงเวลาเลือกซื้อนาฬิกาในร้าน
ส่วนด้านขวาบน มีข้อความภาษาอังกฤษเขียนว่า "Manual and charging cable inside." แปลเป็นภาษาไทยว่า คู่มือและสายชาร์จอยู่ด้านใน
พอถอดฐานวางนาฬิกาออก ก็จะเห็นคู่มือและสายชาร์จถูกใส่อยู่ภายในช่องอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย และภายในถุงใส่คู่มือก็มีพลาสติกสีเทาขนาดเท่านิ้วโป้งอยู่ชิ้นหนึ่งสำหรับใช้เปิดช่องใส่ซิมการ์ดบนตัวนาฬิกา
อุปกรณ์ทั้งหมดที่มาในกล่อง ประกอบด้วย
การออกแบบดีไซน์ตัวเรือนนาฬิกา imoo Watch Phone Z3 เป็นแนวสปอร์ต แบบเด็กๆ ใส่แล้วดูเท่ห์ ตัวเรือนและสายใช้สีชมพูอ่อนสลับกับสีดำ ขอบมุมต่างๆ มีความโค้งมน มีบางส่วนนูนออกมาและบางจุดที่เรียบ ทำให้ตัวนาฬิกาดูมีมิติ มีให้เลือกสองสีได้แก่ สีชมพู และสีเขียว
ส่วนวัสดุที่ใช้ทำตัวเรือน imoo Watch Phone Z3 มีความคงทนแข็งแรง น้ำหนักเบา ทุกส่วนแนบชิดสนิทกัน เวลาเขย่าไม่มีเสียงก๊อกแก๊กออกมาแต่อย่างใด ตรงรอยต่อต่างๆ ก็ไม่มีช่องว่างเลย สอดคล้องกับเทคโนโลยีที่กล่าวไว้ในสเปคคือ มีมาตรฐานกันน้ำ IPX8
หน้าจอสี่เหลี่ยมขนาด 1.41 นิ้ว ความละเอียด 320x360 พิกเซล ใช้เทคโนโลยี AMOLED ที่ขึ้นชื่อเรื่องความคมชัดสูง แสดงสีสันสดใส แถมเป็นมิตรต่อสุขภาพสายตาของผู้สวมใส่ และตัวกระจกเป็น Gorilla Glass 3 กันรอยขีดข่วนที่อาจจะเกิดขึ้นจากการใช้งานของเด็กได้
ตัวเรือนนาฬิกา imoo Watch Phone Z3 ด้านขวามีช่องรับเสียง กับข้อความที่เขียนไว้ว่า Water Resist ส่วนด้านซ้ายเป็นข้อความ Quick Charge ที่สลักด้วยอักษรสีดำ, ด้านล่างมีช่องลำโพง
พอพลิกเรือนนาฬิกา imoo Watch Phone Z3 ไปที่ด้านหลังจะเป็นสีชมพูอ่อนทั้งชิ้น โดยมีปุ่มเปิด-ปิดเครื่องเป็นสีดำ, มีช่องสำหรับเสียบชาร์จแบตเตอรี่ และช่องใส่ซิมการ์ดแบบนาโนซิม (Nano Sim)
ช่องใส่ซิมการ์ดเป็นแบบ นาโนซิม (Nano Sim) ที่รองรับเครือข่าย 4G วิธีเปิดช่องใส่ซิมก็คือ นำที่แกะช่องใส่ซิมการ์ดสีเทา (อยู่ในซองใส่คู่มือ) มาเสียบแล้วงัดขึ้นเล็กน้อย (ระวังกระเด็น) ช่องก็จะเปิดออก อาจต้องใช้ความระวังเล็กน้อยเพราะฝาปิดแนบสนิทแน่นกับตัวเรือนนาฬิกามากๆ ด้านในของฝาปิดมียางกันน้ำรองรับเข้ากับรูปทรงของซิมพอดี วิธีใส่ซิมการ์ดก็ทำได้แบบง่ายๆ เลย วิธีปิดฝาก็แค่วางให้ตรงช่อง แล้วออกแรงกดเล็กน้อยให้ฝาปิดแนบสนิทกับตัวเครื่องก็เป็นอันเสร็จพิธี
