รีวิว Bamboo Spark โฟลิโออัจฉริยะ เปลี่ยนลายเส้นบนสมุด มาเก็บบนโลกดิจิทัล

ไม่ว่าเทคโนโลยีใหม่ๆ ทั้งสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ที่มีฟังก์ชั่นในการจดบันทึกต่างๆ จะถูกพัฒนาให้สะดวกมากขึ้นเพียงใด หรือจะให้สัมผัสที่ใกล้เคียงกระดาษจริงๆ ซักเท่าไร ก็คงไม่มีเทคโนโลยีไหนถูกใจนักเขียนหรือนักวาดหลายๆ คนที่ชอบการสัมผัสปากกาบนกระดาษจริงๆ แน่นอน ซึ่งทาง Wacom ก็คงจะคิดเช่นเดียวกัน จึงได้ผลิตสินค้าที่มีชื่อว่า Bamboo Spark ออกมาสู่ตลาดนั่นเอง

Bamboo Spark เป็น Folio อัจฉริยะ ที่สามารถเปลี่ยนสิ่งที่คุณจดบนกระดาษผ่าน Folio ให้กลายเป็นลายเส้นในระบบดิจิทัลได้ ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นที่สะดวกสบายสำหรับใครหลายๆ คน อย่างเช่น การจดเลคเชอร์ที่เรียน แล้วบันทึกเก็บไว้อ่านในภายหลังบนอุปกรณ์มือถือหรือแชร์ให้เพื่อน หรือการร่างภาพบนกระดาษเพื่อทำการสแกนขึ้นระบบดิจิทัลสำหรับคนที่ชอบวาดรูป และในวันนี้ ทางทีมงานไทยแวร์ก็จะนำ Bamboo Spark มารีวิวให้ได้ชมกัน ไปดูกันได้เลย

รีวิว Bamboo Spark

มาดูกันก่อนว่า เมื่อเพื่อนๆ ซื้อ Bamboo Spark แล้ว จะได้อะไรมาใช้งานกันบ้าง

เริ่มเปิดเล่ม Folio ขึ้นมาก็จะพบกับกระดาษโน้ต 1 เล่มและปากกา Bamboo 1 ด้าม

ระหว่างช่องเสียบปากกาและสมุดโน้ต จะเห็นปุ่มวงกลม 1 ปุ่ม ไว้สำหรับใช้งานคำสั่งต่างๆ ทั้งการส่งรูปไปยังอุปกรณ์มือถือหรือการเปลี่ยนหน้าเพจ

ด้านซ้ายเป็นช่องสำหรับเก็บสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์เล็กๆ (รุ่น Gadget pockets) ซึ่งมีอีก 2 รุ่นสำหรับวาง iPad (รุ่น snap-fit for iPad 2) และแท็บเล็ต (รุ่น Tablet sleeve) 

ด้านบนของตัวเครื่องเป็นพอร์ตสำหรับชาร์จไฟด้วย MicroUSB ที่สามารถเสียบกับคอมหรืออะแดปเตอร์ชาร์จไฟทั่วไปได้ ส่วนด้านล่างเป็นปุ่ม Power สำหรับ เปิด/ปิด Bamboo Spark เพื่อใช้งาน

ด้านข้างของตัว Bamboo Spark มีห่วงคล้องไว้คล้องสมุดเพื่อล๊อคไม่ให้เปิดออก ซึ่งสามารถถอดเปลี่ยนได้เมื่อใช้งานไปนานๆ จนยางเริ่มสึก

ส่วนภายในกล่องนั้น ประกอบด้วยสาย MicroUSB, คู่มือและไส้ปากกา 2 ไส้พร้อมเครื่องมือถอดไส้ปากกา

การเชื่อมต่อ Bamboo Spark กับอุปกรณ์สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต

สำหรับการจะดึงรูปจาก Bamboo Spark นั้น มายังสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตนั้น จำเป็นต้องติดตั้งแอปฯ Bamboo Spark ก่อน ซึ่งมีให้ใช้งานทั้งระบบปฏิบัติการไอโอเอสและแอนดรอยด์ สามารถดาวน์โหลดแอปฯ Bamboo Spark ได้ที่นี่ แล้วไปเชื่อมต่อพร้อมกันเลย

หลังจากติดตั้งแอปฯ เสร็จเรียบร้อย ก็เปิดแอปฯ ขึ้นมาเพื่อทำการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Bamboo Spark ก่อน โดยเลือก SET UP BAMBOO SPARK จากนั้นยอมรับข้อตกลงการใช้งานโดยกดปุ่ม Agree

เพื่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทางแอปฯ จะให้เราสมัคร Wacom Cloud สำหรับเก็บข้อมูลต่างๆ ที่เราเขียนไว้บน Cloud ซึ่งสามารถใช้งานได้ฟรีสูงสุดถึง 5 GB สำหรับใครที่สนใจก็กด SIGN UP แล้วกรอกข้อมูลตามขั้นตอนได้เลย ส่วนใครที่ไม่สนใจก็กดที่ Not Now ได้

เมื่อจัดการเข้าสู่ระบบ Wacom Cloud (หรือกดข้าม) เรียบร้อยแล้ว ก็มาทำตามขั้นตอนเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน/แท็บเล็ตกับ Bamboo Spark กัน เริ่มจากเปิดเครื่องโดยการสไลด์ปุ่ม Power ไปทางขวา จากนั้นกดปุ่มตรงกลางเป็นเวลา 5 วินาที (สำหรับการเชื่อมต่อกับ Bamboo Spark จะใช้การเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth อย่าลืมเปิดใช้งานบนสมาร์ทโฟน/แท็บเล็ตกันก่อนนะครับ)

มาตั้งชื่อให้กับอุปกรณ์กันเล็กน้อย จากนั้นกด NEXT ได้เลย

เลือกทิศทางการใช้งานสำหรับคนถนัดซ้าย ขวา หรือจะใช้งานเป็นแนวตั้งก็ได้ จากนั้นกด NEXT และ DONE ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

การใช้งาน Bamboo Spark

สำหรับกระบวนการทำงานของ Bamboo Spark ก็ไม่มีขั้นตอนที่ซับซ้อน เพียงการวาด/เขียน กดปุ่มเพื่อทำการเซฟทีละหน้า สามารถใช้งานได้ทั้งเชื่อมต่อกับอุปกรณ์มือถือ และใช้งานโดยไม่เชื่อมต่ออุปกรณ์ใดๆ ลองมาชมดูกันเลย

สำหรับการใช้งานปกติทั่วไปนั้น เมื่อผู้ใช้ได้เชื่อมต่อ Bamboo Spark เข้ากับแอปฯ บนมือถือเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถเขียนหรือวาดสิ่งต่างๆ แล้วกดปุ่ม Sync เพื่อนำไปเก็บบันทึกบนอุปกรณ์ได้ทันทีเลย ซึ่งสีต่างๆ ของไฟ LED จะแสดงสถานะต่างๆ ดังนี้

• ไฟสีเขียว - แสดงสถานะ Standby พร้อมใช้งาน และหมายความถึงหน้ากระดาษว่าง ยังไม่มีข้อมูลอะไรให้บันทึกอีกด้วย

• ไฟสีฟ้า - แสดงสถานะกำลังบันทึกลายเส้นอยู่ ซึ่งระดับความสว่างของแสงไฟ จะมี 2 รูปแบบ เมื่อกำลังจรดปากกา ไฟจะสว่างขึ้นแสดงถึงการบันทึกอยู่ และไฟจะลดความสว่างลงเมื่อไม่มีการขีดเขียนใดๆ แต่ยังมีไฟล์รอให้กดบันทึกอยู่

