เมื่อได้ยินว่าจะได้รีวิว Ultrabook ของ Sony ผมก็มีความรู้สึกตื่นเต้นทีเดียว ด้วยความที่ผมก็เป็นสาวกอารยธรรม Sony มาเนิ่นนาน ผมหลงเสน่ห์ในดีไซน์ และงานประกอบของค่ายนี้มากเลยล่ะ และเมื่อได้สัมผัสกับ VAIO® Pro 11 ตัวจริง มันก็ไม่ทำให้ผมผิดหวังเลย (ก่อนหน้านี้แอบผิดหวังกับ VAIO Duo 11)
สำหรับ VAIO® Pro 11 ผมเชื่อว่าคนที่ได้เห็นและสัมผัสมันครั้งแรก น่าจะตกหลุมรัก Ultrabook ตัวนี้ได้ไม่ยาก เพราะมันบาง และเบาจนน่าประทับใจ แน่นอนว่าดีไซน์ของมันก็น่าทึ่งทีเดียว ตัวเครื่องใช้คาร์บอนไฟเบอร์ชึ้นรูปเพียงชิ้นเดียวต่อบอดี้พาร์ท ทำให้มันดูสวยงามและยังคงแข็งแรง ข้อดีอีกอย่างของคาร์บอนไฟเบอร์คือน้ำหนักที่น้อยกว่าอลูมิเนียมอีกด้วย
คุณสมบัติของ VAIO® Pro 11 (Model: SVP11215SHBI)
คุณสมบัติอื่นที่น่าสนใจ
รีวิว VAIO® Pro 11
การออกแบบของเครื่อง VAIO® Pro 11 ผมว่าฉลาดและเก๋ทีเดียว เก๋ยัง เรามาทำความรู้จักมันไปพร้อมกันดีกว่าครับ ตัวเครื่องเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ซึ่งมีคุณสมบัติด้านน้ำหนักที่เบา บนฝามีสัญลักษณ์ VAIO เป็นโลหะเงาประทับ แสดงความหรูหรา ขอบเครื่องแต่ละด้านมีลูกเล่นในการออกแบบเล็กน้อยคือทำเป็นมุมเอียง ขอบฝาด้านบนเป็นโลหะเงินดูสวยงาม สังเกตว่าตรงขอบเงินจะมีพลาสติกสีขาวเล็กๆ อยู่ 2 ฝั่ง ทีแรกผมนึกว่าเป็นไฟ LED แต่ที่จริงแล้วมันเป็นขาตั้งครับ
ผมว่าเป็นความเท่และฉลาดมากกับการออกแบบ ที่เมื่อเรายกฝาขึ้น ส่วนที่เป็นขอบล่างหน้าจอจะกลายเป็นขาตั้งทำให้ส่วนคีย์บอร์ดเอียงสูงขึ้นเล็กน้อย เวลาพิมพ์มันจะเมื่อยมือน้อยลงกว่าเดิมเยอะเลยล่ะครับ โดยเจ้าแท่งพลาสติกสีขาวเล็กๆ นั้นก็จะช่วยกันไม่ให้ขอบโลหะขูดกับพื้นโต๊ะจนเป็นรอยนั่นเอง
นี่ครับ เมื่อกางฝาออก เจ้าพลาสติกจะเลื่อนมาอยู่ตำแหน่งด้านล่างแบบนี้
พวกพอร์ทต่างๆ จะวางไว้ที่ด้านขวาของเครื่อง มี ช่องเสียบหูฟัง, USB 3.0 ให้ 2 ช่อง โดยมีช่องหนึ่งที่มีสัญลักษณ์รูปสายฟ้าอยู่ คือเราสามารถเสียบชาร์จแบตฯให้อุปกรณ์อื่นได้โดยไม่ต้องเปิดเครื่องผ่านเจ้าช่องนี้ครับ สุดท้ายเป็นช่อง HDMI น่าเสียดายที่รุ่นนี้ไม่มี ช่องสำหรับต่อสายแลนนะครับ น่าจะเป็นเพราะต้องการออกแบบให้บางที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
