ข้อดี
| ข้อสังเกต
|
การที่กล้องติดรถยนต์ใส่ซิมได้ ก็เพื่อจุดประสงค์ให้ตัวอุปกรณ์มีอินเทอร์เน็ตไว้สำหรับเชื่อมต่อกับมือถือได้ทุกที่ทุกเวลา ทั้งขณะรถจอดหรือรถกำลังวิ่งอยู่ ซึ่งขณะรถจอดก็อาจจะกดเข้าไปดูว่าเราจอดรถไว้ที่ไหน แต่ขณะเรากำลังขับรถก็คงไม่เปิดมือถือเข้าไปดูกล้องหรอกในเมื่อตัวกล้องอยู่แค่เอื้อมเอง ซึ่งฟีเจอร์การใส่ซิมเพื่อใช้งานอินเทอร์เน็ตบนกล้องติดรถยนต์ จุดประสงค์ที่แท้จริงก็คงไม่ใช่การนำกล้องไปใช้เองเป็นแน่ (ถึงแม้ว่าการหาที่จอดรถ จะค่อนข้างสะดวกก็ตาม) น่าจะเป็นเรื่องที่มีรถให้ผู้อื่นใช้และมีกล้องไว้คอยติดตามมากกว่า
และ VANGO SIMS CONNECT เป็นกล้องติดรถยนต์ดังกล่าวที่สามารถใส่ซิมการ์ดได้ในตัว ลองมาดูกันดีกว่าว่าพอกล้องมีอินเทอร์เน็ตในตัวแล้ว สามารถทำอะไรได้บ้าง?
อุปกรณ์ในกล่อง VANGO SIMS CONNECT
ตัวกล้องติดรถยนต์หลักของ กล้องติดรถยนต์ VANGO SIMS CONNECT มาพร้อมขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ พื้นที่หลักๆ ของอุปกรณ์จะเป็นหน้าจอ LCD แบบทัชสกรีนขนาด 3 นิ้ว ซึ่งเมื่อทัชหน้าจอได้ทำให้ปุ่มกดบนตัวกล้องเหลือเพียงแค่ปุ่ม Power เท่านั้น มีช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดขนาด MicroSIM และการ์ด MicroSD ด้านบนมีช่องเอาไว้เสียบ กล้องหลัง (AV IN) อะแดปเตอร์ไฟฟ้า (Mini USB) และ GPS มีพื้นที่ลำโพงอยู่ด้านหลังของตัวกล้อง 3 จุด และด้านล่าง 1 จุด ซึ่งดูเหมือนจะเน้นเรื่องเสียงมากกว่ากล้องติดรถยนต์ทั่วๆ ไป
ด้านข้างจอเป็นเลนส์กล้องหน้าภายใต้กรอบทรงลูกบาศก์สีเงินที่ดูโดดเด่นสวยงาม สามารถปรับหมุนในแนวตั้งได้ประมาณ 330 องศา ตัวเลนส์กว้าง 170 องศา แต่เลนส์ก็ไม่ได้ยื่นนูนออกมาจากกรอบให้กังวล
ในส่วนของตัวฐานยึดกระจกของ กล้องติดรถยนต์ VANGO SIMS CONNECT เขาได้ใช้จุกยางแบบสุญญากาศในการยึดติดกับกระจกรถ มีแผ่นรับสัญญาณ GPS ติดมากับตัวฐานด้วย ติดตั้งง่าย ตัวข้อต่อเป็นแกนหมุนแบบระนาบไม่ได้เป็นหัวบอล จึงไม่ต้องกังวลเรื่ององศาการตั้งกล้องเบี้ยว เพียงติดฐานขนานกับกระจก มุมเส้นขอบฟ้ากล้องก็ตรงเป๊ะ
ฐานยึดกระจกพร้อมแผ่นรับสัญญาณ GPS
กล้องหลังของ กล้องติดรถยนต์ VANGO SIMS CONNECT ก็ไม่ได้มีดีไซน์อะไรมากมายเป็นก้อนลูกบาศก์สีดำ เลนส์มุมกว้าง 140 องศายื่นนูนออกมาเล็กน้อย แต่ก็มาพร้อมกับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 สามารถติดตั้งภายนอกตัวรถไว้ใช้งานได้สบายๆ สายเชื่อมต่อที่ติดมากับตัวกล้องมีความยาวประมาณ 5 เมตร สามารถอ้อมเก็บสายรอบตัวรถทั่วๆ ไปได้สบาย