สำหรับการชาร์จแบตเตอรี่ของนาฬิกา imoo Watch Phone Z3 รองรับระบบชาร์จเร็ว (Quick Charge) ด้วยแรงดันไฟ 1.2A ใช้เวลาชาร์จให้เต็มเพียงแค่ 100 นาที (1.40 ชั่วโมง) เท่านั้น วิธีชาร์จคือแปะหัวชาร์จให้ตรงกับช่อง แม่เหล็กที่ถูกฝังอยู่ภายในทั้งสองฝั่งก็จะดูดตัวเข้าหากันทันที
วัสดุที่ใช้ทำสายนาฬิกาคือ ซิลิโคนดาวคอร์นนิ่ง TPSiV แบบนิ่มให้สัมผัสที่อ่อนนุ่ม กันสิ่งสกปรก กันเหงื่อ กันความมัน กันรังสียูวีจากแสงแดด และผ่านการทดสอบทางการแพทย์แล้วว่าเป็นมิตรต่อสุขภาพผิวของเด็ก ส่วนหัวล็อกสายเป็นแบบพินคู่ (2 เขี้ยว) ทำให้ล็อกสายได้อย่างแน่นหนา ไม่หลุดออกง่ายๆ แถมปรับระดับสายให้เข้ากับข้อมือเด็กๆ ได้ถึง 12 ระดับ และความยาวก็พอให้ทั้งเด็กผู้หญิงและผู้ชายสวมใส่ได้สบายๆ
จุดเด่นในสเปคของนาฬิการุ่น imoo Watch Phone Z3 ตัวนี้ก็คือใช้ Qualcomm Dragon Wear 2100 ชิปเซ็ตประมวลผลที่ออกแบบมาสำหรับนาฬิกาสมาร์ทวอทช์ให้รองรับเครือข่าย 4G โดยเฉพาะ รับ-ส่งข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว และแสดงตำแหน่งบนแผนที่ได้อย่างแม่นยำทั้งในอาคารและนอกอาคาร
ผลจากการทดสอบใช้งานก็เห็นได้ว่า การส่งข้อมูลไม่ว่าจะเป็นข้อความเสียง หรือส่งสติกเกอร์ ผ่านนาฬิกาและแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน ผ่านเครือข่าย 4G นั้นทำได้อย่างรวดเร็วทันใจเลยไม่มีอาการค้างหรือช้าให้เห็นเลย
นอกจากจะแสดงตำแหน่งของผู้สวมใส่ได้อย่างแม่นยำแล้ว ชิปเซ็ตประมวลผลตัวนี้ ยังประหยัดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็นลงถึง 25% เลยทีเดียว แต่จะให้เชื่อสเปคไปซะหมดก็ไม่ได้ จึงต้องทำการทดสอบกันสักหน่อย โดยการใช้งานรับข้อความเสียง โทรเข้าโทรออก ตลอด 1 วันเต็มๆ ก็ได้ผลทดสอบออกมาว่า แบตเตอรี่ก็ยังเหลืออยู่ประมาณ 60% ยังใช้งานต่อถึงพรุ่งนี้ได้สบายๆ
ซึ่งการใช้งานจริงๆ แบตเตอรี่อาจจะเหลือเปอร์เซ็นต์มากกว่านี้ เพราะมีฟังก์ชั่นต่างๆ เข้ามาช่วยประหยัดแบตฯ เช่น โหมดห้ามใช้ขณะเรียน ปิดการรับสายโทรเข้า-โทรออก, โหมดประหยัดแบตเตอรี่ที่ปิดการใช้งานฟังก์ชั่นอื่นๆ เพื่อยืดอายุแบตเตอรี่ให้ใช้ได้ยาวนานที่สุดเท่าที่จะทำได้ และมันมีประโยชน์มากๆ เวลาเกิดเหตุไม่คาดฝัน เช่น กรณีเด็กเกิดพลัดหลงกับผู้ปกครองเวลาไปต่างประเทศ (รองรับการโทรและระบุตำแหน่งกว่า 200 ประเทศ) ผ่านสัญญาณ 4G จะสามารถตามหาตัวได้ไม่ยาก หรือหากเด็กถูกคนแปลกหน้าพาตัวไป ก็จะสามารถตามตำแหน่งได้จากแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน เป็นต้น
