“ความท้าทาย” คือสิ่งที่ Phoenix Labs ค่ายพัฒนาเกมส์อินดี้สัญชาติแคนาดานี้ กำลังเผชิญ เพราะพวกเขา ต้องตอบคำถามที่ถูกเกมเมอร์ตราหน้าแต่แรกเห็นใน Dauntless ผลงานเพียงหนึ่งเดียว ณ ตอนนี้ ให้ได้ว่า “เกมส์ของพวกเขาแตกต่างอะไรกับซีรีย์ล่าอสูรยักษ์เลื่องชื่อที่มีมาก่อนหน้านี้อย่าง Monster Hunter”
ซึ่งก็ปฎิเสธไม่ได้จริงๆ นั่นแหละครับที่คำถามที่ว่าจะผุดขึ้นมา เพราะไม่ว่าจะรูปลักษณ์ภายนอก คอนเซปท์ หรือระบบการเล่นของเกมส์ ก็ดูคลับคล้ายคลับคลากันอย่างเห็นได้ชัด และแม้แต่ทีมพัฒนาเอง ก็ยังออกปากเลยว่า Dauntless ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Monster Hunter (ต่อไปขอเขียนว่ามอนฮันฯ) ในจำนวนมหาศาลเลยทีเดียว
แต่หากลองพิจารณา Dauntless ดูสักนิด ก็จะพบว่าตัวเกมส์ ก็มีเอกลักษณ์ที่เป็นของตัวเองอยู่ไม่น้อย และยิ่งภาพรวมของเกมส์ ได้รับอิทธิพลจาก Monster Hunter เกมส์ Action - RPG ที่ปูแก่นในการเล่นมาแล้วอย่างเพียบพร้อม ก็ดูจะทำให้เกมส์นี้ มีความน่าสนใจไม่เบา
เอาละ ลืมเรื่องแรงบันดาลใจไปก่อน และมาว่ากันกับตัวเกมส์แบบตรงไปตรงมากันครับ Dautless นั้น เป็นเกมส์แนว Action - RPG ที่มีระบบการต่อสู้เป็น Co-Op หรือการช่วยเหลือเกื้อกูลกันระหว่างผู้เล่น อันเป็นจุดเด่นสุดสำคัญที่สุดของเกมส์ เพราะศัตรูที่ผู้เล่นจะต้องเจอนั้น มีอยู่รูปแบบเดียวคือ Behemoth อสูรกายร่างใหญ่ยักษ์ ที่ดุร้ายและมากด้วยจังหวะการจู่โจม ซึ่งผู้เล่นทั้ง 4 จะต้องรับมือกับศัตรูอันน่าเกรงขามนี้ ด้วย "ทักษะและความสามัคคีของผู้เล่นด้วยการแบ่งหน้าที่กันรับมือ"
โดนคือโดน หลบคือหลบ!
ซึ่งบอกเลยละครับว่าการล่มหัวจมท้ายกันต่อสู้กับเหล่าศัตรูยักษ์ใหญ่ในเกมส์นี้ "สนุกและท้าทายมาก" เพราะอนิเมชั่นการเคลื่อนไหวของตัวละคร มีการแสดงผลของช่องพิกเซลหรือ Hitbox ที่เถรตรงเอามากๆ ทำให้ผู้เล่นสามารถกะระยะการออกท่าโจมตีและหลบหลีก ตามท่วงท่าที่เกมส์แสดงผลได้ตามที่ตาเห็น เช่น ในขณะที่ต่อสู้ หากผู้เล่นยืนอยู่ในบริเวณที่ไร้ช่องการหลบหนี ผู้เล่นอาจจะกลิ้งหลบเข้าไปในท้องของศัตรูเพื่อหลบการตวัดโจมตี เป็นต้น
