ไดร์เป่าผม เรียกได้ว่าแทบจะกลายเป็นปัจจัยที่ 5 สำหรับ Working woman ในยุคนี้ โดยเฉพาะสาวๆ ที่จังหวะชีวิตเร่งรีบ สระผมแล้วต้องรีบออกไปทำงาน หรือออกไปช็อปปิ้งในทันที ไม่มีเวลาปล่อยให้ผมแห้งเอง ครั้นจะออกนอกบ้านแบบ Wet look ผมเปียกลีบติดหัว ก็พาลทำเอาหมดความมั่นใจเอาได้ง่ายๆ ทำให้สาวๆ นิยมมีเจ้าไดร์เป่าผมติดบ้านหรือติดห้องเอาไว้ ซึ่งไดร์เป่าผมก็มีให้เลือกหลากสเปคหลายระดับราคา หลายยี่ห้อ ตั้งแต่ราคาไม่กี่ร้อย ไปจนถึงราคาหลักพัน หรือหลายพันบาท ไปจนถึงหลักหมื่นโน่นเลยทีเดียว และเราได้มีโอกาสลองเล่นเจ้าไดร์เป่าผม Dyson Supersonic ในช่วงเวลาสั้นๆ เลยขอถ่ายทอดประสบการณ์ความประทับใจกับการใช้ไดร์เป่าผมอันนี้มาให้ฟังกันนะ
ออกตัวก่อนว่าถึงแม้ผมจะเป็นผู้ชาย แต่ด้วยความที่เป็นผู้ชายผมยาว (ผมยาวระดับประบ่า) และใช้ไดร์เป่าผมเป็นประจำทุกๆ วัน เพราะฉะนั้นลองเล่นไดร์เป่าผมได้อย่างสบายๆ และเจ้า Dyson Supersonic ที่เราได้รับมาให้ลองเล่น ลองใช้นี่ก็เป็นไดร์เป่าผมตลาดบนกันเลยทีเดียว ด้วยราคาค่าตัวในหลักเกือบๆ 15,000 บาท และในระดับค่าตัวที่แพงไม่ใช่เล่น เราก็ได้สัมผัสกับความดีงามและแตกต่างจากไดร์เป่าผมในราคาหลักพันอยู่หลายๆ เรื่องเลยหล่ะ ตามมาทางนี้ผมจะเล่าให้ฟัง
สามารถคลิกเพื่อขยายดูภาพใหญ่
Dyson Supersonic มีหลายสี หลายออปชั่นให้เลือกซื้อ
จุดที่ชอบ
| จุดที่ไม่ชอบ
|
รูกลวงโบ๋ตรงกลางคือเอกลักษณ์ของ Dyson Supersonic
ต้องบอกว่าดีไซน์ของไดร์เป่าผม Dyson Supersonic นั้นดีต่อใจซะจริงๆ ด้วยความที่ Dyson เป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าตลาดบนจากประเทศอังกฤษ แนวทางการออกผลิตภัณฑ์จึงมีความโดดเด่นทางด้านวิศวกรรม หรูหรา สวยงาม และส่งมอบคุณประโยชน์ในแบบที่แบรนด์อื่นไม่สามารถทำได้ ความเด่นคือ Dyson เขาออกแบบโดยย้ายตำแหน่งมอเตอร์ที่ใช้สร้างกระแสลม เอาไปไว้ในส่วนของด้ามมือจับ ทำให้สามารถออกแบบให้ตรงส่วนของหัวพ่นลม นั้นกลวงโบ๋เป็นวงโดนัทเลย ซึ่งเป็นดีไซน์ที่เก๋ เท่ แปลกตา ดูดี ทำให้รูปทรงของ Dyson Supersonic โดดเด่นกว่าไดร์เป่าผมแบรนด์อื่นๆ ในท้องตลาดโดยสิ้นเชิง เรียกว่าแค่เอาไว้วางโชว์บนโต๊ะเครื่องแป้งก็เจ๋งแล้ว
เป็นไดร์เป่าผมที่ใช้งานง่าย มีจำนวนปุ่มกดเท่าที่เห็น รายละเอียดตามนี้