กล้องหลังมาตรฐาน IP68 กับสายยาว 5 เมตร
สำหรับท่านไหนที่ไม่อยากได้กล้องมองหลังหรือมีกล้องติดรถยนต์ด้านหลังอยู่แล้ว ก็สามารถนำกล้องหลังของ กล้องติดรถยนต์ VANGO SIMS CONNECT มาติดเป็นกล้องภายในห้องโดยสารแทนได้ เช่น สำหรับธุรกิจต่างๆ ที่มีรถไว้ให้พนักงานหรือเจ้าหน้าที่ใช้งาน ก็สามารถติดกล้องไว้เพื่อสังเกตพฤติกรรมของคนขับเพื่อติดตามการทำงาน หรือเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร
ติดกล้องหลังรถ | ติดกล้องในตัวรถ |
ภาพกล้องหลังจากในตัวรถ |
นอกจากหน้าตาแล้ว การใช้งานกล้องติดรถยนต์ VANGO SIMS CONNECT ก็มีอะไรที่น่าประทับใจหลายๆ อย่าง ที่เด่นๆ เลยก็คือระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) ที่การควบคุมแทบทั้งหมดอยู่บนหน้าจอทัชสกรีนและใช้งานได้ง่าย ซึ่งมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง ลองไล่ดูกันไปเรื่อยๆ กัน
ถือว่าเป็น VANGO SIMS CONNECT ถือเป็น กล้องติดรถยนต์ ที่สามารถควบคุมผ่านกล้องได้ง่ายมากๆ ด้วยหน้าจอทัชสกรีนที่มีการตอบสนองดีในระดับหนึ่งบวกกับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ที่มี UI สวยงาม สามารถทำความเข้าใจและใช้งานได้ง่าย เมนูการใช้งานต่างๆ ในหน้าแรกถูกแบ่งสัดส่วนไว้และมีไอคอนบอกชัดเจน อย่างการเข้าไปดูมุมกล้องก็สามารถเปลี่ยนมุมได้โดยการปัดหน้าจอขึ้น-ลง รวมทั้งมีปุ่ม Navigation Keys เหมือนอย่างบนมือถือให้ใช้งานทั้ง Back / Home / Recent Apps กันอย่างคุ้นเคย
หน้าจอระบบปฏิบัติการ Android ที่ UI ดูเข้าใจง่าย มี Navigation Keys ที่คุ้นเคย
|
เสียดายจุดเดียวก็คือหน้าจอของผู้ใช้งาน (User Interface) ในหน้าตั้งค่าที่เรียงกันเป็นพืดไปหน่อย ทำให้ต้องใช้ความแม่นยำของนิ้วในการกดอยู่พอสมควร
หน้าตั้งค่าที่ยังเรียงกันเป็นพืดอยู่
ถ้าเทียบกล้องติดรถยนต์ VANGO SIMS CONNECT กับ VANGO D70 ที่รีวิวไปคราวที่แล้ว ความสวยจากความละเอียดภาพก็คงสู้ไม่ได้ โดยเฉพาะกล้องหลังที่รองรับเพียง 720p เมื่อดูในจอคอมก็จะเห็นความละเอียดที่ส่งผลต่อภาพชัดเจน แต่ก็ถือว่าเป็นความละเอียดที่ใช้งานได้ที่ยังมองเห็นข้อมูลตัวเลขต่างๆ ได้ชัดอยู่
สำหรับกล้องหน้า ถึงแม้จะให้ความละเอียดเพียง 1080p แต่ก็ให้ภาพที่มีรายละเอียดอยู่พอสมควรนะ รวมทั้งตัวกล้องยังรองรับเทคโนโลยี HDR ด้วย ทำให้ภาพที่ได้มีรายละเอียดชัดขึ้น