ในเรื่องหน้าจอเป็นแบบ AMOLED ที่แสดงสีสันคมชัด สัมผัสจากการทัชสกรีนหน้าจอก็เป็นไปอย่างลื่นไหล แตกต่างจากที่เคยทดสอบมา ไม่มีอาการหนืดหรืออาการสะดุดให้เห็นเลย จุดนี้ทำให้ผู้เขียนรู้สึกประทับใจมาก และแน่นอนว่า เด็กๆ ย่อมต้องซนเป็นธรรมดา กระจกหน้าจอของ imoo Watch Phone Z3 จึงเป็นแบบ Gorilla Glass 3 ที่ป้องกันรอยขีดข่วนต่างๆ อันจะเกิดจากกิจกรรมในชีวิตประจำวันของเด็กได้
วิธีการใช้งานนาฬิกาก็ง่าย เด็กๆ เข้าใจได้ไม่ยาก โดยใช้นิ้วสไลด์ไปทางซ้ายเพื่อย้อนกลับ ไปทางขวาจะเป็นการเลื่อนหน้าเมนู และเลื่อนขึ้นลงเพื่อดูรายละเอียด ส่วนจะเข้าเมนูไหนก็ให้สัมผัสที่หน้าจอ 1 ครั้ง เท่านั้น ส่วนเมนูในหน้าจอหลักประกอบด้วย 6 รายการ ได้แก่
หน้าจอหลักแสดงเวลา ก็สามารถเปลี่ยนรูปภาพ Wallpapers ได้ถึง 7 รูปแบบ มีทั้งรูปการ์ตูน รูปวิวโลกจากอวกาศ รูปหน้าปัดนาฬิกาแบบวงกลม ฯลฯ เพิ่มความแปลกใหม่ให้แก่น้องๆ ส่วนวิธีเปลี่ยนก็ไม่ยากเลย เพียงแค่จิ้มนิ้วค้างไว้ที่หน้าจอประมาณ 2 วินาที ก็จะมีรูปแบบมาให้เลือกทันที
ด้วยระบบกันน้ำของ imoo Watch Phone Z3 เป็นมาตรฐานระดับ IPX8 กันน้ำได้ที่ความลึกสูงสุด 20 เมตร สามารถใส่ว่ายน้ำในสระหรือน้ำทะเลได้ อย่างไรก็ดีในคู่มือเขียนไว้ว่าห้ามใส่เข้าห้องอบซาวน่า แช่น้ำพุร้อน ดำน้ำลึก เล่นสกีน้ำ หรือกิจกรรมทางน้ำที่มีกระแสน้ำไหลผ่านแรงๆ เพราะอาจทำให้นาฬิกาเสียหายได้
ซึ่งทางผู้เขียนก็ได้ทำการทดสอบนาฬิกาด้วยการนำไปแช่ในน้ำเกือบๆ 5 นาที ผลสรุปออกมาคือ หลังขึ้นจากน้ำแล้วก็ใช้งานได้ตามปกติไม่มีปัญหาแต่อย่างใด แต่เพื่อความปลอดภัย ไม่ควรชาร์จแบตเตอรี่ขณะที่นาฬิกายังเปียกอยู่ ต้องเช็ดให้แห้งก่อนจึงจะดีที่สุด และไม่เปิดช่องใส่ซิมการ์ดขณะที่ตัวเครื่องยังเปียกอยู่
สำหรับการโทรเข้า-โทรออกของนาฬิกา imoo Watch Phone Z3 ก็ทำได้อย่างดีเหมือนกับสมาร์ทโฟนเครื่องหนึ่งเลยทีเดียว แม้ว่าบางพื้นที่อาจมีสัญญาณน้อย แต่มันก็ยังใช้โทรเข้าโทรออกได้ ส่วนคุณภาพเสียงถือว่าโอเคเลย ฟังชัดรู้เรื่อง และหากว่าเสียงเบาไปก็ปรับเพิ่มระดับเสียงได้ ทุกครั้งที่โทรศัพท์ตัวนาฬิกาจะเปิดลำโพงไว้ ซึ่งบางครั้งอาจไปรบกวนเด็กคนอื่นๆ ได้ ตัวนาฬิกาก็สามารถสลับจาก โหมดเปิดลำโพง ไปเป็น โหมดส่วนตัว ที่เป็นการลดเสียงให้เบาลง ต้องเอาหูไปใกล้ๆ นาฬิกาถึงจะได้ยิน
นอกจากการโทรแบบปกติแล้ว เจ้านาฬิกา imoo Watch Phone Z3 ยังสามารถโทรออกหรือรับสายด้วยเสียง ผ่านเทคโนโลยี VoLTE (Voice over LTE) บนเครือข่าย 4G ได้อีกด้วยนะ
