15 รถยนต์ไฟฟ้าในไทย และ ในต่างประเทศ ปี 2021 ที่น่าสนใจ (Electric Vehicle or EV Car 2021)

15 รถยนต์ไฟฟ้าในไทย และ ในต่างประเทศ ปี 2021 ที่น่าสนใจ
(Electric Vehicle or EV Car 2021)

ในประเทศไทย เมื่อพูดถึงกระแสตอบรับของรถยนต์ไฟฟ้าหรือ EV (Electric Vehicle) ก็อาจบอกได้ว่า "ค่อนข้างเงียบเหงา" เพราะด้วยสาเหตุหลายอย่าง หนึ่งในนั้นก็คือจำนวนสถานีชาร์จไฟที่ยังคงมีน้อยเกินไป แต่ช่วงนี้หลายคนที่ได้ศึกษามาบ้าง ก็คงจะเห็นว่าแบรนด์รถยนต์หลายเจ้าเริ่มหันมาทำ EV กันมากขึ้น นอกจากนี้คนไทยบางส่วนก็มีขับกันแล้วด้วยซ้ำ

เพื่อปลุกกระแส รถยนต์ไฟฟ้า ภายในบ้านเรา Thaiware ขอเปิดโกดังขนไลน์อัพแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่น่าจับตามองในปี ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564) ลองไปดูกันว่ามีรุ่นไหนบ้าง ซึ่งบางรุ่นมีวางขายในไทยด้วย

1. รถ Ford Mustang Mach-E

สำหรับสาย "รถอเนกประสงค์" คงต้องนี่ '2021 รถ Ford Mustang Mach-E' รถยนต์คอร์ดโอเวอร์ไฟฟ้ารุ่นแรกของฟอร์ดบนตัวถัง SUV จากแบรนด์สายเลือดอเมริกัน ที่ชื่อแบรนด์ก็การันตีเรื่องคุณภาพแล้ว

รถ Mustang Mach-E เปิดตัวมาได้ 2 ปี แต่เพิ่งวางขายเมื่อช่วงปลายปี ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2021) เฉพาะบางรุ่น ซึ่งถือเป็นรถยนต์ EV รุ่นหนึ่งที่ดีที่สุดของ Ford เลยทีเดียว และปีนี้ Mustang Mach-E ก็จะเปิดวางจำหน่ายทุกโมเดล มีการปรับปรุงสเปกเล็กน้อย และมาพร้อมกับสีใหม่คือ สีส้ม เมทัลลิก อีกด้วย

วางจำหน่ายหลากรุ่น หลายสเปก ประกอบด้วย

• Mustang Mach-E SELECT
• Mustang Mach-E CALIFORNIA ROUTE 1
• Mustang Mach-E PREMIUM
• Mustang Mach-E GT (ตัวท็อป)
• Mustang Mach-E FIRST EDITION

ประสิทธิภาพ (Performanace)

• มีระบบขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) และ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD) แบ่งไปตามรุ่น
• พละกำลัง 259 - 480 แรงม้า
• แบตเตอรี่พร้อมวิ่งสูงสุด 480 กม. / ชาร์จไฟเต็ม
• สามารถทำความเร็ว 0-100 กม. / ชม. ใน 6 วินาที
  • รุ่นท็อปสุดอย่าง 'Mustang Mach-E GT' นี่ทำความเร็วได้ภายใน 3.5 วินาทีเลยทีเดียว
• นอกจากเรื่องความเร็ว และ ความไกลในการวิ่งแล้ว Mustang Mach-E ยังเป็นยานยนต์ที่มีระบบอัพเดทซอฟต์แวร์ Over-The-Air (OTA) และมีระบบบอกจุดสถานีชาร์จไฟที่พร้อมให้บริการใกล้ๆ บนพิกัด GPS แบบ Real-Time Data
• เทคโนโลยีชาร์จเร็ว เพียงแค่ 30-40 นาที จาก 0-80 %

