รีวิว Mister Robot Air Purifier Ultra เครื่องฟอกอากาศขนาดกลาง มีเซ็นเซอร์วัดฝุ่น PM 2.5

Mister Robot Air Purifier Ultra เครื่องฟอกอากาศขนาดกลาง ที่จะทำให้คุณภาพชีวิตของทุกคนในบ้านดีขึ้นด้วยการจัดการกับมลพิษทางอากาศ และฝุ่น PM 2.5 ซึ่งเป็นสิ่งที่เรามองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่ส่งผลเสียกับสุขภาพของเรา ทำให้เจ็บไข้ได้ป่วย หรือเป็นภูมิแพ้ ดีไซน์ตัวเครื่องสวยงามทันสมัยด้วยรูปลักษณ์ตัวเครื่องทรงกลม เข้ากับแนวการแต่งบ้านสไตล์โมเดิร์น รองรับการใช้งานในห้องที่มีขนาด 32 - 48 ตร.ม. ด้วยประสิทธิภาพการฟอกอากาศในระดับ 400 ลบ.ม/ชม. (ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง) 

มีระบบปล่อยประจุไอออนลบ เพิ่มประสิทธิภาพในการดักจับเชื้อโรค และฝุ่นผงต่างๆ รวมถึงมีระบบกรองฝุ่นที่มีประสิทธิภาพดีด้วย ฟิลเตอร์แบบ HEPA (High-Efficiency Particulate Air) พร้อมฟิลเตอร์แบบคาร์บอน ทำให้สามารถกรองฝุ่นได้ละเอียดถึง 99% ช่วยให้อากาศในห้องสะอาดบริสุทธิ์มากยิ่งขึ้น และที่สำคัญคือเจ้าเครื่องฟอกอากาศตัวนี้ รองรับการเชื่อมต่อผ่านสัญญาณ Wi-Fi เพื่อการสั่งงานผ่านแอปฯ ที่มีชื่อว่า Mister Robot Air ที่รองรับการใช้งานทั้งบนสมาร์ทโฟนระบบ Android และ iOS ทำให้ไม่ว่าตัวเราจะอยู่ที่ทำงาน หรืออยู่ที่ไหนๆ ก็สามารถสั่งเปิด/ปิดการทำงาน หรือควบคุมการทำงานของเครื่องฟอกอากาศที่อยู่ที่บ้านได้ด้วย

ใครที่ต้องการดาวน์โหลดแอปฯ Mister Robot Air ก็คลิกที่ปุ่มด้านล่างนี้ได้เลย

ดาวน์โหลดแอปฯ Android

ดาวน์โหลดแอปฯ iOS

ข้อดี และข้อสังเกตของ Mister Robot Air Purifier Ultra

สเปค Mister Robot Air Purifier Ultra

• ขนาดตัวเครื่อง เส้นผ่านศูนย์กลาง x สูง : 28.8 x 66.6 ซม.
• น้ำหนักตัวเครื่อง : 6.7 กก.
• แรงดันไฟฟ้า : 220-240 โวลต์ 50 เฮิรตซ์
• กำลังไฟ : 36 วัตต์
• เสียงรบกวนจากการทำงาน : น้อยกว่า 50 dB(A)
• ความเร็วรอบพัดลม : เลือกได้ 5 ระดับ

ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ

• ไส้กรองอากาศแบบ HEPA (High Efficiency Particulate Air) กรองฝุ่นได้สูงสุดถึง 99%
• เหมาะสำหรับ พื้นที่ 32 - 48 ตร.ม.
• Dust Sensitive Sensor เซ็นเซอร์ตรวจจับฝุ่น โดยเครื่องจะปรับความแรงอัตโนมัติ และแสดงผลด้วยไฟ LED บนตัวเครื่อง ตามค่าฝุ่นละอองที่ตรวจจับได้
• Smell Sensor เซ็นเซอร์ตรวจจับกลิ่นไม่พึงประสงค์
• Activated Carbon Absorber ไส้กรองฝุ่น HEPA ที่มีส่วนผสมของ Carbon ซึ่งมีคุณสมบัติดักจับกลิ่น ทำงานควบคู่กับ Smell Sensor เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์
• Negative Ion Refresherระบบปล่อยประจุไอออนลบ เพิ่มประสิทธิภาพดักจับเชื้อโรคและสิ่งสกปรกในอากาศ เปลี่ยนอากาศสะอาด สดชื่น
• Wi-Fi Smart Control สามารถควบคุมการใช้งานระยะไกล และแสดงสภาวะการทำงานแบบเรียลไทม์ผ่านสมาร์ทโฟน

คู่มือภาษาไทยอธิบายอย่างละเอียด

ในกล่องของ Mister Robot Air Purifier Ultra นอกจากจะมีตัวเครื่องฟอกอากาศแล้ว ก็ยังมีใบรับประกันสินค้า และหนังสือคู่มือเล่มบางๆ ที่จัดทำมาอย่างสวยงาม มีภาพประกอบพร้อมเนื้อหาภาษาไทยที่เข้าใจง่าย

เซ็นเซอร์ตรวจวัดปริมาณฝุ่น PM 2.5 แสดงระดับปริมาณฝุ่นผ่านแสงไฟสวยๆ

ตัว Dust Sensitive Sensor หรือเซ็นเซอร์ตรวจวัดฝุ่น PM 2.5 ที่ติดตั้งอยู่ในตัวเครื่อง จะแสดงระดับปริมาณฝุ่นในห้อง ผ่านวงแสงไฟทางด้านบนตัวเครื่อง โดยจะแสดงสีออกไปในโทนส้ม หากมีปริมาณฝุ่นมาก และแสดงสีออกในโทนเขียว หากมีปริมาณฝุ่นน้อย ทำให้เรารู้ได้เลยว่า ขณะนี้ในห้องมีปริมาณฝุ่น PM 2.5 มากน้อยขนาดไหน รวมทั้งมีการแสดงระดับปริมาณฝุ่น PM 2.5 ผ่านแอปฯ ด้วย

ไส้กรองความละเอียดสูงที่กรองได้ทั้งฝุ่น PM 2.5 และกรองกลิ่นได้ด้วย

ใช้ระบบไส้กรองอากาศประสิทธิภาพสูงแบบ HEPA (High-Efficiency Particulate Air) สำหรับการกรองฝุ่นขนาดเล็กมากๆ อย่าง PM 2.5 และในตัวเครื่องมีระบบตรวจจับกลิ่นอัตโนมัติ ที่ทำงานร่วมกับไส้กรองคาร์บอน สำหรับการกรองกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ในห้อง ไม่ให้ห้องมีกลิ่นเหม็น โดยที่เราต้องซื้อไส้กรองเปลี่ยนใหม่เมื่อหมดอายุการใช้งาน (อายุการใช้งานของไส้กรองตรวจสอบได้จากในแอปฯ)

การถอดเปลี่ยนไส้กรองอากาศก็ทำได้ง่ายๆ ครับ ขั้นแรกให้ใช้นิ้วแหย่เข้าไปตรงจุดที่ใกล้กับฐานตัวเครื่องตามภาพ (โดยที่หันด้านหน้าของตัวเครื่องเข้าหาตัวเรา) แล้วงัดแผ่นฝาครอบออกเบาๆ

จากนั้นเลื่อนปุ่มที่อยู่ตรงจุดนี้ของตัวเครื่องไปในทางปลดล็อก

จากนั้นก็ดึงถอดตัวไส้กรองอากาศออกมาทางด้านหน้าได้เลย

เปรียบเทียบขนาดของไส้กรองอากาศ กับขนาดของตัวเครื่อง

สั่งงานผ่านแผงปุ่มกดแบบสัมผัส

หรูหราน่าใช้งานด้วยการสั่งงานผ่านชุดปุ่มกดแบบสัมผัสทางด้านบนตัวเครื่อง โดยแต่ละปุ่มมีหน้าที่ดังนี้

