สำหรับเกมเมอร์แล้ว การเล่นเกมนั้นต้องอาศัยอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าการใช้งานทั่วไป เรพาะอุปกรณ์เหล่านั้นจะต้องตอบสนองต่อการสั่งงานของผู้เล่นได้ดั่งใจ เราอาจจะให้ความสำคัญกับเมาส์และคีย์บอร์ดมากเป็นพิเศษ เพราะเราต้องควบคุมเกมผ่านเจ้าสองสิ่งนี้ แต่มีอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันครับ นั่นคือหูฟังหรือลำโพง
หลายคนอาจจะงงว่าเล่นเกมแล้วลำโพงกับหูฟังมันไปเกี่ยวอะไร แท้จริงแล้วมันเป็นสิ่งทีสำคัญมากครับ สำหรับเกมยุคนี้การปิดเสียงเล่นนี่ทำให้คุณแพ้ได้ง่ายๆ เลยทีเดียว อย่างการเล่นเกมแนว FPS คุณจะต้องฟังเสียงฝีเท้าของศัตรูให้ออกว่ามาจากทางไหน ถ้าคุณปิดเสียงคุณก็ไม่ได้ยินเสียงเหล่านั้นเลย หรือถ้าคุณภาพของหูฟังหรือลำโพงของคุณแย่ แม้ว่าคุณจะได้ยินเสียง แต่คุณก็แยกไม่ออกว่าศัตรูมาจากทิศทางไหน ซ้ายหรือขวา เริ่มจะเห็นความสำคัญของเสียงหรือยังครับ
ลำโพงดีๆ นั้นมีราคาแพงมากครับ เริ่มต้นที่หลายพันไปจนถึงหลักหมื่นถึงหลักแสน ถ้าคุณเป็นเศรษฐีก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร แต่สำหรับเกมเมอร์ที่ส่วนมกาเป็นเด็กหรือนักศึกษาการทุ่มเงินขนาดนั้นเป็นเรื่องสิ้นเปลือง การใช้หูฟังเป็นตัวเลือกที่ถูกกว่ามาก หูฟังดีๆ ราคาไม่แพงมีให้เลือกอยู่มากมายครับ
วันนี้ผมจะมาแนะนำหูฟังสำหรับเกมเมอร์ (ไม่ใช่เกมเมอร์ก็ใช้ได้นะ ) รุ่นหนึ่งที่มีราคาไม่แรงเลยแต่ว่าประสิทธิภาพเกินคาดมากครับ รุ่นที่ผมจะมีรีวิวในวันนี้คือ หูฟัง SUPER SONIC X ของ Neolution เป็นหูฟังแบบ Full Head มีไมค์โครโฟนในตัว จะแหล่มยังไงมาดูกันครับ
สเป็คของเจ้าหูฟัง SUPER SONIC X ตัวนี้
แนวเสียงของ SUPER SONIC X
จุดเด่นแรกของหูตัวนี้คือ การแยกชิ้นเสียงดนตรีที่ชัดเจนมากครับ ซาวด์สเตจกว้างเกินคาดเลยล่ะ เล่นเกมก็ฟังออกง่ายดายเลยศัตรูมาซ้ายมาขวา
เสียงเบส เสียงเบสชัดเจน ไม่หนักแบบกระแทก แต่มาแบบกลมๆ นุ่มๆ และเก็บตัวเร็วครับ แต่สังเกตว่าถ้าเสียงมาต่ำมากจะไม่นุ่มเหมือนปกติแต่จะออกขุ่นกระด้าง
เสียงกลาง จุดเด่นของหูรุ่นนี้น่าจะเป็นที่เสียงย่านนี้แหละครับ มาครบและใสมาก ฟัง Girl Generation นี่เสียงสาวๆ หวานจ๋อยเลยละ
เสียงแหลม ไปได้ไม่สุด พุ่งไปนิดเดียวหายไปเลย
โดยรวมก็ถือว่าทำได้ดีแล้วครับกับหูฟังราคาเท่านี้ ที่ประทับใจสุดเป็นเสียงสแนร์ครับ รู้สึกมันโดดออกมาชัดเจนดีครบทุกเม็ด
มาดูตัวหูฟังกัน
กล่องออกแบบมาได้สวยงามดีเดียวครับ เหมือนหูฟังหรูๆ เลยแหละ ไปดูข้างในกันดีกว่า