• วันวางจำหน่าย : จำหน่ายแล้ว
• การจำหน่ายในประเทศไทย : ไม่มี
• ราคา (ไม่รวมภาษี)
  • Mustang Mach-E SELECT :
    2,895 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 1.3 ล้านบาท
  • Mustang Mach-E CALIFORNIA ROUTE 1 :
    49,800 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 1.5 ล้านบาท
  • Mustang Mach-E PREMIUM :
    47,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 1.4 ล้านบาท
  • Mustang Mach-E GT (ตัวท็อป) :
    60,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 1.8 ล้านบาท
  • Mustang Mach-E FIRST EDITION :
    59,900 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 1.79 ล้านบาท

2. รถ MG ZS EV

รถ MG ZS EV เป็นอีกหนึ่งรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100 % ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์คนเมือง ด้วย ด้วยรูปลักษณ์รถยนต์ SUV ที่ยังคงความหรูหราและมีสไตล์ กับสี COPENHAGEN BLUE สะท้อนความพรีเมียมสไตล์อังกฤษอย่างมีระดับ มาพร้อมกับล้ออัลลอยด์ดีไซน์ใหม่ ที่ได้แรงบัลดาลใจจากกังหันลม เนเธอแลนด์

ภายในของ รถ MG ZS EV ที่ถูกตกแต่งด้วยวัสดุ SOFT TOUCH มาพร้อมพนักพักแขนตรงกลาง ให้ความรู้สึกสปอร์ต หรูหรา พื้นที่นั่งกว้างขวาง ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง และยังมีหน้าจอขนาดใหญ่ 8 นิ้ว ออกแบบให้เอียง เข้าหาคนขับ เพื่อให้เกิดมุมมองที่เห็นครอบคลุม ระบบความปลอดภัย

ประสิทธิภาพ (Performanace)

• ระบบขับเคลื่อนล้อหน้ากำลัง 150 แรงม้า
• ทำความเร็ว 0-50 กม. / ชม. ใน 3.1 วินาที
• ความจุแบตเตอรี่ 44.5 kWh
• วิ่งได้ไกลสูงสุด 337 กม./ชาร์จไฟเต็ม
• การชาร์จแบบ Quick Charge ทำเวลาอยู่ที่ 30 นาที จาก 0-80 %

• วันวางจำหน่าย : จำหน่ายแล้ว
• การวางจำหน่ายในประเทศไทย : มี
• ราคา (รวมภาษีแล้ว) : 1,190,000 บาท

3. รถ Nezha Eureka 03

รถ Nezha Eureka 03 เป็น รถยนต์ไฟฟ้าดีไซน์สปอร์ตสุดเท่คันนี้มีชื่อว่า นาจา ยูเรก้า คอนเซปต์ทรี (Nezha Eureka 03) จากบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายเล็กของจีนชื่อ 'Hozon Auto' ที่หลายคนน่าจะไม่ค่อยรู้จัก โดยชื่อแบรนด์ 'นาจา' นั้นตั้งตามตำนานเทพเด็กของจีน

สำหรับแนวคิด (Concept) รถยนต์ไฟฟ้า Nezha Eureka 03 ได้รับการเปิดตัวในงาน Beijing Auto Show ปี 2020 มาพร้อมกับดีไซน์รถ 'สปอร์ต ซีดาน' สี่ประตู ดูสวย เรียบหรู และทันสมัย ตัวรถมีความยาว 4,800 มม. กว้าง 2,000 มม. และ สูง 1,400 มม. พร้อมฐานล้อยาว 2,900 มม.

ประสิทธิภาพ (Performanace)

• อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม ใน 4 วินาที
• แบตเตอรี่พร้อมวิ่ง 800 กม. / ชาร์จไฟ
• มาพร้อมกับเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับ (autonomous driving) 'ระดับ 4' คือมี AI ช่วยขับให้ ปล่อยพวงมาลัยวิ่งได้เลย

• วันวางจำหน่าย : อาจจะปลายปี ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564) หรือ ต้นปี ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565)
• การวางจำหน่ายในประเทศไทย : ไม่มี
• ราคา : ยังไม่เคาะราคา

4. Nissan Leaf (Upgrade 2021)

รถ Nissan Leaf เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% คันนี้มาจากค่ายญี่ปุ่น หรือ 'Nissan' ที่ชื่อคุ้นหูกันดี เปิดตัวครั้งแรกในปี ค.ศ. 2018 และได้รับความนิยมไปทั่วโลก และถือเป็นค่ายแรกๆ ที่นำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย

สำหรับดีไซน์ปี ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564) ของรถ Nissan Leaf นี้ถูกออกแบบให้ดูโฉบเฉี่ยวมากขึ้น พัฒนาตามหลักอากาศพลศาสตร์ คือออกแบบให้พุ่งทะยานผ่านสายลม พร้อมเอกลักษณ์ด้วยกระจังหน้า V-Motion ไฟทรงบูมเมอแรง ส่วนภายในห้องโดยสาร หุ้มเบาะด้วยหนังสังเคราะห์โทนสีดำ ตัดขอบสีฟ้า กว้างขวางทั้งด้านหน้า และด้านหลัง

ประสิทธิภาพ (Performanace)

• ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า Front-Wheel เครื่องยนต์ 150 แรงม้า
• ความเร็วสูงสุด 144 กม./ชั่วโมง
• อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม ใน 7.9 วินาที
• แบตเตอรี่ 40 kWh
• วิ่งได้ไกลสูงสุด 311 กม. / ชาร์จไฟเต็ม
• มาพร้อมกับเทคโนโลยี e-Pedal จะเร่งแซง หรือ ชะลอความเร็ว ก็ควบคุมได้ง่ายๆ ไม่ต้องคอยแตะเบรก ขับขี่นุ่มนวล และง่ายมากขึ้น

• วันวางจำหน่าย : จำหน่ายแล้ว
• การวางจำหน่ายในประเทศไทย : มี
• ราคา (รวมภาษีแล้ว) : 1,990,000 บาท

5. รถ HiPhi X

รถ HiPhi X หรือชื่อเดิม HiPhi 1 เป็นรถชนิด SUV พลังงานไฟฟ้า โดยคันนี้เป็นของสัญชาติจีน โดยได้ถูกออกแบบให้ดูล้ำสมัย หรูหรา เหมือนมาจากโลกอนาคต เปิดตัวคอนเซ็ปต์เมื่อปี ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) และเตรียมที่จะผลิตในปีนี้ ซึ่งก็คือ ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564)

นอกจากดีไซน์ภายนอกของ รถ HiPhi X ที่ดูล้ำสมัยแล้ว ภายในก็ล้ำสมัยไม่แพ้กันทั้งเรื่องของดีไซน์ และฟังก์ชันการใช้งาน ซึ่งจะขาดสิ่งนี้ไปไม่ได้เลยคือ เทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับ ระดับ 3 ที่มีชื่อว่าฟังก์ชัน Human Oriented Architecture (HOA) เป็นระบบเอไอที่มี Micro Processing Unit (MPU) ช่วยประมวลผลได้อย่างรวดเร็ว ทำให้มันสามารถเรียนรู้พฤติกรรมของผู้ขับขี่ และสามารถตั้งค่าฟังก์ชันต่างๆ ให้เหมาะสมกับผู้ขับขี่ได้เองอัตโนมัติ

ประสิทธิภาพ (Performanace)

• ขับเคลื่อนสี่ล้อให้กำลัง 295 แรงม้า
• อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 3.9 วินาที
• แบตเตอรี่ 97 kWh
• สามารถวิ่งได้ไกลถึง 550 กิโลเมตร / ชาร์จไฟเต็ม
• ระบบ Quick Charge ทำเวลาได้ 45 วินาที จาก 0-80 %

• วันวางจำหน่าย : ช่วงครึ่งปีแรก ค.ศ.2021
• การวางจำหน่ายในประเทศไทย : ไม่มี
• ราคา (ไม่รวมภาษี) : 680,000 - 800,000 หยวน หรือ 3.1 - 3.7 ล้านบาท

6. รถ BYD E6

รถ BYD E6 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีน ถือเป็นอีกแบรนด์ที่นำเข้ามาขายในประเทศไทยนานแล้ว อีกทั้งยังมีราคาที่ค่อนข้างจับต้องได้ ซึ่งเราไม่ค่อยพบเห็นตามท้องถนนทั่วไป เพราะไม่ค่อยมีใครซื้อมาขับ และมักจะเห็นได้แต่ในสนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยภาพลักษณ์ของ Taxi VIP

