รีวิว Marvel's Spider-Man: เกมส์ซุปเปอร์ฮีโร่ที่ดีที่สุดในปัจจุบัน!

Game: Marvel's Spider-Man (หรือเรียกกันติดปากว่า Spider-Man PS4)

Genre: Action-Adventure

Platform: PlayStation 4

Developer: Insomniac Games

Publisher: Sony Interactive Entertainment

Release Date: 7 September 2018

 Total Score: 9.0

Prologue / อารัมภ 'บ่น'

ต้องยอมรับกันตรงๆ ละนะครับว่าในแวดวงของเกมส์โดยเฉพาะในช่วงหลายปีที่ผ่านมา (2010 - 2017) Marvel นั้นไม่ได้มีผลงานที่จะไปสามารถเทียบเคียงหรือประชันกับทาง DC เพราะในระยะเวลาที่ใกล้เคียงกัน ค่ายคู่ปรับตลอดกาลดังกล่าวของพวกเขานี้ กลับส่งออกผลิตภัณฑ์คุณภาพออกมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น ซีรีย์ Batman Arkham, Injustice, ซีรีย์ Batman: The Telltale ฯลฯ

แต่ดูเหมือนตอนนี้ Insomniac Games อดีตทีมพัฒนาผู้ให้กำเนิดซีรีย์เกมส์มังกรสีม่วงตัวจิ๋ว (แต่แจ๋ว) อย่าง Spyro ได้ทวงคืนจุดยืนเดิมในวงการเกมส์ให้กับทาง Marvel ได้อีกครั้ง ด้วยผลงานชิ้นล่าสุดของพวกเขาอย่าง "Marvel's Spider-Man" และไม่ใช่แค่การกลับมา หากแต่ยังเป็นการยืนรออยู่บนจุดสูงสุดของว่าที่เกมส์ซุปเปอร์ฮีโร่ที่ดีที่สุดในปัจจุบันอีกด้วย แต่ในเชิงรายละเอียดแล้ว ผลงานดังกล่าวนี้จะดีสมที่ยกยอปอปั้นหรือไม่? เชิญหาคำตอบได้ในบทความรีวิวนี้ได้เลยครับ

Story

Marvel's Spider-Man เลือกที่จะนำเสนอเรื่องราวที่คิดขึ้นมาใหม่ไม่อิงหนังสือการ์ตูนคอมมิคหัวใดๆ จะมีก็แค่บรรดาตัวละครทั้งหลายที่ใช้ชื่อเดิม กับปูมหลังที่อาจจะดัดแปลงหรือปรับเปลี่ยน โดยเนื้อเรื่องของเกมส์ จะบอกเล่าถึงปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ (Peter Parker) ในวัย 23 ปี ที่เขาช่วยเหลือและปกป้องผู้คนแห่งมหานครนิวยอร์กในคราบของสไปเดอร์แมน ซุปเปอร์ฮีโร่ขวัญใจประชาชนมาแล้วกว่า 8 ปี 

โดยหลังจากเหตุการณ์ปัจจุบันที่เขาสามารถหยุดเหตุก่อการร้ายที่เป็นฝีมือของ วิลสัน ฟิสก์ (Wilson Fisk) หัวหน้าองค์กรอาชญากรรมที่มีหน้าฉากเป็นนักธุรกิจใจบุญแห่งมหานครนิวยอร์กได้สำเร็จ ก็ได้มีองค์กรลึกลับกลุ่มใหม่เกิดขึ้นที่ถูกเรียกว่า Demon เขาจึงต้องหาทางหยุดยั้งพวกมันให้ได้ก่อนที่ความโกลาหลจะเกิดขึ้น แต่เมื่อปีเตอร์หรือสไปเดอร์แมนของเรายิ่งรับรู้ความจริงขององค์กรลึกลับดังกล่าวมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งพบว่า "มีภัยร้ายที่กำลังจะมาเยือนและมัน รุนแรงกว่าที่ใครจะคาดคิด" 

