เมื่อได้ชื่อว่าเป็น "โปรเจคเตอร์พกพา (Portable Projector)" หลายๆ คน ก็จะนึกถึงการใช้งานได้ทุกสถานที่ ไม่ว่าจะไปเที่ยว ไปทำงานก็เอาติดตัวไว้ได้ให้ชีวิตไม่น่าเบื่อ และคุณสมบัติที่ขาดไม่ได้ก็ คือ ขนาดและดีไซน์ที่ต้องเหมาะสมแก่การพกพา ซึ่งนอกจากนี้สิ่งสำคัญอีกอย่าง ก็คือ ตัวเครื่องควรจะมีแบตเตอรี่ในตัวที่รองรับการใช้งานได้ยาวนานด้วย
ซึ่ง โปรเจคเตอร์พกพา BenQ GV1 โปรเจคเตอร์พกพาที่เราเอามารีวิวในบทความนี้ บอกเลยว่ามีครบทุกอย่าง แถมยังมาพร้อมกับฟีเจอร์รองรับการเชื่อมต่อไวไฟ (Wi-Fi Connection) ที่ขาดไม่ได้ รวมถึงสามารถแปลงโฉมกลายเป็นลำโพงบลูทูธ (Bluetooth Speaker) เพื่อที่จะให้เปิดเพลงผ่านโทรศัพท์มือถือได้อีกด้วย
และถ้าใครอยากดูหนังผ่านแอปสตรีมมิงชื่อดังอย่าง Netflix หรือ YouTube และอื่นๆ อีกมากมายก่ายกอง เครื่องนี้ก็ยังรองรับการติดตั้งแอปพลิเคชันได้ในตัวเช่นกันครับ ถ้าเริ่มสนใจแล้วเนี่ย ไม่ต้องอ่านก็ได้นะ ไปซื้อเลย ... แต่ถ้าติดใจอะไร ก็สามารถอ่านรีวิวเราเพิ่มได้อีกหน่อย เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจครับ
ข้อดี
| ข้อสังเกต
|
ขนาดมิติ (มิลลิเมตร) Dimension (mm.) | 80 x 155 x 80 |
น้ำหนัก (กรัม) | 708 |
ความสว่างของภาพ (Brightness) | 200 ANSI Lumens |
แสงภาพ (Light Source) | Osram Q9 LED |
อายุการใช้งานของการฉาย (Light Source Life ) | 20,000/30,000 hrs (Normal/Eco) |
อัตราส่วนคอนทราสต์ (Contrast Ratio) | 100,000:1 |
อัตราส่วนภาพ (Native Aspect Ratio) | 16:9 |
ลำโพง (Speaker) | 5W Chamber x 1 |
ระบบการฉายภาพ (Projection System) | DLP 3430 |
ความละเอียดภาพ (Resolution) | 480p (854 x 480 Pixels) |
ความละเอียดสีภาพ (Contrast Ratio FOFO) | 16.7 ล้านสี |
ระยะการฉาย (Throw Ratio) | 1.3 เมตร |
ขนาดภาพ Projection Size (Clear Focus / Maximum) | 30"~100" นิ้ว |
ระบบปฏิบัติการ (OS) | Android 7.1.2 |
การเชื่อมต่อ (Connectivity) |
|
แบตเตอรี่ (Battery) | สำหรับใช้งาน 3 ชั่วโมง |
การใช้งานอื่นๆ (Others) |
|
โปรเจคเตอร์แบบพกพา BenQ GV1 นั้นมาพร้อมอุปกรณ์ต่างๆ หลายอย่างเหมือนกันนะ หนึ่งในนั้นก็จะมีถุงใส่เครื่องน่ารักๆ สำหรับหิ้วไปมา พกพาได้สะดวก ซึ่งภาพลักษณ์ก็จะเหมือน กระติกน้ำขนาดเล็ก ประมาณนั้น
