ความแสบสันของตัวละคร และระบบต่อสู้ที่รวดเร็วดุดัน นี่สิ Devil May Cry!
แม้ในปัจจุบันหลากซีรีย์เกมส์แนวแอคชั่นในอดีต (God of War, Tomb Raider , Assassin's Creed ฯลฯ) ต่างเลือกที่จะปรับตัวเข้าหายุคสมัยด้วยการเปลี่ยนรูปโฉมและระบบการเล่นใหม่ แต่สำหรับ Devil May Cry 5 เกมส์ภาคล่าสุดของตำนานซีรีย์เกมส์แอคชั่นฟันดะสุดดีเดือดนี้ เลือกที่จะคงไว้ซึ่งอัตลักษณ์เดิมตลอดมา นั่นคือระบบการต่อสู้ที่ดุเดือด รวดเร็ว ที่มีการควบคุมที่แม่นยำหนุนการเล่น
แต่ความขลังและชื่อของ Devil May Cry นี้ จะยังคงสดใหม่ในเทรนด์เกมส์ปัจจุบันหรือไม่ มาร่วมสำรวจไปพร้อมๆ กันในบทความพรีวิวนี้ได้เลยครับ
Devil May Cry เปิดสาขาสองแล้วจ้า!
เนื้อเรื่องของ Devil May Cry 5 เกิดขึ้นก่อนหน้าภาคที่ 2 (ภาคที่มีไทม์ไลน์เหตุการณ์ท้ายที่สุดของซีรีย์) และซ้ำยังเป็นการสานต่อเนื้อเรื่องจากในภาค 4 โดยเรื่องราวในภาคนี้ได้เริ่มขึ้นเมื่อ Nero ตัวละครเอกน้องใหม่จากภาคก่อนหน้าที่ได้ผันตัวเองเป็นนักล่าปีศาจอย่างเต็มตัวและช่างสาวนักผลิตอาวุธมากฝีมืออย่าง Nico ได้ร่วมกันเปิดสาขาใหม่ของกิจการล่าปีศาจ Devil May Cry ที่ Dante นักล่าปีศาจมากประสบการณ์และฝีมือเป็นเจ้าของ
แต่แล้ววันหนึ่ง Nero ได้ถูกชิงแขนปีศาจ Devil Bringer ไปด้วยฝีมือของบุรุษปริศนาใต้ผ้าคลุม และในเวลาที่ใกล้เคียงกัน ชายหนุ่มในชื่อ V ก็ได้เข้ามาว่าจ้างกับทาง Dante โดยตรง ซึ่งเขามีความต้องการจะให้ช่วยหยุดยั้งการรุกรานของกองทัพอสูรร้ายใน Red Grave City ที่ผุดขึ้นมาพร้อมกับต้นไม้ปีศาจปริศนา
Nero สังหรณ์ได้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของผู้ที่ช่วงชิงแขน Devil Bringer ของตนไป ในขณะที่ Dante ต้องทำหน้าที่ปลดแอกเมืองแห่งนี้ตามคำขอของผู้ว่าจ้างและจรรยาบรรณอาชีพของนักล่าปีศาจ ทั้งสองจึงต้องร่วมมือกันเพื่อหยุดยั้งภัยพิบัติครั้งนี้และหาต้นตอความจริงที่เกิดขึ้น
V (ซ้ายสุด) ตัวละครหน้าใหม่ที่มีการโจมตีในรูปแบบเวทมนตร์, Nero (กลาง) ตัวเอกจากภาค 4 ที่พลิกแพลงการต่อสู้ด้วย Devil Arm และ Dante ตัวเอกคนดีคนเดิมของซีรีย์ที่มีการโจมตีที่ปราดเปรียวและดุดัน
ไม่เพียงแต่การกลับมาในรอบ 10 ปีของเกมส์ซีรีย์นี้ จะเป็นเรื่องที่ชวนให้ประหลาดใจและน่าตื่นเต้น แต่ในส่วนของตัวละครที่ผู้เล่นสามารถควบคุมได้ที่ภาคนี้มีมาให้ถึง 3 ตัวที่จะมีสไตล์การเล่นแตกต่างกันออกไป แต่ไม่ว่าจะอย่างไรเอกลักษณ์ของการเล่นในการกระหน่ำโจมตีศัตรูไร้จังหวะหายใจจะคงอยู่ในทุกตัวละครแน่นอน!
Trillion Stabs ท่ากระหน่ำแทงไม่ยั้งของลุง Dante ที่ยังคงกลับมาในภาคนี้!