คุณคือทุกอย่างที่ผมอยากจะเป็น! สไปเดอร์กล่าวความในใจกับตัวละครปริศนา

อาจกล่าวได้ว่า Marvel's Spider-Man มีจังหวะการเล่าเรื่องที่ตรึงผู้เล่นได้อยู่หมัด ทั้งจากการไล่ระดับความน่าสนใจในเนื้อเรื่องที่น่าติดตามมากขึ้นเรื่อยๆ พร้อมด้วยคัทซีนในฉากตอสู้ที่กำกับออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยมุมกล้องและการออกแบบท่าทางการต่อสู้ (Choreography) ที่บ่งบอกความเป็นเอกลักษณ์ของสไปเดอร์แมนได้อย่างสวยงาม

แต่ในบางช่วงบางตอนของเนื้อเรื่องที่ตัวเกมส์จะให้ผู้เล่นได้พักเบรคจากการเป็นสไปเดอร์แมน และเปลี่ยนบทบาทเป็นปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ หรือตัวละครที่มีความสำคัญทั้งหลาย ที่แม้เรื่องราวจะยังดำเนินต่อไปเรื่อยๆ แต่ในหลายครั้งมันก็ดูเป็นการเปลี่ยนอารมณ์การบอกเล่าเนื้อเรื่องแบบกระทันหันไปเสียหน่อย

วันเกิดของป้าเมย์ที่ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ และมาร์ติน ลีร่วมกันจัดเซอร์ไพรส์

และก็ถือได้ว่าเป็นความชาญฉลาดของทาง Insomniac Games ที่เลือกจะสร้างเรื่องราวขึ้นมาเป็นเอกเทศไม่อ้างอิงเวอร์ชันคอมมิคหรือภาพยนตร์ เพราะมันทำให้พวกเขาสามารถที่จะปูความสัมพันธ์ของบางตัวละครขึ้นมาใหม่ ซึ่งผู้เล่นจะได้เห็นมิติของพวกเขาในหลากหลายด้าน ได้รู้จัก ได้รับรู้ที่มาที่ไปของการเปลี่ยนแปลงในตัวพวกเขา ที่จะส่งผลให้เราเข้าถึงและเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเนื้อเรื่องที่ตัวเกมส์นำเสนอ

Gameplay

"นี่คือเกมส์ที่ให้คุณได้สวมบทบาทเป็นสไปเดอร์แมนโดยสมบูรณ์" และมันไม่ใช่การกล่าวอ้างที่เกินจริงไปแน่นอน เริ่มกันตั้งแต่การเดินทางหลักของเกมส์ ที่ผู้เล่นจะได้ใช้ใยแมงมุมในการโหนและดึงตัวขึ้นกลางอากาศ พร้อมด้วยความสามารถในการเกาะไต่ผนังกำแพง เดินทางไปยังจุดพื้นที่เป้าหมายในใจกลางของมหานครนิวยอร์กที่เต็มไปด้วยอาคารตึกสูงได้อย่างอิสระ

อีกทั้งการควบคุมในส่วนนี้เอง ก็ให้ความรู้สึกถึงแรงเคลื่อนที่ของวัตถุหรือโมเมนตัม (Momentum) ที่สมจริง เราจะสามารถลอยตัวอยู่กลางอากาศได้ด้วยกะจังหวะการปล่อยใยเส้นเก่าและโหนไปยังใยเส้นใหม่ได้อย่างแม่นยำที่มันโคตรสนุกเป็นบ้าเลย!