มองจากดีไซน์ภายนนอกอาจไม่ค่อยโดดเด่น มีแค่ความเท่จากไฟหน้า Projector พร้อมไฟ Daytime Running Lights แบบ LED กับไฟเลี้ยวเสริมที่ติดบนกระจกมองข้าง เพิ่มความเท่ได้ไปอีกแบบ ภายในตกแต่งใช้สีดำตลอดทั้งคัน และมีแผงหน้าปัด LCD มาให้ด้วย

ประสิทธิภาพ (Performanace)

• พละกำลัง 121 แรงม้า
• ทำความเร็วสูงสุดได้ 140 กม./ชม.
• อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 8 วินาที
• แบตเตอรี่ 80 kWh
• วิ่งได้ไกลสูงสุด 300 กม./ชาร์จไฟเต็ม (ถ้าตามบริษัทเคลมบอก 400 กม.)
• ชาร์จเร็ว 2 ชั่วโมง
• ชาร์จปกติ 8-9 ชั่วโมง

• วันวางจำหน่าย : จำหน่ายแล้ว
• การวางจำหน่ายในประเทศไทย : มี
• ราคา : 1.89 ล้านบาท

7. รถ Volkswagen ID.4

มาถึงฝั่งรถยนต์ไฟฟ้า ของค่ายผู้ผลิตรถยนต์สายเลือดเยอรมันกันบ้าง Volkswagen ค่ายนี้ประกาศอย่างชัดเจนตั้งแต่ 2 ปีที่แล้วว่าจะเริ่มรุกตลาด รถยนต์ไฟฟ้า และพัฒนาแพลตฟอร์มต่างๆ มากมายเช่นสถานีจ่ายไฟ ระบบ MEB ใช้สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึง หุ่นยนต์ชาร์จไฟอัตโนมัติ

รถ Volkswagen ID.4 เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นที่ 2 ของ Volkswagen และเป็นรถ SUV 5 ประตู การตกแต่งภายนอกและภายใน ไม่ฉูดฉาด เรียบง่าย ห้องโดยสารกว้าง พวงมาลัยพับเก็บได้ และมีฟังก์ชันที่ตอบโจทย์สำหรับคนชอบเดินทางไกล นั่นคือเบาะนั่งด้านหน้าที่มีระบบนวด

ประสิทธิภาพ (Performanace)

• ระบบมอเตอร์คู่ (dual-motor)
• ขับเคลื่อนสี่ล้อ กำลังสูงสุด 201 แรงม้า
• ทำความเร็ว 0-100 กม./ชม. ได้ใน 8.5 วินาที
• ความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม.
• แบตเตอรี่พร้อมวิ่งได้ไกล 402 กม. / ชาร์จไฟเต็ม
• ระบบชาร์จเร็ว 10 นาที วิ่งได้ 100 กม.

• วันวางจำหน่าย : เมษายน ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564)
• การวางจำหน่ายในประเทศไทย : ไม่มี
• ราคา (ไม่รวมภาษี) : 39,995 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 1.2 ล้านบาท

8. รถ Mazda MX-30

รถ Mazda MX-30 เป็น รถยนต์ไฟฟ้าคันแรกของค่าย Mazda ที่เปิดตัวครั้งแรกในงาน Tokyo Motor Show 2019 ที่ใช้เวลาร่วมเกือบ 2 ปี ก่อนจะมีกำหนดวางจำหน่ายออกมาในปี ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564)

ดีไซน์ หรือการออกแบบของ รถ Mazda MX-30 ออกแบบเป็นรูปทรงรถยนต์ Crossover SUV ที่กำลังได้รับความนิยมในตลาดโลก ห้องโดยสารยังคงออกแบบเรียบง่าย มาพร้อมหน้าจอดิจิทัลขนาด 8.8 นิ้ว และระบบ Mazda Connect infotainment system นอกจากนี้ยังรองรับการใช้งานร่วมกับ Android Auto และ Apple Carplay ด้วย

ประสิทธิภาพ (Performanace)

