เตียง หรือที่นอนของเรา กลายเป็นที่สะสมของ ไรฝุ่น หรือชื่อในภาษาอังกฤษว่า Dust mite โดยที่เราไม่รู้ตัว เป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กๆ ในบ้านหรือแม้แต่ผู้ใหญ่เกิดอาการของโรคภูมิแพ้ โรคหืด แพ้อากาศ เกิดผื่นผิวหนังอักเสบ โดยที่สาเหตุของภูมิแพ้กว่า 70% มาจากการแพ้ไรฝุ่น และสารก่อภูมิแพ้ที่แฝงอยู่บน เตียง หมอน ผ้าปูที่นอน โซฟา ผ้าม่าน และพรม
และเพื่อให้สุขภาพของสมาชิกในครอบครัวดีขึ้น ห่างไกลจากโรคภูมิแพ้ เครื่องกำจัดไรฝุ่นแบบไร้สาย iGGOO Mamibot UVLITE100 เป็นผู้ช่วยสำคัญ ในการทำความสะอาดพื้นผิวของเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นผ้า ที่เป็นแหล่งสะสมของไรฝุ่น ไม่ว่าจะเป็น ที่นอน โซฟา ผ้าม่าน พรมขนสั้น และพรมขนยาว ที่ใช้งานสะดวก ไม่ต้องเสียบปลั๊กในขณะใช้งาน ออกแบบมาเพื่อให้กำจัดฝุ่นละออง รวมถึงแบคทีเรีย และฆ่าไรฝุ่นได้ถึง 99.99% ฆ่าเชื้อโรคด้วยหลอดแสง UV (อัลตราไวโอเลต) แบบ U-Type ที่ได้รับสิทธิบัตรอีกด้วย เหมาะมากสำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็ก หรือครอบครัวที่มีสมาชิกเป็นภูมิแพ้
และปัญหาสำหรับคนรักสัตว์คือ เส้นขนน้องหมาน้องแมวที่เกาะติดอยู่บนเบาะโซฟา หรือเตียงนอน นอกจากจะแลดูสกปรก และยากต่อการทำความสะอาดแล้ว ก็อาจทำให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพได้ และ iGGOO Mamibot UVLITE100 เขาเคลมว่าดูดเก็บขนสัตว์ได้ดีเลย
ข้อดี
| ข้อสังเกต
|
ส่วนประกอบของตัวเครื่อง มีดังนี้
ปุ่ม Power และขีดแสดงระดับแบตฯ คงเหลือ ตรงส่วนด้ามมือจับ
ส่วนประกอบทางด้านใต้ตัวเครื่อง มีดังนี้
ด้วยความที่เครื่องดูดฝุ่น กำจัดไรฝุ่นนี้ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ในตัวเครื่อง ทำให้ไม่ต้องเสียบปลั๊กขณะใช้งาน ไม่มีข้อจำกัดเรื่องความยาวสายไฟ และไม่เกะกะขณะใช้งาน ตรงส่วนมือจับก็ออกแบบเหมาะสมและจับถนัดมือใช้ได้
โดยที่น้ำหนักตัวเครื่องนั้นดูเหมือนจะหนักอยู่พอควร แต่ว่ารูปแบบการใช้งานนั้นเราไม่แบกรับน้ำหนักตัวเครื่องเอาไว้ตลอดเวลาเหมือนกับเครื่องดูดฝุ่นมือถือทั่วๆ ไป แต่การใช้งาน iGGOO Mamibot UVLITE100 นั้นจะต้องวางทาบตัวเครื่องไปบนผิวเตียงนอน หรือโซฟา แล้วใช้มือออกแรงไถตัวเครื่องไปบนพื้นผิว ทำให้พื้นผิวที่เราจะทำความสะอาดนั้นแบกรับน้ำหนักตัวเครื่องไป และเราออกแรงเพียงเล็กน้อยในการไถตัวเครื่องไปบนพื้นผิว (ถ้ายังนึกภาพรูปแบบการใช้งานไม่ออก ให้ดูในคลิปวิดีโอรีวิว)
แต่ก็มีข้อสังเกตคือ การดูดฝุ่นบนพรมแบบขนยาวนั้นจะเกิดอาการหนืดๆ และต้องออกแรงพอสมควรเพื่อดันตัวเครื่องให้ไถไปบนพื้นพรม