เริ่มกันด้วยตัวละครเอกตลอดกาลของซีรีย์อย่าง Dante ที่ยังคงมีรูปแบบการโจมตีที่เน้นความรวดเร็วและดุดันเข้าว่าผ่านการใช้งานอาวุธระยะประชิดและระยะไกลหลากหลายประเภทได้อย่างเชี่ยวชาญ ซึ่งหากจำกันได้ ในแต่ละภาคที่ผ่านมา อาวุธแต่ละชิ้นจะมีดีไซน์และรูปแบบการโจมตีที่เท่มีเอกลักษณ์ ซึ่งและในภาคที่ 5 นี้เอง ก็ไม่ได้ลดหย่อนการสร้างสรรค์ของดีไซน์แต่อย่างใด และในเว็บไซต์หลักของตัวเกมส์ในภาคที่ 5 นี้เอง ได้มีการเปิดเผยอาวุธใหม่ของ Dante มาแล้ว 2 ชนิดที่รับรองได้ว่าสามารถเรียกความสนใจได้เมื่อแรกเห็นเลยทีเดียว!
Pandora's Box อาวุธระยะไกลจากในภาค 4 อันเป็นกระเป๋าธุรกิจที่สามารถแปลงเป็นยุทธปกรณ์ได้หลากหลายรูปแบบ
เอากับเขาสิ เอามอเตอร์ไซต์มาเป็นอาวุธ!
เริ่มต้นกันกับอาวุธระยะประชิดชิ้นแรกในชื่อ Cavaliere ที่หากมองแบบผิวเผินมันคือมอเตอร์ไซต์ธรรมดาทั่วไปที่มีกรอบคลุมแน่นหนาอย่างแปลกตา แต่เมื่อถึงคราวต้องสู้ พาหนะที่ใช้การเคลื่อนคันนี้จะสามารถแบ่งแปลงเป็นดาบเลื่อยสองมือที่ยังสามารถสลับกับฟอร์มปกติในการโจมตีได้อีกด้วย!
ในขณะที่ชิ้นต่อมาอย่าง Balrog เกราะแขนและขา ที่ดูจะกลายเป็นธรรมเนียมประเภทของอาวุธในซีรีย์นับตั้งแต่ภาค 3 ไปโดยปริยาย แต่กระนั้นอาวุธดังกล่าวนี้ก็แตกต่างออกไปจากครั้งไหนๆ เพราะมันได้เปลี่ยนจากการโจมตีเน้นเป้าหมายเดี่ยวเป็นหลัก ให้กลายมาเป็นเด่นชัดด้านการสร้างความเสียหมายแบบหมู่จากการคละท่าโจมตีที่สลับระหว่างหมัดที่รวดเร็วและการเตะกวาดพลังทำลายล้างสูง
ปิดท้ายและท้ายสุดในความสามารถการต่อสู้ของ Dante ที่ยังคงกลับมาอย่าง Devil Trigger การกลายเป็นร่างปีศาจ พร้อมเพิ่มโจมตีและฟื้นฟูพลังชีวิตตลอดระยะเวลาที่ยังคงอยู่ในร่างนี้ ที่มีวัตถุประสงค์ในการสร้างความได้เปรียบในการต่อสู้ หรือใช้ในการพลิกวิกฤต
ตัวเอกจากในภาค 4 (ที่จริงๆ ถูกวางตัวให้เป็นพระเอกคนใหม่ของซีรีย์ แต่ในสุดท้ายก็ต้องพึ่งบารมีของ Dante) ที่แม้อาวุธที่ใช้ในการต่อสู้ของเขาเบื้องต้น จะมีแค่ดาบกับปืน แต่การใช้ความสามารถพิเศษของแขนอีกข้างของเขาในภาคนี้ กลับมีความน่าสนใจทวีคูณมากกว่าเดิมหลายเท่าตัวด้วยการมาของ "Devil Breaker" แขนจักรกลหลากรูปแบบความสามารถ แทนที่หัตถ์อสูรหรือ Devil Bringer ของเขาตามเนื้อเรื่องในภาคที่ 5 นี้ ที่ทำให้รูปแบบการต่อสู้ของ Nero ใน Devil May Cry 5 เข้มข้นกว่าเดิม
(ในภาคที่ 4 ตัวละคร Nero จะเด่นด้านการเข้าถึงศัตรูเพื่อสร้างความเสียหายอย่างไม่ขาดตอนทั้งจากภาคพื้นดินและภาคอากาศเป็นการสร้างความเสียหายเพิ่มจากการโจมตีปกติพร้อมทั้งช่วยในการเปิดช่องเข้าโจมตีศัตรูที่มีวิธีการป้องกันผู้เล่นในรูปแบบต่างๆ)
Devil Breaker ทั้ง 8 ชนิด ที่เปลี่ยนรูปแบบการต่อสู้ Nero ไปโดยสิ้นเชิง!
