วันนี้ทางทีมงานไทยแวร์ ได้ยกแอปฯ มารีวิวเป็นแพคคู่ทั้ง Dr.Safety และ Dr.Booster จากทาง Trend Micro บริษัทชั้นนำด้านความปลอดภัยบนเทคโนโลยี ซึ่งแอปฯ ทั้ง 2 นี้ เป็นแอปฯ ที่ให้บริการบนสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ ที่มีหน้าที่แตกต่างกัน สำหรับ Dr.Safety นั้น ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นในเรื่องของความปลอดภัย ไม่ว่าจะทั้งภายในและภายนอกสมาร์ทโฟน ที่ค่อนข้างจะครอบคลุม ทั้งการใช้งานแอปฯ ต่างๆ เล่นเว็บไซต์ โซเชียล ไฟล์ต่างๆ รวมทั้งการจัดการสมาร์ทโฟนเมื่อมือถือหาย เหมือนกับ Find My Phone ของ Google นั่นเอง
ส่วน Dr.Booster นั้น เป็นแอปฯ ในการจัดการเกมส์บนสมาร์ทโฟนให้สามารถแสดงประสิทธิภาพได้มากขึ้น เหมาะกับสมาร์ทโฟนที่ต้องการเล่นเกมส์แรงๆ แต่มีปัญหาในการจัดการแรม (RAM) ซึ่งโปรแกรมทั้ง 2 นี้ สามารถใช้งานอย่างไรได้บ้าง ไปชมกันได้เลย
Dr. Safety
เมื่อเปิดมาหน้าแรก แอปฯ จะทำการอัพเดทสิ่งที่ต้องทำอัตโนมัติ ซึ่งในที่นี้ประกอบไปด้วย การเข้าถึงโซเชียลมีเดีย (เฟสบุ๊ค) เพื่อเข้าไปจัดการส่วนต่างๆ สแกนความเสี่ยงบนอุปกรณ์และแอปฯ ต่างๆ
ต่อมาคือเมนู Features ต่างๆ ที่แอปฯ นี้สามารถจัดการได้ มีดังนี้
เมนูนี้จะทำการสแกนไฟล์ที่มีความเสี่ยงต่างๆ บนสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ ซึ่งมีหน้าที่เหมือนกับโปรแกรมแอนตี้ไวรัสทั่วๆ ไปนั่นเอง ซึ่งระบบการ Scan จะเรียกฐานข้อมูลของ Trend Micro ที่ได้ทำการเก็บตัวอย่างของภัยคุกคามต่างๆ ไว้ตั้งแต่ปี 2010 โดยเชื่อมต่อผ่านระบบ Cloud โดยทำได้อย่างรวดเร็ว
เมนูต่อมาก็เป็นการสแกนเช่นกัน แต่จะเป็นการตรวจหาแอปฯ ที่มีความเสี่ยงกับข้อมูลส่วนตัวของเรา ซึ่งถ้า Dr.Safety ตรวจพบว่าแอปฯ ที่ใช้อยู่มีความเสี่ยง แต่เราต้องใช้งาน ก็สามารถไปเพิ่มใน Trusted App เพื่อยืนยันความปลอดภัยเองได้ โดยแอปฯ จะระบุให้ทราบว่าอันตรายกับข้อมูลส่วนตัวของเราอย่างไร เช่นโปรแกรมเกม แต่ต้องการแชร์รูปถ่ายภายในเครื่องของเรา
เมนูนี้จะเหมือนกับ Find My Phone ของทาง Google ซึ่ง Dr.Safety จะทำการผูกสมาร์ทโฟนเข้ากับไอดีของทาง Trend Micro และสามารถแสดงผลต่างๆ ในกรณีที่มือถือสูญหายได้ ซึ่งมีฟังก์ชั่นต่างๆ ดังนี้
ผู้ใช้สามารถเพิ่มข้อความที่แสดงเวลามีคนพบเจอมือถือที่ทำหายได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นช่องทางการติดต่อหรืออะไรก็ตาม นอกจากนี้ หนึ่งแอคเคาท์ยังสามารถเพิ่มการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์สมาร์ทโฟนได้มากกว่า 1 เครื่อง โดยผู้ใช้จะต้องใส่ email เพื่อการค้นหาในกรณีเครื่องหาย