มีการระบุเอาไว้ในสเปคว่ารองรับการใช้งาน 25-30 นาทีต่อรอบการชาร์จ จากการลองใช้งานจริง ก็ทำเวลาได้ประมาณนั้นครับ ก็เป็นระยะเวลาการใช้งานที่ยาวนานใช้ได้เลย เพราะการดูดฝุ่น กำจัดไรฝุ่นบนเตียงนั้น ก็ใช้เวลาไม่ได้นานเกินกว่า 10 นาที การดูดฝุ่นโซฟาก็ใช้เวลาสั้นกว่านั้นอีก เพราะฉะนั้นชาร์จรอบเดียว ก็ดูดฝุ่นเตียงได้อย่างน้อย 2 รอบ
เมื่อวาง iGGOO Mamibot UVLITE100 ลงบนแท่นชาร์จ โดยแท่นชาร์จรับพลังไฟจากอะแดปเตอร์ที่เสียบกับปลั๊กไฟบ้าน
สเกลบอกระดับแบตฯ 3 ขีด แสดงระดับการชาร์จเมื่อเสียบตัวเครื่องอยู่กับแท่น
ชาร์จแบตฯ โดยการวางตัวเครื่องบนแท่นชาร์จ เราลองจับเวลาการชาร์จ โดยการเปิดใช้งานเครื่องจนดับไปเพราะแบตฯ หมด แล้วนำไปวางชาร์จ ผลปรากฏว่าใช้เวลาเพียงประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งในการชาร์จแบตฯ จนเต็ม โดยที่ในสเปคระบุว่าใช้เวลาในการชาร์จประมาณ 3 ถึง 3 ชั่วโมงครึ่งในการชาร์จแบตฯ
ใต้ตัวเครื่องมีแผ่นยางตบเตียงอยู่ 2 จุด
ลูกเล่นที่เหนือความคาดหมายของ iGGOO Mamibot UVLITE100 คือการตบเตียง หรือพื้นผิวที่มันทำความสะอาดด้วยความถี่ที่สูงถึง 8,000 ครั้งต่อนาที (เพื่อทดแทนการที่ไม่มีหัวแปรงปัดฝุ่น) โดยทางแบรนด์ iGGOO เขาเคลมมาว่า การทำแบบนี้จะทำให้ตัวไรฝุ่นที่เกาะแน่นอยู่บนผิวผ้า เกิดการฟุ้งกระจายขึ้นมา ทำให้ดูดเก็บได้ง่ายขึ้น ในทีแรกก็งงๆ ว่าระบบตบเตียงของเครื่องดูดฝุ่นนี้มันอยู่ตรงไหน พอหงายตัวเครื่องขึ้นมาดู ก็เห็นเลยว่าระบบตบเตียงเป็นแผ่นยางเล็กๆ 2 จุดที่อยู่ทางด้านใต้ตัวเครื่อง ซึ่งเมื่อเปิดเครื่องใช้งาน เจ้าแผ่นยางเล็กๆ นี้จะมีความสั่นสะเทือนค่อนข้างแรงเลยทีเดียว แต่ข้อสังเกตคือ ลองใช้นิ้วสัมผัสแล้วพบว่าความแรงในการสั่นของแผ่นยาง 2 อันนั้นไม่เท่ากัน มีอันหนึ่งที่สั่นแรงกว่า แบบรู้สึกได้
หลอด UV ปล่อยแสงเรืองสีฟ้าขณะใช้งาน
ฟีเจอร์ของเครื่องดูดฝุ่นตัวนี้ที่ทำให้รู้สึกเซอร์ไพรส์คือ ระบบการฆ่าเชื้อด้วยหลอดแสง UV แบบ U-Type ที่ให้ระดับการส่องแสงที่เข้มข้น โดยสรรพคุณของแสง UV คือสามารถฆ่า , ไวรัส , แบคทีเรีย , รา , ยีสต์ โดยการมีหลอดแสง UV ที่ปล่อยแสงในโทนสีฟ้าออกมานั้น ทำให้ iGGOO Mamibot UVLITE100 โดดเด่นกว่าเครื่องดูดฝุ่นแบบมือถือสำหรับการทำความสะอาดเตียงของแบรนด์อื่นๆ โดยหลอดแสงที่เป็นรูปทรงแบบตัว U นั้นวางล้อมรอบช่องทางการดูดฝุ่น โดยที่หลอดจะปล่อยแสงเฉพาะเมื่อตอนที่เราวางทาบตัวเครื่องลงบนพื้นผิว โดยมีเซ็นเซอร์ที่มีลักษณะเป็นลูกล้อ 2 ข้างที่วางขนาบหลอด UV ทำหน้าที่ตรวจจับว่าขณะนี้เราวางตัวเครื่องบนพื้นผิวหรือไม่
