เตรียมรับมือกับคราบสกปรกบนพื้นพรมที่มักจะมาแบบไม่ทันคาดคิด ไม่ว่าจะเป็นอาหารหก ซอสหกเลอะ คราบกาแฟบนพื้นพรมที่มักจะทิ้งรอยด่างไม่น่าดูเอาไว้ รวมถึงคราบสกปรกต่างๆ ที่มักจะเกิดขึ้นได้ง่ายๆ บนเฟอร์นิเจอร์ที่มีผิวสัมผัสเป็นผ้า ไม่ว่าจะเป็น โซฟา เก้าอี้ ฟูกที่นอน รวมถึงเบาะในรถยนต์ ด้วยอุปกรณ์ทำความสะอาดที่หยิบจับใช้งานง่ายอย่าง BISSELL SpotClean ProHeat จะช่วยขจัดคราบฝังแน่น ทั้งคราบเก่าและคราบใหม่ให้สะอาดหมดจดได้อย่างง่ายดาย ช่วยลดความยุ่งยากที่จะต้องถอดพรมไปซัก ทำให้นอกจากจะเหมาะสำหรับบ้าน หรือคอนโดห้องพักที่มีพื้นเป็นพรมแล้ว ก็ยังเหมาะสำหรับธุรกิจโรงแรม หรือห้องเช่าที่ต้องการทำความสะอาดอย่างรวดเร็วและง่ายดาย เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับแขกที่มาเข้าพัก และเพื่อภาพลักษณ์ที่ดีของธุรกิจอีกด้วย
ข้อดี
| ข้อสังเกต
|
ในการทำความสะอาดคราบที่เลอะอยู่บนพื้นพรมหรือเฟอร์นิเจอร์ผ้าทั้งหลาย BISSELL CrossWave มีน้ำยาทำความสะอาดสูตรพิเศษจำนวน 2 ขวดที่เราต้องนำมาผสมกับน้ำเปล่าให้ได้ตามสัดส่วน เพื่อประสิทธิภาพการสลายคราบที่ดี ซึ่งน้ำยาทั้ง 2 ขวดก็มีรายละเอียดตามนี้
โดยน้ำยาทำความสะอาดขวดแรกเป็นสูตร SPOT & STAIN (ขวดที่แถมมามีขนาดความจุ 236 mL) สำหรับการทำความสะอาดคราบทั่วๆ ไป หรือเศษอาหารที่หกลงบนพื้นพรม หรือเบาะผ้าในบริเวณเล็กๆ ในส่วนของน้ำยาทำความสะอาดขวดที่สองเป็นสูตร OXYGEN BOOST (ขวดที่แถมมามีขนาดความจุ 473 mL) ที่ใช้งานร่วมกับน้ำยาทำความสะอาดสูตรแรก เพื่อทำความสะอาดคราบที่ฝังแน่นอยู่นาน หรือการทำความสะอาดคราบที่มีขนาดใหญ่
และถ้าเราใช้น้ำยาที่แถมมาให้จนหมดแล้ว ก็ต้องซื้อใหม่ โดยที่น้ำยาทั้ง 2 สูตรมีราคาขายที่เท่ากัน โดยน้ำยาขนาด 1 ลิตร (1,000 mL) มีราคาอยู่ที่ 990 บาทครับ
โดยถังผสมน้ำยาทำความสะอาด อยู่ทางด้านซ้ายของตัวเครื่อง ถอดออกมาได้เลย
หน้าตาของถังผสมน้ำยาทำความสะอาดเป็นตามภาพ จะสังเกตเห็นว่าที่ตัวถังจะมีการแบ่งสัดส่วนการผสมน้ำยาออกเป็น 2 ระดับคือ Small Area (ลูกศรอันล่าง) เป็นขีดบอกสำหรับการผสมน้ำยาเพื่อทำความสะอาดรอยคราบเลอะขนาดเล็ก และในส่วนของ Large Area (ลูกศรอันบน) สำหรับการผสมน้ำยาเพื่อทำความสะอาดพื้นที่ขนาดใหญ่ หรือคราบฝังลึก ส่วนด้านบนถังเป็นจุกยางที่ดึงเปิดออกเพื่อเติมน้ำเปล่าและน้ำยาลงไป ส่วนวิธีการผสมน้ำยา ดูได้ตามภาพดังต่อไปนี้
