จุดเด่น
| จุดสังเกต
|
หากพูดถึง "อุปกรณ์ล้ำๆ ที่สวมใส่ได้ หรือ Wearable Device" ที่ได้รับความนิยมจากกลุ่มคนยุคใหม่เป็นจำนวนมากนั้น คงหนีไม่พ้น นาฬิกาสมาร์ทวอทช์ (Smartwatch) หรือที่รู้จักกันในชื่อ นาฬิกาอัจฉริยะ โดยจุดเด่นของมันก็คือ มีความสามารถหลากหลาย ถูกออกแบบมาให้ตอบโจทย์ความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตประจำวัน รวมถึงด้านสุขภาพของเราด้วย ซึ่งราคาในท้องตลาดนั้น ก็มีให้เลือกตั้งแต่หลักร้อย จนถึงหลักหมื่นเลยทีเดียว
ในวันนี้ทางเว็บไซต์ไทยแวร์ ก็จะมารีวิว นาฬิกาสมาร์ทวอทช์จากค่ายดังแดนโสม นั่นก็คือ Samsung Galaxy Watch (2018) ที่เปิดตัวมาพร้อมกับ ดีไซน์ที่เรียบหรูดูทันสมัย เพียบพร้อมไปด้วยฟีเจอร์และฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบครัน ทั้งในด้านการใช้ชีวิตประจำวันอย่าง เช็คข้อความ เช็คอีเมล หรือโทรเข้าโทรออก ครอบคลุมไปถึงการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพอีกด้วยนะ
Samsung Galaxy Watch (2018) นั้นก็มีอยู่ 2 รุ่น นั่นก็คือ รุ่น 42 มม. และ 46 มม. โดยทั้งสองรุ่นก็มีขนาดหน้าปัดและสีที่แตกต่างกัน รุ่น 42 มม. จะมี 2 สี ได้แก่ สีดำ (Midnight Black) และสีชมพูทอง (Rose Gold) ส่วนในรุ่น 46 มม. มีให้เลือกแค่ สีเงิน (Silver) เพียงสีเดียว โดยรุ่นที่ทางไทยแวร์ ได้รับมารีวิวในครั้งนี้ ก็คือรุ่น 42 มม. สีดำมิดไนท์ นั่นเอง เราไปเริ่มดูรีวิวกันได้เลย
ดีไซน์การออกแบบของนาฬิกาสมาร์ทวอทช์ Galaxy Watch รุ่น 42 มม. ดูเรียบๆ ทันสมัย และมีความสปอร์ตแฝงอยู่หน่อยๆ มองไปมองมามีความคล้าย Galaxy Gear S3 Frontier อยู่บ้างต่างกันตรงวงแหวน Slide Rule ที่มีขอบบางกว่า และฟันเฟืองเล็กกว่า
ด้านข้างตัวเรือนนาฬิกามีปุ่มกดทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดพอดีนิ้วอยู่สองปุ่ม ได้แก่ ปุ่มย้อนกลับ และปุ่มเปิด / ปิดเครื่อง ซึ่งผิวหน้ามีสัมผัสที่หยาบๆ ทำให้ไม่ลื่นเวลากดปุ่ม ส่วนตำแหน่งลำโพงก็อยู่ทางด้านข้างฝั่งซ้าย สำหรับไมค์อยู่ฝั่งขวา
ด้านหลังมีเซ็นเซอร์จับอัตราการเต้นของหัวใจแบบใหม่ที่ตรวจจับได้เที่ยงตรงมากขึ้น
ส่วนสายนาฬิกา Galaxy Watch ของทั้งสองรุ่น เป็นซิลิโคนแบบนิ่มกันน้ำ มีขนาดไม่เท่ากัน โดยรุ่น 42 มม. จะเป็นขนาด 20 มม. และรุ่น 46 มม. จะเป็นขนาด 22 มม. จากที่ได้ลองใส่ดู ให้ความรู้สึกนิ่มสบาย ไม่ค่อยอบเท่าไร แต่ถ้ายังไม่ถูกใจหรืออยากได้ความแฟชั่นมากกว่านี้ ก็สามารถถอดสายเปลี่ยนได้