การที่เราจะได้โหนใยดีดตัวขึ้นสูงเหนือพื้นเพื่อทิ้งตัวกลางอากาศ และเลือกที่จะทะยานขึ้นฟ้าให้สูงขึ้นหรือดิ่งลงพื้นและพุ่งตัวด้วยกลับไปบนอากาศต่อ มันคือสิ่งที่เกมส์สไปเดอร์แมน เกมส์ซุปเปอร์ฮีโร่ หรือแม้แต่เกมส์โอเพ่นเวิร์ลไหนๆ ก็ยังให้ความรู้สึกนี้กับคนเล่นไม่ได้  

(คือจริงๆ ตัวเกมส์มันก็มีระบบ Fast Travel นั่นแหละ แต่คือเราจะใช้ทำไม ในเมื่อการโหนตัวในเกมส์มันสนุกขนาดนี้ แต่การใช้มันก็ประหยัดเวลาดี แถมมีภาพยียวนกวนประสาทให้เราดูระหว่างโหลดฉากด้วยนะ)

พริ้วไหว คล่องตัว นี่สิ สไปเดอร์แมนที่เรารู้จักกัน!

ค่อนข้างชัดเจนว่าระบบการต่อสู้ของ Marvel's Spider-Man ได้แรงบันดาลใจมาจากซีรีย์ Batman Arkham พอสมควร แต่ทางผู้สร้างได้ต่อยอดและทำให้ความสามารถของสไปเดอร์แมนมีอิทธิพลในการต่อสู้ค่อนข้างสูงจนออกมามีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองด้วยการ "พลิกแพลงสถานการณ์" 

โดยผู้เล่นจะสามารถโจมตีภาคพื้นดินและกลางอากาศ หลบหลีกการโจมตี พุ่งทะยานเข้าหาศัตรูที่อยู่ในระยะไกล พื้นที่สูงหรือแม้แต่กลางอากาศได้ตลอดเวลา และในทุกแอคชั่นที่กล่าวไป เราสามารถสับเปลี่ยนได้ในทันทีเมื่อเห็นว่าสมควร เช่น ในขณะที่ผู้เล่นกำลังโหนใยไปรอบฉาก เราจะสามารถหลบการโจมตีของศัตรูและพุ่งเข้าโจมตีได้ในทันที หรือหากผู้เล่นกำลังโจมตีศัตรูอยู่แต่มีกระสุนระยะไกลพุ่งเข้ามา ผู้เล่นจะสามารถหลบและพุ่งเข้าหาตัวที่เป็นเจ้าของกระสุนนั้นได้ในทันที ฯลฯ นอกจากนี้เรายังสามารถใช้สิ่งของประกอบฉากบางอย่าง หรือแม้แต่อาวุธของศัตรูเองในการสร้างความเสียหายกลับไปได้อีกด้วยและเรายังจะมี Finisher หรือท่าที่ใช้ในการน็อคศัตรูในทันทีที่นอกจากจะเป็นตัวช่วยชั้นดีในการตัดจำนวนศัตรู มันก็ยังเป็นท่าที่ดีไซน์ออกมาได้เท่ ดูพริ้วไหวสมกับการเป็นสไปเดอร์แมน

กล่าวคือระบบคอมแบทของเกมส์ มีความโลดโผนและลื่นไหลเป็นอย่างมาก ซึ่งผู้พัฒนาก็ไม่ได้ปล่อยให้ส่วนนี้ เป็นช่องโหว่หรือทำให้ตัวเกมส์ง่ายจนเกินไป เพราะพวกเขาได้ทำให้สไปเดอร์แมนของเราถูกดาเมจต่อครั้งที่หนักเอาเรื่อง เพื่อมาหักล้างความคล่องตัวที่เรามี เลยส่งผลให้การต่อสู้นั้นสนุก ท้าทายการตอบสนองและไหวพริบของเราพอสมควร (ที่ดูไปดูมามันก็เหมือนการที่เราได้สวมบทบาทเป็นสไปเดอร์แมนจริงๆ นั่นแหละ)
 