• กำลัง 143 แรงม้า
• อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 9 วินาที
• ทำความเร็วสูงสุดได้ 150 กม./ชม.
• แบตเตอรี่ความจุ 35.5 kWh
• วิ่งได้ไกลสูงสุด 180 กม./ชาร์จไฟเต็ม
• ระบบชาร์จปกติ 5 ชม. 45 นาที
• เทคโนโลยีชาร์จเร็วจาก 0-80% ใน 30 นาที

• วันวางจำหน่าย : จำหน่ายแล้ว
• การวางจำหน่ายในประเทศไทย : ไม่มี (แต่คาดว่าอาจมาเปิดตัวในงาน Motor Expo ปีนี้)
• ราคา (ไม่รวมภาษี) : เริ่มต้น 1.2 ล้านบาท

9. รถ Audi e-Tron GT

ถ้าใครกำลังมองหารถยนต์สปอร์ตคูเป้ 4 ประตู ที่ทั้งหล่อ และเท่ แต่ประหยัดกว่าต้องนี่เลยรถ Audi e-tron GT ที่พัฒนาขึ้นตามพื้นฐานเดียวกับ Porsche Taycan รถยนต์ไฟฟ้าสุดหรูจากอีกค่ายที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ นอกจากนี้มันยังเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ปรากฏอยู่ในภาพยนต์ Avengers : Endgame ด้วย (ของ Tony Stark)

รถ Audi e-tron GT มาพร้อมกับกระจังหน้าแบบ Singleframe ไฟหน้า LED มาพร้อมระบบ Laser high beam พร้อมส่องสว่างอัตโนมัติในความมืด เพิ่มความสว่างเมื่อขับท่ามกลางสายหมอกลงจัด ไฟท้ายยังมีทรงแบบลูกศรที่เป็นเอกลักษณ์ของค่าย และภายในยังตกแต่งด้วยเบาะหนังสังเคราะห์ปราศจากหนังแท้ ใครที่เป็นสายไฮเทค เน้นขับหรู ดูไฮคลาส แถมยัง 'รักษ์โลก' คงภูมิใจที่ได้ขับคันนี้

ประสิทธิภาพ (Performanace)

• ระบบมอเตอร์ไฟฟ้าคู่
• ขับเคลื่อนสี่ล้อ กำลังสูงสุด 590 แรงม้า
• ทำความเร็ว 0-100 กม./ชม. ได้ใน 3.5 วินาที
• ความเร็วสูงสุด 240 กม./ชม.
• แบตเตอรี่พร้อมวิ่งได้ไกล 425 กม. / ชาร์จไฟเต็ม
• ระบบชาร์จเร็ว 20 นาที จาก 0-80 %
• ชาร์จปกติ 0-100% ใน 9 ชั่วโมง

• วางจำหน่าย : ภายในปี ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564)
• การวางจำหน่ายในประเทศไทย : มี
• ราคา (รวมภาษีแล้ว) : 6-7 ล้านบาท

10. รถ PORSCHE TAYCAN

เมื่อสักครู่พูดถึง รถ Audi e-tron GT ที่พัฒนาตามพื้นฐานของของ รถ PORSCHE TAYCAN ไปแล้ว ก็คงจะไม่พูดถึงรุ่นนี้ไม่ได้ เพราะถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้า สปอร์ต คันหนึ่งที่ตลาดรถยนต์ระดับ 'High End' ค่อนข้างให้ความสนใจ

รถ PORSCHE TAYCAN (ปอร์เช่ ไทคานน์) เป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของค่าย 'PORSCHE' ที่ทางค่ายเคลมว่า เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแห่งอนาคต ด้วยรูปลักษณ์เรียบหรูและสมบูรณ์แบบ แถมยังเป็นรถสปอร์ตที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมาในสายผลิตของ PORSCHE

ประสิทธิภาพ (Performanace)

รถ PORSCHE TAYCAN ปัจจุบันเปิดตัวรุ่นย่อยออกมา 3 รุ่น คือ 'Porsche Taycan Turbo S' , 'Porsche Taycan Turbo' และ 'Porsche Taycan 4S'