ความประทับใจในเจ้า Dyson Supersonic นั้นมีมากมายจนแทบจะบอกไม่หมด เรื่องแรกที่สัมผัสได้คือ ให้พลังลมเป่าที่แรงได้มากตามความต้องการ แต่เสียงการทำงานกลับเบากว่าไดร์เป่าผมทั่วๆ ไปมาก สำหรับสาวๆ ที่ใช้ไดร์เป่าผมเป็นประจำน่าจะรู้ดีว่า ไดร์เป่าผมยิ่งมีพลังลมแรง เสียงก็ยิ่งดังจนกลบเสียงซีรี่ย์หลังข่าว แบบว่าดูซีรี่ย์ไม่รู้เรื่องเลย แต่กับ Dyson Supersonic ถึงแม้เราจะเปิดลมระดับแรงสุด ให้พลังลมแรงได้ใจเลยหล่ะ แต่เสียงก็ยังอยู่ในระดับที่รับได้ ยังฟังเสียงตัวละครคุยกันได้รู้เรื่องอยู่เลย เรียกได้ว่าเป็นชัยชนะแห่งการออกแบบไดร์ของ Dyson เลยก็ว่าได้ และบุคลิกเสียงจากการทำงานของเจ้าไดร์ตัวนี้ออกไปในโทนเสียงแหลมเล็ก ให้นึกภาพง่ายๆ คล้ายเสียงการทำงานของเครื่องยนต์เจ็ท เข้าใจว่าที่โทนเสียงแหลมเล็กเกิดจากการที่มอเตอร์ไฟฟ้าทำงานที่รอบสูงเพื่อสร้างแรงลม
และอีกเรื่องที่ต้องกล่าวชมเจ้า Dyson Supersonic แบบแรงๆ ไม่ต้องเกรงใจใครคือ มีความสมดุลในการออกแบบ คือจุดศูนย์ถ่วงของตัวไดร์อยู่ในอุ้งมือของเราพอดี จะขยับจับไดร์เอียงไปทางไหน หรือเสยเป่าลมไปทางใดก็คล่องตัวไปหมด สำหรับไดร์เป่าผมโดยทั่วไปที่ให้พลังลมแรงๆ หรือให้ความร้อนได้สูงๆ มักจะมีอาการหนักตรงส่วนที่เป็นกระบอกเป่าลม จุดศูนย์ถ่วงของตัวไดร์ไปอยู่ที่ส่วนของกระบอกเป่าลม ทำให้การจับไดร์เอียงหรือตะแคงในบางท่าในขณะที่กำลังเป่าผม จะรู้สึกได้ถึงน้ำหนักถ่วงที่ข้อมือ อาจทำให้เกิดอาการล้าข้อมือได้ แต่กับ Dyson Supersonic ที่ออกแบบจุดศูนย์ถ่วงของตัวไดร์ได้ดี ทำให้ไม่ว่าจะจับไดร์เอียงตะแคงในท่าไหน มุมใด มันก็คล่องตัวไปหมด รู้สึกสบายข้อมือ และเพลินกับการใช้งานมากๆ แบบนี้รักเลย
และอีกเรื่องที่ต้องชมแบบแรงๆ ก็คือ ไดร์เป่าผมเป็นอุปกรณ์ที่มีมอเตอร์ไฟฟ้าติดตั้งอยู่ภายใน สำหรับไดร์เป่าผมทั่วๆ ไป ในระหว่างการใช้งาน ฝ่ามือเราจะสัมผัสได้ถึงความสั่นสะเทือนที่เกิดจากการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งอาจทำให้มือล้าได้ถ้าถือใช้งานนานๆ แต่กับเจ้า Dyson Supersonic ต้องบอกว่าฝ่ามือไม่รู้สึกถึงความสั่นสะเทือนจากการทำงานของมอเตอร์เลย เป็นความรู้สึกสัมผัสที่หรูหรา และ Feel good เอามาก สิ่งนี้คือความเหนือชั้นอย่างแท้จริง
เปรียบเทียบท่าการจับตัวไดร์ในขณะที่กด ปุ่มเป่าลมเย็น (ภาพแรก) กับตอนที่ไม่กดปุ่ม (ภาพที่ 2)
