ในบทความนี้ ทางทีมงานไทยแวร์ขอพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับ Panasonic Viera TV: TH-65DX900T ทีวีระดับ Ultra HD TV อีกรุ่นหนึ่งที่เปิดตัวในปี 2016 ท่ามกลางเทรนด์ของสมาร์ททีวี 4K HDR ที่มากมายในท้องตลาด แล้วทีวีรุ่นนี้ แตกต่างจากท้องตลาดยังไงบ้างล่ะ?
Panasonic Viera TV: TH-65DX900T เป็นทีวีระดับไฮเอนด์จากแบรนด์พานาโซนิค ที่มีหน้าจอแบบ Flat ขนาดยักษ์ถึง 65 นิ้ว โดยสิ่งที่ทำให้ทีวีรุ่นนี้ มีความโดดเด่นเหนือทีวีรุ่นอื่นๆ ในท้องตลาดก็คือคำว่า 4K Pro อันเป็นเอกลักษณ์ของตัวทีวี และระบบปฏิบัติการ Firefox OS นั่นเอง
ซึ่งชื่อ 4K Pro ที่ได้มานี้ ประกอบไปด้วยเทคโนโลยีการแสดงผลภาพชั้นนำ ทั้งการแสดงสีสันด้วย Hexa Chroma Drive Pro, การแสดงผลภาพที่มีมิติสมจริง HDR Premium และโหมดภาพเฉพาะตัว Hollywood Tuning โดยประสิทธิภาพจะยอดเยี่ยมขนาดไหน ต้องลองไปพิสูจน์กันในรีวิวได้เลย
เทคโนโลยีและฟีเจอร์หลักของทีวี Panasonic Viera TV: TH-65DX900T
สเปคของทีวี Panasonic Viera TV: TH-65DX900T
สำรวจ Panasonic Viera TV: TH-65DX900T
ทีวี Panasonic Viera TV: TH-65DX900T มีขนาดใหญ่ แต่ก็มาพร้อมดีไซน์ที่เรียบง่าย ดูหรูหรา เข้ากับเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น ขอบหน้าจอมีลักษณะเป็นโลหะสีเงินวาว รวมทั้งขาตั้งประกายเพชรที่สร้างความโดดเด่นเป็นสง่าให้กับตัวทีวีเป็นอย่างดี
ปุ่มควบคุมบนตัวทีวี ถูกจัดตำแหน่งไว้อยู่ด้านหลังทางขวาของทีวี มีเพียง 6 ปุ่มพื้นฐาน ได้แก่ ปุ่ม Power, ปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง, ปุ่มเปลี่ยนช่อง และปุ่ม OK
เดินอ้อมมาอีกฝั่งของทีวี จะพบกับพอร์ตการใช้งานต่างๆ ที่ถูกซ่อนอยู่ใต้ฝาหลัง เพื่อให้ดูเรียบง่าย โดยพอร์ตต่างๆ นั้นประกอบไปด้วย
ด้านลำโพงของตัวทีวีจะมีตำแหน่งอยู่ทางด้านหลัง ใกล้กับฐานทั้ง 2 ด้านของทีวี แบ่งออกเป็น Squawker (ลำโพงเสียงกลาง) และ Woofer (ลำโพงเสียงต่ำ) ด้านละหนึ่งตัว คุณภาพเสียงอยู่ในระดับที่ค่อนข้างโอเคสำหรับลำโพงทีวี เพราะนอกจากจะมีเสียงที่ค่อนข้างชัดเจนจาก Squawker แล้ว ยังมีเบสนุ่มๆ เบาๆ จาก Woofer ทั้ง 2 ตัว ช่วยทำให้เสียงจากวิดีโอต่างๆ ดูกลมกล่อมขึ้นอีกด้วย (จริงๆ แล้ว ช่วงที่รีวิวอยู่นี้ Panasonic Viera TV: TH-65DX900T มีโปรโมชั่น ซื้อทีวีแถม Soundbar ไปให้ติดตั้งใช้งานเพิ่มเติมด้วย)