Dauntless ไม่มีระบบอัพเกรดเลเวล การเพิ่มค่าสถานะต่างๆ ของตัวละคร หรืออาชีพมาเป็นตัวกำหนดแนวทางการเล่น แต่ตัวเกมส์จะใช้ ”อาวุธ” ที่ผู้เล่นใช้งานเป็นการจัดตำแหน่ง หรือหน้าที่ในตอนต่อสู้ ว่าผู้เล่นควรจะเน้นหนักทำหน้าที่อะไรในการต่อกรกับอสูรยักษ์ ซึ่งแม้ในตอนนี้ อาวุธทั้งหลายจะยังมีให้เลือกใช้งานแบบจำกัดเพียง 4 รูปแบบ (ดาบยักษ์, ขวานใหญ่, ค้อนคำราม และเคียวสังหาร) แต่กระนั้น ทุกศาสตราวุธ ก็มีเทคนิคการใช้งานและจังหวะของท่วงท่าที่มีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกันออกไป และยังมีในส่วนของระบบธาตุ อีกหนึ่งองค์ประกอบที่จะสร้างความได้เปรียบในการต่อกรกับศัตรูได้ในระดับหนึ่ง ปิดท้ายด้วยการโจมตีปะติดปะต่อหรือคอมโบที่หลากหลาย ที่มาพร้อมการกดใช้งานกระบวนท่าพื้นฐาน หรือผู้เล่นจะคิดค้นขึ้นมาเองในภายหลังก็ยังได้
Behemoth หรือศัตรูขนาดใหญ่ยักษ์นี้ ก็สร้างสีสันและตอบรับตอบขานกับการเล่นได้เป็นอย่างดี โดยแต่ละตัวจะมีระยะ รูปแบบ พร้อมจังหวะการโจมตีที่แน่นอนว่าจะต้องแตกต่างกันออกไป ที่ยังมาพร้อมกับท่าทาง ที่ทีมพัฒนาได้รังสรรค์ในส่วนนี้ออกมาได้ดูน่าเกรงขามสมขนาดตัว ทำให้ผู้เล่น ต้องหมั่นเรียนรู้และศึกษาท่าทางของพวกมัน และร่วมกันสร้างกลยุทธ์มาตอบโต้ อีกทั้งเมื่อผู้เล่นได้สร้างความเสียหายใส่มันอย่างต่อเนื่อง พวกมันก็จะค่อยๆ เริ่มมีบาดแผลปรากฎขึ้นมาตามตัว และส่งผลให้การโจมตีบางท่าหายไป ซึ่งในส่วนนี้ ก็ได้ขับส่งให้ผู้เล่นแต่ละคน ต้องสามัคคีและทำงานร่วมกันทีม เพื่อคอยหาจังหวะ หรือเปิดช่องว่างกระหน่ำสร้างบาดแผลไปถึงขั้นทำลายบริเวณหรือชิ้นส่วนที่อสูรแต่ละตัวใช้ในการสร้างท่าโจมตีที่หนักหน่วง
และแน่นอนละว่า งานหฤโหดลากเลือดเช่นนี้ย่อมมาพร้อมผลตอบแทนที่คุ้มค่า โดยเมื่อเราปราบศัตรูยักษ์เหล่านี้ลงไปได้ ผู้เล่นก็จะสามารถนำชิ้นส่วนของพวกมันมาสร้างเป็นอาวุธและชุดเกราะที่น่าเกรงขามและทรงพลัง และเมื่อก้าวข้ามความท้าทายและได้รับรางวัลแห่งชีวิตเหล่านี้มาได้แล้ว ผู้เล่นก็จะเริ่มเสพติดและโหยหารางวัลชิ้นใหม่จากศัตรูที่แข็งแกร่งและท้าทายฝีมือมากกว่าเดิม หรือพูดง่ายๆ ว่านี่คือ “วัฎจักรหรือวงเวียนการเล่นของ Dautless ที่เกมเมอร์ผู้ที่รักในความท้าทายนั้น ยากที่จะหยุด”
Dautless มีรูปแบบการให้บริการในรูปแบบที่เปิดเล่นฟรี (Free-to-Play) โดยในตอนนี้ ตัวเกมส์ได้เปิดช่วง Close Beta ให้ผู้เล่นที่สนับสนุนตัวเกมส์ เข้าร่วมทดสอบตัวเกมส์ก่อนใคร (หากสนใจรายละเอียดการได้ทดสอบเกมส์เวอร์ชันนี้ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ https://playdauntless.com/founders-packs) ซึ่งจากการคาดการณ์ของทีมงาน พวกเขาได้ระบุว่าตัวเกมส์จะพร้อมเปิดให้บริการภายในสิ้นปี 2017 นี้ครับ
|
ทำไมไม่เรียกแมว! รักหนัง รักเกม ร๊ากกทุกคนนน ~ <3 |