แต่ในช่วงเวลากลางคืนหรือฟิล์มรถที่ดำมาก ทำให้แสงสว่างน้อยลงส่งผลให้รายละเอียดของการบันทึกภาพน้อยลงเช่นกัน หากเราวิ่งเร็วมากๆ หรือแสงน้อยๆ ภาพก็จะมีความคมชัดน้อย แต่หากเราวิ่งช้าๆ และป้ายบอกทางหรือป้ายทะเบียนรถมีความสว่างเพียงพอ เราก็จะเห็นรายละเอียดเหล่านั้นได้อย่างชัดเจน
ภาพจากกล้องหน้า 1080p ตอนกลางวัน
อีกเรื่องที่น่าสนใจนอกจากคุณภาพไฟล์แล้ว ตัวไฟล์ของกล้องหน้าที่ถูกบันทึกจะมีข้อมูลวันที่ เวลา รวมไปถึงตำแหน่งพิกัดและความเร็วของรถที่จับจาก GPS ระบุให้ทราบกันด้วย ซึ่งถ้าสถานที่ไหนที่เราขับไปแล้วไม่มีสัญญาณ GPS อย่างเช่น ที่จอดรถชั้นใต้ดิน หรือใต้อาคารต่างๆ ตัวไฟล์ก็จะระบุเหลือเพียงแค่วันที่และเวลาเท่านั้น
จุดที่จับสัญญาณ GPS ได้ | จุดที่ไม่มีสัญญาณ GPS |
กล้องติดรถยนต์ VANGO SIMS CONNECT รองรับการ์ดความจำขนาด MicroSD เช่นเดียวกับกล้องติดรถยนต์ทั่วๆ ไป แต่สิ่งที่ต้องคำนึงถึงก็คือ การที่ตัวกล้องต้องบันทึกไฟล์จากทั้งกล้องหน้า (1080p) และกล้องหลัง (720p) พร้อมๆ กัน มาตรฐานของการ์ด MicroSD ที่แนะนำก็ควรจะเป็น Class 10 U3 หรืออย่างน้อยๆ ก็มีความเร็วในการรับส่งข้อมูล 50MB/s ขึ้นไป และตัวกล้องรองรับ MicroSD ความจุสูงสุด 256 GB. กันเลยทีเดียว
MicroSD ของทาง VANGO เองก็สามารถรับ-ส่งข้อมูลได้เร็วถึง 90 MB/s
ตัวกล้องติดรถยนต์ VANGO SIMS CONNECT มีแบตเตอรี่ในตัวที่มีความจุ 800 mAh เมื่อเราดับเครื่องยนต์ กล้องจะเข้าสู่โหมด Sleep ที่สามารถสแตนบายได้นานถึง 24 ชั่วโมงเมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็ม (ทดสอบโดยผู้จำหน่าย) ไว้สำหรับให้โหมดความปลอดภัยขณะจอดรถทำงาน
โดยเซ็นเซอร์ความปลอดภัยของ กล้องติดรถยนต์ VANGO SIMS CONNECT ตัวนี้ รองรับการตรวจจับแรงสั่นสะเทือน Collision ที่สามารถปรับได้ 3 ระดับ ที่เมื่อกล้องตรวจจับการสั่นสะเทือนได้ ไม่ว่าจะเป็นการถูกชนหรือปิดประตูรถ กล้องจะทำการบันทึกวิดีโอเอาไว้ ล็อกไฟล์ และส่งแจ้งเตือนไปยังแอปพลิเคชันมือถือให้เราสามารถกดดูได้ทันที ซึ่งจะปรับระดับมากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับการใช้งานของเราครับ ว่าต้องการให้ตรวจจับอะไร ถ้าซื้อกล้องไปติดรถพนักงานส่งของ การเปิด-ปิดประตูแล้วมีแจ้งเตือนขึ้น ก็ทำให้เราเข้ามาเช็คได้ว่า พนักงานไปถึงที่หมายแล้วหรือยัง?