และในเมื่อสไปเดอร์แมนไม่ฆ่าผู้ร้าย ใยแมงมุมที่มาในรูปแบบของแก็ดเจ็ตทั้งหลาย จึงเข้ามามีบทบาทและดีไซน์ออกมาให้ใช้งานได้ทั้งในการต่อสู้แบบปกติและการเล่นแบบลอบเร้น (โดยในฉากที่สามารถทำได้ ตัวเกมส์ก็ถือว่าวางตำแหน่งศัตรูและการเดินลาดตระเวนของพวกมันออกมาได้ท้าทายดีทักษะการซุ่มเงียบของเราใช้ได้เหมือนกัน) โดยใยแมงมุมในฉากการต่อสู้จะใช้ในการขัดจังหวะและขึงศัตรูไม่ให้สามารถทำการโจมตีได้ชั่วขณะ และหากมันถูกยิงใยติดเข้ากับกำแพงหรือผนังที่ยึดได้ พวกมันก็หมดสภาพจากการต่อสู้ในทันที

Web Bomb แก็ดเจ็ตที่จะทำให้ศัตรูหมดสภาพจากการต่อสู้ได้จำนวนมาก

โดยบรรดาแก็ดเจ็ตที่เรามี ก็จะเหมาะสมกับสถานการณ์ที่แตกต่างกันออกไป เช่น หากศัตรูอยู่รวมตัวกันเป็นกระจุก Web Bomb หรือระเบิดใยแมงมุมก็จะเหมาะสมที่จะใช้ในการทำให้พวกมันถูกตึงและหมดสภาพจากการต่อสู้, หรือ Trip Mine กับดักใยแมงมุมที่จะยึดศัตรูเข้ากับผนังเมื่อเดินผ่าน ก็จะเหมาะสมกับช่วงเวลาที่เราต้องลอบเร้นและจดจำการเดินลาดตระเวนของศัตรูได้ ฯลฯ (แต่จากที่ผมเล่นมาตั้งแต่ต้นจนจบแก็ดเจ็ตที่ผมใช้บ่อยที่สุดมีแค่ Impact Web เครื่องยิงใยแรงดันสูงอันเดียวเองมั้ง) 

วิธีการชนะวิลสัน ฟิสก์ คือการยิงใยใส่มันให้ขยับตัวไม่ได้และพุ่งเข้าไปโจมตี (...)

เมื่อนำทักษะหลักๆ และบรรดาแก็ดเจ็ตที่มีมารวมเข้าไว้ดัวยกัน การต่อกรกับศัตรูที่มาพร้อมกันในจำนวนมากและหลากหลายรูปแบบการรับมือ จึงเป็นอะไรที่ทำให้การต่อสู้ในเกมส์สนุกและท้าทายในระดับหนึ่งเลยทีเดียวละ แต่... ในฉากการปะทะกับบอสนั้น ตัวเกมส์กลับออกแบบการต่อสู้ได้แบนราบและเรียบง่าย ไม่สมกับที่เนื้อเรื่องปูมาตลอดทาง แถมในกรณีที่ร้ายที่สุดคือบอสเกือบจะทุกตัว มีวิธีการปราบที่เหมือนกัน ซึ่งหากไม่มีคัทซีนที่กำกับออกมาได้อย่างเยี่ยมอุ้มชูไว้ มันก็แทบจะเป็นการต่อสู้กับบอสที่ไม่มีความน่าจดจำใดๆ ทั้งสิ้น

องค์ประกอบในเกมส์แนว RPG เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ปัจจุบันได้ถูกนำมาใช้ในผลงานเกมส์มากมาย ที่หากประยุกต์ออกมาได้ลงรอยกับแนวหลักๆ ที่เกมส์ประเภทนั้นเป็นแล้วละก็ มันก็จะกลายเป็นตัวกระตุ้นชั้นยอดที่จะทำให้ผู้บริโภคขลุกติดอยู่กับการเล่นด้วยความสนุก และใน Marvel's Spider-Man นี้เอง Insomniac Games ก็ได้ประสบความสำเร็จกับส่วนนี้ในระดับสูง 

