รีวิว Etoren ซื้อหามือถือถูกใจ อุปกรณ์สุดล้ำ ไม่มีขายในไทย ก็มีขายที่นี่

ทุกวันนี้ในท้องตลาดมีมือถือมากมายให้เราเลือกซื้อหามาใช้งาน แต่เคยไหมครับ ที่เราเห็นมือถือรุ่นใหม่เปิดตัวที่ต่างประเทศ แล้วเกิดความสนใจอยากได้ แต่ก็พบว่าไม่มีตัวแทนจำหน่ายในไทย หรือรุ่นที่ขายในไทยก็ไม่ตรงกับรุ่นที่เราอยากได้ อย่างเช่น Samsung Galaxy S8  รุ่นที่จำหน่ายในไทยจะใช้ชิป Exynos ขณะที่รุ่นที่วางจำหน่ายในต่างประเทศจะใช้ชิป Snapdragon อะไรทำนองนี้ 

ทางเลือกของคนที่ต้องการใช้จริงๆ ก็มีไม่มาก ไม่ซื้อจากร้านที่หิ้วเข้ามาขาย ก็ต้องฝากเพื่อนซื้อจากต่างประเทศ แต่การซื้อด้วยวิธีนี้มีข้อเสียตรงเครื่องที่เราได้มา "ส่วนใหญ่" จะไม่มีการประกัน (จริงๆ มี แต่เป็นประกันในต่างประเทศ) หากเครื่องมีปัญหาขึ้นมา การแก้ไขก็จะลำบากหน่อย แต่ตอนนี้ผมพบทางเลือกใหม่อีกทางหนึ่งที่น่าสนใจมาก คือ การซื้อจาก https://th.etoren.com/ ครับ 

Etoren คือ อะไร?

Etoren เป็นเว็บอีคอมเมิร์ซจำหน่ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และแกดเจ็ต มีสาขาอยู่ 3 แห่ง ในสิงคโปร์, ฮ่องกง และอังกฤษ ซึ่งในตอนนี้ ทาง Etoren เพิ่งเข้ามาเปิดตลาดในบ้านเรา และทำหน้าเว็บเป็นภาษาไทยแล้ว ซึ่งสินค้าภายในเว็บก็จะมีทั้งสมาร์ทโฟน, กล้องดิจิตอล, โดรน และแกดเจ็ตต่างๆ

สำหรับความน่าสนใจของการซื้อผ่าน Etoren คือ หากใช้แล้วมีปัญหา เขามีนโยบายเปลี่ยนสินค้าให้ใหม่ภายใน 7 วัน และรับประกันเครื่องให้เป็นระยะเวลา 12 เดือน อีกด้วย

วิธีสั่งซื้อสินค้าจาก Etoren

การซื้อของ Etoren ก็จะเหมือนกับเว็บสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ทั่วไปนะครับ สมัครสมาชิก >> เลือกสินค้า >> จ่ายเงิน >> แล้วก็รอรับของที่บ้าน

การสมัครสมาชิกง่ายๆ ไม่ซับซ้อน หรือจะเข้าระบบด้วยบัญชี Facebook, GG+, Twitter และ Linkedin ก็ได้เช่นเดียวกัน

สินค้าบนหน้าเว็บ ก็จะมีหลากหลายทีเดียวครับ ทั้งสมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต หรือโดรน ก็มีให้เลือกหลายรุ่น ซึ่งหลายๆ อย่าง ก็ยังไม่มีจำหน่ายในประเทศไทย หรือมีก็อาจจะหาซื้อยากพอสมควร

ซึ่งผมจะลองซื้อจริง สั่งจริง โดยตอนนี้ผมมีความสนใจสมาร์ทโฟน Nokia 6 อยู่ครับ ดูราคาบนหน้าเว็บแล้ว ตั้งราคาไว้ที่ 12,574 บาท ถือว่าราคาค่อนข้างโอเคทีเดียว เมื่อเทียบกับบน Amazon ซึ่งขายอยู่ $364.99 แปลงเป็นเงินไทยก็อยู่ที่ประมาณ 12,636 บาท ส่วนบน Ebay ถ้าสั่งจากจีนจะอยู่ที่ประมาณ 10,900 บาท แม้ว่าจะแพงกว่าสั่งจากจีนนิดนึง แต่ได้การประกันสินค้า ผมก็โอเคกับราคานี้นะ

แต่ก่อนที่จะซื้อ มีเรื่องสำคัญที่ควรทำ คือ การตรวจสอบว่ามือถือรุ่นนี้ใช้ในประเทศไทยได้หรือไม่ เพราะมือถือบางรุ่นที่จำหน่ายในต่างประเทศจะรองรับคลื่นสัญญาณโทรศัพท์แตกต่างกันไป ซึ่งบนเว็บ Etoren มีระบบตรวจสอบง่ายๆ ให้ด้วย สำหรับ Nokia 6 ที่ผมเลือก ใช้งานในประเทศไทยได้ไม่มีปัญหา

ทั้งนี้แม้ว่าค่าสินค้าจะแสดงเป็นเงินบาท แต่เวลาจ่าย เราจะจ่ายเป็นเงินดอลลาห์นะครับ หากเราตรวจสอบค่าสินค้าและค่าขนส่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้คลิกไปที่ "ชำระเงิน" ได้เลย

เราจะถูกพามาที่หน้าข้อมูลลูกค้า ซึ่งก็จะมีให้เรากรอกที่อยู่ สำหรับจัดส่งสินค้า ต้องกรอกเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น นะครับ เมื่อกรอกเรียบร้อยแล้ว ก็คลิกไปที่ "ไปยังวิธีการส่งสินค้า"

