จุดที่เราชอบ
| จุดที่เราไม่ชอบ
|
เอ่ยถึงชื่อ Xiaomi เชื่อว่าน่าจะมีหลายคนที่เป็นสาวกค่ายนี้กันอยู่ไม่น้อย ด้วยสโลแกนของแรงราคาถูก ทำให้ทุกครั้งที่ Xiaomi เปิดตัวอะไรออกมา ก็เรียกเสียงฮือฮาได้เป็นประจำ เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา Xiaomi ก็ได้มีการประกาศเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยมีเข้ามาจำหน่าย 2 รุ่น คือ Mi 6 และ Redmi Note 4 คาดว่าในอนาคตก็น่าจะมีการนำรุ่นอื่นๆ เข้ามาทำตลาดเพิ่มเติม ซึ่ง Redmi 4X ก็เป็นอีกรุ่นหนึ่งของ Xiaomi ที่หลายคนให้ความสนใจกัน ด้วยจุดเด่นด้านแบตเตอรี่ที่ให้มามากถึง 4,100mAh ทำให้หลายคนเล็งรุ่นนี้อยู่ และเราก็ตัดสินใจไปหาเจ้าสมาร์ทโฟนรุ่นนี้มารีวิวให้ดูกัน
Redmi 4X ไม่มีขายอย่างเป็นทางการ แต่ก็มีร้านจำหน่ายมือถือหลายร้านนำเข้ามาขาย ส่วนรุ่นที่เราได้มารีวิว สั่งมาจาก Gearbest ครับ
***รุ่นที่เรารีวิวในบทความนี้เป็นรุ่นหน่วยความจำ 32GB แรม 3GB***
อย่าเห็นว่าเป็นสมาร์ทโฟนราคาประหยัดแล้ว แพ็คเกจจะไม่ดี Redmi 4X มาในกล่องที่ออกแบบมาได้พอดีกับตัวเครื่อง และจัดระเบียบภายในกล่องได้อย่างเรียบร้อย เปิดกล่องมาจะพบกับตัวเครื่อง และเมื่อยกตัวเครื่องออกมาจะพบกับคู่มือที่ปิดช่องเก็บอุปกรณ์เอาไว้ด้านล่าง ก็จะมีสายชาร์จแบบ Micro USB และอะแดปเตอร์ ในกล่องไม่มีแถมหูฟังมาให้นะครับ
ด้วยความที่แบตเตอรี่ของ Xiaomi Redmi 4X มีขนาดถึง 4,100 mAh ถ้าใช้อะแดปเตอร์ที่จ่ายไฟแค่ 1.0A เราคงใช้เวลาในการชาร์จแบตเตอรี่กันทั้งวันเป็นแน่แท้ ซึ่ง Xiaomi ก็ไม่ใจร้ายให้อะแดปเตอร์ที่จ่ายไฟได้ 2.0A มาในกล่องครับ
Xiaomi Redmi 4X มาพร้อมกับตัวเครื่องที่ทำจากอลูมิเนียม งานประกอบดูแข็งแรงและแน่นหนาดี หน้าจอขนาด 5 นิ้ว ความละเอียดมาเพียง 1280 x 720 พิกเซล ปุ่มควบคุมเป็นแบบสัมผัสอยู่ด้านล่างของหน้าจอ ไม่ได้รวมไว้ในหน้าจอเหมือนที่สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์เดี๋ยวนี้นิยมออกแบบกัน ตรงปุ่มโฮมแอบมีซ่อนไฟ LED สำหรับแจ้งเตือนด้วย ทั้งนี้ด้านหน้าจะเป็นกระจกทั้งหมด ซึ่ง Xiaomi ระบุว่าใช้กระจก Corning Gorilla Glass แต่ไม่ได้บอกนะครับ ว่าเป็นเวอร์ชันไหน
