รีวิว BenQ W2700 โปรเจคเตอร์ 4K คุณภาพระดับโรงหนัง ราคามิตรภาพ

ยุคนี้ หากคิดจะซื้อโปรเจคเตอร์มาใช้เพื่อความบันเทิงภายในบ้านแล้วล่ะก็ เรื่องความละเอียดระดับ 4K และรองรับ HDR เป็นปัจจัยสำคัญที่ควรหยิบมาพิจารณาด้วย เพราะสมัยนี้สื่อมาตรฐานดังกล่าวมีออกมามากมาย และเริ่มเข้ามาแทนที่ความละเอียดเดิมๆ อย่าง Full HD มากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งหากใครเคยชมภาพแบบ 4K บนจอใหญ่ๆ มาก่อนแล้ว การที่รับชมภาพความละเอียดต่ำ บนจอขนาดเท่ากันนั้น เราจะสัมผัสได้ทันทีว่าภาพมันไม่คมชัดเลย

ในรีวิวนี้เราก็อยากจะแนะนำโปรเจคเตอร์รุ่นหนึ่งให้ได้รู้จักกัน แน่นอนว่ามันต้องเป็นโปรเจคเตอร์ระดับ 4K ที่รองรับ HDR ด้วย นั่นก็คือ W2700 ของ BenQ ค่ายนี้เขามีชื่อเสียงในวงการโปรเจคเตอร์มาอย่างยาวนาน โปรเจคเตอร์ของ BenQ นั้นได้การยอมรับว่าเป็นผู้นำแห่งนวัตกรรมเทคโนโลยี ด้วยการครองแชมป์ The Worldwide DLP Projector ยาวนานถึง 9 ปีต่อเนื่อง มีส่วนแบ่งในตลาดสูงถึง 24% และข้อมูลยอดขายจาก FutureSource 2018 ก็เป็นหลักฐานยืนยันความแข็งแกร่งของแบรนด์ BenQ ได้เป็นอย่างดี ด้วยยอดขายไตรมาสแรกของปีในผลิตภัณฑ์กลุ่มโปรเจคเตอร์ 4K ทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก, ภาคพื้นตะวันออกกลาง และแอฟริกา เบ็นคิวมีส่วนแบ่งการตลาดที่ 41.8 % ขึ้นยอดขายอันดับหนึ่งในหลายประเทศ อาทิ ออสเตรเลีย, อินโดนีเชีย, อินเดีย, สิงค์โปร ฯลฯ ขณะที่ยอดขายโปรเจคเตอร์ 4K ในประเทศไทย ขึ้นครองอันดับหนึ่งด้วยส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 41.50 %

โปรเจคเตอร์รุ่นนี้จะน่าสนใจขนาดไหน มาลองติดตามกันได้ในบทความนี้เลย

ฟีเจอร์น่าสนใจ

• ฉายภาพได้ความละเอียดสูงถึงระดับ 4K
• รองรับ HDR ทั้ง HDR10 และ Hybrid Log Gamma (HLG)
• CinematicColor แสดงค่าสีที่ครอบคลุมตามมาตรฐาน 100% Rec.709 
• แสดงเฉดสีระดับ DCI-P3 ช่วงสีมาตรฐานสำหรับผลิตภาพยนตร์ดิจิตอลของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ โดยช่วงสีดังกล่าวจะกว้างกว่า sRGB / Rec.709 ถึง 26%
• W2700 ทุกเครื่องถูก Calibrate มาตั้งแต่โรงงาน พร้อมใบ Certificate เพื่อรับประกันความเที่ยงตรง
• Short-Throw Projection ระยะฉายภาพขนาด 100 นิ้ว เพียง 2.5 เมตรเท่านั้น
• ราคาเพียง 59,900 บาท เท่านั้น ถือว่าไม่แพงเลย สำหรับโปรเจคเตอร์ 4K HDR ที่ได้ DCI-P3

แกะกล่อง BenQ W2700

มาดูของในกล่องกันก่อนดีกว่า ในกล่องก็จะตัวโปรเจคเตอร์, รีโมท, สายไฟ, คู่มือ และใบรับรองด้านการคาลิเบทจาก ISFccc ยืนยันการการันตีว่าโปรเจคเตอร์ทุกตัวที่ออกมาจากโรงงานได้ผ่านการคาลิเบตค่าสีมาให้เที่ยงตรงแล้วอย่างแน่นอน

