สำรวจแพลตฟอร์มวัดคุณภาพอินเทอร์เน็ต และความสำเร็จระดับโลกของเครือข่ายมือถือในไทย

สำรวจแพลตฟอร์มวัดประสิทธิภาพอินเทอร์เน็ต
และความสำเร็จระดับโลก ของเครือข่ายมือถือในไทย

การเลือก เครือข่ายอินเทอร์เน็ตมือถือ ปัจจัยหลัก ๆ ที่ทุกคนน่าจะคิดถึงก็คือ ใช้งานได้ดีขนาดไหน ดูวิดีโอลื่น ๆ ไหม ดาวน์โหลด อัปโหลดไฟล์เร็วหรือเปล่า ? แต่การใช้งานอินเทอร์เน็ตมือถือจริง ๆ นั้น ยังมีปัจจัยภายนอกอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น พื้นที่การใช้งานที่อาจมีสิ่งกีดขวาง, อุปกรณ์ที่ใช้งานรองรับชนิดของสัญญาณมากน้อยแค่ไหน ฉะนั้น นอกเหนือจากประสบการณ์จากผู้ใช้งานอย่างเรา ๆ แล้ว ยังมีองค์กรต่าง ๆ ที่มาพร้อมเครื่องมือทดสอบประสิทธิภาพ รวบรวมและประมวลผลข้อมูลจากการใช้งานจริง มาให้พิจารณากัน

เครื่องมือทดสอบประสิทธิภาพเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่น่าสนใจ

เครื่องมือ nPerf

nPerf เป็นเครื่องมือทดสอบความเร็ว รวมไปถึง คุณภาพของอินเทอร์เน็ตที่สมบูรณ์แบบที่สุด และเป็นเครื่องมืออันดับ 1 ที่วิศวกรโทรคมนาคมระดับโลกไว้วางใจ สามารถทดสอบได้ทั้งอินเทอร์เน็ตบ้านและอินเทอร์เน็ตมือถือ 2G-5G ผ่าน เว็บไซต์ nPerf.com และ แอปพลิเคชัน nPerf โดยการวัดค่าอินเทอร์เน็ตแต่ละครั้งทาง nPerf จะทำการเก็บข้อมูลจากอุปกรณ์และเครือข่ายของผู้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นมือถือ แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ใด ๆ ก็ตาม ผ่านเซิร์ฟเวอร์ของ nPerf ทั้งหมด 1,400 แห่งทั่วโลก และนำมาประมวลผลเป็น 5 หัวข้อต่อไปนี้

1. Download Speed (ความเร็วในการดาวน์โหลด)
2. Upload Speed (ความเร็วในการอัปโหลด)
3. Latency (ค่าความหน่วง หรือ เวลาในการตอบสนอง)
4. Performance Rate (อัตราประสิทธิภาพสำหรับใช้งานเว็บทั่วไป)
5. Performance Rate for Video Streaming (อัตราประสิทธิภาพสำหรับดูวิดีโอสตรีมมิง)

ส่วนการทดสอบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตจากทีมงาน nPerf ใช้วิธีการทดสอบดาวน์โหลดไฟล์ไบนารีผ่านการเชื่อมต่อหลายช่องทาง เพื่อทดสอบค่าบิตเรต (Bitrate) ทั้งขณะดาวน์โหลด และอัปโหลด, วัดค่าเวลาในการตอบสนอง (Latency) ขณะใช้งาน, การใช้งานโหมด TCP / HTTP และวัดค่าขณะรับส่งข้อมูลผ่านเซิร์ฟเวอร์ของ nPerf

ข้อมูลเพิ่มเติม : ทดสอบความเร็วอินเทอร์เน็ตจาก nPerf

เครื่องมือ Opensignal

Opensignal เป็นแอปพลิเคชันทดสอบประสิทธิภาพของอินเทอร์เน็ตจากผู้ใช้จริง ซึ่งทาง Opensignal จะทำการประกาศรางวัลประสบการณ์การใช้งานอินเทอร์เน็ตในด้านต่าง ๆ เป็นประจำทุกปี ปีละ 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 ช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม ครั้งที่ 2 เดือนพฤศจิกายน โดยผลการตัดสินมาจากการเก็บข้อมูลใช้งานในช่วงระยะเวลา 90 วันที่ทาง Opensignal กำหนด ส่วนตัวชี้วัดประสิทธิภาพอินเทอร์เน็ตของ Opensignal ประกอบด้วย 7 หัวข้อ ได้แก่

• ประสบการณ์วิดีโอ
• ประสบการณ์เกม
• ประสบการณ์แอปพลิเคชันเสียง
• ประสบการณ์ความเร็วในการดาวน์โหลด
• ประสบการณ์ความเร็วในการอัปโหลด
• ความพร้อมใช้งาน 4G
• ประสบการณ์ความครอบคลุมของ 4G