ด้านหลังของตัวเครื่องเป็นอลูมิเนียมแบบด้านทั้งหมด มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่ด้านหลัง ซึ่งสแกนได้เร็วพอสมควร กล้องหลังมีไฟแฟลชแบบ LED ทั้งนี้เป็นแฟลชแบบสีเดียวนะครับ ฝาหลังไม่สามารถถอดเพื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ ไม่น่าเชื่อว่าเห็นเครื่องบางๆ แบบนี้ แต่อัดแบตเตอรี่มาให้ถึง 4,100mAh
ปุ่มพาวเวอร์และปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง อยู่ฝั่งเดียวกันที่ด้านขวาของตัวเครื่อง
ถาดใส่ซิมอยู่ที่ฝั่งซ้ายของตัวเครื่อง การจะเปิดจำเป็นต้องใช้เข็มทิ่มถาดซิมออกมานะครับ รุ่นนี้ใส่ได้ 2 ซิม หรือ 1 ซิม + 1 ไมโครเอสดีการ์ดก็ได้
ด้านล่างมีพอร์ตแบบ Micro USB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่หรือเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์เพื่อถ่ายโอนข้อมูล และมีรูลำโพงด้วย ทั้งนี้ลำโพงมีแค่ตัวเดียวอยู่ฝั่งขวาของตัวเครื่องนะครับ
Xiaomi Redmi 4X มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 6.0.1 และครอบด้วย MIUI (เวอร์ชันล่าสุด คือ 8.5.2.0) อีกที ก็จะเป็นรอมที่ไม่มีหน้า App Drawer แอปฯ จะเรียงไปในหน้า Home Screen เหมือนกับบน iOS เลย
หน้า Notification Center มีแจ้งเตือน และชอทคัท ตัวชอทคัทเราสามารถจัดเรียงลำดับใหม่ได้ตามต้องการ แต่ไม่สามารถแก้ไขตัวเลือกได้นะครับ
ในส่วนของ Widget ยังมีให้เลือกใช้อยู่เหมือนเดิม ตามสไตล์ของแอนดรอยด์ ซึ่งก็ช่วยให้เราเข้าถึงชอทคัทต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว อย่างเช่น Google Drive เป็นต้น แต่ Widget บางอันใหญ่ไปหน่อยนะ ไม่สามารถปรับขนาดได้ด้วย
ลองเล่นเกมส์ ROV พบว่าเล่นได้นะครับ ในเกมส์ลื่นไม่มีกระตุก ทั้งนี้ Fps วิ่งอยู่ประมาณ 27-30fps นะครับ (ไม่ได้เปิด HD) แต่จะมีอาการค้าง (แต่ไม่แครชนะ) จังหวะเปิดเกมส์ หรือเข้าเมนูต่างๆ และการโหลดเข้าเกมส์จะค่อนข้างช้า
Asphalt 8 จังหวะเปิดเกมส์ และโหลดทำได้ค่อนข้างช้า แต่จังหวะเล่นเกมส์ ทำได้ดี ลื่นอยู่เล่นได้สบายๆ
สำหรับคนที่อยากรู้ประสิทธิภาพ เราได้จับมันมาทดสอบวัดความแรงด้วย แอปฯ AnTuTu ผลออกมาก็อยู่ในะดับกลางๆ ครับ อยู่ในระดับใช้งานทั่วไป
ด้วยความที่เป็นสมาร์ทโฟนราคาประหยัดและไม่ได้เน้นในเรื่องของกล้องซักเท่าไหร่ จึงทำให้ Xiaomi Redmi 4 เป็นสมาร์ทโฟนที่ฮาร์ดแวร์กล้องไม่ได้โดดเด่นอะไร ความคมชัดก็อาจจะสู้กล้องสมาร์ทโฟนอื่นๆ ในตลาดไม่ได้ แต่ก็มีโหมดต่างๆ ให้ใช้งาน ซึ่งที่เราสนใจก็เช่น โหมด Straighten ที่ช่วยให้เราถ่ายภาพได้ขนานกับระดับพื้น ไม่เอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง กับโหมด Manual ที่ถูกใส่ไว้ในกล้องตัวนี้ด้วย