อีกฝั่งมีรูสำหรับเสียบหม้อแปลง และช่องระบายความร้อนครับ
สายชาร์จก็เหมือนกับโน้ตบุ้คทั่วไป แต่ตรงหม้อแปลงมีความเก๋เล็กๆ ตรงมีพอร์ท USB ให้มาด้วย สามารถเสียบชาร์จอุปกรณ์ได้ด้วยล่ะ
คีย์บอร์ดไม่มีปุ่มตัวเลขแยกมาให้ แต่ก็ไม่แปลกอะไรสำหรับโน้ตบุ้คขนาด 11 นิ้วนะครับ ถ้าใส่มา ปุ่มคงจะยิ่งชิดกว่านี้ ซึ่งผมว่ามันก็ชิดมากแล้วล่ะตอนนี้ บอดี้ส่วนที่เป็นคีย์บอร์ดก็ยังคงเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ แต่ว่าบริเวณที่รองมือใช้อลูมิเนียมครับ ซึ่งนอกจากจะทำให้สวยงามแล้ว ยังให้สัมผัสที่ดีกว่าคาร์บอนไฟเบอร์ด้วยครับ มันไม่สากน่ะ
สำหรับทัชแพด รองรับการทำงานแบบ Gesture สามารถใช้ 2 นิ้วซูมภาพ หรือเลื่อนหน้าจอได้ ก็เป็นอีกลูกเล่นที่สะดวกและขาดไม่ได้อีกแล้วสำหรับโน้ตบุ้ครุ่นใหม่ๆ
และแน่นอนว่าคีย์บอร์ดมีไฟ Backlit ให้ด้วย ใช้งานในที่มืดไม่ใช่ปัญหา หุหุ
ลำโพงจะอยู่ด้านบนเหนือคีย์บอร์ด ซึ่งคุณภาพเสียงของลำโพงถือว่าดีทีเดียว (สำหรับลำโพง Notebook) แม้จะเร่งเสียงจนดังสุด ก็ยังไม่มีเสียงแตกเลยล่ะ มิติดีใช้ได้ (ย้ำว่า เทียบกับลำโพง Notebook ทั่วไป)
หน้าจอของ VAIO® Pro 11 มีความคมชัดและสวยงามมากทีเดียว ใครที่ชอบสีที่โทนออกธรรมชาติผมว่าไม่ผิดหวังแน่นอน แต่ถ้าชอบสีสดสไตล์ OLED คงจะไม่ชอบเท่าไหร่ และด้วยหน้าจอความละเอียด 185ppi ความคมชัดของภาพและตัวอักษรจะแสดงผลได้อย่างคมชัด
มุมมองหน้าจอก็กว้างทีเดียว เพียงแต่ถ้าเอียงมากแสงและสีจะดรอปลงไปหน่อยแต่ก็ไม่มากครับ
ประสิทธิภาพของเครื่อง VAIO® Pro 11
สิ่งหนึ่งที่ประทับใจคือ การที่เราสามารถบูทเครื่องไปยังหน้า Log in ภายใน 3 วินาที และเข้าถึงหน้า Start menu ได้ภายใน 5-6 วินาทีเท่านั้น ลองดูความรวดเร็วของการทำงานได้จากวิดีโอรีวิวด้านล่างนี้เลยครับ
ความเห็นจากไทยแวร์
จุดเด่น
จุดด้อย
ถ้ามองผ่านๆ VAIO® Pro 11 ก็ดูเหมือน Ultrabook ที่วางขายทั่วไปในท้องตลาด แต่ถ้าคุณได้มีโอกาสสัมผัสและลองใช้งานแล้วล่ะก็ มันจะให้ประสบการณ์การใช้งานที่แตกต่างออกไปจาก Ultrabook ทั่วไปอย่างแน่นอน ด้วยน้ำหนักไม่ถึง 1 กิโลกรัม พอได้ลองถือมัน ก็จะไม่อยากถือรุ่นอื่นอีกเลยล่ะ และมันไม่ได้แค่บางและเบา แต่การออกแบบของมันรวมถึงฮาร์ดแวร์ข้างในมันทำให้เกิดความประทับใจมากทีเดียว