และภายในกล่องก็จะมีทั้งอแดปเตอร์พร้อมหัวแปลงหลายรูปแบบ หรือหลาย Type (เพื่อใช้กับปลั๊กต่อพ่วงตามโซนประเทศต่างๆ ) นอกจากนี้ก็ยังมีรีโมทควบคุม รวมถึงมีสาย USB-C และสายแปลง HDMI อยู่ในกล่องแถมมาให้ด้วย
อย่างที่บอกว่าเหมือน "กระติกน้ำขนาดเล็ก" ดีไซน์ของ โปรเจคเตอร์แบบพกพา BenQ GV1 จึงเป็นรูปทรงกระบอกสีเงิน ขนาดกะทัดรัด มีน้ำหนักเพียงแค่ 708 กรัมเท่านั้น (เบามาก) ไม่ลำบากแบกให้เมื่อย แม้ต้องพกไปต่างบ้าน ต่างสถานที่
ตัวเครื่องจะแบ่งหน้าตาเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ 'ส่วนหัว' ที่ประกอบด้วยเลนส์ฉายภาพ, ปุ่มควบคุมนั้นเป็นแบบสัมผัสทั้งหมด และเราสามารถปรับองศาการฉายขึ้นลงได้ 15 องศา ด้านข้างก็จะมีเกลียวปรับระยะโฟกัสในการฉายภาพ และด้านหลังมีช่องลมระบายความร้อนให้ด้วย
ปรับองศาขึ้นลงได้ 15 องศา
'ส่วนท้าย' ก็คือฐาน ที่ประกอบด้วย ลำโพงและพอร์ตเชื่อมต่อแบบเดียวคือ USB-C มาพร้อมกับช่องจ่ายไฟอแดปเตอร์
นอกจากนี้หากพลิกใต้เครื่องดู เราจะพบกับช่องเอาไว้ติดตั้งใช้งานร่วมกับขาตั้งแบบ 3 ขา (Tripod) หรือพวกขาตั้งกล้องอีกประเภทหนึ่ง ซึ่งก็ง่ายๆ ถ้าเราหาจุดตั้งเครื่องที่เหมาะสมไม่ได้ ก็ใช้ขาตั้งช่วยเอา
โปรเจคเตอร์พกพา BenQ GV1 ออกแบบมาเพื่อเน้น ใช้งานง่าย เคลื่อนย้ายสะดวก ดังนั้นเราไม่จำเป็นต้องมีจอโปรเจคเตอร์ใหญ่ๆ มาใช้ฉายภาพเลย เพียงเอาไปตั้งหันหน้าหากำแพงสีขาวในบ้าน หรือ ถ้าพกไปเที่ยวก็มองหาทำเลดีๆ แล้วอัดเข้ากำแพงไปเลย
ในส่วนของความละเอียดภาพนั้น ครั้งแรกพอเห็นสเปก หลายคนก็คงจะคิดเหมือนผม "น้อยจังวะ" เพราะความละเอียดจะอยู่ที่ 480p (854 x 480 Pixels) เท่านั้น แต่เมื่อเปิดดูจริงๆ ก็อยากบอกว่าถ้า BenQ จะเขียนว่า 720p ก็ไม่ว่านะครับ เพราะมันดีกว่าที่คิด
แสงภาพของ โปรเจคเตอร์แบบพกพา BenQ GV1 นั้นเป็นแบบ LED สามารถให้ความสว่าง 200 ANSI Lumens ให้แสงมากพอในความมืด ขณะเดียวกันเมื่ออยู่ในที่สว่างก็อาจไม่ได้อรรถรสเท่าที่ต้องการ ซึ่งถ้าเราไม่ได้ขยายภาพใหญ่จนเกินไปก็ยังพอเห็นรายละเอียดชัด แต่มันก็ขึ้นอยู่กับว่า ใครชอบแบบไหน ถ้าอยากได้จอใหญ่ ภาพก็อาจแตก แต่ถ้าอยากได้ความชัด จอก็ไม่ใหญ่ ซึ่งรุ่นนี้จะรองรับภาพสูงสุดอยู่ที่ 100" (นิ้ว) ใหญ่กว่านั้น ภาพก็ยิ่งเบลอ มากขึ้น