ในปัจจุบัน ทาง Opensignal ได้มีการปรับเปลี่ยนให้มีเกณฑ์ชี้วัดเป็นการทดสอบสัญญาณ 5G เข้ามาอีกด้วย เพื่อให้พร้อมรับกับเทคโนโลยีและประสบการณ์ใหม่ ๆ

เครื่องมือ Ookla

ส่วน Ookla ก็เป็นแพลตฟอร์มทดสอบประสิทธิภาพของอินเทอร์เน็ตที่มีชื่อคุ้นตา ซึ่ง Ookla ทำการเก็บข้อมูลขณะผู้ใช้งาน ทดสอบความเร็วเน็ต Speedtest, ทดสอบการใช้งานวิดีโอจากความละเอียดขณะใช้งาน ความเร็วในการดาวน์โหลด เพื่อประเมินคุณภาพสตรีมมิงผ่านเครือข่ายที่ใช้งานอยู่แบบเรียลไทม์ และรวบรวมข้อมูลด้านอื่น ๆ ทั้งผู้ให้บริการ พื้นที่ใช้งานในแต่ละจุดผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทั่วโลกนับร้อยล้านครั้ง ร่วมกับเซิร์ฟเวอร์ของ Ookla กว่า 15,000 จุดในแต่ละวัน

ส่วนการประกาศรางวัล Speedtest Awards จาก Ookla เกิดจากการวัดผลและประมวลข้อมูลเชิงลึกในแต่ละไตรมาส และทาง Ookla เปลี่ยนไปทดสอบเครือข่าย 5G ในไทยตั้งแต่ช่วงไตรมาส 1 - ไตรมาส 2 ในปี ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564)

ข้อมูลเพิ่มเติม : ทดสอบความเร็วอินเทอร์เน็ตจาก Ookla

จะเห็นได้ว่า nPerf, Opensignal และ Ookla เป็นแพลตฟอร์มที่มุ่งเน้นการวัดผลประสิทธิภาพของสัญญาณอินเทอร์เน็ตเป็นหลัก แต่ยังมีอีกองค์กรหนึ่งที่มอบรางวัลสนับสนุนให้เครือข่ายมือถือที่เป็นผู้นำด้านนวัตกรรม เทคโนโลยีใหม่ ๆ และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง นั่นคือ บริษัท Frost & Sullivan ที่ปรึกษาธุรกิจชั้นนำระดับโลก โดยองค์กรที่ได้รับรางวัล Frost & Sullivan Excellence Awards เป็นองค์กรที่ผ่านการคัดเลือก ผ่านการสัมภาษณ์เชิงลึก การวิเคราะห์ สรุปผล และวัดผลเปรียบเทียบกับบริษัทอื่น ๆ ในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน

ฉะนั้น ปัจจัยในการพิจารณามอบรางวัลเครือข่ายมือถือยอดเยี่ยมจึงไม่ใช่แค่เรื่องของคุณภาพสัญญาณอย่างเดียว แต่ยังมีเรื่องของบริการ ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่นอกเหนือจากอินเทอร์เน็ต 4G / 5G ร่วมด้วย เพราะการใช้งานที่สมบูรณ์แบบ ย่อมเกิดจากการผสานของคุณภาพสัญญาณ และบริการที่เข้าถึงความต้องการลูกค้ามากที่สุดนั่นเอง

Award Summary รางวัลระดับโลกที่ได้รับ

ไหน ๆ เราก็แนะนำแพลตฟอร์มวัดประสิทธิภาพเครือข่ายอินเทอร์เน็ตกันแล้ว มาดูกันว่าเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในไทย มีประสิทธิภาพแค่ไหนเมื่อผ่านการทดสอบจากแพลตฟอร์มทั้งหลาย เครือข่ายจากไทยอยู่ในระดับใดเมื่อเทียบกับเครือข่ายอื่น ๆ ทั่วโลก และได้รับรางวัลจากองค์กรใดกันบ้าง

TrueMove H (ทรูมูฟเอช)

เครือข่าย TrueMove H เรียกได้ว่าเป็นเครือข่ายติดอันดับโลกจากหลายรางวัล ไม่ว่าจะเป็นรางวัลเครือข่ายมือถือที่ดีที่สุด 5 ปีซ้อนจากทาง nPerf (ปี ค.ศ. 2016 - ค.ศ. 2020) ด้วยคุณภาพอินเทอร์เน็ตที่ได้คะแนนรวมสูงสุด, รางวัลเครือข่าย 4G และผู้ให้บริการมือถือยอดเยี่ยมแห่งปี ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560) ประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิคจาก Frost & Sullivan (Frost & Sullivan Asia-Pacific ICT Awards 2017)  เนื่องจากเป็นเครือข่ายทีมีพัฒนาการในด้านต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว

ซึ่งประโยชน์จากความเป็นเครือข่ายที่พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องก็คือ ลูกค้าได้ใช้งานอินเทอร์เน็ตและบริการอย่างเต็มประสิทธิภาพ เพราะปัจจุบันนี้บริการหลายด้านเน้นใช้งานทางออนไลน์มากขึ้น อินเทอร์เน็ตที่พร้อมใช้งาน ครอบคลุมทุกพื้นที่จึงเป็นเรื่องสำคัญ รวมถึงการเชื่อมต่อที่รวดเร็ว ใช้งานสะดวก

นอกจากนี้ เครือข่าย TrueMove H ยังได้รับรางวัล 5G Global Leaders Award ในด้านความพร้อมใช้งาน 5G เพียงรายเดียวที่มาจากประเทศไทยและประสบการณ์การเล่นเกม 5G จาก Opensignal สื่อถึงความพร้อมใช้งานนั้นอยู่ในอันดับต้น ๆ เมื่อเทียบกับเครือข่ายมือถืออื่น ๆ จากทั่วโลก

AIS (เอไอเอส)

มาดูที่เครือข่าย AIS กันบ้าง ซึ่งทาง AIS ได้รับรางวัลในหลายด้าน เช่น รางวัล Thailand IoT Service Provider of the Year Award และ Thailand Data Center Competitive Strategy Innovation & Leadership Award ประจำปี ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) จากทาง Frost & Sullivan, รางวัลประสบการณ์เกม, ประสบการณ์เสียง ความพร้อมใช้งาน 4G และประสบการณ์ความครอบคลุม 4G ประจำปี ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) จาก Opensignal

dtac (ดีแทค)

ส่วนเครือข่าย dtac ก็มีรางวัลติดไม้ติดมือเช่นกัน ด้วยรางวัลประสบการณ์การดาวน์โหลดเร็วที่สุดในไทยจาก Opensignal ประจำปี ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) ถึง 2 ครั้งซ้อนเลยทีเดียว ซึ่งเป็นรางวัลที่ช่วยยืนยันคุณภาพของอินเทอร์เน็ตจาก dtac

ถ้ามองประเภทของรางวัลที่เครือข่ายมือถือได้รับ บางคนอาจสงสัยว่า ทำไมแต่ละเครือข่ายได้รางวัลไม่เหมือนกัน ? แล้วอย่างนี้ ผลสำรวจหรือรางวัลต่าง ๆ ยังเชื่อถือได้อยู่ไหม ? อันนี้ก็ต้องพิจารณาถึงเงื่อนไขการทดสอบและตัวบ่งชี้ของแต่ละองค์กรด้วยว่า เข้าถึงผู้ใช้งานจริงมากน้อยแค่ไหน อุปกรณ์ของผู้ใช้งานจับสัญญาณอย่างไร เนื่องจากแอปทดสอบเหล่านี้ใช้ค่าในการวัดประสิทธิภาพจากผู้ใช้งานและการจับสัญญาณของเครือข่าย รวมถึงวิธีการประมวลข้อมูลจนจบกระบวนการ เพราะทุกอย่างที่กล่าวมาล้วนมีผลต่อการทดสอบทั้งหมด

เลือกอินเทอร์เน็ตอย่างไร ให้ถูกใจที่สุด

ส่วนการพิจารณาเลือกเครือข่ายมือถือ ผู้ใช้ก็ต้องทราบความต้องการของตัวเองก่อนว่าเน้นใช้งานด้านใดเป็นหลัก บ้างก็ต้องการอินเทอร์เน็ตแรง ๆ ลื่น ๆ ดูคลิป วิดีโอแบบไม่ค้าง บ้างก็ต้องการอินเทอร์เน็ตสำหรับทำงาน ดาวน์โหลดไว อัปโหลดไม่สะดุด บ้างก็ต้องการแพ็กเกจรายเดือนราคาย่อมเยาแต่ได้อินเทอร์เน็ตและสิทธิพิเศษมากที่สุด ฉะนั้น สิ่งที่ผู้ใช้งานต้องคำนึงถึงเป็นอันดับต้น ๆ ก็คือ

