รีวิว โปรเจคเตอร์ Panasonic PT-LB412 Series เชื่อมต่อแบบไร้สาย ติดตั้งง่าย เคลื่อนย้ายสะดวก

หากจะพูดถึงอุปกรณ์ที่สำคัญมากๆ ในการนำเสนองานต่างๆ หรือใช้ในการเรียนการสอน คงจะมองข้ามอุปกรณ์เครื่องฉายภาพอย่างโปรเจคเตอร์ไปไม่ได้แน่นอน วันนี้ทางไทยแวร์ได้มีโอกาสสัมผัสกับเครื่องโปรเจคเตอร์ตัวใหม่ล่าสุดจาก Panasonic ในรุ่น PT-LB412 Series ที่ถือได้ว่าเป็นแอลซีดีโปรเจคเตอร์รุ่นท๊อปของซีรีย์ LB เลยทีเดียว ในรุ่นนี้มีระบบเทคโนโลยีการฉายภาพที่ล้ำสมัยและน่าสนใจอย่างระบบ 3LCD ที่สามารถแบ่งแยกเฉดสีออกมาได้อย่างสวยงามและคมชัดกว่าเครื่องฉายภาพทั่วไป

ความโดดเด่นในระบบเทคโนโลยี 3LCD ของทาง Panasonic

ที่นับได้ว่าเป็นเทคโนโลยีการฉายภาพที่ทันสมัยของ LCD Projector ซึ่งการฉายของหลอดภาพนั้นจะถูกแบ่งพาเนลออกเป็น 3 ชั้น ที่ใช้ตัวกรอง 3 สีหลักอย่าง สีแดง (Red) , สีเขียว (Green) , และสีน้ำเงิน (Blue) หรือที่เรียกกันย่อๆ ว่า RGB นั่นเอง โดยตัวพาเนลแต่ละชั้นนั้นจะช่วยกรองสีสันได้อย่างละเอียดก่อนที่จะส่งไปถึงตัวเลนส์ ทำให้จอภาพที่ฉายออกมานั้นมีสีสันที่สวยงาม สมจริง และคมชัดทุกรายละเอียด

นอกจากนี้ยังมีค่าความสว่างในการฉายภาพที่สูง สามารถใช้งานในหอประชุมหรือห้องเรียนขนาดใหญ่ๆ ที่มีสภาพแสงสว่างแบบปกติได้แบบสบายๆ รวมถึงมีฟีเจอร์ในการใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อแบบไร้สายผ่านแอปพลิเคชันที่ใช้บนมือถือ หรือการปรับภาพในมุมองศาที่เป็นรูปทรงโค้ง ก็สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งติดตั้งใช้งานได้ง่าย

เรียกได้ว่าเป็นโปรเจคเตอร์ที่ครบครัน เหมาะต่อการใช้งานในองค์กรและการเรียนการสอนได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะมีรูปแบบการใช้งานและฟีเจอร์เด็ดๆ อะไรอีกบ้าง ลองมาชมรีวิวกันได้เลยครับ

คุณสมบัติทั่วไปของเครื่องโปรเจคเตอร์ Panasonic ในรุ่น LB412

คลิปวิดีโอ 

อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่อง 

• ตัวเครื่องโปรเจคเตอร์
• รีโมทคอนโทรล
• แผ่น CD ROM แนะนำการใช้
• คู่มือการใช้งาน 2 เล่ม (ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ)
• สาย VGA สำหรับเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์
• สายไฟตัวเครื่อง
• ตัวเชื่อมต่อไร้สาย Wireless module (ET-WML100E)

การออกแบบรูปทรงภายนอก

ด้วยดีไซน์ของตัวเครื่องนั้น อาจจะดูเรียบๆ ไม่หวือหวา แต่ก็ดูดีเหมาะสมกับการใช้งานทางการ ในส่วนของขนาดตัวเครื่องก็ออกแบบมาได้อย่างลงตัว ไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก ด้วยน้ำหนักที่เบาเพียง 2.9 กิโลกรัม สามารถถือมือเดียวได้แบบสบายๆ

มาสำรวจบริเวณด้านบนของตัวเครื่องกันบ้าง จะเห็นได้ว่ามีปุ่มควบคุมการใช้งานเฉพาะฟังก์ชั่นที่จำเป็นเพียงไม่กี่ปุ่มเท่านั้น ทำให้ดูสบายตาและง่ายต่อการใช้งาน อย่าง ปุ่ม Power ที่ใช้เปิด/ปิดเครื่อง , ปุ่ม Keystone ที่ใช้ปรับมุมองศาของขอบภาพ , ปุ่ม Menu และ ปุ่ม Input/Enter ที่ใช้ปรับเปลี่ยนโหมดการใช้งาน รวมถึงไฟแสดงสถานะแจ้งเตือนต่างๆ  