ขณะที่ระยะห่างการฉายภาพ (Throw Ratio) อย่างมีประสิทธิภาพ ตามสเปคคือ 1.3 เมตร ถึงดูใกล้ๆ แต่โดยรวมก็เหมาะกับสายพกพาอยู่แล้ว
ในเรื่องของระบบเสียงก็ถือว่าใช้ได้ หากให้อธิบาย ผมคงพรรณามากไม่ได้ (ไปลองฟังเสียงใน คลิปรีวิวดู) เอาเป็นว่าเสียงก้องกังวาน ฟังเพลินๆ ลำโพงไม่ห่วยแค่นั้นพอ นอกจากนี้เรายังสามารถปรับโหมดใช้เสียง สำหรับดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม ดูกีฬา ได้ด้วย แล้วแต่การใช้งานของแต่ละคนเลย
เชื่อมได้ทั้ง iOS / Mac / Android / PC
ในด้านการเชื่อมต่อ โปรเจคเตอร์แบบพกพา BenQ GV1 ก็สามารถรองรับทั้งแบบไร้สายและมีสาย เมื่อดูที่หน้าหลัก เราจะพบกับฟังก์ชันซึ่งเผยให้เห็นอุปกรณ์ที่สามารถเชื่อมต่อแบบไร้สายกับโปรเจคเตอร์เครื่องนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็น PC, Android, iOS และ MacOS ก็ส่งสัญญาณขึ้นไปยังจอโปรเจคเตอร์ได้เลยผ่านการเชื่อมต่อ Wi-Fi วงเดียวกัน
แชร์สกรีนจากมือถิอไป โปรเจคเตอร์
อย่างไรก็ตามหากจะสตรีมผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือทั้งหลาย บางแอปพลิเคชันจะไม่สามารถทำได้ เช่น Netflix หรือ HBO GO เป็นต้น เพราะลิขสิทธิ์ แต่เราแก้ปัญหาได้ด้วยการเปิดแอปจากตัวเครื่องแทนนั่นเอง
ขณะที่การเชื่อมต่อไร้สายนั้น อย่างที่บอกไว้ว่าในกล่องมีแถมสาย USB-C to USB-C และสาย USB-C to HDMI มาให้ด้วย ดังนั้นถ้าเราจะเชื่อมกับอุปกรณ์ต่างๆ เหมือนโปรเจคเตอร์เครื่องใหญ่ๆ เพื่อดูหนัง เล่นเกม หรือ พรีเซนต์งานก็สามารถทำได้หมดเลยครับถ้ามีอุปกรณ์แปลงสาย
ต่อกับเครื่อง Play Station 4 ได้ด้วย
โปรเจคเตอร์แบบพกพา BenQ GV1 สามารถดูหนังติดต่อกันได้ยาวนานถึง 3 ชั่วโมง ซึ่งเอาเข้าจริงๆ ก็รู้สึกว่ามันไม่ตรงตามเคลมเท่าไหร่ (เพราะใช้ได้นานกว่าที่เคลมไว้อีก 555 ) อย่างไรก็ตามหากเราใช้โดยไม่เสียบสายอะแดปเตอร์ชาร์จไฟไว้ ก็จะไม่สามารถเลือกโหมดความสว่างของแสงต่างๆ ทั้ง Light Mode, Eco Mode, Battery Mode หรือ Normal Mode และแสงก็จะดรอปลงเพื่อเป็นการประหยัดแบตเตอรี่ให้เองอัตโนมัติ ทำให้ภาพอาจดูดรอปลงไป แต่เอาเข้าจริงๆ ก็แตกต่างก็ไม่มากเท่าไหร่นะ