"Payback" สกิลที่จะทำให้ท่าพุ่งเข้าหาศัตรู (ท่าปุ่มสามเหลี่ยม) การเป็นการน็อคมันในการโจมตีครั้งเดียว เมื่อเรากดหลบการโจมตีจากมันได้แบบสมบูรณ์แบบ

ไล่กันตั้งแต่ระบบเลเวลที่จะได้ค่าประสบการณ์จากการทำเควสเนื้อเรื่องมากที่สุด จากเควสเสริม หรือกิจกรรมเสริมต่างๆ ที่จะได้รับลองลงมา โดยเมื่อทุกครั้งที่เรามีระดับที่มากขึ้น ตัวละครของผู้เล่นก็จะได้รับค่าสเตตัสที่เพิ่มขึ้นแบบสุ่ม และได้รับแต้มสกิลที่นำไปเลือกหาทักษะใหม่ๆ มาใช้งาน ที่แม้จะไม่ได้มีจำนวนมากมายเท่ากับเกมส์อื่น แต่ทุกสกิลที่เลือก จะเห็นความเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน 

บรรดาฟีเจอร์และตัวช่วยในการเล่นต่างๆ ที่ยังคงต้องใช้เลเวลเป็นตัวปลดล็อก ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยให้ผู้เล่นเก่งขึ้นไปอีกขั้นได้เช่นเดียวกัน ไล่ตั้งแต่ บรรดาแก็ดเจ็ตทั้งหลายที่สามารถใช้เลเวลในการปลดล็อกการพัฒนาให้อุปกรณ์นั้นๆ มีความจุในการใช้งานที่เยอะขึ้น มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น ไปจนถึงลดคูลดาวน์ให้ใช้งานได้ถี่ขึ้น เป็นต้น

Iron Spider Suit ชุดที่ถูกดัดแปลงมาจากในฉบับภาพยนตร์ที่ความสามารถของชุดก็เหมือนกันเป๊ะๆ คือยึดขาเหล็กออกมาได้

และอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ดูจะไม่พูดถึงไม่ได้เลย คือชุดของสไปเดอร์แมน ที่จะถูกปลดล็อกมาให้คราฟท์และเลือกสวมใส่ได้ตามเลเวลที่มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเกือบทุกชุด จะไม่ได้มีดีแค่ความสวยความงาม ความเท่ หรือความพึงพอใจในการสวมใส่ตามแต่บุคคล แต่ยังมาพร้อมกับการปลดล็อกความสามารถพิเศษแบบกด (หรือจริงๆ เรียกว่าท่าไม้ตายเลยก็ได้ละมั้ง) ที่จะช่วยเหลือและส่งเสริมการต่อสู้ในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป บางชุดผู้เล่นจะมีเป็นการยิงใยรอบตัวเพื่อให้ศัตรูถูกขึงหรือหมดสภาพจากการต่อสู้ที่มากกว่าการใช้ Web Bomb, หรือบางชุดจะเติมค่า Focus ที่ใช้ในการเพิ่มเลือดและใช้ท่าน็อคศัตรูให้เต็มเร็วขึ้น เป็นต้น (โดยเฉพาะท่าของชุด Spider Punk นี่มันเท่จริงๆ! หรือจะขางอกออกมาได้แบบ Iron Spider ดี!) 

และมันเจ๋งตรงที่ท่าพิเศษเหล่านี้ไม่ได้ผูกติดไว้กับชุดใดชุดหนึ่ง แต่เราจะสามารถนำไปใช้กับชุดที่เราถูกจริตทางความเท่หรือสายตาได้ แถมเรายังปรับแต่งความสามารถเพิ่มเติมลงไปในชุดได้อีกขั้นที่ไม่หายไปเมื่อเปลี่ยนเป็นชุดอื่น เช่น ใช้แก็ดเจ็ตแล้วจะได้ค่า Focus เพิ่มมากขึ้นกว่าปกติ หรือลดความเสียหายจากการโจมตีประเภทกระสุน ฯลฯ เรียกได้ว่าเป็นระบบปรับแต่งเครื่องแต่งกายที่ยืดหยุ่นและเข้าใจเกมเมอร์สายรักความสวยความงามเป็นอย่างมาก พอกันทีกับการที่ต้องมาทนใส่ชุดตลกๆ แต่ดันเพิ่มค่าพลังเยอะ!

