Game: Crash Bandicoot N. Sane Trilogy
Genre: Platformer (Platform)
Platform: PlayStation 4
Developer: Vicarious Visions
Publisher: Activision
Release Date: 30 June 2017
‘หมาแดง’ ‘หมาป่าแดง’ หนักสุดก็นู่นแน่ะ ‘จิ้งจอกแดง’ (จริงๆ มันคือหนูพันธุ์แบนดิคูทนะ) อืม… เอาเป็นว่าจะเป็นตัวอะไรก็ตาม หนึ่งสิ่งที่ Crash Bandicoot ซีรีย์เกมส์แนว Platformer คู่บุญบนเครื่องเล่นเกมส์ PlayStation 1 ในอดีตนี้ ได้ทำให้เกมเมอร์ที่เคยสัมผัสเห็นพ้องต้องกัน คือความกวนเส้นของเกมส์ ไม่ว่าจะทั้งบุคลิกของตัวละคร ฉาก ศัตรู ฯลฯ ที่ถูกออกแบบมาได้อย่างยียวนประสาท แถมในภายหลังยังได้แตกแขนงเป็นเกมส์แนวต่างๆ ในเวลาต่อมา ซึ่งเมื่อรวมๆ จากผลงานที่ผ่านมาทั้งหมดแล้ว ก็กล่าวได้เลยละครับว่าเป็นเรื่องยากนัก ที่เกมเมอร์ทั้งหลายจะ ลืมเลือนเกมส์อันแสบสันที่ชื่อ Crash Bandicoot นี้
ซึ่งดูเหมือนค่ายพัฒนา Naughty Dog และค่ายผู้จัดจำหน่ายอย่าง Activision จะเข้าใจดีว่าแฟนๆ อยากจะได้แฟรนไชส์นี้กลับมาเพียงใด พวกเขาจึงได้ทำการปัดฝุ่นและมัดรวมไตรภาคแรกของเกมส์ ให้ออกมาเป็นฉบับรีมาสเตอร์ในชื่อ “Crash Bandicoot N. Sane Trilogy”
แต่การกลับมาใหม่ในรูปแบบดังกล่าว จะมีสิ่งใดที่เปลี่ยนแปลงไปบ้าง? หรือจะมีสิ่งใดที่ยังคงไว้ซึ่งอัตลักษณ์? เชิญหาคำตอบได้ในบทความรีวิวนี้ได้เลยครับผม!
แม้ใครหลายคนจะตีตราซีรีย์ Crash Bandicoot จากหน้าปกว่าเป็นเกมส์ที่เหมาะสำหรับเด็กและเยาวชนเท่านั้น แต่หากใครที่เคยได้สัมผัสก็จะรู้ว่าตัวเกมส์มีความยากที่ชวนให้หัวร้อนในระดับหนึ่งเลยละ ซึ่งฉบับรีมาสเตอร์นี้เอง ก็ยังคงมีเชื้อเพลิงที่พร้อมจะติดไฟได้ทุกเมื่อนี้อยู่เช่นเคย
โดยเป้าหมายการเล่นของเกมส์ ผู้เล่นยังคงต้องผ่านด่านที่เต็มไปด้วยอุปสรรคอันแสนทรหดและยั่วโทสะทั้งหลาย พร้อมเก็บไอเทมต่างๆ ตามฉากที่จะช่วยให้ผู้เล่นสามารถจบเกมส์ได้ด้วยดีเฉกเช่นเกมส์ฉบับต้นฉบับครับ ซึ่งอุปสรรคและความท้าทายทั้งหมดนั้น ผู้เล่นจะต้องใช้เพียงแค่ความสามารถอันเรียบง่ายของเจ้า Crash ตัวละครเอกของเกมส์ (ที่เป็นแบนดิคูท สัตว์ประเภทหนู) ที่มีเพียงการกระโดด ปั่นตัว และสไลด์ (ทำได้ในภาค 2 - 3) ที่แม้จะมีให้ใช้เพียงหยิบมือ แต่เมื่อต้องผสมเข้ากับสิ่งที่เรียกว่าจังหวะแล้วล่ะก็ บอกเลยว่า "ผู้เล่นจะได้รีดศักยภาพออกมาจนหมดแน่นอน"
เพราะ "จังหวะที่ต้องแม่นยำ" คืออีกจุดเด่นของเกมส์นอกเหนือจากภาพลักษณ์เพี้ยนๆ ของเจ้าหนูแดงตัวละครหลักของเรา โดยทั้งอุปสรรคที่เป็นสิ่งกีดขวางหรือศัตรูในเกมส์นั้น ต่างก็จะต้องใช้การกะและเล็งในช่วงเวลาที่ถูกต้องเพื่อผ่านไปให้ได้ และยิ่งเมื่อในฉบับรีมาสเตอร์นี้ ผู้พัฒนาได้ทำให้ตัวเกมส์ยากขึ้นไปอีกขั้น ด้วยการปรับ Hitbox หรือระยะการแสดงผลท่ากระโดดตัวละครของเราให้น้อยลงอันเป็นผลพวงมาจากเอนจินใหม่ในการสร้างเกมส์ฉบับนี้ จึงทำให้การกะจังหวะที่คุ้นชินในอดีตทั้งหลายของเราแทบจะต้องเลาะใหม่ทั้งดุ้นเลยละครับ
