พรีวิว Sekiro: Shadows Die Twice เกมส์ฮาร์ดคอร์ที่คนไม่ฮาร์ดคอร์ก็เล่นได้

หลังจากที่แอดมินได้ไปงานเปิดตัวรอบสื่อมวลชนของเกมส์ Sekiro: Shadows Die Twice ที่ทาง เก่งกะเกม บาย ไทยแวร์ ได้รับเกียรติเชิญเข้าร่วมงานจาก Sony Interactive Entertainment Singapore (Hongkong Branch) ณ โรงแรมโฟร์พอยท์ บาย เชอราตัน สุขุมวิท เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และจากที่ไปลองเล่นมาเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงครึ่ง แอดมินก็มีฟีดแบคดีๆ มาฝากทุกท่านในพรีวิวรอบนี้กันค่ะ

เกริ่นนำ

เกมส์ Sekiro: Shadows Die Twice (ต่อไปจะเรียกว่า Sekiro) นี้ ได้ FromSoftware ผู้พัฒนาซีรี่ส์เกมส์ดังแนวฮาร์ดคอร์อย่าง Dark Souls และ BloodBorne มาทำ เพราะฉะนั้นใครที่เป็นสาวกเกมส์ดังกล่าว เราบอกคุณเลยตรงนี้ว่า "ห้ามพลาด" เพราะปุ่มกดและสไตล์การต่อสู้ ได้ความน่าสนใจและความท้าทายมาจาก Bloodborne แบบครบเครื่อง แต่สำหรับใครที่จะมาลองเล่นเกมส์นี้แล้วกลัวความยากจากกิตติศัพท์ที่ผ่านมาของค่ายนี้ แอดมินก็ขอบอกเช่นกันว่า "ไม่ยากอย่างที่คิด" เพราะเกมส์ Sekiro นี้ ถูกออกแบบมาให้เล่นง่ายขึ้นแล้ว ทั้งในเรื่องการเดินไปตามเส้นทางที่กำหนดของฉาก การผ่านศัตรู และรูปแบบการต่อสู้ สาย Casual ก็เล่นได้ สาย Hardcore ก็เล่นดีค่ะ (ขอเน้นว่าสายแคชชวลต้องใจเย็นหน่อยนะคะ)

รูปแบบการเล่นทั่วไป

เกมส์นี้เป็นเกมส์แนวแอ็กชั่นผจญภัยที่เราจะได้สวมบทบาทเป็นนินจาในสมัยเซ็นโงคุของญี่ปุ่น (ค.ศ. 1467 - 1600) ที่หาทางแก้แค้นซามูไรที่ลักพาตัวนายน้อยที่อยู่ในความดูแลของเราไป โดยเราจะต้องหาทางผ่านไปตามฉากและจัดการกับศัตรูเพื่อเก็บทองและสิ่งของที่จำเป็นสำหรับการอัปเกรดแขนกลที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพในการต่อสู้มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะมีศัตรูรออยู่มากมายหลายรูปแบบ ทั้งซามูไร โจร พระนอกรีต ยักษ์ที่ถูกล่ามโซ่ และอื่นๆ อีกมากมายเท่าที่เราจะสามารถเจอได้ในยุคสมัยของเซ็นโงคุ

ประสบการณ์หลังจากที่ได้ทดลองเล่น

บอกเลยว่าแอดมินประทับใจมากๆ กับเกมส์นี้ที่ทำออกมาได้ดี ทั้งแสงเงา เสียงประกอบ องค์ประกอบศิลป์ในฉากต่างๆ ที่ไม่ได้ดูมีอะไรแปลกปลอมหรือดูโดดออกมาเลย ความยากของเกมส์ไม่ได้ยากจนเกินไป (ไม่ได้ยากจนไม่น่าเล่น) เพราะการตายเกมส์นี้ "ได้มากกว่าเสีย" สาเหตุที่พูดแบบนี้เพราะเกมส์นี้เราต้องใช้การเรียนรู้รูปแบบการต่อสู้ของศัตรู และการเรียนรู้ในหลายๆ ครั้ง เราจำเป็นที่จะต้อง "ตาย" ก่อน ถึงจะเรียนรู้รูปแบบการโจมตีของศัตรูได้ทั้งหมด และทำให้สามารถพลิกกลับมาเป็นฝ่ายที่ได้เปรียบในการต่อสู้ได้ค่ะ

การต่อสู้ในเกมส์นี้ มีหลายครั้งที่เราไม่สามารถใช้การหลบเพื่อหันกลับมาตีได้เหมือน Bloodborne และ Dark Souls เราต้องเรียนรู้ที่จะใช้การตั้งการ์ด (Guard) เพื่อรับการโจมตีศัตรูก่อนแล้วค่อยโจมตีสวนกลับ ซึ่งการตั้งการ์ดนี้เองที่มีผลเป็นอย่างมากในเกมส์นี้ เพราะเมื่อเราตั้งการ์ดได้ถูกจังหวะ เราจะสามารถโจมตีสวนกลับแบบ One-hit-kill หรือทีเดียวตายได้เลยทันที ซึ่งจะเป็นประโยชน์มากๆ ในการจัดการตั้งแต่พวกลูกกระจ๊อกทั่วไปยันศัตรูระดับบอสเลยทีเดียว

การโจมตีศัตรูตัวใดก็ตามที่ขวางทางอยู่ข้างหน้า เราไม่สามารถที่จะเดินดุ่มๆ เข้าไปแล้วกดฟันรัวๆ ได้เลยเหมือนเกมส์ทั่วๆ ไป  ต้องอาศัยความใจเย็นและการสังเกตรูปแบบการโจมตีของศัตรูเท่านั้นจึงจะทำให้เราสามารถเอาชนะพวกมันได้ค่ะ