เพราะถ้าดูส่วนของเกมเพลย์ "มันก็คือการเพิ่มวิธีการต่อสู้ของ Nero ให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น" และในเมื่อมันคือแขนจักรกล ในทุกช่วงเริ่มด่านเราเลยจะสามารถพกไปเปลี่ยนใช้งานคละกันได้เริ่มต้น 4 ชิ้นจาก 8 รูปแบบ และจะสามารถหาแขนมาทดแทนชิ้นที่พังได้ตามด่านนั้นๆ ซึ่งทุกแขนจะมีความสามารถพื้นฐานที่ตายตัวเหมือนกันคือ การดึงศัตรูเข้าหา (Wire Snatch), สละแขนที่สวมใส่อยู่ด้วยการระเบิด (Break Away) เพื่อใช้ในการหลบหลีก สร้างความเสียหาย หรือปัดการโจมตีของศัตรู และปิดท้ายด้วยการชาร์จพลังเพื่อรีดประสิทธิภาพสูงสุดจากแขนก่อนจะสละทิ้งอย่าง Break Age ที่จะเป็นการใช้ท่าพิเศษจากแขนชนิดต่างๆ ที่เหมาะสมตามสถานการณ์ ศัตรู หรือความเข้ามือของผู้เล่นที่แตกต่างกันออกไป ไล่ตั้งแต่
แวบแรกนึกว่า Kylo Ren จาก Star Wars...
น่าเสียดายที่ V ตัวละครหน้าใหม่ที่ปรากฎในภาคนี้ ยังไม่ได้ถูกเผยให้เห็นถึงท่าทางหรือรูปแบบการต่อสู้ออกมา มีเพียงข้อมูลจากทางผู้พัฒนาและบทสัมภาษณ์ที่ระบุว่า ตัวเขานั้นจะแตกต่างที่สุดในหมู่ตัวละครที่เล่นได้เพราะจะใช้เวทมนตร์ในการโจมตีเป็นหลัก
แต่ไม่ว่าทุกตัวละครจะมีรูปแบบการเล่นที่ฉีกกันขนาดไหน ยังไงเสีย แอคชั่นที่รวดเร็ว การกระหน่ำซ้ำคอมโบใส่ศัตรูอย่างต่อเนื่องและการควบคุมที่แม่นยำ "มันก็คือหัวใจหลักของซีรีย์นี้ในที่สุด"
Dante โฉมใหม่ด้วยขุมพลังของ RE Engine
ไม่เพียงแต่ในส่วนของแสงเงาและพื้นผิววัตถุที่ RE Engine เอนจินสร้างเกมส์ล่าสุดของทาง Capcom ได้นิมิตและพัฒนามันลงไปในผลงานเกมส์ใหม่ๆ ของพวกเขา แต่เอนจินดังกล่าวยังมาพร้อมการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในภาคของการสร้างโมเดลตัวบุคคล ที่เปลี่ยนจากการปั้นเป็นการสแกนใบหน้าของคนจริงๆ (Photorealistic) ซึ่งด้วยรูปทรงของอวัยวะบนใบหน้าตัวละครที่มาจากคนจริงๆ บนโลก เราจะรู้สึกเข้าถึงหรือจับต้องตัวละครในเกมส์ได้มากกว่าใบหน้าของตัวละครที่ถูกปั้นขึ้นมาอย่างบรรจงสร้าง
(เรียงจากซ้ายไปขวา) Nero ภาค 4, ภาคที่ 5 พร้อมโฉมหน้าของผู้ให้ต้นแบบ
(เรียงจากซ้ายไปขวา) Lady ภาค3, 4, ภาคที่ 5 พร้อมโฉมหน้าของผู้ให้ต้นแบบ
ซึ่งใน Devil May Cry 5 นี้เอง พวกเขาก็ได้ใช้เอนจินดังกล่าวในการเนรมิตโฉมหน้าใหม่ของตัวละครเอกทั้งหลาย ที่ทางผู้พัฒนา ก็ได้คัดสรรค์ใบหน้าของเหล่าต้นแบบได้ออกมาใกล้เคียงของเดิมที่ถูกสร้างขึ้นหรือให้ความรู้สึกถึงบุคลิกที่เหมาะสมกับตัวละครนั้นๆ
แม้ผู้เขียนจะพยายามอธิบายหรือนำเสนอความน่าสนใจในภาคนี้ขนาดไหนก็ตาม แต่การได้ลิ้มลองความแสบสันของ Devil May Cry 5 ด้วยตนเอง ก็ดูจะเป็นอะไรที่ตอบโจทย์ที่สุด ซึ่งสำหรับใครที่สนใจ ก็เตรียมตัวกันเอาไว้ให้ดี เพราะตัวเกมส์จะวางจำหน่ายในวันที่ 8 มีนาคม 2019 นี้บนเครื่องเล่นแห่งยุคทั้ง 3 อย่าง PlayStation 4, Xbox One และ PC ซ้อมภาคเก่าๆ ให้เข้ามือรอกันไว้ได้เลย!
|
ทำไมไม่เรียกแมว! รักหนัง รักเกม ร๊ากกทุกคนนน ~ <3 |