เวลาสวมใส่ Galaxy Watch 42 มม. แล้วรู้สึกเหมือนได้ใส่นาฬิกาหน้าปัด เพราะดีไซน์ที่คล้ายๆ กันบวกกับธีมหน้าจอที่แสดงผลในรูปแบบนาฬิกาเข็ม ดูดีเลยทีเดียว แต่ถึงอย่างนั้น ก็รู้สึกว่าขนาดความหนา และน้ำหนักจะมากไปสักหน่อย ใครที่ข้อมือเล็กอยู่แล้ว อาจจะทำให้ดูไม่บาลานซ์กันสักเท่าไร
ในส่วนนี้ผู้เขียนจะพูดถึงเรื่องของประสบกาณ์การสวมใส่และใช้งาน ของนาฬิกา Galaxy Watch รุ่น 42 มม. เสียมากกว่าการรีวิวว่ามันดีหรือไม่ดี เพราะว่ามีเวลาจับตัวนาฬิกาแค่ไม่กี่วัน ซึ่งอาจจะตกหล่นข้อมูลบางอย่างไป ก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย อย่างไรก็ดีผู้เขียนจะพยายามบอกเล่าให้ได้มากที่สุดนะครับ
จากที่ลองได้ใส่ดูดีไซน์มันก็เท่ดีนะ เหมือนนาฬิกาหน้าปัด แต่ใช้งานได้ครบมาก บอกได้ว่า Galaxy Watch ทั้
งสองรุ่นนั้ น ร วม เอาดีไ ซน์เ รี ยบ หรูเข้ากั บฟีเจอร์และฟัง ก์ชั่นต่างๆ ที่ครบครัน ครอบคลุมการใช้งานทั่ วไปในชีวิตประจำวัน เช่น โทรเข้า-ออก, เช็คอีเมล หรือคุยแชท ฟังเพลง รวมถึงการจับอัตราการเต้นของหัวใจใน ขณะออกกำลังกาย หรือการวัดก้าวเดินในแต่ละวันอีกด้วย
จะบอกว่า Slide Rule เป็นจุดเด่นของ Galaxy Watch เลยก็ว่าได้ เพราะมันช่วยให้เราใช้งานนาฬิกาได้สะดวกขึ้นนอกเหนือจากการสัมผัสหน้าจอ ข้อดีคือช่วยเลื่อนเปลี่ยนหน้า หรือเลื่อนขึ้น-ลง ได้แม่นยำ และรวดเร็วกว่าการใช้นิ้วปัดหน้าจอพอตัวเลย (คล้ายๆ กับการ Scroll Mouse ขึ้นลง) ลองคิดดูว่า ขณะที่เรากำลังเดินหรือวิ่งอยู่ ถ้าจะใช้นิ้วจิ้มปัดหน้าจอคงไม่แม่นเท่าไร Slide Rule จึงช่วยได้เยอะเลยในเวลานั้น
จอ Super AMOLED ที่คมชัด แสดงโทนสีดำได้มืดสนิท และโทนสีขาวได้สว่าง บวกกับกระจกหน้าจอกันรอย Gorilla Glass DX+ ที่ลดแสงสะท้อนได้ดี ทำให้การมองหน้าจอในช่วงเวลากลางวันสบายตา ไม่ต้องเพ่งสายตามากๆ เพราะค่อนข้างคมชัดและแสงสะท้อนน้อย ถ้าเกิดเราเดินเข้าไปในตัวอาคารที่มีแสงน้อยกว่า มันก็มีเซ็นเซอร์ปรับจับสภาพแสงรอบข้างแล้วปรับให้เหมาะสมได้แบบอัตโนมัติ (คล้ายกับสมาร์ทโฟน) หรือถ้าไม่พอก็ปรับเองได้ด้วย เท่าที่ลองใส่มาจะมีบ้างบางครั้งที่แสงหน้าจอที่ปรับให้เองมืดเกินไป ต้องรอสักพักมันถึงจะปรับให้สว่างเป็นปกติ