เมนูนี้ เป็นการตั้งระดับความปลอดภัยในการเล่นเว็บไซต์ต่างๆ ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่ Low, Normal และ High นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มการบล๊อคเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมได้เองอีกด้วย
ในส่วนของเมนูนี้ จะทำการเข้าถึงแอคเคาท์เฟสบุ๊คของผู้ใช้ เพื่อเข้าไปตั้งค่าความปลอดภัยในการเข้าถึงเฟสบุ๊คของคุณ ซึ่งจริงๆ แล้วเราสามารถไปปรับในเฟสบุ๊คเองได้ แต่ทางแอปฯ ก็ได้รวมมาให้ปรับใช้งานได้ง่ายขึ้นแล้ว
และเมนูสุดท้ายสำหรับ Dr.Safety เป็นส่วนของการแนะนำแอปฯ ต่างๆ ในแต่ละหมวด ซึ่งเมื่อกดที่แอปฯ ก็จะลิ้งไปยัง Google Play Store ซึ่งแอปฯ เหล่านี้ได้รับการตรวจสอบจากทาง Trend Micro ว่าปลอดภัยต่อการใช้งาน
Dr. Booster
ต่อมาก็ถึงตาของ Dr.Booster ที่ช่วยจัดการสมาร์ทโฟนให้สามารถเล่นเกมส์ได้ดีขึ้นกว่าปกติที่สามารถทำได้ โดยเมื่อเราโหลดแอปฯ มาติดตั้งบนเครื่องแล้ว แอปฯ จะทำการค้นหาเกมส์ต่างๆ มาจัดเก็บไว้ในรายการของแอปฯ
หากแอปฯ ไหนไม่อยู่ในรายการของ Dr.Booster เราก็สามารถเพิ่มเองได้เช่นกัน ซึ่งนอกจากการแอดเกมส์ที่มีในเครื่องแล้ว Dr.Booster ก็มีส่วนของเมนูแนะนำแอปฯ ต่างๆ บน Google Play Store เช่นเดียวกัน สามารถเลือกโหลดเกมส์เพิ่มจากในนี้ได้
ซึ่งเมื่อเปิดใช้งาน Dr.Booster แล้ว แอปฯ จะทำการตั้งโฟลเดอร์เกมส์ขึ้นมาใหม่ในหน้าแรกของสมาร์ทโฟน ให้สามารถเข้าใช้งานเกมส์แบบบูสเตอร์ได้ผ่านโฟลเดอร์นี้
เมื่อเปิดเกมส์ผ่านโฟลเดอร์หรือแอปฯ Dr.Booster ก็จะทำการบูสต์แรมในตัวเครื่องให้สามารถรองรับการเล่นเกมส์ได้มากขึ้น
ทางทีมงานได้ทดสอบเกมส์ N.O.V.A.3 ซึ่งปกติแล้วบน Nexus 4 เล่นเกมส์นี้จะกระตุกเล็กน้อย ก็มีความไหลลื่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
สรุปแอปฯ Dr. Safety และ Dr. Booster
ข้อดี
ข้อสังเกต
แอปฯ ทั้ง 2 ตัวนี้ ถือว่าเป็นแอปฯ ที่ดี ถ้าจะมีติดเครื่องเอาไว้บนสมาร์ทโฟน เพราะทาง Dr.Safety ก็สามารถสร้างความปลอดภัยให้กับสมาร์ทโฟนได้อย่างครบวงจรและครอบคลุม ไม่ต้องไปใช้หลายๆ บริการให้ยุ่งยาก ส่วน Dr.Booster ก็เป็นหนึ่งในแอปฯ เร่งความเร็วเกมส์ ที่สามารถเรียกใช้งานได้อย่างรวดเร็ว สะดวกสบาย โดยเพื่อนๆ สามารถไปดาวน์โหลดแอปฯ ทั้ง 2 กับทางไทยแวร์ได้ที่นี่เลย
|
... |