เซ็นเซอร์ตรวจสอบการกระแทกปรับได้ 3 ระดับ
|
โดยปกติแล้วเราจะเซ็ตค่ากล้องหรือดูคลิปที่บันทึกไว้ได้ผ่านตัวกล้องโดยตรง หรือนำการ์ดที่บันทึกไปเปิดในคอมพิวเตอร์ รุ่นใหม่ๆ ขึ้นมาหน่อยก็สามารถดูผ่านแอปพลิเคชันมือถือได้ โดยการเชื่อมต่อกับ Wi-Fi Direct เมื่อเราอยู่ในรถหรืออยู่ใกล้ๆ กับตัวกล้อง แต่พอกล้องติดรถยนต์ VANGO SIMS CONNECT สามารถใส่ซิมการ์ดเพื่อให้มีอินเทอร์เน็ตในตัวได้ ทำให้เราสามารถใช้มือถือเชื่อมต่อกับกล้องผ่านแอปพลิเคชันได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม
สำหรับเครือข่ายที่ กล้องติดรถยนต์ VANGO SIMS CONNECT รองรับจะเป็นเฉพาะเครือข่าย 3G บนคลื่น 900 / 2100MHz (ตามที่ผู้จำหน่ายแจ้ง) เราสามารถเลือกใช้ MicroSIM แบบ NET SIM 3G มาใช้ได้เลย แต่ก็ต้องตรวจสอบกับทางผู้ให้บริการว่าคลื่นที่ให้บริการ 3G รองรับกับตัวกล้องติดรถยนต์ด้วยหรือไม่ครับ
เรามีปัญหานิดหน่อยตอนที่ใส่ซิมการ์ด (เป็นพวกไม่ค่อยอ่านคู่มือ) คือ ช่องใส่ซิมการ์ดบน VANGO SIMS CONNECT จะไม่เหมือนกับอุปกรณ์ส่วนใหญ่ที่ใส่ซิมได้ในตลาด ที่ในกล้องรุ่นนี้ต้องหันมุมตัดออกมาด้านนอก ซึ่งปกติแล้วจะต้องหันเข้าด้านใน ซึ่งใครที่ใส่ซิมแล้วใช้งานไม่ได้ ลองสำรวจซิมการ์ดดูนะครับ
นอกจากฟีเจอร์พิเศษทั้งหลายแล้ว กล้องติดรถยนต์ VANGO SIMS CONNECT ก็มีฟังก์ชั่นการใช้งานของกล้องติดรถยนต์ทั่วๆ ไปให้ใช้กัน ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มใช้งานพร้อมบันทึกภาพเมื่อสตาร์ทรถและเข้าสู่โหมด Sleep เมื่อดับเครื่อง มีโหมดพักหน้าจอเพื่อประหยัดแบตเตอรี่และไม่รบกวนสายตาขณะขับรถ มีโหมดบันทึกแบบวนทับเพื่อให้สามารถบันทึกภาพได้เรื่อยๆ โดยที่ความจุการ์ดไม่เต็ม
แอปพลิเคชันที่ใช้งานร่วมกับ VANGO SIMS CONNECT มีชื่อว่า Car Assist Go! ซึ่งมีให้ดาวน์โหลดใช้งานทั้งบน iOS (Apple Store) และ Android (Google Play Store) ทีนี้การจะใช้งานเราต้องเชื่อมต่อแอปพลิเคชันกับกล้องด้วยบัญชีออนไลน์ก่อน ซึ่งสามารถสมัครได้ในแอปพลิเคชัน จะกรอกข้อมูลสมัครใหม่ก็ได้ หรือเชื่อมต่อกับบัญชี Facebook ก็ได้
หลังจากนั้นก็ทำการเชื่อมต่อกล้องติดรถยนต์กับแอพพลิเคชัน Car Assist Go! โดยการให้กล้องและมือถือต่อ Wi-Fi วงเดียวกัน หรือจะเปิด Hotspot ของตัวกล้อง เพื่อให้มือถือเกาะ Wi-Fi Direct ในการเชื่อมต่อก็ได้