การผสมน้ำยาเพื่อทำความสะอาดรอยคราบเลอะขนาดเล็ก (SMALL AREA) ก็เต็มน้ำเปล่าลงไปถึงระดับ WATER (ระดับสีน้ำเงิน) จากนั้นก็เติมน้ำยาสูตร SPOT & STAIN ลงไปเล็กน้อย จนถึงระดับ FORMULA (ระดับสีแดง) จากนั้นเขย่าให้ส่วนผสมเข้ากันก่อนนำไปใช้งาน
ในส่วนของการผสมน้ำยาเพื่อทำความสะอาดรอยคราบเลอะขนาดใหญ่ (LARGE AREA) หรือคราบฝังลึก ก็เต็มน้ำเปล่าลงไปถึงระดับ WATER (ระดับสีน้ำเงิน) จากนั้นก็เติมน้ำยาสูตร SPOT & STAIN ลงไปเล็กน้อย จนถึงระดับ FORMULA (ระดับสีแดง) จากนั้นเติมน้ำยาสูตร OXYGEN BOOST ปริมาณ 1 ออนซ์ ลงไปในถัง (ตวงน้ำยาขนาด 1 ออนซ์ ด้วยสเกลขีดที่อยู่บนฝาขวด) แล้วเขย่าให้ส่วนผสมเข้ากันก่อนนำไปใช้งาน
การใช้งานก็ไม่ได่ยุ่งยากอะไรไปกว่าการใช้งานเครื่องดูดฝุ่นทั่วๆ ไปครับ เริ่มแรกด้วยการถอดม้วนสายไฟที่ม้วนเก็บอยู่ทางด้านหลังตัวเครื่องเพื่อเอาไปเสียบปลั๊ก โดยสายไฟมีความยาวถึง 5 เมตร ก็เพียงพอสำหรับการใช้งาน โดยมีทริคง่ายๆ คือ ตัวเกี่ยวม้วนสายไฟอันบน (ลูกศรชี้) สามารถบิดหมุนลงมาได้เพื่อให้ถอดม้วนสายออกมาจากตัวเครื่องได้ง่ายขึ้น
เสียบปลั๊กไฟเรียบร้อยแล้ว ก็นำตัวเครื่องไปวางไว้ใกล้ๆ จุดที่เกิดคราบสกปรก จากนั้นก็ถอดสายหัวดูดออกมาจากทางด้านหลังตัวเครื่อง แล้วกดปุ่ม Power ทางด้านบนตัวเครื่อง (ลูกศรชี้) เครื่องจะเริ่มทำงานสร้างแรงดูดทันที
แต่ก่อนที่จะเริ่มลงมือดูดคราบสกปรก ให้กดปุ่มสีแดงที่ด้ามมือจับของหัวดูด (ลูกศรชี้) เพื่อฉีดพรมน้ำยาทำความสะอาดให้ทั่วบริเวณคราบ แล้วทิ้งไว้ 5 นาทีเพื่อให้น้ำยาทำปฏิกิริยากับคราบสกปรกก่อนที่เราจะดูดออก
เรามาลองประสิทธิภาพการทำความสะอาดของเครื่องขจัดคราบอเนกประสงค์สำหรับพื้นพรม เบาะ และเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นผ้ากันดีกว่า เราทดสอบโดยการเท น้ำกาแฟ , น้ำผลไม้ และโยเกิร์ต ลงบนเบาะผ้า แล้วเราจะมาดูกันว่า BISSELL SpotClean ProHeat ทำได้ดีแค่ไหน
เทน้ำกาแฟลงบนเบาะผ้า