เส้นทางการเดินในเกมส์นี้ไม่ได้ล็อกเส้นทางเหมือนเกมส์ในตระกูลเดียวกัน อีกทั้งตัวเอกของเรายังสามารถใช้สลิงไปตามจุดต่างๆ ของเกมส์เช่น หลังคา ต้นไม้ หรือขอบอาคารบ้านเรือนต่างๆ เพื่อหลบเลี่ยงศัตรูไม่ให้ถูกพบเจอและสามารถหลีกหนีจากการที่จะต้องปะทะกับศัตรูซึ่งมีโอกาสเสียเลือดได้ง่าย อีกทั้งเรายังสามารถใช้ประโยชน์ในการที่ศัตรูไม่เห็นเราเพื่อลอบฆ่าได้โดยไม่ต้องเสียเลือดเลยอีกด้วย นับว่าดีกว่าเกมส์ฮาร์ดคอร์ทั่วๆ ไปแบบสุดๆ (สายหลบ (Stealth) อยู่ง่ายสายบู๊อยู่ยาก) 

จุดสีเขียวที่เห็นในภาพ คือจุดที่สามารถโหนสลิงไปได้
 

ตัดกลับมาที่เรื่องกราฟฟิกและภาพงานศิลป์ในเกมส์กันบ้าง เกมส์ Sekiro เกมส์นี้ถูกปรับแต่งมาให้มีความสวยงามสมจริงในทุกฉาก รวมถึงการออกแบบวัดวาอาราม คน รูปปั้น สิ่งแวดล้อม และศัตรูในรูปแบบต่างๆ ให้มีความเคลื่อนไหวใกล้เคียงกับของจริงมากที่สุด ซึ่งเราขอแนะนำให้คุณเล่นบน PS4 Pro เพราะจะให้ภาพที่คมชัดไหลลื่นมากที่สุดค่ะ (แอดมินไปลองมาบนเครื่อง PS4 รุ่นเก่า มีความกระตุกอยู่บ้างในบางฉากที่เราเคลื่อนที่ผ่าน แต่เราแอบหันไปมองคนอื่นที่ทดสอบบน PS4 Pro ภาพชัดมากเฟรมเรทนิ่งเลยล่ะค่ะ)

ไม่มีระดับความยากให้เลือก มีระดับเดียว ทุกคนเล่นยากเท่ากันหมด

ใครที่หวังจะเล่นแบบฟันๆ ไปเรื่อยๆ ให้ผ่านด่านไปอ่านเนื้อเรื่องชิลๆ ด้วยการเลือกความยากระดับง่ายสุด เราขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่า "มีความยากระดับเดียวเท่านั้น" เท่ากับว่าเกมส์ต้องการบังคับให้คุณได้เรียนรู้ศัตรูในการผ่านด่านไปเรื่อยๆ มันไม่มีทางเลยที่คุณจะสามารถจบเกมส์นี้ได้โดยไม่ต้องฆ่าใครหรือไม่ต้องปะทะกับใคร ถึงแม้ว่าจะมีทางให้ผ่านหลายทาง แอบข้ามศัตรูไปได้หลายจุด แต่สุดท้ายคุณก็จะต้องพบเจอกับศัตรูระดับหัวหน้าที่ยืนขวางอยู่ตรงปลายทางข้างหน้าอยู่ดี เพราะฉะนั้นมีให้เลือกแค่สองทางคือ "ผ่านมันไปให้ได้" หรือ "พอแต่เพียงเท่านี้"

ซับไทยไม่ 'กาก' และแปลได้สละสลวยไม่ขัดตา

สำหรับใครที่กังวลว่าซับไทยของเกมส์นี้จะดีมั้ย ทำออกมาจะรับได้ตอนอ่านรึเปล่า เราไปทดลอง 'เล่นและอ่าน' มาให้คุณแล้วค่ะ ได้ข้อสรุปว่า "ดีงามลื่นหูลื่นตามาก" สาเหตุที่บอกว่าลื่นหูลื่นตา เพราะด้วยความที่แอดมินสามารถฟังและแปลภาษาญี่ปุ่นได้บ้างเป็นบางส่วน ทำให้ได้รู้ว่าตัวเกมส์สามารถใช้ภาษาไทยในการทำซับได้ดีความหมายไม่ผิดเพี้ยน แถมยังสามารถใช้คำอ้างอิงกับยุคสมัยได้อย่างสมเหตุสมผล ไม่เชื่อลองดูรูปข้างล่างสิ

สรุปคะแนน

"ดีงามที่สุด"

ถึงแม้จะดูอวย แต่เท่าที่เราได้ลองเล่นมา บอกเลยว่าหาที่ติอะไรไม่ได้นอกจาก AI ที่เก่งกาจเกินไปจนต้องยอมตายซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อให้สามารถเอาชนะมันได้ ส่วนตัวแอดมินติดอยู่ที่หัวหน้าซามูไรตัวเดิมตอนต้นเกมส์อยู่ราว 40 นาทีถึงจะผ่านไปได้ แต่นั่นไม่ได้ทำให้เรามีความท้อถอยแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม เกมส์กลับถูกออกแบบให้ผู้เล่นกระหายที่จะเอาชนะศัตรูข้างหน้าให้ได้ไม่ว่ามันจะเก่งกาจสักเท่าไหร่ก็ตาม ดังนั้นเราเชื่อว่า ถึงแม้เกมส์นี้จะทำให้คุณหัวร้อนที่ผ่านมันไปไม่ได้สักที แต่เชื่อเถอะ ถ้าคุณเอาชนะมันได้ คุณจะภูมิใจในชัยชนะที่ได้รับมาอย่างแน่นอนค่ะ