รีโมทที่มากับทีวี มีให้เลือกใช้งาน 2 รูปแบบ ตามความถนัด ทั้งรีโมทแบบทั่วไปและรีโมททีวีแบบสัมผัส
สำหรับรีโมททีวีแบบทั่วไป ก็มีหน้าตาเหมือนรีโมททั่วๆ ไปสมชื่อ มีปุ่มการใช้งานต่างๆ ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานควบคุมทีวีสัญญาณดาวเทียม และการใช้งานระบบปฏิบัติการ ทั้งปุ่มทิศทาง หรือปุ่มเข้าใช้งานแอปฯ ต่างๆ รวมทั้งแอปฯ ดูหนัง Netflix
ส่วนรีโมททีวีแบบสัมผัสนั้น ตัวอุปกรณ์จะมีลักษณะโค้งเล็กน้อยรับกับรูปมือ มีปุ่มการใช้งานเท่าที่จำเป็น รวมทั้งปุ่มสำหรับใช้งาน Voice Command ด้วย (ลองทดสอบแล้ว คำสั่งเสียงไม่รองรับภาษาไทย) พื้นผิวรอบๆ ตัวรีโมทเป็นโลหะสีเงิน โซนควบคุมตรงกลางเป็นหนังสีดำ ที่ให้ความรู้สึกทนทาน มากกว่าปุ่มยางทั่วๆ ไป แต่เมื่อลองใช้งานทัชแพดตรงกลาง แอบมีความรู้สึกหนืดมือ เวลาเลื่อนนิ้วไปมาอยู่หน่อยๆ
หน้าจอการแสดงผลของ Panasonic Viera TV: TH-65DX900T
มาถึงเรื่องของการแสดงผล ซึ่งเป็นจุดเด่นหลักของ Panasonic Viera TV รุ่นนี้ โดยเราจะมาดูกันว่า องค์ประกอบทั้ง 3 ที่ทำให้เกิดเป็นคำว่า 4K Pro ทั้งการแสดงสีสันด้วย Hexa Chroma Drive Pro, มิติของภาพที่เข้มข้น HDR Premium และอารมณ์ของภาพในวงการภาพยนตร์ระดับโลก Hollywood Tuning จะเป็นยังไงบ้าง เราไปเริ่มต้นที่สีสันของภาพกันก่อนเลย
Hexa Chroma Drive Pro
ด้วยเทคโนโลยี Hexa Chroma Drive Pro นี้ ทำให้ Panasonic Viera TV รุ่นนี้ มีความโดดเด่นทางด้านการแสดงผลสีอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากทีวีทั่วไป จะใช้แหล่งกำเนิดสีสันบนหน้าจอแสดงผล เพียง 3 สี ที่ประกอบไปด้วย RGB เท่านั้น แต่สำหรับเทคโนโลยีนี้ จะใช้แหล่งกำเนิดสีทั้งหมด 6 สี ซึ่งได้แก่ RGBCMY ทำให้ Panasonic Viera TV สามารถแสดงผลสีได้กว้าง เป็นธรรมชาติ สมจริง และมีความเข้มของสีที่มากกว่าทีวีทั่วๆ ไป
ซึ่งเมื่อวัดจากมาตรฐาน DCI (Digital Cinema Initiatives) ในด้านการครอบคลุมของสีแล้ว เทคโนโลยี Hexa Chroma Drive Pro ของทีวี DX900 รุ่นนี้ สามารถวัดผลค่า DCI ได้สูงถึง 98 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมากกว่าทีวีรุ่นอื่นๆ ในท้องตลาดอีกด้วย