มาถึงขั้นตอนการดูดคราบกาแฟออกจากเบาะ จะเห็นน้ำกาแฟสีน้ำตาลวิ่งขึ้นมาบนหัวดูดเลย ส่วนขั้นตอนการดูดเต็มๆ ดูได้ในคลิปวิดีโอรีวิวเลยครับ
เมื่อดูดทำความสะอาดเสร็จแล้ว ก็สามารถถอดถังเก็บน้ำทิ้ง (ลูกศรชี้) ออกไปเททิ้งล้างน้ำทำความสะอาดได้
น้ำกาแฟที่ถูกดูดมาเก็บไว้ในถังน้ำทิ้ง
สภาพบนเบาะผ้าหลังจากที่ใช้ BISSELL SpotClean ProHeat ดูดทำความสะอาดคราบกาแฟ แล้วปล่อยทิ้งไว้ให้เบาะแห้ง ไม่เหลือคราบเลอะติดค้างอยู่ ในส่วนของสภาพเบาะหลังผ่านการดูดทำความสะอาดแบบเต็มๆ ก็ดูได้ในคลิปวิดีโอรีวิวเลยครับ
ลำดับต่อมา เทน้ำผลไม้ลงบนเบาะ ลองดูประสิทธิภาพการขจัดคราบน้ำผลไม้กันบ้าง
ลองดูดน้ำผลไม้ที่หกเลอะออกจากเบาะ จะเห็บคราบสกปรกวิ่งขึ้นมาบนหัวดูดเลย ส่วนขั้นตอนการดูดเต็มๆ ก็ดูได้ในคลิปวิดีโอรีวิวเลยครับ
น้ำผลไม้ที่ถูกดูดมาเก็บไว้ในถังน้ำทิ้ง
สภาพบนเบาะผ้าหลังจากที่ใช้ BISSELL SpotClean ProHeat ดูดทำความสะอาดคราบน้ำผลไม้ แล้วปล่อยทิ้งไว้ให้เบาะแห้ง ไม่เหลือคราบเลอะติดค้างอยู่
ลำดับต่อมา ป้ายคราบโยเกิร์ตลงไปบนเบาะผ้า เราจะมาดูกันว่า BISSELL SpotClean ProHeat เจ๋งขนาดไหน
มาถึงขั้นตอนการดูดทำความสะอาดคราบโยเกิร์ตที่เลอะอยู่บนเบาะกันแล้ว จะเห็นว่าคราบโยเกิร์ตบนพื้นผิวโดนดูดหมดเกลี้ยงในการลากหัวดูดผ่านครั้งเดียว และมีคราบโยเกิร์ตเกาะติดหัวดูดพอสมควร ต้องหยุดพักเอาผ้ามาเช็ดโยเกิร์ตออกจากหัวดูดแล้วค่อยทำความสะอาดกันต่อ
โยเกิร์ตที่ถูกดูดมาเก็บไว้ในถังน้ำทิ้ง
สภาพบนเบาะผ้าหลังจากที่ใช้เครื่องขจัดคราบอเนกประสงค์ ดูดทำความสะอาดคราบโยเกิร์ต แล้วปล่อยทิ้งไว้ให้เบาะแห้ง ก็ไม่เห็นว่ามีคราบเลอะติดค้างอยู่ครับ
ต้องบอกว่า BISSELL SpotClean ProHeat มีประสิทธิภาพดีมากในการทำความสะอาดคราบเลอะบนเบาะผ้า
อุปกรณ์ขจัดคราบอเนกประสงค์ สำหรับพื้นพรม เบาะผ้า และเฟอร์นิเจอร์ที่มีพื้นผิวเป็นผ้า ที่มีประสิทธิภาพยอดเยี่ยม ให้เราทำความสะอาดคราบเลอะได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องเสียเงินจ้างให้ใครมาทำให้ และสำหรับบ้าน โรงแรม ห้องพัก หรือคอนโดไหนที่มีพื้นเป็นพรม หรือมีเฟอร์นิเจอร์ผ้าเยอะๆ บอกเลยว่าอุปกรณ์นี้เหมาะมาก
|
ไม่เสพติดไอที แต่ชอบเสพข่าวเทคโนโลยี หาความรู้ใหม่ๆ มาใส่สมอง |