ข้อดีของมันก็คือ คุณภาพเสียงจะคมชัดระดับ HD และสามารถโทรเข้าหรือออก ได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่กี่วินาที แต่มีข้อจำกัดอยู่ที่ว่า สมาร์ทโฟนที่ใช้ต้องรองรับเทคโนโลยี VoLTE ด้วยนะ ถึงจะใช้ฟีเจอร์ที่ว่านี้ได้ ตัวซิมการ์ดเองก็ต้องเปิดบริการ VoLTE จากผู้ให้บริการก่อนเช่นกัน (ซิมการ์ดตัวนาฬิกา/สมาร์ทโฟน)
การโทรออกด้วย 4G VoLTE
และจากการทดสอบโทรแบบด้วยซิม AIS ไปยังสมาร์ทโฟนที่รองรับ VoLTE ผลปรากฏว่า หลังจากการกดโทรออกไปประมาณ 4 วินาที นาฬิกา imoo Watch Phone Z3 ก็ได้รับสัญญาณโทรเข้าแล้ว ซึ่งนับได้ว่ารวดเร็วมากๆ ส่วนคุณภาพเสียงก็ชัดกว่าปกติ
การโทรออกแบบธรรมดา
ความเร็วในการโทรผ่าน VoLTE หากเปรียบกับการโทรแบบปกติแล้ว ถือว่าเร็วกว่าเป็นเท่าตัวเลย ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีนี้จะดีสักแค่ไหน แต่มันก็ต้องแลกด้วยการใช้พลังงานแบตเตอรี่ที่สิ้นเปลืองกว่าปกติ หากว่าไม่อยากใช้การโทรผ่าน VoLTE แล้วล่ะก็สามารถปิดการใช้งาน ผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนได้เลย
จุดเด่นของ imoo Watch Phone Z3 ก็คือ การใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชันบนมือถือสมาร์ทโฟน ที่จะช่วยให้ผู้ปกครองสามารถติดต่อกับเด็กได้ โดยส่งข้อความเสียง หรือโทรไปหาลูกๆ หลานๆ ได้ตลอดเวลา แถมใช้ติดตามตำแหน่งของเด็กที่สวมใส่นาฬิกาได้ หรือกำหนดขอบเขตปลอดภัยให้ และหากว่าเด็กเดินออกนอกเขตเมื่อไร ก็จะแจ้งเตือนกลับมาที่แอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนให้ทราบ ซึ่งนี่จะช่วยให้ผู้ปกครองสบายใจมากขึ้น เพราะถ้าเป็นห่วงเมื่อไรก็ยกสมาร์ทโฟนขึ้นมาโทรหานาฬิกาที่เด็กสวมใส่ หรือใช้ดูว่าอยู่ที่ไหนแล้วได้ทันที
สำหรับการใช้งานในครั้งแรกผู้ปกครองต้องติดตั้งแอปพลิเคชัน imoo Watch Phone ลงบนสมาร์ทโฟนเสียก่อน ซึ่งตัวแอปฯ นั้น มีให้ใช้ทั้งบนระบบปฏิบัติการ Android (เวอร์ชัน 4.0 ขึ้นไป) และ iOS (เวอร์ชัน 8.0 ขึ้นไป) โดยสามารถดาวน์โหลดแอปฯ ได้จากลิงค์ด้านล่างนี้เลย
ดาวน์โหลด imoo Watch Phone สำหรับ Android
ดาวน์โหลด imoo Watch Phone สำหรับ iOS
หลังจากที่ติดตั้งแอปฯ เสร็จแล้ว เมื่อเรียกใช้งานครั้งแรก จะเจอกับ "หน้าจอลงทะเบียน / ล็อกอินเข้าสู่ระบบ" สำหรับคนที่เคยลงทะเบียนแล้วก็ล็อกอินเข้าใช้งานได้เลย ส่วนผู้ปกครองคนใดที่ยังไม่เคยลงทะเบียนมาก่อน ให้กดที่ปุ่ม "ลงทะเบียน" เลย