1. ปุ่ม On/Off แตะเพื่อเปิด/ปิดการทำงานของเครื่องฟอกอากาศ
2. ปุ่ม Speed แตะเพื่อปรับเพิ่ม/ลดความเร็วรอบของพัดลมในตัวเครื่อง พัดลมนี้ทำหน้าที่ดูดเก็บฝุ่นละอองเข้ามาในตัวเครื่อง ซึ่งความเร็วรอบเลือกได้ 5 ระดับ (โดยที่รอบปุ่ม จะมีไฟ 5 ขีดแสดงระดับความเร็ว) และที่ความเร็วรอบระดับ 5 เราจะได้ยินเสียงรบกวนจากการทำงานพอควรเลย
3. ปุ่ม Auto แตะเพื่อเปิดระบบการควบคุมความเร็วรอบพัดลมโดยอัตโนมัติ สัมพันธ์กับปริมาณฝุ่นในห้อง
4. ปุ่ม Negative ion แตะเพื่อเปิดการปล่อยประจุลบ เพิ่มประสิทธิภาพการดักจับเชื้อโรคและสิ่งสกปรกในอากาศ 
5. ปุ่ม Sleep ลดความเร็วรอบพัดลมให้อยู่ในระดับต่ำ เพื่อไม่ให้มีเสียงจากตัวเครื่องมารบกวนการนอน
6. ปุ่ม Wi-Fi แตะค้างไว้ 5 วินาที ไฟสีน้ำเงินที่ปุ่มจะกระพริบ พร้อมเริ่มการเชื่อมต่อกับแอปฯ บนสมาร์ทโฟนผ่านสัญญาณ Wi-Fi และเมื่อตัวเครื่องเชื่อมต่อกับสัญญาณ Wi-Fi เรียบร้อยแล้ว ไฟสีน้ำเงินก็จะติดสว่างค้างที่ปุ่มนี้
7. สัญญาณไฟ Filter ติดสว่างขึ้นเมื่อไส้กรองอากาศหมดอายุการใช้งาน ถึงเวลาที่ต้องถอดเปลี่ยน

สั่งงานผ่านแอปฯ ได้ ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหน

การเชื่อมต่อเครื่องฟอกอากาศ Mister Robot Air Purifier Ultra กับแอปฯ บนสมาร์ทโฟนผ่านสัญญาณ Wi-Fi นั้นก็ทำได้ง่ายๆ ตามขั้นตอนที่มีแนะนำในแอปฯ

โดยเมื่อทำการเชื่อมต่อเรียบร้อยแล้ว หน้าจอหลักของแอปฯ จะเป็นตามภาพซ้าย โดยจะมีรายชื่อเครื่องฟอกอากาศ Mister Robot Air Ultra อยู่ในหน้าจอนี้ ให้เราแตะที่ชื่อของมัน เพื่อเริ่มต้นการสั่งงานได้เลย ก็จะมาสู่หน้าจอแอปฯ ตามภาพขวา จะเห็นว่าสถานะของเครื่องในตอนนี้คือปิดการทำงานอยู่ ถ้าเราต้องการสั่งให้เครื่องเริ่มการทำงาน ก็แตะที่ปุ่ม Switch ได้เลย ซึ่งการสั่งเปิด/ปิดเครื่อง รวมถึงการควบคุมอื่นๆ นั้นเราสามารถสั่งงานผ่านการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ ทำให้ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ทำงาน หรือไปเที่ยวที่ไหนๆ ก็สามารถสั่งเปิด/ปิด หรือปรับความเร็วรอบพัดลมของเครื่องฟอกอากาศที่อยู่ในบ้านของเราได้เลย