เมื่อได้ลองชมสีสันต่างๆ ที่แสดงผลบนทีวีแล้ว พบว่า สีสันต่างๆ ของทีวีทำออกมาได้ดี โดยเฉพาะโทนสีน้ำเงิน-ม่วง ที่ใกล้เคียงสีสันธรรมชาติ สมจริง รวมทั้งยังสามารถให้สีสันที่จัดจ้านได้ดีอีกด้วย โดยเฉพาะสีแดง ที่เข้มสดสะใจมาก
HDR Premium
อีกหนึ่งความแตกต่างที่เหนือกว่าทีวีในท้องตลาดด้วยคำว่า HDR Premium ซึ่งความพรีเมี่ยมนี้ เกิดจาก 2 เทคโนโลยีของทาง Panasonic ประสานเข้าด้วยกัน ทำให้เกิดภาพที่มีมิติยิ่งกว่า ทั้ง Ultra Bright Panel ที่เสริมการแสดงผลโทนสว่าง และ Local Dimming Ultra ที่ช่วยจัดการ การแสดงผลในโทนมืด ซึ่งทั้ง 2 เป็นองค์ประกอบหลักของจากเกิดภาพแบบ HDR มาดูกันว่า ทั้ง 2 เทคโนโลยีนี้ ทำให้ Panasonic Viera TV แตกต่างจากทีวีในท้องตลาดยังไงบ้าง มาชมกัน
Ultra Bright Panel
เทคโนโลยี Ultra Bright Panel ที่ให้ความสว่างกับจอแสดงผล Panasonic Viera TV รุ่นนี้ ประกอบไปด้วยไฟ Backlight ที่ให้ความสว่างได้มากกว่า 1,000 nits ส่งผลให้ภาพไฟ แสงแดด แสงสีหรือแสงสะท้อนต่างๆ มีความสว่างสมจริง รวมทั้งความสว่างนี้ ยังทำให้สามารถรับชมทีวีในเวลากลางวันในห้องนั่งเล่นที่มีแสงแดดส่องเข้ามาที่หน้าจอทีวี โดยที่ความสว่างของหน้าจอยังสามารถสู้แสงได้ดีอีกด้วย
ลองไปชมความสว่างเปรียบเทียบ ในระดับต่างๆ ของตัวทีวีกัน
Local Dimming Ultra
ถึงแม้ว่า ด้านความสว่างจะมีกำลังสูง แต่ก็ไม่กระทบไปในส่วนของโทนมืดเลยแม้แต่น้อย ด้วยเทคโนโลยี Local Dimming Ultra ที่แบ่งพื้นที่ของ Backlight ให้กำเนิดแสงออกเป็น 512 ดวง ทำให้สามารถควบคุมการแสดงผลของแสงสีได้เป็นอิสระมากกว่าทีวีทั่วๆ ไปที่มีแหล่งให้กำเนิดแสงเพียงหลักสิบเท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีโครงสร้าง Honeycomb เทคโนโลยีเฉพาะของทาง Panasonic ที่จะคอยปิดกั้นแสงไม่ให้เหลื่อมล้ำออกมา ในบริเวณภาพโทนมืดอีกด้วย ทำให้การแสดงผลโทนมืด สามารถทำได้ดี รวมทั้งพื้นที่สีดำ ก็ยังให้สีที่ดำสนิท แม้ว่ารอบข้างจะสว่างแค่ไหนก็ตาม
Hollywood Tuning
ในด้านการแสดงผล นอกจากสีสันและแสงสีแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ Panasonic Viera TV รุ่นนี้ มีความแตกต่างก็คือ อารมณ์ของภาพ ซึ่งความพิเศษที่ซ่อนอยู่นี้ก็คือเรื่องของ Hollywood Tuning โหมดภาพ True Cinema ที่ได้รับการปรับจูนแสงสีโดย Mike Sowa นักสร้างหนังระดับฮอลลีวูด กล่าวคือ ผู้ที่รับชมหนังจากทีวีรุ่นนี้ จะได้รับชมภาพยนตร์ผ่านมุมมองสายตาของคนทำหนังฮอลลีวูดนั่นเอง