จากนั้นเราจะเข้าสู่การสร้างบัญชี หน้าจอนี้ให้เราเลือกประเทศ/เขต เป็น "ไทย" จากนั้นก็กรอกเบอร์โทรศัพท์ลงในช่อง และกดปุ่มไปต่อเพื่อรับรหัสยืนยันการใช้งาน เมื่อได้รหัสมาแล้วให้กรอกภายใน 10 นาที เมื่อกรอกเรียบร้อยแล้วให้กด "ขั้นต่อไป"
แล้วสักพักข้อความจะถูกส่งเข้ามา โดยเราไม่ต้องกรอกอะไรเลย แอปฯ จะทำการกรอกให้อัตโนมัติ แต่ถ้าไม่ขึ้น ก็ต้องพิมพ์รหัสยืนยันลงในช่องเอง โดยนำตัวเลข 6 หลักจากข้อความที่ระบบส่งเข้ามา และหากว่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้เรากดปุ่ม "ขั้นต่อไป" ได้เลย
ในหน้านี้ จะต้องทำการตั้งรหัสผ่าน ซึ่งมีข้อกำหนดว่าต้องประกอบด้วยตัวเลขและตัวอักษร 6 - 16 หลัก เท่านั้น หากไม่ตรงตามข้อกำหนดจะข้ามไปยังขั้นตอนต่อไปไม่ได้ และหากว่าตั้งเสร็จแล้ว ก็ให้เราเช็คความถูกต้องของรหัสผ่าน ด้วยการ "กดรูปไอคอนหลับตา" (ด้านขวาในช่องกรอกรหัสผ่าน) เพื่อเปิดดูตัวเลขและอักษรที่ตั้งไว้ จากนั้นค่อยกดปุ่ม "สำเร็จ"
เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะเข้าสู่หน้าจอคำขอ ส่วนนี้จะเป็นการเชื่อมต่อระหว่างแอปพลิเคชันกับตัวนาฬิกา imoo Watch Phone Z3 ผ่านการสแกน QR Code ขั้นตอนทำคือ ให้กดปุ่ม "เชื่อมต่อทันที" แล้วเลื่อนไปสแกนที่ QR Code บนตัวนาฬิกาเลย
แล้วทำการเลือกความสัมพันธ์ในครอบครัว ระหว่างเจ้าของสมาร์ทโฟนกับตัวเด็ก ส่วนนี้จะมีตัวเลือกมาให้ 9 รายการ ได้แก่ คุณพ่อ, คุณแม่, พี่สาว, คุณปู่, คุณย่า, พี่ชาย, คุณตา, คุณยาย และคุณครู นอกเหนือจากนี้สามารถเพิ่มเองได้เลย และเมื่อเลือกเสร็จแล้วให้กดปุ่ม "ขั้นต่อไป" เพื่อเข้าไปยังหน้าจอหลักของแอปฯ
และสมาร์ทโฟนเครื่องที่เชื่อมต่อนาฬิกาเป็นลำดับแรกจะได้รับสิทธิ์เป็นผู้ดูแล หรือแอดมิน (Admin) สำหรับดูแลจัดการสมาร์ทโฟนเครื่องอื่นๆ ที่เชื่อมต่อลำดับถัดไป ซึ่งสิทธิ์ของแอดมินก็คือ อนุมัติคำขอเชื่อมต่อ และจัดการลบบัญชีอื่นๆ ออกได้ ซี่งจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยจากผู้ไม่หวังดีที่อาจแฝงตัวเข้ามาแอบดูตำแหน่งของเด็กได้
หน้าจอหลักของแอปฯ imoo Watch Phone นั้นจะแสดงตำแหน่งโลเคชั่นบนแผนที่ ของเด็กที่สวมใส่นาฬิกา, จำนวนนับก้าว, และการตั้งค่าที่จำเป็นๆ อย่าง School เซฟโซน, โหมดห้ามใช้ขณะเรียน เป็นต้น ส่วนด้านล่างมีไอคอน 3 ปุ่ม ได้แก่ "ระบุตำแหน่ง" สำหรับเรียกดูว่าเด็กอยู่ตรงไหน, "โทร" สำหรับโทรออกไปยังตัวนาฬิกา และ "แชท" สำหรับส่งข้อความตัวอักษร หรือข้อความเสียง เข้าไปยังตัวนาฬิกา imoo Watch Phone Z3