กู้ระเบิดแล้วเอา Tokens ไป!

แต่เลเวลไม่ใช่สิ่งเดียวที่ใช้ในการปลดล็อกสิ่งต่างๆ โดยเราจะต้องใช้ร่วมกับ Tokens หลายชนิดที่จะได้จากการทำภารกิจเสริมและกิจกรรมที่ต่างกันออกไป ที่จะเป็นเหมือนการให้เราเปลี่ยนอารมณ์หรือพักหายใจจากภารกิจเนื้อเรื่อง ซึ่งในหลายกิจกรรมก็ทำออกมาได้สร้างสรรค์ สนุก ชวนให้ทำด้วยตัวมันเองแต่ก็มีรางวัลตอบแทนที่สมน้ำสมเนื้อ เช่น การตามเก็บกระเป๋าสะพายที่เราจะได้รับรู้เรื่องราวเสริมเล็กๆ น้อยๆ ที่จะทำให้เรารู้จักและเอ็นดูปีเตอร์ ปาร์คเกอร์หรือสไปเดอร์แมนในฉบับเกมส์นี้มากยิ่งขึ้้น และมันก็ไม่ใช่การตามหาอะไรที่เหนื่อยยากมากจนเกินไป, เควสเสริมก็ถูกเขียนเรื่องราวมาได้น่าสนใจไม่ได้แบนราบ แถมหลายเควสยังเป็นการแอบแทรกอีสเตอร์เอ้กจากในฉบับคอมมิคมาอีกด้วย แต่ในขณะเดียวกันมันก็มีหลายกิจกรรมที่โคตรจะเหนื่อยแต่รางวัลตอบแทนกลับรู้สึกไม่ค่อยจะคุ้มสักเท่าไหร่ หรือบ้างมันก็เหมือนเรากำลังเอารัดเอาเปรียบเกมส์อยู่ (ถ่ายรูปเฉยๆ แล้วได้ Exp กับ Tokens... หรือผมคิดมากเกินไป?)

Graphics 

ขอสารภาพตามตรงว่ากราฟฟิกเป็นส่วนที่ผมไม่ได้ให้ความสำคัญหรือเพ่งเล็งเป็นพิเศษมากนัก เพราะในระหว่างการเล่นมันลื่นไหลไม่มีอะไรมาขัดหูขัดตาจนทนไม่ได้ แต่ถ้าจะให้พูดจริงๆ สิ่งที่ดูจะโดดเด่นและทำให้ผมหลุดโฟกัสจนโหนใยร่วงไปหลายครั้ง ก็ดูจะเป็นเรื่องของแสงเงาและการแรเงาที่สมจริงของอาคารและพื้นที่ภายนอกที่ทำได้ตามทฤษฎีของแสงในช่วงเวลากลางวันของเกมส์ แต่หากผู้เล่นเข้าใกล้อาคารหรือพื้นที่ที่ไม่ได้ทำออกมาให้แตกต่างหรือโดดเด่นกว่าตึกอื่น หากเราได้เพ่งพินิจไปที่ตัวอาคารต่างๆ ก็จะพบว่าตึกนั้นๆ ไม่ได้ลงรายละเอียดแสงเงาได้เทียบเท่ากับตึกหรือพื้นที่ตระหง่านตา แถมจะยิ่งเห็นมากขึ้นในช่วงเวลากลางคืน  