หูฟังเป็นสีดำตัดส้ม สายหูฟังก็เป็นสีส้มเช่นกันครับ มีโชว์รีโมตที่มีสัญลักษณ์ X เด่นชัดเห็นชัดเจน
ตัวรีโมตชัดๆ ปุ่มที่รีโมตเราต้องลง Driver ก่อนด้วยนะครับ ถึงจะใช้งานได้ ตัวรีโมตจะมีอยู่ 4 ปุ่ม
ปุ่ม +/- เอาไว้เพิ่มลดเสียงของหูฟังครับ ส่วนปุ่มรูปไมค์คือกดเพื่อตัดไมค์เมื่อเราไม่ต้องการให้เสียงพูดของเราดังเข้าไปในไมค์ ส่วนที่เป็นรูปลำโพงคือกดเพื่อปิดเสียงของหูฟังครับ (กดครั้งแรกเพื่อ Activate กดซ้ำอีกครั้งเพื่อ Deactivate)
ไมค์จะติดอยู่กับหูฟังข้างซ้ายครับ
ไมค์สามารถดึงออกมาให้ได้ระยะที่เราต้องการได้ด้วยครับ สามารถดัดโค้งงอได้ด้วย จุดนี้เจ๋งมากครับ
ฟองน้ำที่ครอบหูนิ่มไปหน่อยครับ แต่ก็ไม่ได้ยวบมากจนเกินไป ใส่แล้วก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บหูครับ ตัวผมเองเจาะหูและใส่ตุ้มหูข้างละ 2 อันครับ แะใส่ตุ้มหูแบบที่หนาๆ เคยใส่หูฟังถูกๆ ตามร้านเกมมันกดหูจนเจ็บใส่ไม่ได้เลยครับ แต่ตัวนี้ไม่มีปัญหา
ตรงก้านหูฟังแยกออกเป็นสองชั้น คือตัวที่เป็นพลาสติกโครง แล้วชั้นล่างเป็นฟองน้ำหนานุ่มรองอีกชั้นครับ ตรงชั้นที่เป็นฟองน้ำนี่ไม่ได้ล็อกตายกับโครง แต่จะขยับได้นิดหน่อยด้วย เพื่อรับกับสรีระของหัวคนที่แตกต่างกันครับ ตรงตะเข็บที่เย็บก็ดูเรียบร้อยดีครับ ดูแข็งแรงทีเดียว
บนฝาครอบหูมีสลักบอกว่าเป็นข้างซ้ายข้างขวาชัดเจน ใช้เป็นสลักนี่มีข้อดีนะครับ ถ้าเป็นสกรีน เวลาใช้ไปนานๆ มันจะลอกทำให้แยกไม่ออกว่าข้างไหนข้างซ้ายหรือขวา (แต่จริงๆหูที่มีไมค์ไม่มีปัญหานี้นะ ถึงจะลอกไปเราก็สามารถแยกข้างของหูได้จากทิศทางของไมค์ได้) แน่นอนว่าสามารถปรับความยาวของหูฟังได้ด้วย
ตัวหูฟังกับรีโมตมีไฟสีส้มด้วยนะครับ เท่ไม่ใช่น้อยเลยละ เกือบลืมบอกหูรุ่นนี้ต่อผ่าน USB นะครับ ไม่ได้เป็น Line-in
มาติดตั้ง Driver ให้หูฟังกันก่อน
ก่อนใช้งานเราต้องติดตั้ง Driver ก่อนนะครับ ไม่งั้นจะใช้งานรีโมตไม่ได้ และปรับแต่งเสียงไม่ได้อีกด้วย
การติดตั้งเราต้องเสียบหูฟังเข้ากับคอมพิวเตอร์ให้เรียบร้อยก่อนนะครับไม่งั้นจะติดตั้งไม่ได้
ในแผ่นจะมีไฟล์อยู่ 3 ไฟล์ ให้เราจิ้มไปที่ Setup ครับ
การติดตั้งเราไม่ต้องเลือกอะไรเลยครับมันจะทำทกุอย่างเองอัตโนมัติ อย่าลืมต่อหูฟังนะครับ ถ้าไม่ต่อจะเป็นแบบนี้
ถ้าต่อแล้วมันจะติดตั้งเองจนเสร็จและขอให้เรา Restart คอมพิวเตอร์ครับ กด Yes เพื่อ Restart ทันทีครับ หรือกด No ถ้าเราจะ Restart เองภายหลัง
เมื่อ Restart แล้ว หูฟังก็พร้อมใช้งานแล้วละครับ
