DJI Pocket 2 - Magic At Hand เป็นชื่อที่นิยามให้กับกล้องวิดีโอกันสั่นขนาดพกพารุ่นที่ 2 ของทาง DJI หลังจากที่รุ่นแรกเปิดตัวในตลาดเมื่อ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2561 (ค.ศ. 2018) และสร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการกล้องวิดีโอขนาดพกพาไปพอสมควรกับ อุปกรณ์สำหรับถ่ายวิดีโอที่มีขนาดเล็กมากและมีกันสั่นแบบ 3 แกนภายในตัว ด้วยราคาที่เข้าถึงง่าย
แต่เมื่อผลิตภัณฑ์รุ่นแรกอย่าง DJI Osmo Pocket ออกมาลองตลาดอยู่ 2 ปี ก็มีเสียงตอบรับมากมายทั้งทางบวกและทางลบ และแล้วก็ถึงเวลากลับมาลุยตลาดอีกครั้งโดยทาง DJI ได้เปิดตัว DJI Pocket 2 กล้องกิมบอลจิ๋วขนาดเท่าฝ่ามือรุ่นต่อไปในวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2563 (ค.ศ. 2020) มาดูกันว่า รุ่นใหม่นี้ มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง
ในรุ่นนี้ ใช้ชื่อใหม่ว่า DJI Pocket 2 ซึ่งตัดคำว่า 'Osmo' ออกไปจากชื่อเก่า Osmo Pocket ซึ่งเอาจริงๆ แล้วเราก็ไม่รู้เหตุผลหรอก แต่จากความหมายของคำว่า Osmo ก็คงพอเดาๆ ได้
ชื่อใหม่ DJI Pocket 2
ภาพจาก https://www.dji.com/pocket-2
โดยคำว่า Osmo จัดเป็นคำนำหน้า หรือ "Prefix" มีความหมายว่า "กลิ่นอาย" ในความเห็นของผู้เขียน Osmo Pocket ก็แปลว่า กลิ่นอายของการพกพา ซึ่งถือเป็นปฐมบทของกล้องวิดีโอพกพาตัวนี้ที่สร้างปรากฏการณ์มาแล้วหลังจากที่เปิดตัว และได้ชื่อว่ากล้องวิดีโอที่มีกันสั่นแบบสามแกนที่มีขนาดเล็กมากๆ ในรุ่นถัดมาอย่าง DJI Pocket 2 จึงไม่ต้องพูดถึงกลิ่นอายแล้ว แต่เป็นกล้องวิดีโอพกพา (Pocket) จาก DJI ที่แท้จริง
ถึงแม้จะดูเป็นกิมมิกดีไซน์ที่สวยงาม แต่จริงๆ แล้วน่าจะมีประโยชน์อยู่ไม่น้อย ใครที่เคยใช้ Osmo Pocket ในการถ่ายวิดีโอมักจะประสบปัญหาเดียวกันก็คือ ขนาดของตัวกล้องที่เล็กเกินไปจนไม่สามารถดึงความคนใจของคนที่ถูกถ่ายได้ การหยิบกล้อง Osmo Pocket ขึ้นมาถ่ายทำให้ไม่ถูกสังเกตเห็น อาจจะเป็นข้อดีของการถ่ายแบบทีเผลอ (Candid) และก็เป็นข้อเสียของการถ่ายแบบมีพิธีกรเช่นกันที่มองหาตัวกล้องไม่เจอ ถึงแม้ว่าจะต่อใช้งานกับมือถือ ก็กลายเป็นว่าพิธีกรมองหาเลนส์มือถือซะงั้น
กรอบสีแดงรอบเลนส์
ภาพจาก https://www.dji.com/pocket-2
ซึ่งการมีกรอบสีแดงล้อมรอบเลนส์ก็น่าจะช่วยเป็นจุดสังเกตเวลาถ่ายวิดีโอได้เป็นอย่างดีสำหรับกล้องขนาดเล็กอย่าง DJI Pocket 2
กล้องกันสั่น กล้องจิ๋ว DJI Pocket 2 มีการอัปเกรดคุณภาพของภาพให้ดีขึ้น โดยประกอบไปด้วย
คุณภาพของภาพดีขึ้น
ภาพจาก https://www.dji.com/pocket-2
ซึ่งสิ่งที่อัปเกรดเหล่านี้จะช่วยให้คุณภาพจองวิดีโอมีเนื้อที่ละเอียดขึ้น มีมุมมองภาพที่กว้างขึ้น สามารถรับแสงในสภาพแสงน้อยได้มากขึ้น และแสดงรายละเอียดภาพในบริเวณที่มืดหรือสว่างเกินไปได้มากขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่ได้อัปเกรดก็คือความละเอียดสูงสุดของวิดีโอยังอยู่ที่ 4K / 60fps เท่าเดิม