ซึ่งนอกจากที่ผู้ชมจะได้สัมผัสกับโทนภาพ ในระดับฮอลลีวูดแล้ว ทีวี Panasonic Viera TV: TH-65DX900T ยังได้รับการรับรองมาตรฐาน THX ในด้านคุณภาพของทั้งภาพและเสียง ที่สามารถแสดงผลได้ใกล้เคียงกับการรับชมภาพยนตร์ในโรงหนัง ผ่านมาตรฐานของสถาบันระดับโลกอีกด้วย เป็นการการันตีว่า ผู้ชม จะได้รับประสบการณ์ทั้งโทนภาพ คุณภาพของภาพและเสียงในการรับชมภาพยนตร์ ระดับแนวหน้าของโลกเป็นที่แน่นอน
โหมดภาพ Normal | โหมดภาพ Hollywood Tuning |
เมื่อลองเปรียบเทียบโทนภาพระหว่างโหมด Normal และ True Cinema แล้ว จะเห็นว่าในโหมด True Cinema จะเน้นภาพในโทนมืดที่เข้มข้นกว่า รวมทั้งอุณหภูมิของภาพจะเน้นไปในโทนอุ่น สร้างอารมณ์ตื่นเต้นให้กับหนังเรื่องต่างๆ ได้เป็นอย่างดี
ซึ่งนอกจากโหมดภาพแบบ Normal และ True Cinema แล้ว ก็มีโหมดภาพอื่นๆ อีกด้วย โดยโทนภาพต่างๆ มีดังนี้
ระบบปฏิบัติการ Firefox OS
Panasonic Viera TV: TH-65DX900T ได้ใช้ระบบปฏิบัติการ Firefox OS เป็นระบบปฏิบัติการของตัวทีวีรุ่นนี้ ซึ่งจุดเด่นก็อย่างที่บอกไปข้างต้น ว่าเป็นระบบปฏิบัติทีวีที่ใช้งานได้ง่ายมาก ซึ่งจะเป็นยังไงบ้าง ลองไปรับชมดูกัน
เปิดมาในหน้า HOME จะพบกับ 3 เมนูบนหน้าหลัก ซึ่งได้แก่ Live TV สำหรับการชมทีวีผ่านระบบสัญญาณดาวเทียม, Apps สำหรับเข้าไปใช้งานแอปฯ ต่างๆ และ Devices สำหรับใช้งานกับอุปกรณ์ต่างๆ ที่เชื่อมต่อกับทีวี
เปิดมาจะพบกับหน้าตา UI ของ Firefox OS ที่มีแอปฯ ต่างๆ เรียงรายเป็นแถวเต็มไปหมด ซึ่งส่วนมากจะเป็นแอปฯ สำหรับชมรายการผ่านช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น YouTube, Netflix และรายการทีวีอีกมากมาย
Pin App
หนึ่งในความสามารถเด็ดของ Firefox OS ก็คือการปักหมุดแอปฯ (Pin App) โปรด ให้เข้าใช้งานได้ง่ายขึ้นบนหน้า HOME ซึ่งเราสามารถจะทำการ Pin App กี่แอปฯ ให้มาอยู่บนหน้า HOME ก็ได้ ส่วนวิธีการก็ง่ายๆ เพียงเลือกแอปฯ ที่ต้องการ กดปุ่ม Option บนรีโมท จากนั้นเลือก Pin to HOME แอปฯ ที่เลือก ก็จะมาอยู่ในหน้า HOME แล้ว
หากไม่ต้องการให้แอปฯ อยู่ในหน้า HOME ก็ทำเช่นเดียวกัน แล้วเลือก Unpin from HOME แทน
บราวเซอร์ Firefox