Porsche Taycan Turbo S

• กำลังสูงสุด 761 แรงม้า มีฟังก์ชัน Overboost ทำงานร่วมกับระบบช่วยออกตัว
• ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 2.8 วินาที
• ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (all-wheel-drive)
• ทำความเร็วได้สูงสุด 260 กม./ ชั่วโมง
• แบตเตอรี่พร้อมให้กำลังระยะทางไกลสุด 416 กม./ชาร์จไฟเต็ม
• ชาร์จไฟเร็ว 5-80 % ใน 22.5 วินาที
• ชาร์จไฟปกติ 9-10.5 ชั่วโมง

Porsche Taycan Turbo

• กำลังสูงสุด 680 แรงม้า มีฟังก์ชัน Overboost ทำงานร่วมกับระบบช่วยออกตัว
• ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.2 วินาที
• ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (all-wheel-drive)
• ทำความเร็วได้สูงสุด 260 กม./ ชั่วโมง
• แบตเตอรี่พร้อมให้กำลังระยะทางไกลสุด 450 กม./ชาร์จไฟเต็ม
• ชาร์จไฟเร็ว 5-80 % ใน 22.5 วินาที
• ชาร์จไฟปกติ 9-10.5 ชั่วโมง

Porsche Taycan 4S

• กำลังสูงสุด 530 แรงม้า มีฟังก์ชัน Overboost ทำงานร่วมกับระบบช่วยออกตัว
• ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 4.0 วินาที
• ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (all-wheel-drive)
• ทำความเร็วได้สูงสุด 250 กม./ ชั่วโมง
• แบตเตอรี่พร้อมให้กำลังระยะทางไกลสุด 464 กม./ชาร์จไฟเต็ม
• ชาร์จไฟเร็ว 5-80 % ใน 22.5 วินาที
• ชาร์จไฟปกติประมาณ 9-10.5 ชั่วโมง

• วางจำหน่าย : จำหน่ายแล้ว
• การวางจำหน่ายในประเทศไทย : มี
• ราคา (รวมภาษีแล้ว) :
  • Porsche Taycan Turbo S : 11,700,000 บาท
  • Porsche Taycan Turbo : 9,900,900 บาท
  • Porsche Taycan 4S : 7,100,00 บาท

11. รถ Rivian R1T

มาถึงฝั่งรถกระบะบ้าง และที่จะพูดถึงนี้มาจากสตาร์ทอัพที่น่าจับตามองในสหรัฐฯ อย่าง 'Rivian' โดยช่วง 1-2 ปีที่แล้ว ขณะที่แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าเจ้าอื่นมุ่งไปทางรถเก๋ง และ SUV แต่สตาร์ทอัพใหม่ไฟแรง กลับเปิดตัวคอนเซ็ปต์รถกระบะออกมาเป็นเจ้าแรกๆ ของวงการ และทำให้ Rivian R1T ถูกจับตามองเป็นพิเศษ ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า

รถ Rivian R1T มาพร้อมด้วยดีไซน์ที่ดูล้ำสมกับเป็นรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งแตกต่างกับรถกระบะในท้องตลาดทั่วไป คือมีฟังก์ชันช่องเก็บของที่บริเวณด้านข้าง และฝากระโปรงหน้า เลยกลายเป็นจุดขายของรุ่นนี้ไปโดยปริยาย นอกจากนี้ช่องเก็บของด้านข้างยังแต่งเติมเพิ่มเคาเตอร์บาร์สำหรับออกแคมป์ได้ด้วย คือ เหมาะกับสายลุย อย่างมาก

ประสิทธิภาพ (Performanace)

• แบ่งออกเป็น 3 รุ่นย่อยตามขนาดแบตเตอรี่ คือ 105 kWh, 135 kWh และ 180 kWh
• ตัวท็อปสุดให้กำลังสูงสุด 700 แรงม้า
• อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.2 วินาที
• สามารถวิ่งได้ไกลสุด 643 กม./ชาร์จไฟเต็ม
• สเปกรุ่นอื่นก็จะดรอปลงไป