สำหรับตัวเลนส์ฉายภาพนั้น เป็นเลนส์ซูมที่ใช้ปรับขยายภาพได้ถึง 1.2 เท่า และมีค่าความสว่างของหลอดภาพที่สูงถึง 4,100 ลูเมน ทำให้สามารถฉายภาพในห้องที่มีแสงสว่างจ้าได้อย่างสบายๆ 

มีวงแหวน 2 วง อยู่เหนือบริเวณด้านบนของเลนส์ฉายภาพ เพื่อใช้ปรับการฉายภาพ โดยที่วงแหวนวงนอกนั้นใช้สำหรับการ ปรับโฟกัสภาพ เพื่อเพิ่มความคมชัด ส่วนวงแหวนวงในจะใช้ในการ ปรับซูม เพื่อขยายภาพ

ระยะขอบเขตในการฉายภาพนั้น ใช้พื้นที่เพียงเล็กน้อยก็สามารถฉายจอภาพที่มีขนาดใหญ่ๆ ได้ ในระยะตั้งแต่ 3 เมตรเป็นต้นไป

มี สลักล็อกขาตั้ง ที่สามารถปรับระดับการฉายภาพแบบมุมเงยได้ ซึ่งเหมาะมากๆ กับการใช้งานของเครื่องโปรเจคเตอร์ที่ติดตั้งการใช้งานบนโต๊ะ หรือบนพื้นราบ

มีระบบพัดลมถึง 2 ตัว และรูระบายความร้อนที่ด้านข้างของตัวเครื่อง เพื่อช่วยลดความร้อนของหลอดภาพและทำให้เครื่องสามารถใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานขึ้น

มีตัวกรองที่สามารถถอดฝาออกมาทำความสะอาดได้อย่างสะดวก เพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่นเข้าไปที่หลอดภาพ 

ในส่วนของบริเวณด้านหลังตัวเครื่องโปรเจคเตอร์ จะเป็นแผงการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ ซึ่งรองรับการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ สามารถเชื่อมต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์ผ่านทางสาย VGA และ HDMI พร้อมกับมีช่อง Audio In/Out เพื่อรองรับการใช้งานร่วมกับลำโพงหรือเครื่องขยายเสียงอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีช่องเสียบสาย LAN มาให้อีกด้วย เรียกได้ว่าครบครันเลยทีเดียว

มี ช่อง USB Viewer/ Wireless ที่ใช้เปิดดูไฟล์ต่างๆ จาก Flash Drive และเป็นช่องเสียบของอุปกรณ์ Wireless Module เพื่อเชื่อมต่อการใช้งานแบบไร้สายได้ และมีลำโพงในตัว ที่มีกำลังขับถึง 10 วัตต์ สามารถขับเสียงออกมาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งในจุดนี้ก็มีประโยชน์มากเลยทีเดียว เมื่อใช้ในการเปิดเล่นไฟล์วิดีโอที่มีทั้งภาพและเสียง โดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับลำโพงภายนอกให้ยุ่งยาก

รีโมทมีน้ำหนักเบาและมีขนาดที่ค่อนข้างเล็ก สามารถจับได้พอดีมือ มีปุ่มฟังก์ชั่นลัดสำหรับเปลี่ยนโหมดการใช้งานต่างๆ และการตั้งค่าต่างๆ ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

มีอุปกรณ์เสริมอย่าง Wireless Module : ET-WML100E ที่ใช้เป็นตัวรับสัญญาณการเชื่อมต่อแบบไร้สายได้กับอุปกรณ์อื่นๆ ทั้งมือถือ แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์

ลองมาดูในส่วนของตัวหลอดภาพกันบ้าง หลอดภาพโปรเจคเตอร์นั้น ถือได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญที่จะกำหนดอายุการใช้งานในการฉายภาพต่างๆ ซึ่งในรุ่นนี้ มี โหมดประหยัดพลังงาน ที่สามารถยืดอายุการใช้งานของหลอดภาพได้ยาวนานถึง 10,000 ชั่วโมงเลยทีเดียว และเมื่อหลอดภาพหมดอายุการใช้งานแล้ว ก็สามารถเปลี่ยนหลอดภาพได้เองโดยไม่ยุ่งยาก
 

