แว๊บแรกที่เห็น Overkill's The Walking Dead ผู้เขียนก็เกิดความสนใจในผลงานเกมส์ชิ้นนี้ขึ้นมาในทันที เพราะหากลองแยกส่วนประกอบของเกมส์ออกมาแบบเบื้องต้นแล้ว ก็จะพบว่าผลงานเกมส์ชิ้นนี้ได้ผสม 3 องค์ประกอบที่น่าสนใจเข้าไว้ด้วยกัน ได้แก่การเจริญรอยตามลูกสูตรของ Left 4 Dead ซีรีย์เกมส์แนว First-person shooter (ยิงมุมมองบุคคลที่หนึ่ง) แห่งวงการที่ผู้เล่นทั้ง 4 ที่ความสนุกและความท้าทายของเกมส์ คือการร่วมหัวจมท้ายผ่านอุปสรรคทั้งหมดร่วมกัน, การได้รับลิขสิทธิ์ถูกต้องจากคอมมิค The Walking Dead ซีรีย์แนวเอาตัวรอดในโลกหลังอารยธรรมที่ปกคลุมไปด้วยฝูงห่าคนตายเดินได้มาใช้เป็นฉากหลังในการเล่น และปิดท้ายด้วย Overkill ค่ายพัฒนาเกมส์ที่เคยฝากผลงานอย่างซีรีย์ Payday เกมส์แนวโจรกรรมระดับพระกาฬที่เกมเมอร์สายมัลติเพลเยอร์รู้จักเป็นอย่างดี!
องค์ประกอบที่พบเจอได้ในแรกเห็นทั้ง 3 ที่กล่าวมา เป็นเพียงปราการแรกที่ทำให้ Overkill's The Walking Dead ซึ่งผู้เขียน เชื่อว่ายังมีอีกหลายสิ่งที่น่าพูดถึง แต่มันจะมีอะไรกันบ้าง เชิญตามอ่านได้ในบทความพรีวิวนี้ได้เลยครับ
ในขณะที่เหตุการณ์ทั้งหลายใน The Walking Dead ฉบับทีวีซีรีย์และคอมมิค เกิดขึ้นใน แอตแลนต้า (Atlanta) รัฐจอร์เจีย (Georgia) และอีกหลายรัฐทางใต้ของสหรัฐอเมริกา แต่กับฉบับเกมส์อย่าง Overkill's The Walking Dead พวกเขาได้ใช้วอร์ชิงตัน ดี.ซี. เมืองหลวงของสหรัฐอเมริกานี้ เป็นแกนกลางหลักของฉากการเล่น เพื่อให้ผู้เล่นได้เข้าถึงอารมณ์การเอาตัวรอด ผ่านเศษซากรถ อาคาร และสิ่งปลูกสร้างรกร้างทั้งหลาย
หากใครไม่คุ้นชื่อกับทีมพัฒนา Overkill Software เอาเป็นว่าพวกเขาคือผู้อยู่เบื้องหลัง Payday ซีรีย์เกมส์แนวยิงมุมมองบุคคลที่หนึ่ง (FPS) หลายผู้เล่นที่ผสมเข้ากับเกมส์แนว RPG ได้อย่างลงตัว โดยเราและเพื่อนจะได้เลือกสวมบทบาทเป็นอาชาญกรหลากความเชี่ยวชาญต้องร่วมมือกันโจรกรรมสิ่งมีค่ามากประเภทจากการคุ้มกันอันแน่นหนา ที่การวางแผนและความสามัคคีของผู้เล่นทุกคนจะเป็นตัวตัดสินว่าการปล้นจะสำเร็จลุล่วงหรือไม่!?