โปรเจคเตอร์พกพา BenQ GV1 มีการใช้ระบบ Android ซึ่งก็เหมือน Smart TV ทั่วไปที่มีแอปพลิเคชันสตรีมหนัง ฟังเพลง มากมายให้ติดตั้งใช้งาน อย่าง YouTube, Amazon Prime Video, Google Play Movies, HBO GO, Disney+ รวมถึง Netflix ด้วย และยังมีพื้นที่ในการติดตั้งไฟล์มาให้บนตัวเครื่องถึง 5 GB. ซึ่งเพียงพอต่อการติดตั้งแอปพลิเคชันต่างๆ อยู่แล้ว
แต่ทั้งนี้ โปรเจคเตอร์แบบพกพา BenQ GV1 มันก็มีข้อจำกัด ในเรื่องของการรันแอปพลิเคชันบางตัว นั่นเพราะแอปฯ ที่กล่าวมาทั้งหมดไม่ได้มาจากการติดตั้งผ่าน Google Play Store โดยตรง แต่เป็นร้านค้าที่มีชื่อว่า Aptoide TV ทำให้ถึงแม้เราจะติดตั้งแอปได้ แต่เวอร์ชันบนเครื่องกลับไม่รองรับเสียอย่างนั้น บางแอปเลยเปิดไม่ขึ้นเช่น Netflix ซึ่งวิธีแก้ คือ เราต้องดาวน์โหลดไฟล์ APK มาติดตั้งแทนครับ
ติดตั้งได้ แต่เข้าแอปแล้วขึ้นแบบนี้
ในการติดตั้งแอปพลิเคชันเสริมจากข้างนอก (3rd Party Application Installation) นั้นถ้าหากใครไม่มี USB Flash Drive หรือ USB Reader เพื่อเอาไฟล์ APK มาลง ก็สามารถหาแอปพลิเคชัน Cloud Storage ที่มีอยู่ภายใน Aptoide TV มาใช้แทนได้ เพื่อเอาไว้โยนไฟล์มาติดตั้งบนเครื่อง เช่น Dropbox หรือ File Commander ซึ่งทั้งสองตัวนี้สามารถเชื่อมต่อกับบัญชี Google Drive ได้ด้วย ทีนี้การโยนไฟล์มาติดตั้ง ก็ง่ายนิดเดียว ส่วนวิธีอย่างละเอียดให้ดูตามภาพ
ลงแอป Dropbox บนเครื่องผ่าน Aptoide TV
ดาวน์โหลดไฟล์ Netflix แบบ APK มาใส่ไว้บนบัญชี Dropbox
กดติดตั้งผ่านไฟล์บนแอป Dropboxได้เลย
เช่นเดียวกัน โหลดแอป File Commander จาก Aptoide TV
โยนไฟล์ APK ใส่ Google Drive และเปิดผ่านแอป File Commander บนเครื่องเพื่อติดตั้งได้เลย
สำหรับไฟล์ APK แนะนำว่าหาแอปที่เป็นเวอร์ชันเก่าๆ หรืออย่าง Netflix เนี่ย ถ้าเป็นเวอร์ชันที่ผมใช้งานอยู่บนเครื่องโปรเจคเตอร์แบบพกพา BenQ GV1 ที่หน้าเว็บไซต์ของ Netflix เขามีให้ดาวน์โหลดมาติดตั้งได้เลยตามลิงก์ด้านล่าง
หาโหลดไฟล์ APK ที่รองรับไม่ได้ ก็โหลดจากเว็บไซต์ของ Netflix ได้เลย
นอกจากตัวรีโมทคอนโทรล (Remote Control) ที่เขาแถมมากับกล่อง ก็ยังมีแอปพลิเคชัน BenQ Smart Control สำหรับใช้ควบคุมผ่านสมาร์ทโฟนได้ด้วย ฟังก์ชันและหน้าตาการใช้งานก็จะคล้ายกับรีโมทเลย ในกรณีที่แบตเตอรี่ในรีโมทฯ หมด ใช้การไม่ได้ เราก็สามารถใช้เจ้า BenQ Smart Control นี่แหล่ะแทนได้