"รูปไอคอนกล่องข้อความ" ด้านขวาบน เป็นฟีเจอร์บันทึกการเปลี่ยนแปลง หรือการตั้งค่าต่างๆ ของตัวนาฬิกา imoo Watch Phone Z3 รวมถึงแสดงการแจ้งเตือนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตั้งแต่ เด็กไปถึงโรงเรียน, เด็กกลับถึงบ้าน, เด็กเดินออกจากเขตที่กำหนดไว้ หรือสัญญาณการเชื่อมต่อของนาฬิกาหายไป ฯลฯ ก็สามารถดูการแจ้งเตือนตรงนี้ได้เลย
หากว่าสไลด์หน้าจอแอปฯ ไปทางซ้ายจะเป็นในส่วนของการตั้งค่า ฟังก์ชั่นของนาฬิกา imoo Watch Phone Z3 ที่ประกอบด้วย 3 ฟังก์ชั่นหลัก และ 11 ฟังก์ชั่นเสริม ได้แก่
แน่นอนว่าการเปิดใช้งานทุกฟังก์ชั่น ย่อมต้องใช้พลังงานจากแบตเตอรี่มากขึ้น แต่มีฟังก์ชั่นที่ผู้เขียนแนะนำให้เปิดไว้ ก็คือ โหมดห้ามใช้ในขณะเรียน ที่เป็นการกำหนดช่วงเวลา เพื่อป้องกันการรบกวนจากสายเรียกเข้า และข้อความต่างๆ ทำให้เด็กไม่เสียสมาธิขณะอยู่ในชั้นเรียน
และฟังก์ชั่น School เซฟโซน ที่กำหนดขอบเขตปลอดภัยสำหรับเด็ก เพื่อแจ้งเตือนให้ผู้ปกครองทราบทันที เมื่อเด็กเดินออกจากเขตบ้าน หรือโรงเรียนที่ตั้งไว้ เพื่อให้ผู้ปกครองโทรหานาฬิกาที่เด็กสวมใส่ได้ทันที ซึ่งนี่จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยได้อย่างมาก
จากการที่ได้ทดลองใช้ นาฬิกาโทรศัพท์สำหรับเด็ก imoo Watch Phone รุ่น Z3 ตัวนี้ รู้สึกประทับใจกับฟีเจอร์และฟังก์ชั่นต่างๆ ตั้งแต่ มาตรฐานกันน้ำ IPX8 ที่ช่วยให้น้องๆ หนูๆ สามารถใส่ติดตัวได้ตลอดเวลา, การระบุตำแหน่งผ่านสัญญาณ 4G ที่ค่อนข้างแม่นยำ, หน้าจอ AMOLED ที่คมชัด และสีสันสมจริง, หน้าตาอินเทอร์เฟซที่ดูเรียบง่าย ใช้งานไม่ยากเหมาะสำหรับเด็กๆ, การกำหนดขอบเขตปลอดภัย เพื่อป้องกันเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นกับเด็กได้ทุกเวลา และใช้งานในต่างประเทศได้อีกด้วย นอกจากนี้แบตเตอรี่ยังชาร์จเต็มภายในเวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมงเท่านั้น
แต่ก็มีบางจุดที่อาจเป็นข้อสังเกตได้ เช่น ปรับความสว่างหน้าจอ ขณะเปิดโหมดห้ามใช้ขณะเรียนไม่ได้ ซึ่งทำให้บางครั้งจอสว่างน้อยหรือมากเกินไป อาจไม่สบายตาสักเท่าไร และอีกจุดคือระบบการให้คะแนน ที่ค่อนข้างจำเจและน้อยไปสักนิด หากมีเกมส์หรือกิจกรรมที่ผู้ปกครองสามารถให้คะแนนพิเศษเพิ่มได้จากปกติจะช่วยให้เด็กอยากสวมใส่นาฬิกามากยิ่งขึ้น ตามความเห็นของผู้เขียนมีเท่านี้ หวังว่าบทความรีวิวชิ้นนี้ จะมีประโยชน์แก่ผู้ปกครองหรือคุณพ่อคุณแม่ ที่กำลังมองหาแกดเจ็ตที่ช่วยเพื่อความปลอดภัยให้กับเด็กๆ นะครับ
|
How to .... |