รูปแบบการใช้งาน และ ฟังก์ชั่นที่น่าสนใจ

เริ่มต้นด้วยการเชื่อมต่อเครื่องโปรเจคเตอร์กับโน้ตบุ๊คด้วยสาย HDMI แล้วลองเปิดเล่นไฟล์วิดีโอจากบน YouTube เพื่อทดสอบระบบภาพและเสียงไปในตัว ได้ลองเปิด MV บน YouTube ความละเอียดสูงที่ 1080P ในสภาพของห้องที่เปิดไฟสว่างๆ ผลเป็นที่น่าพอใจมาก ภาพฉายออกมาได้อย่างคมชัด ลื่นไหลไม่สะดุด

พร้อมกับลำโพงในตัวที่มีกำลังขับถึง 10 วัตต์ เมื่อลองเปิดในระดับเสียงที่ดังสุด คุณภาพเสียงอยู่ในระดับที่ดีพอสมควร เสียงไม่แตก จึงไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับลำโพง หรือเครื่องขยายเสียงจากภายนอกเลย

ปรับมุมขอบของภาพได้อย่างสวยงาม

ในฟังก์ชั่น Keystone นั้น จะสามารถปรับขนาดและมุมองศาของขอบภาพได้ทั้ง 4 มุม เพื่อแก้ไขปัญหาความผิดเพี้ยนในรูปทรงของภาพออกมาได้อย่างละเอียดและมีประสิทธิภาพ 

นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นเด็ดอย่าง Curve Correction ที่ใช้กับการปรับภาพในกรณีที่ฉายภาพอยู่บนพื้นผิวที่เป็นทรงโค้งมน เพื่อแก้ไขปัญหาความผิดเพี้ยนของภาพที่บิดโค้งได้ ซึ่งในโปรเจคเตอร์ทั่วไปหลายๆ รุ่น ไม่สามารถทำได้

เชื่อมต่อไร้สายผ่านมือถือได้อย่างรวดเร็ว

ส่วนฟังก์ชั่นนี้ นับได้ว่าเป็นอีกฟังก์ชั่นที่น่าสนใจและเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานได้อย่างมากเลยทีเดียว เพราะนอกจากเราสามารถฉายรูปภาพและไฟล์เอกสารต่างๆ ผ่านทางมือถือได้แล้ว ยังมีระบบ Live Camera ที่ฉายภาพจากกล้องโทรศัพท์มือถือแบบ Real time ได้อีกด้วย

สำหรับวิธีการเชื่อมต่อนั้นก็สามารถทำได้ง่ายดายมาก เพียงแค่เสียบอุปกรณ์เชื่อมต่อไร้สาย ( Wireless module) เข้าที่ช่อง USB ทางด้านหลังของตัวเครื่องโปรเจคเตอร์

แล้วเชื่อมต่อไวไฟของโทรศัพท์มือถือเราเข้ากับเครื่องโปรเจคเตอร์ในชื่อ NetworkDisplay 

จากนั้นก็ปรับเครื่องโปรเจคเตอร์ไปที่โหมด Network (ด้วยการกดปุ่ม INPUT/ENTER บนตัวเครื่อง) เพื่อให้จอภาพฉายรหัสผ่าน 4 หลักที่จะใช้ในการเชื่อมต่อกับแอปฯ ขึ้นมา

หลังจากนั้นก็เปิด แอปพลิเคชัน VueMagic Pro ในมือถือ แล้วกดไปที่สัญลักษณ์ไอคอนโปรเจคเตอร์ แล้วก็นำรหัส 4 หลักที่ได้มานั้นใส่ลงไป (สามารถกด ดาวน์โหลดแอปฯ VueMagic Pro ได้ที่นี่)

เพียงเท่านี้เครื่องโปรเจคเตอร์กับโทรศัพท์มือถือของเราก็เชื่อมต่อกันเรียบร้อยแล้ว ซึ่งถือว่าง่ายและสะดวกรวดเร็วมากเลยทีเดียว

ในฟังก์ชั่นของแอปพลิเคชันจะแบ่งประเภทของไฟล์เอกสาร และไฟล์รูปภาพเพื่อให้เราเลือกใช้งานได้ง่ายขึ้น
อย่างในฟังก์ชั่น Documents จะใช้เปิดดูไฟล์เอกสารในการนำเสนองานโดยเฉพาะ ซึ่งรองการเปิดไฟล์ในโปรแกรมออฟฟิศได้ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น ไฟล์ Word, PowerPoint, Excel รวมถึงไฟล์ PDF ด้วย

ในส่วนของฟังก์ชั่น Albums จะเป็นการเปิดไฟล์รูปภาพโดยเฉพาะ สามารถเลือกฉายรูปภาพต่างๆ ผ่านทางมือถือได้อย่างสะดวกรวดเร็ว