เมื่อเลือกใช้โหมด Straighten ในกล้องหลัง หน้าจอถ่ายภาพจะมีกรอบสี่เหลี่ยมขึ้นมา ซึ่งจะใช้เซ็นเซอร์ในการวัดระดับเพื่อทำให้การถ่ายรูปของเราตั้งตรงขนานกับพื้นเสมอ ถ่ายยังไง ก็ไม่มีคำว่าถือกล้องเอียง (แต่มันก็จะเสียความละเอียดจากการที่ถูกตัดหน่อยๆ)
ส่วนโหมด Manual ของมือถือเครื่องนี้ ก็ไม่ได้มีอะไรมากเหมือนกับโหมด Pro บนมือถือในท้องตลาด โดยโหมด Manual ในมือถือเครื่องนี้ ก็มีเพียงการปรับค่า White Balance หรือ ISO ให้เลือกใช้เท่านั้นเอง
ลองไปชมภาพตัวอย่างจากกล้องนี้กันดูบ้าง
สำหรับกล้องหลังของ Xiaomi Redmi 4X มีความละเอียด 13 MP, f/2.0, มีระบบ Phase detection autofocus, LED flash ตัวอย่างภาพจากกล้องสามารถดูได้จากอัลบั้มด้านบนนี้ ทั้งหมดเป็นภาพจากมือถือโดยตรงไม่ผ่านการปรับแต่ง โดยคุณภาพของภาพ จะสามารถทำได้ดีในบริเวณกลางแจ้ง หรือสถานที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอ แต่ในที่มืด หรือแสงน้อย ภาพจะขาดความคมชัดอยู่บ้าง
เปิดใช้งาน Slim ระดับ 10 |
ส่วนกล้องหน้า ก็คงเป็นเรื่องของโหมดบิวตี้ ที่มีให้เลือกใช้งาน 2 รูปแบบ ได้แก่แบบ Smart ที่สามารถปรับระดับความสวยได้ 3 ระดับ และแบบ Pro ที่สามารถปรับแยกระหว่างผิวเนียน กับบีบหน้า ได้ถึง 10 ระดับด้วยกัน ซึ่งด้านความละเอียดหรือความคมชัด ก็อาจจะไม่ได้อยู่ในจุดที่คาดหวังได้ แต่ก็สามารถใช้ถ่ายเซลฟี่เบาๆ ได้อยู่บ้าง
สำหรับกล้องหน้าของ Xiaomi Redmi 4X มีความละเอียด 5 MP, f/2.2 ภาพตัวอย่างภาพจากกล้องสามารถดูได้จากอัลบั้มด้านบนนี้ ทั้งหมดเป็นภาพจากมือถือโดยตรงไม่ผ่านการปรับแต่ง
ในงบประมาณราวๆ 5,xxx เจ้า Xiaomi Redmi 4X ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากตัวหนึ่งทีเดียว จะใช้เป็นเครื่องหลักสำหรับใช้งานทั่วไป หรือเอาไว้สำรองเน้นโทร เน้นส่งข้อความก็ดี เพราะแบตฯ อึดมาก ถ้าไม่ได้เอาไปนั่งเล่นเกมส์ทั้งวัน ยังไงก็ใช้งานได้ 1-2 วัน แต่หากใครต้องการมือถือเครื่องใหม่มาเล่นเกมส์ หรือถ่ายรูป Xiaomi Redmi 4X ก็คงจะไม่สามารถตอบโจทย์ข้อนี้ได้
เอาเป็นว่าสำหรับใครที่สนใจสมาร์ทโฟนแบตอึด Xiaomi Redmi 4X รุ่นนี้ ก็ไปชมรายละเอียดเพิ่มเติมกันได้ที่ https://gbe.st/rOJS9A นะครับ
|
... |