โหมด HDR
ภาพจาก https://www.dji.com/pocket-2
การใช้งานไมค์ในตัวของ กล้องกันสั่น กล้องจิ๋ว Osmo Pocket เป็นอีกหนึ่งความเจ็บปวดของแฟนๆ ที่ต้องหาไมค์อื่นๆ มาเป็นอุปกรณ์เสริมในการใช้งาน เพราะไมค์ของรุ่นแรกรับเสียงไม่ดีเท่าที่ควร ในรุ่นนี้จึงเพิ่มไมค์ออกมาเป็น 4 ตัวด้วยกัน เพิ่มจากรุ่นเดิม 2 ตัว
นอกจากปริมาณแล้ว คุณภาพของไมค์ก็ถูกเพิ่มฟังก์ชั่นเข้าไปด้วย โดยระดับในการรับเสียงของไมค์แต่ละตัวจะถูกปรับตามทิศทางที่ตัวเลนส์หันไป และจะปรับองศาในการรับเสียงให้แคบลงตามการซูมของเลนส์กล้องด้วย ทำให้เสียงหลักชัดขึ้นและเสียงบรรยากาศรอบๆ ลดลง (คล้ายๆ กับฟังก์ชั่นไมค์ซูมของมือถือ Samsung Galaxy Note 10/20 หรือ iPhone 11 Pro)
ไมค์ปรับเปลี่ยนตามทิศทางเลนส์
ภาพจาก https://www.dji.com/pocket-2
อย่างไรก็ตามหวังว่า คุณภาพเสียงจากไมค์ในตัวจะดีขึ้นกว่ารุ่นที่แล้ว แต่กล้องก็ยังมีทางเลือกให้ใช้ไมค์เสริมได้เช่นเดียวกัน
การถ่ายวิดีโอของ กล้องกันสั่น กล้องจิ๋ว DJI Pocket 2 ไม่จำเป็นต้องเป็นมุมกว้างเสมอไป โดยในโหมดความละเอียด 64 ล้านพิกเซล กล้องสามารถซูมได้ถึง 8x และในโหมด 16 ล้านพิกเซล (หรือ 1080p) กล้องสามารถซูมได้ถึง 4x โดยที่ไม่เสียรายละเอียด รวมทั้งระบบโฟกัสที่ทำงานได้ดีขึ้นกว่ารุ่นที่แล้ว และการเปิดกล้องกับระบบกันตกที่ถูกอัปเกรดให้ทำงานเร็วขึ้นเช่นกัน
ซูมได้ถึง 8x
ภาพจาก https://www.dji.com/pocket-2
ดีไซน์ของ กล้องกันสั่น กล้องจิ๋ว DJI Pocket 2 ก็ไม่ได้เหมือนเดิมไปเสียทุกอย่าง โดยด้านใต้ของด้ามจับตัวเครื่องสามารถถอดเปลี่ยนไปใช้ชุดอุปกรณ์อื่นๆ ขึ้นอยู่กับการใช้งานได้ ไม่ว่าจะเป็นฐานเสียบขาตั้งแบบ 3 -า (Tripod), โมดูลสำหรับเชื่อมต่อเครือข่ายไวไฟ (Wi-Fi) หรือบลูทูธ (Bluetooth), ลำโพงสปีกเกอร์, พอร์ต 3.5 มิลลิเมตร และ ตัวรับสัญญาณไมค์ไร้สาย (Wireless Microphone Receiver)
ซึ่งชุดคิทเหล่านี้ ทาง DJI มีตัวเลือกให้ซื้อเพิ่มเติมจากเซ็ตปกติ 349 เหรียญสหรัฐ เป็น 499 เหรียญสหรัฐ ที่เพิ่มเติมอุปกรณ์เสริมได้แก่
ความแตกต่างระหว่าง 2 ชุดเซ็ต
ภาพจาก https://www.dji.com/pocket-2
ถ้าดูในแง่ของการใช้งานแล้ว DJI Pocket 2 ก็มีหลายๆ จุดที่ถูกอัปเกรดเพื่อแก้ปัญหาในรุ่นแรก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความละเอียดภาพ หรือไมค์ของตัวกล้อง และมาพร้อมลูกเล่นต่างๆ เพิ่มเติมอยู่ไม่น้อย ซึ่งจะดีขึ้นจริงหรือเปล่าหรือดีขึ้นขนาดไหน คงต้องรออุปกรณ์ออกสู่ตลาดมาให้ทดลองใช้กันจริงๆ
อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่สนใจกล้องกิมบอลตัวจิ๋วนี้แต่กลัวที่จะใช้รุ่นลองตลาดอย่างรุ่นแรก รุ่นที่สองอย่าง DJI Pocket 2 ก็แลดูให้เห็นความใส่ใจของทางแบรนด์ ปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด น่าลองสอยมาใช้งานอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน
|
... |