สำหรับการใช้งานแบบไม่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์นั้น จะเป็นรูปแบบของการบันทึกไฟล์เก็บไว้ในตัวอุปกรณ์ก่อน ด้วยการขีดเขียนเพื่อใช้งาน แล้วกดปุ่มวงกลม ที่ทำการเปลี่ยนหน้าใหม่ และบันทึกหน้าก่อนหน้าเอาไว้ ซึ่งสามารถบันทึกได้สูงสุดถึง 100 หน้าด้วยกัน

รูปที่บันทึกเอาไว้ใน Bamboo Spark จะถูกส่งมายังอุปกรณ์สมาร์ทโฟนทันทีเมื่อทำการเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน

หลายคนอาจจะสงสัยเหมือนทีมงานว่า ถ้ากระดาษหมดหรือปากกาหาย จะสามารถใช้ของชิ้นอื่นๆ นอกจากตัวสินค้ามาใช้งานได้ไหม? มาลองใช้งานดูกัน

สำหรับกระดาษนั้น เพื่อนๆ สามารถนำกระดาษหรือสมุดเล่มอื่น มาใช้งานแทนสมุดโน้ตที่ให้มากับ Bamboo Spark ได้

ส่วนปากกานั้น ไม่สามารถนำปากกาชนิดอื่นๆ มาใช้งานแทนปากกา Bamboo ได้ หากใช้งานจนหมึกหมด (รวมทั้งหมึกสำรองอีก 2 แท่ง) หรือปากกา ต้องทำการซื้อเพิ่มเพื่อนำมาใช้งานเท่านั้น

คลิปวีดิโอรีวิว Bamboo Spark

สรุป Bamboo Spark

ข้อดี

• เก็บข้อมูลบนอุปกรณ์ดิจิทัล ได้ด้วยสัมผัสการเขียนบนกระดาษปกติ
• ใช้งานง่าย ไม่ต้องมีวีธีการซับซ้อนในการใช้งาน
• สามารถบันทึกข้อมูลที่เขียนไว้ในอุปกรณ์ Bamboo Spark ได้สูงสุดถึง 100 หน้า
• มี Wacom Cloud ให้สำรองข้อมูลไว้ได้ฟรีถึง 5 GB ด้วยกัน

ข้อสังเกต

• ไม่รองรับน้ำหนักการกดปากกา (เส้นหนา/เส้นบาง) ทั้งๆ ที่ต้องใช้ปากกาของทาง Bamboo โดยเฉพาะ จึงไม่เหมาะสำหรับการวาดรูปแบบจริงจัง เหมาะกับการจดและร่างไอเดียมากกว่า
• หากทำการบันทึกหลายๆ แล้วลืมกดปุ่มบันทึกเพื่อเปลี่ยนหน้า ข้อมูลที่ออกมาอาจจะทับซ้อนกันเสียหายได้
• อุปกรณ์บันทึกลายเส้นจากการสัมผัสระหว่างปากกากับตัวแผ่นรอง หากกระดาษขยับระหว่างเขียน อาจทำให้ข้อมูลเพี้ยนตามได้

สำหรับ Bamboo Spark ตัวนี้ เหมาะมากสำหรับคนที่ชอบความสะดวกสบายในการจัดเก็บข้อมูลที่จดลงบนอุปกรณ์สมาร์ทโฟน เพื่อเก็บไว้อ่านในภายหลัง เพราะถึงแม้ว่าสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตรุ่นใหม่ๆ จะพัฒนาให้การจดสามารถใช้งานได้สะดวกเพียงใด แต่ผิวสัมผัสในการเขียนก็ไม่เหมือนกับการเขียนด้วยกระดาษกับปากกาอยู่ดี ถือว่าตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้หลายๆ กลุ่มเลยทีเดียว เสียดายตรงที่ Bamboo Spark นี้ตัวปากกาไม่รองรับแรงกดซักเท่าไหร่ จึงเหมาะกับการจดมากกว่าการวาดรูป ใครที่สนใจ Bamboo Spark รุ่นนี้ ก็สามารถไปรับชมรายละเอียดเพิ่มเติมในไทยแวร์ชอปกันได้เลย