มาดูในส่วนของบราวเซอร์ Firefox ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับระบบปฏิบัติการกันบ้าง หน้าตา UI โดยรวมของบราวเซอร์ก็คล้ายกับเวอร์ชัน PC ซึ่งเป็นที่คุ้นเคยกันดี ใช้งานได้ง่าย ไม่ต่างจากบนคอมเลย
ความพิเศษที่แตกต่างของบราวเซอร์บนระบบปฏิบัติการ Firefox OS นี้ก็คือ ผู้ใช้งาน สามารถทำการ Bookmarks บันทึกหน้าเว็บโปรด หรือหน้าเว็บที่รับชมค้างไว้ได้ โดยการบันทึกนั้น จะสามารถเลือก ปักหมุด (Pin) ให้ปรากฏบนหน้า HOME เช่นเดียวกับแอปฯ ต่างๆ ได้
Infoframe
ต่อมาลองมาดูฟังก์ชั่น Infoframe ทางลัดแสดงข้อมูลต่างๆ ที่เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้กันบ้าง โดยเราสามารถเปิดฟังก์ชั่นนี้ ด้วยการกดปุ่ม HOME บนรีโมทค้างไว้ประมาณ 5 วินาที
หลังจากที่กดปุ่ม HOME ค้างไว้ จะมีเมนูต่างๆ ของ Infoframe ปรากฏอยู่บริเวณขอบทีวีทั้ง 4 ด้าน ที่ประกอบไปด้วย Weather, Web Clip, Notification และ Recommended ผู้ใช้งานสามารถกดปุ่มทิศทางหรือตามสีที่ระบุ เพื่อเข้าไปใช้งานในเมนูต่างๆ ได้
Weather - เมนูนี้จะแสดงการพยากรณ์อากาศ ในบริเวณที่เราอยู่ล่วงหน้าเป็นเวลา 12 ชั่วโมง รวมทั้งบอกวันที่และเวลาด้วย
Recommended - ในส่วนของเมนูนี้ จะเป็นการรวบรวมรายการทีวีแนะนำ มาให้ได้เลือกชมกัน ทั้งช่องทาง YouTube, โปรแกรมทีวีต่างๆ รวมทั้งรายการทีวีล่าสุด ที่เพิ่งชมไป เหมาะมากสำหรับใครที่เปิดทีวีมา แล้วไม่รู้ว่าจะชมอะไรดี
Web Clip - เมนูด้านซ้ายจะเป็นทางลัดเข้าชมข่าวสารบนเว็บไซต์ที่ตั้งไว้ ซึ่งเราสามารถลิ้งจากหน้านี้ ไปยังบราวเซอร์ เพื่อรับชมข่าวสารบนหน้าเว็บเต็มๆ ได้อีกด้วย
Notification - สุดท้ายเป็นระบบการแจ้งเตือนของ Firefox OS ที่จะคอยส่งการแจ้งเตือนอัพเดทจากแอปฯ ต่างๆ มาให้ผู้ใช้ได้ทราบกันในหน้านี้
YouTube
ลองมาดูแอป YouTube ที่เป็นหนึ่งในของเล่นชิ้นหลักของสมาร์ททีวีกันดูบ้าง สำหรับการใช้งานของ Youtube ก็ไม่ซับซ้อนอะไรมากมาย สามารถเลือกคลิปวิดีโอชมจาก คลิปแนะนำในหน้าแรกได้ หรือจะสามารถค้นหาเองโดยการพิมพ์คีย์เวิร์ดก็ได้เช่นกัน แต่ก็มีอุปสรรคเล็กๆ ของการใช้สมาร์ททีวี ก็คือไม่รองรับภาษาไทยนั่นเอง
ซึ่งทุกปัญหาย่อมมีทางออก เพราะผู้ใช้งานสามารถใช้อุปกรณ์มือถือในการส่งคลิป YouTube จากมือถือให้สามารถไปแสดงผลบนทีวีได้นั่นเอง (ซึ่งแน่นอนว่า บนมือถือส่วนใหญ่นั้นรองรับภาษาไทยแน่นอน แล้วเราก็จะสามารถส่งคลิปไทยมาเล่นในทีวีได้ง่ายๆ)