ทีนี้เมื่อเชื่อมต่อกล้องกับแอพพลิเคชันบนมือถือเรียบร้อยแล้ว เราก็สามารถเรียกดูกล้องผ่านแอปพลิเคชัน Car Assist Go! ที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้ ตราบเท่าที่กล้องมีสัญญาณอินเทอร์เน็ต 3G และมีแบตเตอรี่อยู่* โดยเมนูที่ใช้งานระยะไกลจะอยู่ในแถบการมอนิเตอร์ (Monitor)
*แบตเตอรี่กล้องจะอยู่ได้ประมาณ 24 ชั่วโมงหลังจากที่ชาร์จจนเต็ม คือถ้าเราจอดรถทิ้งไว้ไม่ได้สตาร์ทรถไปไหนหลายๆ วัน แบตเตอรี่กล้องก็อาจจะหมดได้
นั่งอยู่ในออฟฟิสก็ดูเรียกดูกล้องจากแอปพลิเคชันมือถือได้
ในแถบเมนูมอนิเตอร์ (Monitor Tab) สิ่งที่เราทำได้ประกอบไปด้วยได้แก่
|
| |
จากการลองๆ ใช้งาน ฟีเจอร์มอนิเตอร์ ทางไกล ก็ถือว่าสะดวกดีกับจุดประสงค์ในการใช้งาน ที่กล่าวไปในเบื้องต้นในเรื่องของการติดตามตัวรถผ่านมือถือ อย่างในด้านการรักษาความปลอดภัยหากจอดรถไว้ไกลหูไกลตา ที่จะมีแจ้งเตือนตั้งแต่รถถูกกระแทกหรือมีใครมางัดแงะแล้วสตาร์ทรถเราก็จะรู้ได้ทันทีผ่านแจ้งเตือนบนมือถือ จากนั้นก็สามารถรีโมทเข้ามาดูกล้องในตัวรถได้เลย
หรือถ้าหากต้องการจะนำไปประยุกต์ใช้กับรถพนักงานส่งของ เราก็สามารถติดตามการทำงานของลูกน้องได้ จากแรงสั่นสะเทือนของการเปิด-ปิดประตูรถ เช็คตำแหน่ง รีโมทเข้าไปดูกล้องเพื่อตรวจสอบสถานที่ ไปจนถึงการสื่อสารด้วยเสียงผ่านตัวกล้อง แต่ก็มีข้อจำกัดเล็กๆ ที่การดูกล้องสดรวมทั้งการสื่อสารอาจจะมีอาการดีเลย์ 3 - 5 วินาที ซึ่งน่าจะเป็นข้อจำกัดของความเร็วอินเทอร์เน็ตที่ยังคงรองรับเครือข่าย 3G เท่านั้น
การเชื่อมต่อแอปพลิเคชันมือถือกับกล้องด้วยเมนู DVR ก็เหมือนเราย้ายหน้าจอกล้องมาไว้บนมือถือนั่นแหละ เราสามารถดูมุมมองภาพจากทั้งกล้องหน้า/กล้องหลังผ่านจอมือถือได้ สั่งจับภาพหรือบันทึกวิดีโอได้ รวมทั้งเข้าถึงโลเคชั่นของเราและรถผ่านแผนที่ได้ด้วย
การเก็บไฟล์ข้อมูลคลิปหรือภาพที่บันทึกจะอยู่ในเมนู DVR File โดยจะบันทึกทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังพร้อมๆ กัน ไว้ในที่เดียวกัน แยกออกเป็น 4 แท็บ ได้แก่
แต่ทีนี้นอกจาก DVR File แล้ว ไฟล์อีกส่วนหนึ่งจะถูกเก็บไว้ในเมนู Phone Files ด้วย โดยถ้าเราสั่งให้จับภาพ/วิดีโอผ่านแอปพลิเคชั่นบนมือถือหรือโอนภาพจากกล้องมาที่มือถือ ไฟล์ที่บันทึกก็จะถูกเก็บไว้ใน Phone Files แทน DVR File
เป็นอีกหนึ่งทีเด็ดของกล้องติดรถยนต์ VANGO SIMS CONNECT ตัวนี้เลยก็ว่าได้ ที่เราสามารถติดตามดูย้อนหลังได้ว่า รถคันที่ติดกล้องดังกล่าวในช่วงเวลานั้นๆ ไปไหนมาบ้างด้วยการติดตามผ่านระบบ GPS Tracking ที่เป็นเมนูอยู่ในหน้าโปรไฟล์ (Me) ภายในแอปพลิเคชัน Car Assist Go!