หน้าจอหลักที่ใช้ในการควบคุม/ตรวจสอบสภาวะการทำงานของเครื่องฟอกอากาศเป็นไปตามภาพซ้าย โดยทางซีกบนของหน้าแอปฯ จะมีตัวเลขขนาดใหญ่ที่บอกปริมาณระดับฝุ่น PM 2.5 ในห้อง (ตามภาพตัวเครื่องบอกว่ามีระดับ PM 2.5 เป็นศูนย์) และตรงใต้ตัวเลขบอกระดับ PM 2.5 มีการบอกอายุการใช้งานของไส้กรองอากาศ โดยตามภาพระบุว่า Filter Remains 90% คือเหลืออายุการใช้งานไส้กรองอากาศอีก 90%

การเลือกโหมดการทำงานของเครื่อง ให้แตะที่ปุ่ม Mode ที่อยู่ตรงส่วนล่างของหน้าจอหลัก ก็จะมายังหน้าจอตามภาพขวา ที่มีโหมดให้เราเลือกอยู่ 3 อย่างคือ Auto (ปรับความเร็วรอบพัดลมในตัวเครื่องโดยอัตโนมัติตามปริมาณฝุ่นในห้อง) , Manual (เราปรับความเร็วรอบพัดลมเอง) และโหมด Sleep (ลดความเร็วรอบพัดลมให้อยู่ในระดับต่ำ เพื่อไม่ให้เสียงจากตัวเครื่องรบกวนการนอน)

กลับมาที่หน้าจอหลักตามภาพซ้าย การปรับความเร็วรอบพัดลมในตัวเครื่อง ซึ่งมีส่วนสัมพันธ์กับประสิทธิภาพการทำงาน และระดับเสียงรบกวน ให้แตะที่ปุ่ม Wind Speed Level ก็จะมาสู่หน้าจอตามภาพขวา ที่จะมีระดับความเร็วรอบพัดลมทั้ง 5 ระดับให้เลือกได้ตามต้องการ

สำหรับการเปิดฟีเจอร์การปล่อยประจุลบ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดักจับเชื้อโรคและสิ่งสกปรกในอากาศ ให้แตะที่ปุ่ม Settings ในหน้าจอหลัก ก็จะมายังหน้าจอตามภาพขวา ให้เลื่อนปิดสวิตซ์ Anion เพื่อเปิดการปล่อยประจุลบ

ทดสอบประสิทธิภาพในการลดปริมาณฝุ่น PM 2.5

ทดสอบประสิทธิภาพของเจ้า Mister Robot Air Purifier Ultra ในห้องที่มีขนาดประมาณ 30 ตารางเมตร ด้วยการเปิดแรงพัดลมดูดที่ระดับ 3 พร้อมด้วยเปิดการปล่อยประจุไอออนลบ

ผลก็ออกมาตามกราฟด้านบนนี้ครับ โดยเมื่อเราสั่งเปิดการทำงานของเครื่องฟอกอากาศ บนหน้าจอแอปฯ รายงานว่ามีปริมาณฝุ่น PM 2.5 อยู่ที่ระดับ 7 และเมื่อปล่อยให้เครื่องทำงานไปเรื่อยๆ ระดับฝุ่นค่อยๆ ลดลง จนเมื่อเข้าถึงนาทีที่ 32 ปริมาณฝุ่นลดลงเหลือระดับ 0 จากนั้นปริมาณฝุ่นก็สวิงตัวอยู่ที่ระดับ 0 และ 1 ไปเรื่อยๆ

บทสรุป Mister Robot Air Purifier Ultra

เครื่องฟอกอากาศขนาดกลาง เหมาะสำหรับการใช้งานในห้องที่มีขนาด 32 - 48 ตร.ม. รองรับการสั่งงานผ่านแอปฯ มีฟีเจอร์ปล่อยประจุลบช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดักจับเชื้อโรคและสิ่งสกปรกในอากาศ ในราคาที่เป็นเจ้าของได้ไม่ยาก