หากอยากลองใช้งาน YouTube ร่วมกับอุปกรณ์มือถือก็ทำได้ง่ายๆ เพียงไปที่ Setting ของแอป YouTube แล้วเลือกไปที่ LINK TV AND PHONE ซึ่งวิธีการเชื่อมต่อจะมีด้วยกัน 2 แบบ ได้แก่ การเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi วงเดียวกัน และการเชื่อมต่อด้วย TV Code ลองมาชมกันว่าแต่ละวีธีเป็นยังไงบ้าง
การเชื่อมต่อด้วย TV Code
เมื่อเลือกวิธีนี้ ทีวีจะให้ TV Code สำหรับเชื่อมต่อกับอุปกรณ์มือถือมาให้ ผู้ใช้งานต้องไปตั้งค่าบนแอป YouTube บนมือถือเพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์มือถือกับทีวี
การเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi
อีกวิธีหนึ่งก็คือการเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi วงเดียวกัน ซึ่งวิธีการก็คือ ให้ผู้ใช้งานทำการเชื่อมต่อ Wi-Fi ของตัวทีวีกับสมาร์ทโฟนให้เป็นวงเดียวกัน เพียงเท่านี้ก็สามารถส่งคลิปจากแอปฯ YouTube ผ่านปุ่ม Cast ได้ทันที
คำสั่งเสียงบนรีโมทแบบสัมผัส
อีกหนึ่งความสะดวกสบายของการมีสมาร์ทรีโมทมาให้ใช้ ก็คือการสั่งการด้วยเสียง แต่ขอบอกก่อนเลยว่าเหมาะสำหรับคนที่มีสำเนียงการพูดภาษาอังกฤษที่ไม่ขี้เหร่เท่านั้น เพราะไม่งั้นจากความสะดวกสบาย จะกลายเป็นยุ่งยากขึ้นมาทันที (รวมทั้งระบบนี้ ยังไม่รองรับภาษาไทยด้วย)
เมื่อจะเริ่มใช้งาน ให้เรากดปุ่มรูปไมโครโฟน บนรีโมทแบบสัมผัสได้เลย แล้วบนหน้าจอก็จะปรากฎรูป Please speak ดังกล่าว
ตัวคำสั่งเสียงก็จะรองรับ คำสั่งพื้นฐานต่างๆ มากมาย หรือจะใช้ในการเลือกรายการต่างๆ ด้วยคำว่า Go up, Go Left แล้ว That one เพื่อเลือกก็ได้
หากในหน้าที่เรากำลังใช้คำสั่งเสียงมีรายการต่างๆ เราสามารถระบุเลขที่กำกับบนรายการต่างๆ เพื่อเลือกรายการนั้นๆ ได้ เช่น ถ้าต้องการเข้า YouTube ก็พูดว่า 'Three'
นอกจากคำสั่งพื้นฐานทั่วไปแล้ว เราสามารถใช้คำสั่งค้นหาได้อีกด้วย โดยการพูดว่า "Search for ..(คีย์เวิร์ดที่ต้องการค้นหา).." โดยนอกจากระบบจะค้นหาคีย์เวิร์ดนั้นภายในตัวเครื่องแล้ว ยังค้นหาในแอปฯ ที่เกี่ยวข้อง อย่างเช่นบน YouTube ให้ด้วย
แอป Panasonic TV Remote
อีกหนึ่งช่องทางสะดวกๆ ในการใช้งานสมาร์ทโฟน ให้กลายเป็นรีโมทสำหรับใช้งานบนทีวี Panasonic Viera ก็คือการใช้งานผ่านแอปฯ รีโมทนั่นเอง ซึ่งก่อนหน้านั้น ผู้ใช้งานต้องไปทำการดาวน์โหลดแอปฯ จากทาง App Store (สำหรับ iOS) หรือ Play Store (สำหรับ Android) ก่อน