มาลองปรับแต่งเสียงกัน
หลังลงเสร็จจะไม่มีไอคอนอะไรปรากฏขึ้นบนหน้าจอครับ แต่จะมีไอคอนขึ้นมาให้ปรับแต่งโดยอัตโนมัติทันทีที่เราเชื่อมต่อหูฟังเข้ากับคอมพิวเตอร์ครับ
หน้าจอแรกของโปรแกรมครับ เรามาไล่ไปดูทีละจุดละกันนะครับ เริ่มจากหน้า Main Setting
ในเมนู System Input เราสามารถเลือกปรับแต่งระบบเสียงที่ Input เข้ามาในหูฟัง (ลองไล่ปรับ 2 Ch - 8 CH สเตจเสียงจะแตกต่างกันอยู่เล็กน้อยครับ) และเลือกระบบเสียงได้ด้วยว่าจะเลือกมิติเสียงในการฟังได้ด้วยว่าจะเอาแบบ Headphone หรือลำโพง Speackers (จุดนี้บอกตามตรงว่าสลับแล้วผมแยกไม่ออกครับว่าต่างกันตรงไหน)
มาดูตรง Shifter ครับ เราสามารถกด +/- เพื่อเลือกจำลองระยะระหว่างตัวเรากับลำโพงได้ด้วย สามารถปรับความห่างได้ 20 ระดับเลยครับ
เมนูถัดไปที่เป็นลูกศรวงกลมใช้ำสำหรับปรับตำแหน่งของลำโพงครับ สามารถขยับได้ตามใจชอบเลย ซึ่งจะส่งผลต่อเสียงที่เราได้ยินอย่างมากเลยละครับ
ที่เมนู Mixer ไม่มีอะไรมากครับ ใช้ปรับความดังของหูฟังหรือไมค์เท่านั้นเอง
เราสามารถปรับให้จำลองสภาพแวดล้อมที่เราฟังได้ด้วยครับ มีตัวเลือกให้เยอะมากเลยะล่ะ รวมถึงปรับขนาดของห้องที่เราฟังได้ด้วย (หมายถึงการจำลองเสียงนะครับ)
รวมถึงมี Equalizer ให้ปรับแต่ง ซึ่งเลือกได้ว่าจะเอาแบบสำเร็จรูปที่โปรแกรมให้มา หรือปรับเองก็ได้ครับ สามารถเซฟการปรับแต่งของเราไว้ได้ด้วย
เมนูนี้ใช้ปรับระดับเสียงสะท้อนให้ไมค์ของเรา หรือแต่งเสียงให้ยืดยานแปลกไปได้ด้วย เป็นลูกเล่นขำๆ ครับ
หน้าสุดท้ายเป็นรายละเอียดของโปรแกรมครับ
สรุป
เป็นหูฟังคุ้มค่าตัวที่น่าสนใจ ด้วยราคาแค่พันต้นๆ ถือว่าไม่แพงเลยกับคุณภาพเสียงที่ได้ ต่อให้ไม่ได้ซื้อมาเล่นเกม ซื้อมาดูหนังก็คุ้มครับ หรือเอามาใช้ฟังเพลงก็ไม่ได้ขี้เหร่ครับ ซาวด์สเตจกว้างทีเดียว
สำหรับข้อเสียก็มีอยู่บ้างครับ แต่สำหรับบางคนอาจจะไม่ใช่ข้อเสียก็ได้ครับ ผมว่าตัวรีโมตนั้นอยู่ใกล้กับหูฟังมากเกินไป ทำให้ไม่สามารถวางบนโต๊ะได้ มันถ่วงน้ำหนักหูข้างขวาให้ต่ำลงไปนิดหน่อยครับ ไม่ได้มากแต่ก็รู้สึกได้ แล้วก็ผมว่าน่าจะให้ผู้ใช้สามารถปิดไฟที่ตัวหูฟังได้ด้วยครับ ไม่ให้รบกวนคนอื่นเวลาเล่นในที่มืดได้
ใครที่มองหาหูฟังเสียงดีราคาไม่แพง เพื่อเอามาใช้งานแบบครอบคลุม ดูหนังฟังเพลงเล่นเกมเล่น VOIP เจ้า SUPER SONIC X ตัวนี้เป็นตัวเลือกที่ดีครับ
ขอบคุณทาง Neolution ด้วยครับที่ให้หูฟังเรามาทดสอบ
|
แอดมินสายเปื่อย ชอบลองอะไรใหม่ไปเรื่อยๆ รักแมว และเสียงเพลงเป็นพิเศษ |