โดยเราสามารถเลือกดูวันย้อนหลังผ่านปฏิทิน ดูเส้นทางที่ปรากฏในแผนที่แต่ละวันว่ารถได้ขับผ่านทางไหนบ้าง และเลื่อนแถบสไลด์ (Slide Bar) เพื่อดูว่าเวลานั้นๆ ตำแหน่งของรถอยู่ที่ใดบนเส้นทาง ซึ่งเหมาะมากสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการติดตามการทำงานของพนักงานขนส่ง/ขับรถ แต่ถ้ามีครอบครัวไหนจะนำฟีเจอร์นี้ไปใช้ ก็อาจจะตอบโจทย์ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้ดีแหละ
ซึ่งข้อมูลของการติดตามย้อนหลังนี้ จะถูกเก็บไว้ในคลาวด์ส่วนตัวของทางแอปพลิเคชันที่ใช้งานฟรี และเก็บได้นาน สามารถย้อนหลังมาดูเมื่อไหร่ก็ได้ครับ
หน้าโปรไฟล์ผู้ใช้ (Me) | เลือกวันดูย้อนหลังได้ | เลื่อน Silde barติดตามรถในช่วงเวลาต่างๆ |
เป็นทางเลือกที่ดีในการปรับตั้งค่าต่างๆ ของ กล้องติดรถยนต์ VANGO SIMS CONNECT เพราะถึงแม้ว่าอุปกรณ์จะใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ที่ใช้งานง่าย และมีหน้าจอทัชที่ใช้งานได้ดีในระดับหนึ่ง แต่หน้าตั้งค่าบนตัวกล้องก็มีหน้าตาเป็นรายการเรียงกันเป็นตับอย่างที่กล่าวไปข้างต้น เพราะฉะนั้นการมาเซ็ตง่ายๆ ผ่านการเชื่อมต่อ DVR กับแอปพลิเคชันมือถือที่มีเมนูการตั้งค่าไม่ต่างกับตัวกล้องเลย ก็ถือว่าสะดวกกว่ามากทีเดียว
ถ้าดูในด้านฟังก์ชั่นแล้วของการเชื่อมต่อกับมือถือในระยะไกลแล้วก็น่าสนใจไม่น้อยสำหรับกล้องติดรถยนต์ VANGO SIMS CONNECT ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้งานต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นการหาตำแหน่งที่จอดรถ หรือให้กล้องส่งภาพมายังมือถือเพื่อดูบรรยากาศรอบๆ สถานที่ที่เราจอดรถ หรือจะเอาไว้ติดตามรถขนส่งของพนักงานว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน จับแรงสั่นสะเทือนจากอุบัติเหตุหรือจากการเปิด-ปิดประตูเพื่อติดตามการทำงาน ใช้กล้องตรวจสอบสถานที่และสื่อสารกับพนักงาน หรือติดตามดูการเดินทางย้อนหลัง ก็ดูน่าสนใจอยู่ไม่น้อย
ส่วนในด้านประสิทธิภาพการทำงาน กล้องติดรถยนต์ VANGO SIMS CONNECT ก็ให้มาตรฐานของกล้องติดรถยนต์มาอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้ง หรือเปิดใช้งานได้ง่าย มีระบบพักหน้าจอ มีแบตเตอรี่ในตัวสำหรับการทำงานระหว่างจอดรถ มีเซ็นเซอร์ตรวจวัดแรงกระแทกและล็อกไฟล์ที่บันทึก มีระบบบันทึกวนทับ แถมมากับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ที่ใช้งานได้ง่ายกว่าระบบทั่วๆ ไปของกล้องติดรถยนต์ในตลาด ก็เป็นอะไรที่น่าดึงดูดใจอยู่
|
... |