การเข้าไปตั้งค่าในหน้าเมนูบางครั้งอาจไม่ทันใจ ยกตัวอย่างเช่น หากหน้าจอมืดเกินไป ถ้าจะต้องเข้าไปตั้งค่าที่หน้าเมนูลึกๆ อาจดูช้าไป จึงมีหน้า Quick Setting ให้ปรับการตั้งค่าแบบรวดเร็ว โดยใช้การรูดนิ้วบนหน้าจอจากบนลงล่าง แล้วก็เข้าไปปรับค่าได้เลย ซึ่งผู้เขียนมักจะใช้ Quick Setting เวลาต้องเข้าห้องประชุม โรงหนัง หรือในที่ที่ไม่ควรเปิดอุปกรณ์สื่อสารไว้
ในบางจังวะการยกหน้าจอสมาร์ทโฟนขึ้นมาเช็คการแจ้งเตือนต่างๆ อาจไม่สะดวก เช่น ขณะวิ่งออกกำลังกาย หรืออยู่บนรถไฟฟ้าในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน พอจะเห็นภาพใช่ไหมครับ โดย Samsung Galaxy Watch มีฟีเจอร์ที่ช่วยให้เช็คข้อความได้ผ่านตัวนาฬิกาเลย ไม่ว่าจะเป็นการเช็คข้อความ, SMS, อีเมล, เบอร์ที่ไม่ได้รับสาย ตลอดจนวันสำคัญต่างๆ เช่น วันครบรอบแต่งงาน, วันเกิดเจ้านาย, วันนัดประชุม ฯลฯ นอกจากนั้น ยังตั้งการแจ้งเตือน Activity หรือสิ่งที่ต้องทำในประจำวัน ออกเป็นช่วงเวลา เช่น 6.00-7.00 ตื่นนอน อาบน้ำ เป็นต้น ประโยชน์คือ เราสามารถอัพเดทการแจ้งเตือนต่างๆ โดยเพียงมองไปที่นาฬิกาเท่านั้น และยังช่วยให้เราเตรียมตัวก่อนถึงช่วงเวลาสำคัญต่างๆ ได้อีกด้วย
นอกจากจะเป็นนาฬิกาที่มีฟีเจอร์ใช้งานประจำวันครบครันแล้ว Galaxy Watch ยังมีฟีเจอร์เกี่ยวกับการออกกำลังกาย และการดูแลสุขภาพมาให้ใช้งานอย่างครบครันด้วย เช่น กราฟแสดงความถี่ในการออกกำลังกายแต่ละวัน และคำนวณข้อมูลจากพฤติกรรมว่าเป็นอย่างไร เพิ่มขึ้นหรือลดลงจากค่าเฉลี่ย ซึ่งมันทำให้เราสามารถนำข้อมูลที่ได้ ไปปรับปรุงพฤติกรรมหรือจัดตารางออกกำลังกายได้เลย
และ Galaxy Watch ยังมีรูปแบบการออกกำลังกายให้เลือกเยอะ และสามารถสร้างเพิ่มเติมได้ ข้อดีของการแยกประเภทของการออกกำลังกาย ก็คือการคำนวณหาปริมาณพลังงานที่ใช้ขณะออกกำลังกาย จะมีความแม่นยำมากขึ้น
สำหรับแอปพลิเคชันในตัวนาฬิกา Samsung Galaxy Watch นั้น ก็เป็นหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะบางแอปฯ ช่วยให้เราใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น ยกตัวอย่างเช่น แอปฯ Anews ที่ทำให้เราสามารถอัพเดทข่าวสารบางอย่าง ผ่านตัวนาฬิกาได้เลย เป็นต้น แต่ว่ากันตามตรงมันเหมาะกับการอ่านข่าวสั้นๆ มากกว่ายาวๆ เพราะด้วยขนาดหน้าจอที่ไม่ใหญ่มาก การอ่านอาจจะไม่สะดวกนัก นอกจากนั้นแล้วมันยังมีแอปฯ อื่นๆ ให้เลือกติดตั้งเพิ่มได้อีกมากมาย และมีการแบ่งประเภทด้วยนะ เช่น การออกกำลังกาย การเงิน สภาพอากาศ หรือ การแปลงค่าต่างๆ