ในความรู้สึกของเรา BenQ W2700 ออกแบบหน้าตามาให้รู้สึกว่าเหมาะสมกับการใช้งานในบ้าน อย่างซีรีส์ W11000 หรือ W12000 ของ BenQ นั้นจะมีตัวเครื่องขนาดใหญ่ และมีสีดำ ที่ให้ความรู้สึกจริงจัง ลองจินตนาการว่าเอามาใช้ในบ้าน มันก็คงยากที่จะติดตั้งให้เข้ากับบรรยากาศภายในบ้านได้ดี ในขณะที่ W2700 ตัวเครื่องเป็นสีขาว และมีขนาดไม่ใหญ่มาก จะวางหรือติดตั้งในบ้านมันก็ดูไม่แปลกตา ด้านหน้าเป็นสีบรอนซ์ทองมีผิวแบบ Hairline ตัดกับกรอบสีขาวเพื่อเพิ่มความสวยงาม

ด้านบนของตัวเลนส์มีฝาปิดช่องที่ซ่อนตัวควบคุม Vertical lens shift, Focus และ zoom เอาไว้

บนตัวเครื่องมีปุ่มควบคุมอยู่เล็กน้อย แต่ก็เพียงพอต่อการตั้งค่าต่างๆ ได้ทุกเมนู อย่างไรก็ตาม บนรีโมทจะมีเมนูให้เยอะกว่า ถ้าจะตั้งค่าจริงๆ ทำบนรีโมทก็จะสะดวกกว่านะ

ด้านหลังของตัวเครื่องก็มีการเล่นสีบรอนซ์ทองเช่นกัน และเป็นที่อยู่ของพอร์ตต่างๆ มี HDMI 2.0b ให้มา 2 ช่อง โดยรองรับ HDCP2.2 ทั้งสองช่องเลย, พอร์ต RS232 หรือที่บ้านเรานิยมเรียกกันว่าพอร์ต VGA มี 1 ช่อง, USB Type A ให้มาสองช่อง เป็น USB 3.0 ช่องหนึ่งสำหรับอ่านไฟล์มัลติมีเดียต่างๆ ส่วนอีกช่องจะเอาไว้จ่ายไฟให้กับอุปกรณ์เสริมต่างๆ โดยจ่ายได้ถึง 5V/2.5A, USB Type mini B ให้มา 1 ช่อง และช่อง Audio Out

ตัวเครื่องมีขนาด 380 x 127 x 263 มม. น้ำหนักประมาณ 4.2 กิโลกรัม เราว่ามันก็ไม่ใหญ่โต แต่ก็ไม่ได้เล็กมากนัก ทำให้ส่วนตัวคิดว่ามันเหมาะกับการติดตั้งบนเพดานมากกว่าการวางไว้บนโต๊ะนะ ซึ่งโปรเจคเตอร์ตัวนี้ใช้ระยะฉายภาพขนาด 100 นิ้วเพียง 2.5 เมตรเท่านั้น นอกจากนี้ ระยะฉายยังเท่ากับ Full HD ของ BenQ รุ่นเก่าๆ ไม่ว่าจะเป็น W1070, W2000, W1110, W1080+, W1090 และ W1050

ทำให้เราสามารถซื้อ W2700 ไปเปลี่ยนกับโปรเจคเตอร์รุ่นเก่าได้โดยไม่ต้องย้ายตำแหน่งขาแขวนใหม่

ตัวขาสามารถหมุนเพื่อเพิ่มความระดับความสูงได้ โดยหมุนสุดจะได้ความสูงเกือบๆ 1 นิ้ว

ด้านข้างทั้งสองฝั่งของตัวเครื่องจะมีช่องระบายความร้อนขนาดใหญ่ เพื่อให้ถ่ายเทความร้อนออกจากตัวเครื่องได้อย่างรวดเร็ว

หน้าตารีโมทค่อนข้างธรรมดา แต่ก็มีปุ่มที่จำเป็นให้มาครบครันนะ มีไฟ Backlight ที่ตัวปุ่มด้วย ทำให้การใช้งานในห้องมืดได้รับความสะดวกมาก เพราะปกติเวลาใช้งานโปรเจคเตอร์ ส่วนใหญ่เราก็จะปิดไฟในห้องให้มืดใช่ไหมล่ะ 

อย่างไรก็ตาม เรารู้สึกว่าปุ่มบนรีโมท "แข็ง" ไปหน่อย รู้สึกกดยากนิดนึง

 
คลิกที่ภาพเพื่อขยาย

เริ่มต้นใช้งาน

BenQ W2700 ตั้งค่าการใช้งานค่อนข้างง่ายมาก แค่เสียบปลั๊ก เปิดเครื่องก็แทบจะพร้อมใช้งานแล้ว สิ่งที่เราต้องทำก็แค่ตั้งค่า Keystone, ระยะ Zoom และโฟกัสเลนส์เท่านั้น ซึ่งปรับแต่งง่ายมากๆ และด้วย Vertical lens-shift ที่มีอยู่ ทำให้การปรับระดับการฉายภาพเป็นเรื่องง่ายๆ