คราวนี้มาลองดูระบบฉายภาพแบบ Live Camera ผ่านทางกล้องของมือถือกันบ้าง ในฟังก์ชั่นนี้ถือว่าเป็นจุดเด่นของแอปพลิเคชันเลยก็ว่าได้ หลังจากที่ลองฉายภาพแบบ Real time ในห้องที่มีแสงสว่างจ้าจากทั้งภายในและภายนอก ภาพเคลื่อนไหวที่ฉายออกมานั้นก็ยังให้ความคมชัดที่น่าพอใจเลยทีเดียว แม้จะมีอาการกระตุกบ้างเล็กน้อย หากเคลื่อนไหวกล้องไปมาเร็วๆ 

Daylight View โหมดใช้งานท่ามกลางสภาพแสงที่สว่าง

ในโหมดนี้ก็ถือเป็นโหมดที่ดีมาก สำหรับใช้งานในที่ที่มีแสงสว่างจ้า อย่างเช่นในห้องประชุมหรือห้องเรียนที่เปิดไฟสว่างๆ โดยที่โหมดนี้จะเป็นการปรับเร่งระดับของแสงในการฉายภาพเพื่อเพิ่มความสว่างและความคมชัดให้กับจอภาพได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ สามารถเปิดการใช้ได้จากในเมนู Color adjust หรือจะกดปุ่มลัด Daylight view บนรีโมทก็ได้เช่นเดียวกัน

เชื่อมต่อผ่านระบบ LAN เล่นอินเทอร์เน็ต และควบคุมระบบการใช้งานในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับระบบ LAN ในเครื่องโปรเจคเตอร์นั้น ถือได้ว่าเป็นระบบที่สำคัญและจำเป็นมากสำหรับในธุรกิจและองค์กร ซึ่งส่วนมากมักจะมีอยู่ในเครื่องโปรเจคเตอร์เฉพาะรุ่นที่มีราคาสูงๆ เท่านั้น สามารถควบคุมการใช้งานร่วมกับเครื่องโปรเจคเตอร์และคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆ ผ่านทางระบบเครือข่ายภายในได้อย่างสะดวกรวดเร็ว นอกจากนี้ยังใช้ในการเล่นอินเทอร์เน็ต เปิดเว็บไซต์ต่างๆ ผ่านทางฟังก์ชั่น Web Pages ในแอปพลิเคชันบนมือถือได้

Lamp Control โหมดประหยัดพลังงานที่ปรับได้ถึง 2 ระดับ

ในรุ่นนี้จะมีฟังก์ชั่น Lamp Control ที่ใช้ควบคุมการทำงานของหลอดภาพโปรเจคเตอร์ เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานของหลอดภาพได้อย่างยาวนานและคุ้มค่ายิ่งขึ้น โดยสามารถที่จะเลือกใช้โหมดประหยัดพลังงานของหลอดภาพได้ถึง 2 ระดับด้วยกัน คือ โหมด Eco 1 และ Eco 2  หากเลือกใช้ในโหมดของ Eco 2  จะช่วยยืดอายุการใช้งานของหลอดภาพได้ยาวนานถึง 10,000 ชั่วโมง แม้แสงในการฉายภาพจะลดความสว่างลงไปประมาณ 25% อาจเห็นภาพได้ไม่ชัดเจนเท่ากับการฉายในโหมดปกติ แต่ก็ถือว่าคุ้มค่ามากเลยทีเดียว

สรุปผลการใช้งาน

สำหรับโปรเจคเตอร์ PT-LB412 Series ของทาง Panasonic ตัวนี้  เรียกได้ว่าเป็นโปรเจคเตอร์ที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบครัน สามารถรองรับการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ และมีระบบการฉายภาพที่สว่างคมชัด เหมาะกับการใช้งานทั้งในธุรกิจ องค์กรและการเรียนการสอนได้อย่างดีเยี่ยม

ข้อดี

• สามารถเชื่อมต่อแบบไร้สาย ใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชันบนมือถือและแท็บเล็ตได้
• มีระบบ Live Camera ที่ฉายภาพจากกล้องมือถือได้แบบเรียลไทม์
• ภาพที่ฉายมีค่าความสว่างสูงใช้งานได้ในห้องหรือสถานที่ที่มีแสงสว่างมากๆ ได้อย่างคมชัดโดยไม่ต้องปิดไฟ
• มีระบบการเชื่อมต่อผ่านทางสาย LAN 
• มีช่อง USB สำหรับเปิดดูไฟล์จากแฟลชไดร์ฟ ได้โดยที่ไม่ต้องเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ใดๆ
• มีโหมดพลังงานให้เลือกใช้ได้ถึง 2 ระดับ เพื่อยืดอายุของหลอดภาพให้ใช้งานได้อย่างคุ้มค่า
• มีลำโพงในตัว

ข้อสังเกต

• ไม่รองรับการใช้งานกับระบบ 3D