สังเกตว่านอกจากค่าสินค้าและค่าขนส่งแล้ว จะมีค่า "ภาษี" ด้วย 7% มั่นใจได้ว่า เราไม่ได้ซื้อของที่ลักลอบนำเข้าโดยผิดกฏหมาย ไม่ต้องกังวลว่าของจะติดด่านตรวจของกรมศุลกากร สินค้าที่เราสั่งจะมาถึงมืออย่างแน่นอน

Etoren จะรับการชำระเงินผ่านทาง Paypal หรือบัตรเครดิตก็ได้ สำหรับการเก็บเงินปลายทาง ในประเทศไทยยังไม่รองรับบริการนี้นะครับ ในด้านการออกบิล เลือกได้ว่าจะให้ส่งมาตามที่อยู่จัดส่ง หรือจะส่งบิลไปยังที่อยู่อื่นก็ได้ เมื่อเลือกเรียบร้อยแล้ว ให้เราคลิกไปที่ "คำสั่งซื้อเสร็จสมบูรณ์"

หน้า Paypal จะถูกเปิดขึ้นมา ในกรณีที่จะจ่ายผ่านบัตรเครดิต ให้เราคลิกไปที่ "Check Out as a Guest" ครับ ซึ่งผมจะจ่ายผ่านบัตรเครดิต เนื่องจากไม่อยากเติมเงินเข้า Paypal

กรอกข้อมูลบัตรเครดิตลงไป แล้วคลิกไปที่ Pay Now เพื่อชำระเงิน ได้เลย

จะมีให้เลือกอัตราแลกเปลี่ยนด้วยครับ โดยเลือกว่าจะใช้อัตราแลกเปลี่ยน เรทของ Paypal หรือของบัตรเครดิต ซึ่งส่วนใหญ่บัตรในประเทศไทยจะมีอัตราที่ถูกกว่านะ ตัดสินใจได้แล้วก็คลิก Pay Now 

เท่านี้ก็เรียบร้อยแล้ว ก็จะมีอีเมลส่งข้อมูลการสั่งซื้อเข้ามาแจ้งให้เราตรวจสอบด้วย ที่เหลือก็รอดูว่าของจะมาส่งเมื่อไหร่ ครั้งนี้ผมสั่งซื้อไปตอน 15.00 น. ของวันที่ 15 พฤษภาคม 2560 เดี๋ยวมาดูกันว่าผมจะได้รับของเมื่อไหร่

การรับสินค้า

เป็นเรื่องที่ผมแอบตกใจ เมื่อพบว่าของมาถึงเร็วมาก ผมกดจ่ายเงินไปตอน 15.00 น. ของวันที่ 15 พฤษภาคม 2560 วันรุ่งขึ้นช่วงเที่ยงพนักงาน FedEx ก็มาส่งของแล้วครับ

สังเกตที่แพ็คเกจพบว่า Etoren ใช้บริการส่งของ FedEx International Priority ซึ่งเป็นบริการส่งด่วนข้ามประเทศของ FedEx ที่มีกำหนดระยะเวลา 1-3 วัน ในการส่งของข้ามประเทศ จึงไม่แปลกใจที่ของมาถึงเร็วมาก (ถ้าเป็นบริการปกติ International Economy ปกติจะใช้เวลาประมาณ 3-5 วัน)

สินค้าแพ็คมาในกล่องลูกฟูกและห่อบับเบิ้ลกันกระแทกมาให้อย่างดี สินค้าอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์เลยล่ะ ในกล่องจะมีบิลมาให้ด้วย (ในกรณีที่เลือกบิลตำแหน่งเดียวกับที่อยู่สำหรับส่งของ)

ถือว่าการส่งสินค้าทำได้น่าประทับใจทั้งในส่วนของความเร็ว และความปลอดภัยของแพ็คเกจ

การรับประกันสินค้า

ทางเราได้สอบถามไปยังผู้ให้บริการ Etoren ในประเด็นที่ว่ารับประกันสินค้า 12 เดือน ว่ามีเงื่อนไขอย่างไร และจะส่งเคลมสินค้าที่มีปัญหาได้ที่ไหน

ได้รับคำตอบว่า เราต้องส่งสินค้ากลับไปทาง Etoren ซึ่งถ้าเป็นในไทยก็ต้องส่งไปยังสิงคโปร์ ซึ่งหากส่งผ่านไปรษณีย์ไทย, FedEx หรือ DHL ก็จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 800-1,200 บาท ซึ่งเป็นเงินในส่วนที่เราต้องจ่ายด้วยตัวเองนะครับ

ความเห็นจาก THAIWARE

จากการทดลองสั่งของจาก Etoren ผมค่อนข้างพึงพอใจกับการบริการที่ได้รับพอสมควรเลยล่ะ ทั้งความเร็วและสินค้าที่ตรงกับที่เราสั่ง จะมีติดใจเล็กน้อยตรงที่ ราคาบนหน้าเว็บยังไม่รวมภาษี ซึ่งเมื่อกดจ่ายเงินจริง ราคาสินค้ารวมอาจจะสูงกว่างบที่เราตั้งไว้ในใจนิดหน่อย

และพิเศษสำหรับแฟนๆ THAIWARE เท่านั้น หากสั่งซื้อสินค้าจาก https://th.etoren.com/ ในช่วงนี้ เพียงใส่โค๊ด FREESHIPTHWARE ในขั้นตอนสั่งซื้อ จะไม่ต้องเสียค่าขนส่งแต่อย่างใด หนึ่งคนสามารถใช้งานโค๊ดได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้นนะครับ โดยสามารถใช้โค๊ดนี้ได้ถึงวันที่ 3 มิถุนายน 2560