หน้าตาของเมนูออกแบบมาแบบค่อนข้างธรรมดา ไม่หวือหวา หรือเน้นกราฟิกสักเท่าไหร่ แต่การจัดหมวดหมู่ก็เป็นระเบียบ ค้นหาเมนูที่ต้องการปรับแต่งได้ง่ายดี

มีระบบ Auto Vertical Keystone ในตัว ทำให้ภาพที่ฉายมีมิติที่ตรงทันที เราไม่จำเป็นต้องมานั่งตั้งค่า Keystone เองเหมือนโปรเจคเตอร์รุ่นเก่าๆ

เวลาที่โปรเจคเตอร์ไม่ได้ถูกวางตรงกลางพอดีกับฉากรับภาพ อาจทำให้ภาพที่ฉายออกมามีสัดส่วนที่เพี้ยนเหมือนรูปสี่เหลี่ยมคางหมู Auto Vertical Keystone จะช่วยแก้ไขภาพให้กลับมาเป็นรูปสี่เหลี่ยมที่สมบูรณ์อัตโนมัติ

ประสบการณ์ในการใช้งาน

เราลองฉายในห้องที่ค่อนข้างสว่างก่อน พบว่าภาพที่ได้ก็ยังให้รายละเอียดที่ดีอยู่นะ (ในภาพถ่ายเก็บรายละเอียดได้ไม่เท่ากับที่ตาเห็น) แต่สีสันอาจจะดรอปลงไปพอสมควร

เราลองปิดไฟ แต่ยังปล่อยให้มีแสงธรรมชาติส่องเข้ามาในห้อง พบว่าสีมีความเข้มขึ้นกว่าเดิมมาก จนอยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจ ในกรณีที่ใช้ระหว่างประชุมงานที่ไม่สามารถปิดไฟมืดสนิทได้ ถือว่า W2700 ทำได้ดีทีเดียว

ส่วนการใช้งานในห้องมืด ต้องบอกเลยว่าประทับใจมากๆ ทั้งความละเอียด และสีสัน เจ้าโปรเจคเตอร์ W2700 นั้นทำได้น่าประทับใจมากๆ โทนสีดำทำได้ค่อนข้างมืด แม้จะไม่เท่ากับสีดำบนจอทีวี แต่สำหรับโปรเจคเตอร์แล้วก็ถือว่าแสดงสีดำได้ดีมากแล้ว

อีกเรื่องหนึ่งที่น่าประทับใจ คือ ลำโพงภายในตัวเสียงค่อนข้างดัง และกังวานทีเดียว แม้ว่าย่านเสียงต่ำจะทำได้ไม่ดีเท่าไหร่ แต่ซาวด์สเตจกว้างพอสมควรเลยล่ะ

อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจ คือ ระบบ Cinema Master ใน W2700 ที่มีลูกเล่นดีๆ ในการปรับแต่งภาพให้ใช้งานด้วย คือ

• Color Enhancer สำหรับเพิ่มความเข้มของค่าสี
• Flesh Tone สำหรับปรับโทนสีผิวให้แม่นยำขึ้น หากว่าภาพถูกรบกวนจากแสงภายนอกอื่นๆ
• Pixel Enhancer 4K เพิ่มจำนวนพิกเซล เพื่อให้ภาพมีรายละเอียดสูงขึ้น
• Motion Enhancer 4K ในกรณีที่เนื้อหามีเฟรมเรทต่ำ สามารถแทรกเฟรมเรทได้สูงสุด 36 เฟรมระหว่างภาพเพื่อนำเสนอภาพแบบ 60 เฟรมต่อวินาที ลดเงาที่พร่ามัวของวัตถุที่เคลื่อนไหวอยู่

ผมได้ทดลองใช้งาน Pixel Enhancer 4K แล้วต้องบอกเลยว่าน่าทึ่งมากๆ ลองสังเกตที่บริเวณเนื้อเป็ดของภาพด้านล่างนี้ ภาพซ้ายมือ คือ ภาพปกติ ส่วนภาพขวามือจะเป็นภาพที่เปิด Pixel Enhancer 4K จะเห็นได้ว่า เราสามารถมองเห็นรายละเอียดของเนื้อเป็ดได้อย่างชัดเจน

 
คลิกที่ภาพเพื่อขยาย

ความเห็นจาก THAIWARE

ในบรรดาโปรเจคเตอร์ 4K HDR ที่มีให้เลือกอยู่ในท้องตลาดขณะนี้ BenQ W2700 เป็นตัวเลือกที่ดีมากทีเดียว ด้วยค่าตัวที่ค่อนข้างต่ำกว่าแบรนด์อื่นๆ ที่มีสเปคใกล้เคียงกัน  อีกทั้งยังมีการคาลิเบทมาให้จากโรงงานด้วย ทำให้เรามั่นใจเรื่องความแม่นยำของสีที่ได้ในระดับหนึ่งเลย

สเปคของ BenQ W2700

BenQ Website : https://bit.ly/2Kpvi0m