นี่เป็นอีกหนึ่งฟังก์ชันที่ผมมองว่าเหมาะแก่สายพกพาอย่างมาก นั่นก็คือ เทคโนโลยี Auto Keystone ที่ช่วยปรับสมดุลของภาพให้ผู้ใช้อัตโนมัติ เราไม่ต้องมานั่งปรับองศาเองให้ยุ่งยากเลย เวลาโยกย้ายเครื่องก็จะสะดวกมากขึ้น เพราะมันจะปรับภาพตรงให้เองอัตโนมัติ .. สุดยอดไปเลย
ไม่ว่าจะโยกย้ายไปตั้งตรงไหน ภาพก็ปรับตั้งฉากให้อัตโนมัติ
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าการซื้อ 1 แต่ได้ถึง 2 คือสิ่งที่หลายคนปรารถนา และการที่ โปรเจคเตอร์แบบพกพา BenQ GV1 เป็นได้ทั้ง โปรเจคเตอร์ และ ลำโพงบลูทูธ ก็ถือเป็นหนึ่งฟีเจอร์ดีๆ ที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้
โดยส่วนตัวผมชอบฟีเจอร์นี้มาก เพราะปกติเป็นคนชอบฟังเพลงเป็นประจำอยู่แล้ว ซึ่งเจ้า โปรเจคเตอร์แบบพกพา BenQ GV1 เนี่ยแหล่ะคือตัวเลือกหนึ่งที่ให้คุณภาพเสียงดีมาก
นอกจากนี้การสลับโหมดใช้งานระหว่าง Bluetooth Mode และ Projector Mode ก็ยังสามารถทำได้ง่ายมาก เราไม่ต้องตั้งค่าอะไรเลย เพียงแค่กดปุ่มเปิด Bluetooth ที่อยู่ส่วนหัวของเครื่องและเชื่อมต่อกับมือถือ เพียงแค่นี้จากโปรเจคเตอร์ก็กลายเป็นลำโพงบลูทูธแล้ว สะดวกดีไหมล่ะ
โดยส่วนตัว ผมไม่เคยคิดเลยครับ ว่าการมีโปรเจคเตอร์พกพาไว้ดูหนังฟังเพลง จะเป็นเรื่องจำเป็นในชีวิต แต่หลังจากได้นำมาใช้งานจริงแล้ว กลายเป็นว่านี่คือสิ่งที่ผมต้องการมาโดยตลอด และ เฝ้าเอาแต่คิดถึงวันที่จะได้พา โปรเจคเตอร์พกพา BenQ GV1 ติดตัวเอาไปเที่ยวด้วยเพื่อสร้างสีสันให้กับทริปพักผ่อนของผมและผองเพื่อน
และด้วยความที่เครื่องมีขนาดเล็ก ผมไม่หนักใจเลยที่จะคิดถึงเรื่องภาระหากพกไปด้วย เพราะมีกระเป๋าเป้ใบเดียวก็ใส่ได้แล้ว ใครที่มีโอกาสแล้วอยากซื้อเจ้าเครื่องนี้ราคาก็อยู่ที่ประมาณ 9000 - 10,000 บาท ที่ดูแล้วอาจสูงหน่อย แต่ถ้าเทียบกับคุณสมบัติของมันแล้วบอกเลย ซื้อครับ โอกาสเที่ยวมาเมื่อไหร่ เจอกันแน่กับ โปรเจคเตอร์แบบพกพา BenQ GV1
|
งานเขียนคืออาหาร ปลายปากกา ก็คือปลายตะหลิว |
ความคิดเห็นที่ 1
22 กุมภาพันธ์ 2564 16:27:15
|
||
เขียนรีวิวได้ละเอียดดีครับ รุ่นนี้เสียงจากพัดลมระบายความร้อนมันดังมั้ยครับ
|
||