แต่ในด้านของคัทซีน โมชั่นการเคลื่อนไหวจากโมเดลของตัวละคร พวกเขาก็ทำออกมาได้มีการเคลื่อนไหวทั้งจากทางสีหน้า ร่างกาย และส่วนต่างๆ ที่ลื่นไหลดี และในส่วนที่เกมเมอร์หลายคนเป็นกังวลอยาก Framerate ตัวเกมส์ก็ไม่ได้มีปัญหาในส่วนนี้สักเท่าไหร่ จะเจอก็แต่ในจังหวะที่ใช้ท่าพิเศษในจังหวะมีศัตรูปรากฎที่หน้าจอเยอะๆ เฟรมถึงจะร่วง 1 - 2 เฟรมซึ่งมันก็ไม่ได้ส่งผลอะไรให้กับการเล่น 

Misc Thing

โหมดถ่ายรูป! ที่จะทำให้คุณเพลิดเพลินกับการถ่ายภาพสไปดี้หรือภาพต่างๆ จนอาจลืมเล่นเนื้อเรื่องไปเลยทีเดียว

รายละเอียดปลีกย่อยทั้งหลายก็เป็นอีกจุดขายของ Marvel's Spider-Man ไม่สิ... ต้องบอกว่ามัน "คือรายละเอียดของความเป็นสไปเดอร์แมนถึงจะถูก" โดยผู้เล่นจะรู้สึกได้ถึงความใส่ใจที่ค่ายพัฒนาอย่าง Insomniac Games นำเสนอ ไล่ตั้งแต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเล่นอย่างหน้าจอตอนโหลด ที่เราจะได้เห็นชุดที่อยู่ในฉากโหลดเป็นชุดเดียวกันกับที่เราเลือกใส่, ในระหว่างที่เล่นอยู่ เราจะได้ฟังรายการวิทยุที่เจ โจนาห์ เจมสัน (J. Jonah Jameson) บ.ก. หนังสือพิมพ์ Daily Bugle ผู้เกลียดชังสไปเดอร์แมนอย่างไม่มีสาเหตุ กร่นด่าเราผ่านรายการตลอดการเล่น

ชุดของสไปเดอร์แมนที่ยกมาจากคอมมิคหัวแนวๆ แปลกๆ และจากฉบับภาพยนตร์, เนื้อเรื่องหรือแม้แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเนื้อเรื่อง หลายฉากก็เป็นการเคารพสไปเดอร์แมนเวอร์ชันโทบี้ แม็คไกวร์ในภาคที่ 2 ภาคที่ติดทำเนียบสไปเดอร์แมนที่ดีอันดับต้นๆ, อีสเตอร์เอ้กจากกิจกรรมและเควสเสริมทั้งหลาย ไปจนถึงดนตรีประกอบการเล่นที่ส่งเสริมให้รู้สึกยิ่งใหญ่ถึงความยิ่งใหญ่ของการได้สวมบทบาทเป็นสไปเดอร์แมน และอีกหลากหลายรายละเอียดที่ผมต้องขอใช้คำที่มันดูรวบรัดตัดตอนแต่อยากให้พวกคุณทำเช่นนั้นจริงๆ คือ "พิสูจน์ด้วยตัวคุณเองเถอะครับ"

Final Verdict

Marvel's Spider-Man คือเกมส์ซุปเปอร์ฮีโร่ที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่ในปัจจุบันเคยมีมา ด้วยการนำเสนอเนื้อเรื่องที่ยอดเยี่ยม ระบบการเล่นที่บ่งบอกตัวตนความเป็นสไปเดอร์แมนได้อย่างสมบูรณ์ และกราฟฟิกที่ส่งเสริมให้เราได้ดื่มด่ำไปกับการเล่นได้อย่างไม่รู้เบื่อ และแม้จะมีข้อบกพร่องในหลายๆ ส่วน แต่ความเป็นสไปเดอร์แมนที่ตัวเกมส์ถ่ายทอดออกมาจะกลบข้อด้อยเหล่านี้ได้อย่างแนบสนิท