• วางจำหน่าย : กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564)
• การวางจำหน่ายในประเทศไทย : ไม่มี
• ราคา (ไม่รวมภาษี) :
  • เริ่มต้นที่ : 39,900 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 1.23 ล้านบาท
  • รุ่นออปชั่นจัดเต็ม : 69,900 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 2.15 ล้านบาท

12. รถ Fomm ONE

รถ Fomm ONE เห็นแค่ชื่อ หลายคนอาจไม่คุ้น แต่ที่จริงบุกตลาดไทยมานานมากแล้วสำหรับ Fomm ONE รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่สุดในโลก จากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเหมาะกับใคร เพราะให้อารมณ์เหมือนรถกอล์ฟ หรือรถไฟฟ้าพาเที่ยวในซาฟารีเวิลด์มากกว่า ซึ่งจริงๆ มันก็คือรถยนต์ไฟฟ้าที่มีสมรรถนะมากพอที่จะใช้ขับตามท้องถนนแน่นอน

ประสิทธิภาพ (Performanace)

• มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ In-Weel จำนวน 2 ตัว พละกำลัง 14 แรงม้า
• แบตเตอรี่ความจุ 2.96 kWh
• วิ่งได้ไกลมากสุด 160 กม./ชาร์จไฟเต็ม
• ที่สำคัญคือ เขาบอกสามารถลอยน้ำหรือวิ่งฝ่าน้ำท่วมสูงได้ ซึ่งเหมาะกับกรุงเทพฯ เป็นอย่างมาก

• วันวางจำหน่าย : จำหน่ายแล้ว
• การวางจำหน่ายในประเทศไทย : มี
• ราคา : 664,000 บาท (รวมภาษีแล้ว)

13. รถ Aptera

รถ Aptera เป็นอีกหนึ่งสตาร์ทอัพที่น่าสนใจ ซึ่งได้เปิดตัวเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (solar electric vehicle) ที่ฉีกกฎรถยนต์ไฟฟ้าทุกแบรนด์ ซึ่งเป็นข้อด้อยที่บางคนมองข้ามไปแล้ว ก็คือเรื่องของระบบเติมเชื้อเพลิงที่ต้องใช้เวลานาน ในการชาร์จไฟแต่ละครั้ง

รถ Aptera เป็นรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 2 ประตู 2 ที่นั่ง ที่ดีไซน์ออกมาไม่เหมือนใคร ลักษณะเด่นคือตัวถังมีความโค้ง เพื่อลดแรงเสียดทานของกระแสลม ซึ่งช่วยประหยัดพลังงาน และยังดูล้ำสมัย ที่ฝากระโปรงหน้าหลังคา และกระโปรงหลังมีแผงโซล่าเซลล์ ที่สามารถชาร์จพลังงานจากแสงอาทิตย์ให้รถมีพลังวิ่งได้ 72 กม. ต่อการชาร์จใน 1 วัน (จอดทิ้งไว้หรือขับกลางแดดกันไป)

ประสิทธิภาพ (Performanace)

สมรรถนะของรุ่นนี้สามารถ Custom ได้เองทั้งขนาดแบตเตอรี่ ระบบขับเคลื่อน การตกแต่งภายใน และ การติดตั้งแผงโซล่าเซลล์

ระบบขับเคลื่อน

• Front-Wheel 134 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 5.5 วินาที
• All-Wheel Drive 150 แรงม้า ที่มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 3.5 วินาที

แบตเตอรี่ 4 ขนาด ให้สมรรถนะขับขี่ได้ไกลสูงสุด

• 400 กม./ชาร์จไฟเต็ม
• 800 กม./ชาร์จไฟเต็ม
• 965 กม./ชาร์จไฟเต็ม
• 1600 กม./ชาร์จไฟเต็ม (ไกลขนาดนี้คงเป็นสถิติแบบวิ่งไปชาร์จไป)

ออฟชั่นติดตั้งแผงโซล่าเซลล์

• หลังคา (Standard)
• กระโปรงหน้า (300 ดอลลาร์)
• กระโปรงหลัง (600 ดอลลาร์)

• วันวางจำหน่าย : สั่งจองได้แล้ววันนี้
• การจำหน่ายในประเทศไทย : ไม่มี
• ราคา (ไม่รวมภาษี) : เริ่มต้นที่ 25,900 ดอลลาร์ ถึง 46,000 ดอลลาร์ หรือ 0.8 - 1.4 ล้านบาท