ถ้าใครที่เป็นแฟน VAIO มาก่อน น่าจะจดจำรุ่นในตำนานอย่าง VAIO Z ได้ ผมว่าการดีไซน์ของ VAIO Pro 11 นั้นมีการเอาจุดเด่นของรุ่นพี่มาทำใหม่ให้แหล่มกว่าเดิมได้ลงตัวทีเดียว
ราคาเปิดตัวของ VAIO® Pro 11 อยู่ที่ 35,900 บาท ราคานี้หลายคนอาจจะมองว่าซื้อ MacBook Air ดีกว่าไหม ราคาของ Macbook Air 128GB อยู่ที่ 31,900 บาท ถูกกว่ากันถึง 4,000 บาท ก็ต้องดูไปที่องค์ประกอบอื่นๆ ด้วยล่ะครับ ทั้งสองรุ่นนี้มีความแตกต่างกันทั้งในด้านระบบปฏิบัติการและฮาร์ดแวร์ภายใน ซึ่ง VAIO Pro 11 ก็เหนือกว่า MBA อยู่ในระดับนึง (จริงๆ นะ)
จุดที่เห็นชัดและผมมองว่าเป็นอีกหนึ่งจุดขายของ VAIO® Pro 11 เลย คือ หน้าจอครับ หน้าจอของอัลตราบุครุ่นนี้คมชัดและสีสรรที่ดีมาก สีจอไม่ได้สดจนหลอกตา แต่ออกโทนสมจริงธรรมชาติ หน้าจอของ VAIO® Pro 11 มีความละเอียดเป็น Full HD 1920 x 1080 พิกเซล ความหนาแนนของพิกเซล 190ppi มากกว่า MBA ที่ความละเอียด 135ppi เท่านั้น ผมลองไปค้นหาข้อมูลของหน้าจอที่ทาง SONY เรียกว่า Sony’s Triluminos เพิ่มเติม พบว่าเป็นเทคโนโนโลยีตัวเดียวกับที่ Sony ใช้ในจอ 4K Bravia Display
หัวใจหลักได้ซีพียูตัวล่าสุดจากอินเทล เจนเนอเรชั่น 4 Haswell มาใช้ ทำให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ ใช้ได้นานกว่าเดิม แต่น่าเสียดายที่การ์ดจอของรุ่นนี้เป็น Intel® HD Graphics 4400 ไม่ได้ใช้รุ่นสูงสุดอย่าง Intel® HD Graphics 5000 แต่ในการใช้งานจริง มันก็สูงมากพอสำหรับการใช้งานอย่างเหลือเฟือจะดูหนังแบบ Full HD หรือเล่นเกม 3 มิติ ทำได้สบายไม่มีปัญหาครับ
|
แอดมินสายเปื่อย ชอบลองอะไรใหม่ไปเรื่อยๆ รักแมว และเสียงเพลงเป็นพิเศษ |
ความคิดเห็นที่ 3
24 กันยายน 2556 09:36:15
|
||
GUEST |
ple
update ล่าสุด 16.1.5.2 ลองลงแล้วปัญหา wifi ใช้ได้ดีแล้วครับลองดู
|
|
ความคิดเห็นที่ 2
18 กันยายน 2556 00:48:17
|
||
GUEST |
ตี๋
ปัญหา wifi ล่ะครับ เห็นบอกว่ามีปัญหากัน ถึงแม้ว่าเป็น update ล่าสุด 16.1.3.1 แล้วครับ ต่างประเทศก็โพสกันไว้เยอะเลยครับ
|
|
ความคิดเห็นที่ 1
29 สิงหาคม 2556 13:03:40
|
||
GUEST |
Cheddar bob
ตัว13 เเจ๋วกว่านะ
|
|