เครื่องดูดฝุ่นต้องมีเสียงรบกวนจากการทำงานเป็นธรรมดา โดยทางแบรนด์ iGGOO เคลมว่าเครื่องดูดฝุ่นตัวนี้เสียงรบกวนจากการทำงานค่อนข้างที่จะเบา และจากการลองใช้งานจริงก็พบว่าเสียงจากการทำงานของ iGGOO Mamibot UVLITE100 นั้นเบากว่าเครื่องดูดฝุ่นขนาดใหญ่ที่ใช้ดูดฝุ่นพื้นอยู่พอสมควรเลย และโทนเสียงก็ค่อนข้างที่จะนุ่มกว่า ไม่ค่อยบาดหู (สเปคระบุว่าระดับเสียงรบกวนน้อยกว่า 70 dB เบากว่าระดับเสียงการเปิดเพลงในห้อง หรือเสียงจากการจราจรบนท้องถนน) โดยในสเปคระบุว่า สามารถสร้างแรงดูดได้มากกว่า 4 kPa (กิโลปาสกาล) และใช้มอเตอร์แบบไร้แปรงถ่าน หรือ Brushless motor ในการสร้างแรงดูด ซึ่งเป็นมอเตอร์ที่ให้ระยะเวลาการใช้งานยาวนาน
อีกหนึ่งรายละเอียดการออกแบบที่น่าสนใจของเครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดที่นอนแบบไร้สายตัวนี้คือ ระบบไส้กรองที่ทางแบรนด์ iGGOO เขาเคลมว่าไร้การอุดตัน ทำให้ประสิทธิภาพการดูดฝุ่นนั้นดีตลอดช่วงการใช้งาน ลักษณะของไส้กรองเป็นแบบ 2 ชั้น โดยชั้นแรกมีลักษณะเป็นตะแกรงโลหะสีเงินทรงกลมที่ทำหน้าที่กรองฝุ่นหยาบขนาดใหญ่ ที่เมื่อเลิกใช้งานไม่มีแรงดูด ฝุ่นผงขนาดใหญ่ที่มาเกาะอยู่กับตะแกรงก็จะหลุดร่วงลงไปในถังเก็บฝุ่นที่มีลักษณะเป็นกล่องพลาสติกใสทรงกลม ทำให้ไม่เกิดการอุดตันขึ้นที่ตะแกรง
ไส้กรองชั้นแรก มีลักษณะเป็นตะแกรงโลหะ ใช้กรองฝุ่นหยาบ
ไส้กรองชั้นที่สอง ลักษณะเป็นเยื่อกระดาษ กรองฝุ่นละเอียด
ส่วนชั้นที่ 2 เป็นไส้กรองฝุ่นแบบละเอียดที่ซ่อนอยู่ในไส้กรองตะแกรงโลหะ ลักษณะของไส้กรองละเอียด เป็นเยื่อกระดาษคล้ายไส้กรองของเครื่องดูดฝุ่นทั่วๆ ไป ถึงว่าเป็นการออกแบบระบบไส้กรอง 2 ชั้นที่เข้าท่าทีเดียว ส่วนใครที่อยากเห็นประสิทธิภาพการดูดฝุ่นที่แท้จริงของ iGGOO Mamibot UVLITE100 ก็ดูได้ในคลิปวิดีโอรีวิวนะ
เครื่องดูดฝุ่นที่เหมาะมากสำหรับครอบครัวที่รักสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับบ้านที่มีคนเป็นโรคภูมิแพ้ อันเกิดจากไรฝุ่นที่สะสมอยู่บนที่นอนหรือเฟอร์นิเจอร์ในบ้านที่มีพื้นผิวเป็นผ้า เด่นด้วยระบบตบเดียงเพื่อให้ไรฝุ่นเกิดการฟุ้งกระจาย ดูดเก็บได้ง่ายขึ้น และระบบการฆ่าเชื้อโรคด้วยแสง UV สำหรับใครที่สนใจอยากลอง อยากเล่น เจ้าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นตัวนี้ก็มาดูตัวจริงกันได้ที่ร้าน Habitech หรือสั่งซื้อออนไลน์ผ่านปุ่ม สั่งซื้อ สีเขียวทางด้านล่างได้เลยครับ
|
ไม่เสพติดไอที แต่ชอบเสพข่าวเทคโนโลยี หาความรู้ใหม่ๆ มาใส่สมอง |