แต่ผู้เขียนมองว่าในส่วนนี้ ถือว่าเป็นเรื่องดีนะ เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าเกมส์ฉบับรีมาสเตอร์ จะมีน้อยเกมส์นักที่จะปรับเปลี่ยนด้านรูปแบบการเล่น (ที่เจอมามีแค่ Metro 2033 Redux หรือฉบับ Remaster ที่ได้ใส่ระบบภาคต่อของซีรีย์เกมส์นี้เข้ามาอย่าง Metro: Last Light) ซึ่งถึงแม้ Crash Bandicoot N. Sane Trilogy จะไม่ได้จงใจเปลี่ยนก็ตาม แต่การได้กลับไปรู้สึกท้าทายกับเกมส์นี้เหมือนวัยเยาว์ ก็ดูจะเป็นอะไรคุ้มค่าแก่การได้เป็นเจ้าของเกมส์นี้อีกครั้ง
ผู้เขียนกล้าพูดได้เต็มปากเลยว่า ด้านประสิทธิภาพทั้งหลายของ Crash Bandicoot N. Sane Trilogy คือสิ่งที่ "ดีที่สุด" ของเกมส์ฉบับนี้เลยก็ว่าได้ ทั้งด้านการบริหารจัดการทรัพยากรของเครื่องเล่น PlayStation 4 ที่ทำออกมาได้อย่างดีเยี่ยมจนทำให้เฟรมเรตคงที่ตลอดทั้งการเล่น น้อยครั้งนักที่จะมีอาการเฟรมตก
และด้านกราฟฟิกของเกมส์ที่หลายๆ ส่วนนั้น ถูกทำออกมาได้ประณีตมากๆ ไม่ว่าจะแสงเงาของเกมส์ที่ไล่ระดับได้ใกล้เคียงแสงธรรมชาติ โดยในส่วนนี้จะเห็นชัดเจนที่สุดกับวัตถุประเภทของเหลวทั้งหลาย (แอ่งน้ำ, ลาวา, พื้นน้ำแข็ง ฯลฯ), ความอิ่มตัวของสีในเกมส์ที่สวยงามและไม่ดูแข็งกระด้าง และปิดท้ายด้วยไดนามิคหรือการไล่ระดับน้ำหนักจากน้อยไปหามากของการแสดงผลอนิเมชั่นที่ทำออกมาได้ละเมียดมากละมัย ไร้ซึ่งการขยับเขยื้อนข้อต่อแบบแข็งๆ ดั่งที่แล้วมาในอดีต
แต่ "กระนั้น" ในส่วนของกราฟฟิกนี้ ก็มีจุดใหญ่ๆ จุดหนึ่งที่อาจจะสะกิดตาผู้เล่นครับ นั่นก็คือพื้นผิว (Texture) วัตถุในเกมส์หลายชิ้นและคัทซีนของเกมส์ที่ดูด้านๆ ไม่สวยงามเท่าไหร่นักหากเทียบกับแสงเงาและสีของเกมส์ แต่หากมองในภาพรวมแล้ว ผู้เขียนว่าพอปล่อยผ่านไปได้เมื่อวัดจากด้านอื่นที่ออกมาในเกณฑ์ดี
โดยรวม Crash Bandicoot N. Sane Trilogy คือการกลับมาของเจ้าหนูแดงในตำนานอย่าง "สมศักดิ์ศรี" ที่คุ้มกับการกลับมา ทั้งเกมส์เพลย์ที่ท้าทายและแสบสันกว่าเดิมอันเป็นผลพวงมาจากการพัฒนาด้วยเอนจินใหม่ ทำให้ผู้เล่นหน้าเก่าและใหม่ สามารถนับหนึ่งไปพร้อมกันกับความสนุกปนหัวร้อนวอนบาทาของซีรีย์นี้ ที่ซ้ำยังถูกดึงดูดให้ติดพันเกมส์ต่อด้วยกราฟฟิกอันแสนสวยงามที่ถูกพัฒนาให้ได้ออกมาเทียบเท่ากับเกมส์สมัยใหม่ และแม้ในด้านของพื้นผิวหลายๆ ส่วน จะดูกระด้างไม่ดีเท่าที่ควร แต่ในส่วนของแสงเงาและอนิเมชั่นนั้น กลับมีความประณีตในระดับสูง ทำให้ผู้เล่นสามารถเพลิดเพลินไปกับความวิจิตรในส่วนนี้ได้อย่างไม่เบื่อ
ข้อดี
| ข้อสังเกต
|
|
ทำไมไม่เรียกแมว! รักหนัง รักเกม ร๊ากกทุกคนนน ~ <3 |