ตัวอย่างแอปฯ วัดมาตรบารอมิเตอร์ และมาตรวัดความสูง
ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของแต่ละคน ย่อมแตกต่างกันอยู่แล้ว บางคนชอบออกกำลังกาย บางคนต้องเดินทางบ่อยๆ บางคนชอบเที่ยวแบบแอดเวนเจอร์ แน่นอนว่าถ้าหน้าปัดนาฬิกาสามารถแสดงรูปแบบเวลาตามที่คนนั้นต้องการ ย่อมเป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว ซึ่งเจ้า Samsung Galaxy Watch ตัวนี้ก็สามารถเปลี่ยนหน้าแสดงเวลาได้หลากหลาย มีสกินให้เลือกใช้งานมากกว่า 10 รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแบบนาฬิกาหน้าปัดเข็มสไตล์คลาสสิก แบบนาฬิกาดิจิตอลที่แสดงเฉพาะตัวเลขและวันที่ หรืออื่นๆ
นอกจากนั้นแล้วหน้าจอแสดงเวลายังปรับแต่งได้แบบละเอียดมากๆ ไม่ว่าจะเป็นสี หรือปุ่มลัดเข้าฟีเจอร์ต่างๆ ซึ่งแต่ละแบบก็สามารถปรับแต่งย่อยได้อีกที เรียกได้ว่าสามารถปรับแต่งหน้าแสดงเวลาให้เข้ากับไลฟ์ไตล์ของเราได้จริงๆ
Galaxy Watch มาพร้อมกับหน่วยความจำภายในตัวเครื่องขนาด 4GB และแอปพลิเคชันสำหรับเล่นเพลง ซึ่งเราสามารถนำไฟล์เสียงมาใส่ไว้และเปิดฟังผ่านลำโพงภายในตัวนาฬิกา หรือเชื่อมต่อกับหูฟัง Bluetooth เพื่อฟังเพลงได้เพลินๆ เลย จะฟังเพลงตอนเดินทาง หรือออกกำลังกายก็ได้
Samsung Galaxy Watch มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 270 mAh ในตัว ซึ่งจากการทดลองใช้งานดู ก็พบว่าสามารถใช้งานติดต่อกันได้ประมาณ 1-2 วัน (ระยะเวลาของแบตฯ ขึ้นอยู่กับการเปิดใช้ฟังก์ชั่น) โดยการใส่ออกกำลังกายประมาณ 30 นาที พร้อมกับเปิดฟีเจอร์ระบุตำแหน่ง และซิงค์ข้อมูลต่างๆ จากนาฬิกาเข้าไปยังสมาร์ทโฟนอยู่ตลอด ใช้แบตเตอรี่ไปประมาณ 15% ส่วนการชาร์จแบตเตอรี่ก็เป็นการชาร์จเร็ว (Quick Charge) ผ่านแท่น ซึ่งใช้เวลาในการชาร์จแบตฯ 50% ประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น
นาฬิกาสมาร์ทวอทช์ Galaxy Watch รุ่น 42 มม. ตัวนี้ โดยรวมแล้วมีสเปคที่ดีเลย จุดเด่นของมันก็คือความลงตัวระหว่างการใช้งานในชีวิตประจำวัน กับการตรวจเช็คสุขภาพและการออกกำลังกาย ดีไซน์การออกแบบก็ดูดี ใส่เดินทั่วไปก็ดูเท่ ใส่ออกกำลังก็มีฟีเจอร์รองรับ นอกจากนี้ยังซิงค์กับสมาร์ทโฟนเพื่อรับการแจ้งเตือนต่างๆ ได้อีกด้วย เหมาะสำหรับไลฟ์สไตล์ปัจจุบันที่ต้องติดต่อสื่อสาร อัพเดตข้อมูลอยู่ตลอด และไลฟ์สไตล์คนรักสุขภาพ
|
How to .... |