1. ความพร้อมใช้งานและความครอบคลุมของสัญญาณ แม้ว่าความแรงขณะใช้งานเป็นเรื่องสำคัญ แต่เรื่องสัญญาณที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ และพร้อมใช้งานเสมอนั้นสำคัญกว่า เพื่อไม่ให้ทุกการติดต่อต้องสะดุดกลางคัน และการใช้งานของแต่ละบุคคล ย่อมต้องการการเชื่อมต่อสัญญาณที่รวดเร็วที่สุด ร่วมกับเครือข่ายที่พร้อมที่สุด
2. โปรโมชันและความคุ้มค่าของแพ็กเกจ เพราะแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตสมัยนี้ไม่ได้มีแค่อินเทอร์เน็ตและค่าโทร แต่ยังมีสิทธิพิเศษอื่น ๆ มากมาย เช่น สิทธิดูสตรีมมิงฟรี สิทธิใช้งาน Wi-Fi ฟรี, สิทธิโทร WiFi Calling ฟรี ไว้ให้ใช้งานนอกเหนือจากการใช้เน็ตทั่วไป

ยกตัวอย่างเช่น แพ็กเกจ 5G จาก TrueMove H สำหรับลูกค้าใหม่ ก็มีให้เลือกหลากหลายแบบตามช่วงราคา ส่วนแพ็กเกจที่น่าสนใจที่สุด ขอแนะนำ “แพ็กเกจ 5G เฟล็กซี่ อัลลิมิเต็ด” ราคาเริ่มต้น 449 ต่อเดือน ได้ทั้งอินเทอร์เน็ต 4G / 5G ความเร็วสูงสุด 1 Gbps, Wi-Fi ฟรีไม่อั้น นอกจากนี้ยังมีสิทธิพิเศษอย่าง ดูหนัง ฟังเพลงผ่านแอป TrueID ไม่เสียค่าเน็ต นาน 12 เดือน เรียกได้ว่าจัดเต็มกันเลย ในราคาที่น่าคบหา

ส่วนแพ็กเกจ 5G ของ AIS มีแพ็กเกจ “5G Max Speed” สำหรับลูกค้าใหม่ มีให้เลือกทั้ง 4G และ 5G แต่ 5G จะมีราคาเริ่มต้นที่ 499 บาทต่อเดือน มาพร้อมอินเทอร์เน็ต 5G / 4G / 3G ความเร็วสูงสุด 1 Gbps สิทธิโทรฟรีในเครือข่ายและจำนวนนาทีโทรฟรีสำหรับเครือข่ายอื่น ๆ ส่วนสิทธิพิเศษด้านอื่น ๆ ก็มีให้เลือกพอสมควร อาทิ YouTube Premium ฟรี, พื้นที่เก็บข้อมูล Google One, AIS VR Service, ซิมการ์ดพร้อมเบอร์ใหม่ ฯลฯ

ส่วนแพ็กเกจรายเดือน สำหรับลูกค้าใหม่จาก dtac นั้น มีแพ็กเกจ "dtac GO" ในราคาเริ่มต้น 399 บาท มาพร้อมอินเทอร์เน็ตไม่ลดสปีด, สิทธิโทรฟรีทุกเครือข่าย แต่ทางดีแทคไม่ได้ระบุชัดเจนว่าเป็นแพ็กเกจ 5G หรือไม่ ซึ่งสิทธิพิเศษของแต่ละแพ็กเกจเป็นเรื่องของการใช้งานอินเทอร์เน็ตในประเทศเพื่อนบ้านแบบไม่ต้องเปลี่ยนซิม แต่ถ้าต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ต 5G จาก dtac กลับพบว่ารายละเอียดอยู่ในส่วนของโปรโมชันสมาร์ทโฟนราคาพิเศษ ซื้อพร้อมแพ็กเกจเสียนี่

3. สิทธิพิเศษอื่น ๆ จากเครือข่ายมือถือที่เข้าถึงไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ เสริมให้ผู้ใช้งานใช้ชีวิตสะดวกยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสะสม Point แลกสิทธิพิเศษ ของรางวัลต่าง ๆ ตัวอย่างที่ใกล้ตัวที่สุดก็น่าจะเป็นการสะสมแต้มบน TrueID เพื่อแลกซื้อแพ็กเกจเสริมผ่าน TrueMoney หรือนำแต้ม (Point) ไปแลกส่วนลดเพื่อใช้กับร้านค้าต่าง ๆ ที่ร่วมรายการ

อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจเลือกเครือข่ายมือถือ ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ การใช้งาน และงบประมาณที่มีของแต่ละคน เพราะเครือข่ายมือถือที่ดีที่สุด ความคุ้มค่าของแต่ละคนย่อมได้คำตอบที่ต่างกัน แต่สิ่งสำคัญที่สุดของทุกแพ็กเกจก็คือ คุณภาพและราคาของอินเทอร์เน็ตที่ทำให้ลูกค้าไว้วางใจ จนนำไปสู่การใช้บริการอื่น ๆ นั่นเอง