แต่ก็มีจุดเดียวเกี่ยวกับเรื่องการออกแบบที่ต้องขอบ่นคือ การวางตำแหน่งของ ปุ่มเป่าลมเย็น ที่ทำให้เราต้องย้ายตำแหน่งนิ้วโป้งมากดปุ่มนี้บนด้ามจับ เมื่อต้องการให้ไดร์หยุดการเป่าลมร้อนเป็นการชั่วคราว ซึ่งการที่เราต้องย้ายตำแหน่งนิ้วโป้งมากดปุ่มนี้ ทำให้มือเสียสมดุลในการจับถือตัวไดร์ไปพอสมควรเลย ทำให้ความคล่องตัวในการขยับเปลี่ยนท่าทางในการเป่าผมลดลงด้วย คือถ้าย้ายตำแหน่งปุ่มให้เหมาะสมกว่านี้ก็น่าจะดีนะ
Dyson Supersonic มีหัวเป่าลมให้เลือกใช้ถึง 4 แบบเลยเพื่อความต้องการในการจัดทรงที่แตกต่างกันของสาวๆ แต่ละคน ก็มีตามนี้
แบบแรกเลยก็คือหัวพ่นลมแบบมาตรฐาน (ไม่มีการติดตั้งอุปกรณ์เสริมหัวพ่นลมใดๆ) ให้แรงลมที่แรงสะใจเลย เลือกระดับแรงลมได้ตามต้องการ กระแสลมพุ่งออกมาเป็นลำใหญ่ๆ เรียกว่าเป่าทีผมปลิวไสวสวยงาม
ลำดับต่อมาเป็น หัวต่อเป่าผมเรียบ ซึ่งการติดตั้งหัวต่อเข้ากับตัวไดร์ก็ทำได้ง่ายมาก ด้วยพลังของแม่เหล็กดูด หัวต่อแบบนี้ ให้กระแสลมที่อ่อนโยน โดยส่วนตัวแล้วชอบกระแสลมที่ออกมาจากหัวต่ออันนี้มากที่สุด
ลำดับต่อมาเป็น หัวต่อจัดแต่งทรงผมเฉพาะจุด ปลายของหัวพ่นลมจะมีความแบนคล้ายกับ หัวต่อเป่าผมเรียบ แต่ความกว้างของหัวพ่นลมจะแคบกว่า และหัวแบบนี้ให้กระแสลมที่แรงกว่า หัวต่อแบบเป่าผมเรียบ แต่ลำของกระแสที่ลมที่พ่นออกมาจะมีความแคบและเฉพาะจุดกว่า เหมาะสำหรับสาวๆ ที่ต้องการเน้นจัดแต่งทรงเฉพาะจุด
และชิ้นสุดท้ายเป็น หัวต่อแบบกระจายลม ทำหน้าที่กระจายลมออกเป็นบริเวณกว้าง ถนอมเส้นผมไม่ให้โดนความร้อนมากเกินไป และเหมาะกับสาวที่ทำทรงผมดัดลอน
อีกเรื่องที่เกือบลืมบอกไปคือเจ้า Dyson Supersonic มีความสามารถในการปล่อยประจุลบ (Negative Ion) ช่วยลดโอกาสเกิดไฟฟ้าสถิตย์บนเส้นผมของเรา ซึ่งไฟฟ้าสถิตย์เป็นตัวการที่ทำให้เกิดอาการผมฟูเสียทรง และจากการได้ลองใช้งานจริง ก็ต้องบอกเลยว่ารู้สึกได้ถึงความแตกต่างระหว่างการใช้งานไดร์เป่าผมราคาหลักพันบาท กับ Dyson Supersonic ได้ตั้งแต่ครั้งแรก
คือหลังเป่าไดร์เสร็จ รู้สึกได้เลยว่านอกจากความแห้งแล้ว ยังรู้สึกว่าผมมีน้ำหนักดีกว่าที่เคย รูปแบบการใช้งานของเราคือ สระผมแล้วเป่าไดร์ก่อนเข้านอน ตื่นมาแล้วก็หวีจัดทรงก่อนออกมาทำงาน รู้สึกได้เลยว่าปลายผมไม่พันกัน หวีง่ายกว่าตอนที่ใช้ไดร์เป่าผมอันเก่า
บอกเลยว่าอยากได้อยากโดนเจ้า Dyson Supersonic มากๆ และน่าจะคุ้มอยู่สำหรับสาวๆ หรือหนุ่มๆ ที่ไดร์ผมเป็นประจำ
|
ไม่เสพติดไอที แต่ชอบเสพข่าวเทคโนโลยี หาความรู้ใหม่ๆ มาใส่สมอง |