ภายใน Play Store จะมีแอปฯ ให้เลือกใช้ทั้ง Panasonic TV Remote และ Panasonic TV Remote 2 ที่เป็นเวอร์ชันใหม่กว่าให้เลือกใช้ ซึ่งทางทีมงานขอเลือก เวอร์ชัน 2 มาลองใช้งานกัน
ก่อนการใช้งานแอปฯ รีโมท เราต้องทำการเชื่อมต่ออุปกรณ์มือถือกับทีวีก่อน ซึ่งวิธีการก็จะเหมือน YouTube คือต้องเชื่อมต่อ Wi-Fi ในวงเดียวกันก่อน จากนั้นเข้าไปในแอป Panasonic TV Remote แล้วทำการจับคู่อุปกรณ์ได้เลย
เมื่อเข้ามาในแอปฯ ก็จะมีเมนูต่างๆ ให้ใช้งาน ซึ่งมีทั้งรีโมทแบบสัมผัสและปุ่มรีโมทต่างๆ ให้ใช้งาน
อีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจเมื่อตัวทีวีไม่รองรับคีย์บอร์ดภาษาไทย แต่เราก็สามารถส่งภาษาไทย จากตัวแอปฯ มือถือไปยังทีวีได้
มีเมนูสำหรับส่งสื่อมีเดียต่างๆ ทั้งภาพ เพลง วิดีโอ จากมือถือหรือภายในตัวทีวีเอง ให้แสดงผลบนทีวีได้เช่นกัน
หรือเราจะทำการส่งหน้าเว็บ ให้ไปบนจอทีวี ผ่านตัวแอปฯ ก็ทำได้อย่างสะดวกสบาย
Market Apps
สำหรับใครที่อยากใช้งานแอปฯ เพิ่มเติมจากที่มีมาให้ ก็สามารถเข้าไปโหลดใน Market Apps ได้เลย ซึ่งสโตร์นี้ เป็นของทาง Panasonic เอง ซึ่งมีแอปฯ ให้เลือกใช้งานไม่มากเท่ากับสโตร์อื่นๆ
วิดีโอรีวิว Panasonic Viera TV: TH-65DX900T
สรุป Panasonic Viera TV: TH-65DX900T
ข้อดี
| ข้อสังเกต
|
สำหรับ Panasonic Viera TV: TH-65DX900T ถือว่าเป็นทีวีขนาด 65 นิ้ว รุ่นเรือธงอีกเครื่องหนึ่ง ที่ใช้รับชมความบันเทิงต่างๆ ได้อรรถรสมาก โดยเฉพาะการชมหนังด้วยโทนภาพสไตล์ฮอลลีวูด ที่ได้อารมณ์ภาพระดับโลกแล้ว ยังถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีสีสัน Hexa Chroma Drive Pro และ HDR Premium อีกด้วย ส่วนด้านการใช้งาน Firefox OS ขอบอกเลยว่า เหมาะกับคนที่ไม่ชอบความซับซ้อนของระบบปฏิบัติการที่มีฟีเจอร์ซับซ้อนของสมาร์ททีวีทั่วๆ ไป เพราะสามารถเรียนรู้ได้ง่าย เข้าใจง่าย ไม่มีความซับซ้อนในการใช้งานเลยครับ
สำหรับราคาของ Panasonic Viera TV: TH-65DX900T จะอยู่ที่ 129,990 บาท โดยในช่วงนี้มีโปรโมชั่นซื้อทีวี แถมฟรี Soundbar เพื่อเพิ่มอรรถรสในด้านระบบเสียงอีกด้วย ใครที่สนใจรับชมสินค้าตัวจริง สามารถไปดูกันได้ที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำได้เลย
|
... |