ด้วยแก่นการเล่นที่น่าสนใจที่ซ้ำยังผสมองค์ประกอบของเกมส์แนว RPG ออกมาได้อย่างลงตัว ก็ส่งผลให้ซีรีย์ดังกล่าวประสบความสำเร็จ และในโปรเจคใหม่อย่าง Overkill's The Walking Dead นี้เอง ซึ่งจากวิดีโอเกมเพลย์ฉบับเดโม่ที่สื่อเกมส์ต่างประเทศหลายสำนักได้เข้าทดลองเล่นนั้น จะเห็นได้ว่าตัวเกมส์ยังคงมีรูปแบบการเล่นที่ทางทีมงานชำนาญมืออยู่เช่นเคย โดยเบื้องต้น ตัวเกมส์จะมีตัวละครให้สวมบทบาททั้งสิ้น 4 ตัว ที่แน่นอนว่าจะมีสกิลที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งในส่วนนี้จากทางข้อมูลบนเว็บไซต์หลักของเกมส์ ได้ระบุเอาไว้ว่า แต่ละตัวละครจะมีทักษะที่แตกต่างและเฉพาะเจาะจงในแต่ละด้าน
โมเดลเกมเพลย์ที่ทำให้ซีรีย์ Payday ประสบความสำเร็จ คือฟีเจอร์บทบาทการเล่นของตัวละคร โดยใน Overkill's The Walking Dead นี้ เท่าที่ผู้เขียนได้ลองอ่านมาจากเว็บไซต์หลักและบทความที่สื่อเกมส์ต่างประเทศได้เข้าไปทดลองเล่น ตัวละครทั้ง 4 ให้เราได้เลือกเล่นนั้น จะมีความสามารถที่แตกต่างกันออกไป
เริ่มกันที่ตัวแรกอย่าง Aidan ตัวละครหนุ่มผิวสีเพียงคนเดียวของทีม ที่ซ้ำยังเป็นตัวละครแรกที่ใช้ในการโปรโมทเทรลเลอร์แรกของเกมส์ จะเป็นสายแนวหน้าที่เด่นชัดด้านการใช้อาวุธระยะประชิดได้ดีกว่าตัวละครอื่นๆ หรือภาษาบ้านๆ ชาวเกมส์อย่างเรา เขาก็คือแท๊งค์ดีๆ นั่นเองครับ
ในขณะตัวละครถัดมาอย่าง Grant จะมีทักษะการใช้อาวุธระยะไกลประเภทปืนไรเฟิลได้ดีกว่าใครเพื่อนเพราะจากเรื่องราวภูมิหลังของเขา Grant นั้นเป็นอดีตนายพรานที่ซ้ำยังเขียนคู่มือการเอาตัวรอดในธรรมชาติอีกด้วย และในโลกไร้อารยธรรมนี้ เขาก็พร้อมที่จะเรียนรู้และปรับทักษะการเอาตัวรอดให้เหมาะสม
ทางด้าน Heather ภูมิหลังของเธอ คืออดีตครูสอนเด็กอนุบาลที่สอนให้นักเรียนวัยเยาว์เข้าใจความถูกต้องชั่วดี แต่เมื่อโลกใบเดิมได้ดับสูญลง เธอกลับกลายเป็นนักประเมินสถานการณ์ และในขณะเดียวกัน เธอเองก็ยังคงมีความหวังในตัวมนุษย์ว่าสักวัน เธอจะได้พบเจอผู้คนที่ยังคงหลงเหลือความดีอยู่ ซึ่งเมื่อดูปูมหลังของเธอโดยคร่าวแล้ว อาจเป็นไปได้ว่า Heather จะมีความสามารถพิเศษในการต่อกรกับศัตรูประเภทมนุษย์ที่ดีกว่าตัวละครอื่น รวมไปถึงอาจมีทักษะในการพลิกแพลงสถานการณ์
Maya ตัวละครท้ายสุด ที่เมื่อดูทักษะเกื้อกูลเพื่อนในทีมที่หลงเหลืออยู่ เธอจะมีหน้าที่เป็นหน่วยรักษาและปฐมพยาบาล แต่กระนั้นความสามารถในการปลิดชีพของเธอก็ไม่ได้น้อยหน้าไปกว่าการรักษาชีวิต
ซึ่งแม้ตัวละครทั้ง 4 จะมีความสามารถและทักษะที่เป็นเอกลักษณ์เจาะจง แต่กระนั้นพวกเขาทั้งหมดยังสามารถแตกหน่อความสามารถ (Skill Tree) ให้โดดเด่นหรือชัดเจนด้านใดด้านหนึ่ง เข้าคู่กับทักษะที่เหลือของตัวละครอื่น หรือเข้ามือผู้เล่นมากที่สุด ไม่มีสิ่งใดผิดถูก เพราะสิ่งสำคัญที่สุดในการเล่นคือการร่วมหัวจมท้าย ประคับประคองกันและกันให้ตลอดรอดฝั่ง
นอกเหนือจากทักษะเฉพาะของแต่ละตัวละคร และการพัฒนาความสามารถให้เหมาะสมกับการเล่นของคุณมากที่สุดแล้ว ความพร้อมก่อนลงสนามก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะในแต่ละฉากการเล่นที่มีเป้าหมายของภารกิจที่แตกต่างกันออกไปนั้น สิ่งที่ผู้เล่นจำต้องเจอคืออันตรายที่อยู่ทุกซอกทุกมุม ไม่ว่าจะเหล่าวอร์คเกอร์ที่มักอยู่รวมกันเป็นฝูง กับดักหมีและกับดักเสียงที่ถูกตั้งไว้ด้วยฝีมือของผู้อยู่รอดกลุ่มอื่น