14. รถ Tesla Model S Plaid

นอกจาก Model 3 ที่มีการอัปเกรดเพิ่มระยะทาง และ Model Y รุ่นใหม่ที่กำลังส่งมอบในปีนี้แล้ว เมื่อปลายปีที่ผ่านมา Tesla อันดับ 1 ในวงการ ก็ได้สร้างเสียงฮือฮาต่อวงการรถยนต์ไฟฟ้าอีกครั้งด้วยการเปิดตัวรุ่นใหม่ 'Model S Plaid' ที่อวดว่า มีกำลังมอเตอร์ไฟฟ้ารวม 1,100 แรงม้า และมี อัตราเรง 0-100 กม./ชม. ในเวลาต่ำกว่า 2 วินาที คือ Overpower สุดๆ และเร็วที่สุดในโลกไปแล้ว

ประสิทธิภาพ (Performanace)

• เครื่องมอเตอร์ 3 ตัว ขับเคลื่อนแบบ All-Wheel-Drive
• ให้กำลัง 1,100 แรงม้า
• อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 2 วินาที
• ทำความเร็วสูงสุด 322 กม./ชม.
• แบตเตอรี่พร้อมวิ่ง 837 กม./การชาร์จไฟเต็ม
• มีเทคโนโลยี Autopilot

• วางจำหน่าย : จำหน่ายแล้ว ส่งมอบรถได้ในปลายปี ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564)
• การวางจำหน่ายในประเทศไทย : ไม่มี
• ราคา (ไม่รวมภาษี) : เริ่มต้น 139,990 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 4.2 ล้านบาท

15. รถ Tesla Cybertruck

สุดท้ายนี้ขอแถม และเชื่อว่าก่อนที่หลายคนจะตัดสินใจซื้อเจ้าคันนี้ ก็คงจะคิดหนัก ไม่ใช่เพราะราคา แต่เป็นดีไซน์ที่โดดเด่นเกินไป

Tesla Cybertruck เป็นรถกระบะไฟฟ้าคันแรกของ Tesla ที่เปิดตัวพร้อมกับถึง 3 รุ่น ดีไซน์แบบนี้เหมือนกับหลุดมาจากหนังสงครามยุคไซเบอร์ ซึ่งทีมวิศวกรผู้ออกแบบเผยว่าดีไซน์นี้ ได้แรงบันดาลใจมาจากภาพยนต์เรื่อง 'Blade Runner' และไม่ต้องพูดถึงความแข็งแกร่ง แค่ขับมาถึงสี่แยก นอกจากสิบล้อ และรถเมล์แล้ว เพื่อนร่วมถนนคันอื่นๆ ก็คงพร้อมจะหลีกทางให้หมด

ประสิทธิภาพ (Performanace)

• แตกต่างกันออกไปใน 3 รุ่น
• ตัวท็อปสุดเป็นระบบ 3 มอเตอร์ ขับเคลื่อนสี่ล้อ ไม่มีการระบุเรื่องเครื่องยนต์กี่แรงม้า
• สามารถทำความเร็ว 0-100 กม./ชม. ได้ใน 2.9 วินาที
• สมรรถนะแบตเตอรี่พร้อมวิ่งได้ไกล 804 กม. / ชาร์จไฟเต็ม
• สุดท้ายไฮเทคแบบ Tesla ก็ต้องมีเทคโนโลยี Autopilot ด้วย

• วางจำหน่าย : ปี ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565)
• การวางจำหน่ายในประเทศไทย : ไม่มี
• ราคา (ไม่รวมภาษี) : เริ่มต้น 45,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 1.35 ล้านบาท

บทสรุปส่งท้าย เกี่ยวกับ รถยนต์ไฟฟ้า

ใครเล็งรุ่นไหน สนใจรุ่นไหน มีกำลังซื้อแค่ไหน ก็เตรียมจับจองกันได้เลยเพราะนาทีนี้ รถยนต์ EV กำลังมาแรง ถ้าไม่รีบ ระวัง ! อาจตกรถเอาได้