ดังนั้นความพร้อมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้เล่นจำต้องพกพาอุปกรณ์หรือไอเทมต่างๆ ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่อาจจะต้องเจอ เช่น หากในภารกิจที่จะเน้นหนักไปทางการปะทะกับศัตรูประเภทคน เราก็อาจจะต้องเตรียมกระสุนและใช้อาวุธประเภทโจมตีระยะไกลเป็นหลัก แต่ในโลกหลังอารยธรรมนี้ กระสุนเป็นของหายากและสำคัญ ทุกนัดที่ผู้เล่นลั่นไกควรจะหวังผลให้ได้มากที่สุด ในขณะที่บางภารกิจ อาจเป็นการควานหาเสบียงจากดงวอร์คเกอร์ ผู้เล่นก็อาจจะต้องจัดสรรอาวุธระยะประชิดในการฆ่าพวกมัน เพื่อให้เกิดเสียงน้อยที่สุด และรอดพ้นจากการถูกฝูงวอร์คเกอร์รุมทึ้ง แต่ในทุกการโจมตี ผู้เล่นก็อาจจะต้องคำนึงถึงค่า stamina ที่หากหมดลง ผู้เล่นจะโจมตีได้ช้าลงและโดนโจมตีแรงขึ้น
ซึ่งในวิดีโอบันทึกการเล่นจริงจากสื่อเกมส์ต่างประเทศทั้งหลาย จะเห็นได้ว่าตัวเกมส์ยังคงเน้นหนักให้ผู้เล่นเด่นชัดด้านการเล่นแบบลอบเร้น (Stealth) เหมือนในซีรีย์ Payday (แต่ก็ไม่ได้หมายความเราจะลุยแหลกไม่ได้นะ เพียงแต่หลายองค์ประกอบในการเล่นมันเอื้ออำนวยให้เราเล่นแบบสงบเงียบมากกว่าแค่นั้น ถ้าเก๋าเกมจริงๆ ก็จัดไปแรมโบ้เรียกพี่เลย ฮ่าๆ)
เพราะดูจากการฆ่าวอร์กเกอร์แล้ว การทำดาเมจที่หัวทุกรูปแบบ (ฟัน ทุบ หรือยิง) เป็นเพียงวิธีเดียวที่จะฆ่าพวกมัน ซึ่งดูๆ ไปก็เป็นความท้าทายของเกมส์และการเคารพต้นฉบับได้ในคราวเดียวกัน ส่วนศัตรูประเภทคนแน่นอนว่าหัวจะเป็นจุดอ่อนที่เราสามารถฆ่ามันได้ในนัดเดียว แต่ในการยิงบริเวณอื่นก็ตายได้เช่นกัน
อีกทั้งเกจ Noise หรือเสียง ก็ดูจะเป็นระบบความท้าทายหลักในการเล่นของเกมส์ เพราะหากเสียงที่เกิดขึ้นถูกสะสมจนเกจ Noise เต็ม เหล่าวอร์กเกอร์ก็จะกรูเข้าหาผู้เล่นจากทั่วสารทิศ และหากในบริเวณนั้นมีศัตรูประเภทคนอยู่ด้วย บอกเลยละว่าผู้เล่นและเพื่อนตกอยู่ในที่นั่งลำบากแน่นอน
จริงๆ ฟีเจอร์นี้ มันเป็นความเล็กน้อย แต่เป็นความเล็กน้อยที่ผมว่าแอบเจ๋งดี คือการที่ลำกล้องของปืนติดขัดได้ คือในโลกของ The Walking Dead มันเต็มไปด้วยสิ่งของที่หลงเหลือจากในอดีต เราก็ไม่รู้ว่ามันอยู่มานานแค่ไหนแล้ว และการที่สิ่งของที่เราค้นเจอเหล่านี้ชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา สำหรับผมมันก็ทำให้ผมอินไปกับเกมได้ประมาณนึงนะ
จริงๆ แล้ว นี่เป็นเพียงการพรีวิวเพียงแบบคร่าวๆ เท่านั้น และหากจะให้ว่ากันตามตรงแล้วละก็ Overkill's The Walking Dead ยังมีจุดบกพร่องด้านโมเดลตัวละครทั้งการเคลื่อนไหว หรือโมชั่นที่แข็งทื่ออยู่ แต่ยังไงก็ตามแต่ ผู้เขียนเชื่อว่าชื่อของ Overkill Software และ The Walking Dead จะเป็นเครื่องการันตีว่าตัวเกมส์ต้องออกมาดี แต่จะดีมากหรือน้อยนั้น คงต้องรอพิสูจน์ในเกมส์ตัวเต็มที่จะวางจำหน่ายในวันที่ 8 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ครับ
|
ทำไมไม่เรียกแมว! รักหนัง รักเกม ร๊ากกทุกคนนน ~ <3 |