พรีวิวมัดรวม! a7R IV ฟูลเฟรมเซ็นเซอร์เทพ และ RX-100 VII คอมแพคระดับปีศาจ

เป็นที่รู้กันว่าค่าย Sony หรือเหล่าคนเล่นกล้องหลายคนเรียกว่า "หมี" (มีประวัติอ่านด้านล่างเลย) ซึ่งซีรีส์ a7R ค่ายหมีก็วางตำแหน่งไว้เป็นกล้องระดับโปร เด่นเรื่องเซ็นเซอร์ความละเอียดสูง พร้อมกับประสิทธิภาพการถ่ายที่รอบด้าน ทั้งถ่ายรูปนิ่งและวิดีโอ ( แต่จะเป็นรองก็เพียงแค่รุ่นท๊อปอย่าง A9 เท่านั้น ส่วนซีรีส์ RX100 วางให้เป็นกล้องคอมแพคระดับโปร ที่จัดเต็มเรื่องสเปค ไม่แพ้ DSLR และล่าสุดทั้งสองซีรีส์มีการเปิดตัวใหม่แล้วในไทยคือรุ่น a7R IV และ RX100 IV ซึ่งทีมงานก็ไปซุ่มรอเก็บข้อมูลในงานเปิดตัวมาด้วย จะมีอะไรบ้าง เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง 

ฉายา "หมี" ของ Sonyที่คนในวงการกล้องไทยเรียกกันติดปาก มาจากสมัยก่อนที่   Minolta มีฉายาว่า "หมี" แต่พอ Sony เข้าซื้อกิจการ หลายคนจึงเปลี่ยนไปเรียกว่า "หมีโซ" (ย่อจาก หมี +โซนี่) ภายหลังหลายคนตัดคำว่า โซ ออกไปเหลือคำว่าหมีเพียงอย่างเดียวก็เป็นอันเข้าใจว่าเป็นกล้องของ Sony

"Sony a7R  IV: เซ็นเซอร์ใหม่ละเอียดกว่าเดิม"

เป็นที่รู้กันแล้วว่ากล้องฟูลเฟรม a7R เปิดตัวมาแล้ว 3 รุ่นคือ mark I / II / III ซึ่งก็มีการอัปเกรดสเปคให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ตามยุคตามสมัย ตั้งแต่การเพิ่มจุด AF และการใส่กันสั่น 5 แกนเข้าไป รวมถึงการนำ Eye AF เข้ามาใช้ด้วย ฯลฯ 

ทั้งหมดก็เพื่อเสริมให้ใช้งานสะดวกและถ่ายมีคุณภาพมากขึ้น และล่าสุดซีรีส์ a7R ก็เดินมาทางถึง Mark VI (มาร์คโฟร์) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในรุ่นนี้มาก็มีการอัปเกรดสเปคหลายส่วนเลย ทั้งเซ็นเซอร์ รูปร่างบอดี้ ระบบโฟกัส ช่องมองภาพ และอีกหลายอย่าง โดยมีจุดเด่นดังนี้

• ราคาเปิดตัว 114,990 บาท (เฉพาะบอดี้อย่างเดียวไม่รวมเลนส์)
• เซ็นเซอร์ Exmor R ความละเอียด 61 ล้านพิกเซล / ถ่ายโหมด APS-C ได้ 26.2 ล้านพิกเซล
• ชิป BIONIC X ปรับภาพให้คมขึ้น เพิ่ม Buffer ถ่ายต่อเนื่องได้มากขึ้น รองรับ Dynamic Range ถึง 15 สตอบ
• เพิ่มจุด Auto-Focus เป็น 567 จุด และ Contrast Detection 425 จุด
• ระบบ Real-time Tracking และ Eye AF รองรับในโหมดถ่ายวิดีโอ และเลือกตาซ้าย-ขวาได้ 
• ถ่ายรูป Pixel Shift Shooting 240 ล้านพิกเซล ด้วยการซ้อน 16 ภาพ 
• ช่องมองภาพ UXFA OLED 5.76 ล้านพิกเซล มองภาพชัดและลื่นขึ้นเป็น 120fps
• บอดี้มีขนาดใหญ่ขึ้นเล็กน้อย และขนาด Grip ใหญ่ขึ้นจับถือถนัดมือ
• ช่องใส่การ์ดคู่ รองรับ UHS-II
• แบตอึดขึ้น ถ่ายได้ 710 ภาพ / ก้อน
• เปลี่ยนเป็นพอร์ต USB-C 3.2
• เพิ่มตัวล็อกวงแหวนชดเชยแสง ป้องกันการเลื่อนมือไปโดน

พูดถึงจุดเด่นกันไปแล้ว จากนี้จะเป็นการเล่าประสบการณ์จากการใช้งานจริงกันเลย โดยจะแยกจุดเด่นเป็นข้อๆ เพื่อให้อ่านง่ายขึ้น

คมจัดบาดตา กับเซ็นเซอร์ 61 ล้านพิกเซล

จุดเด่นของ Sony a7R IV ที่เปิดตัวมาใหม่แล้วมีคนพูดถึงเยอะก็คือ เซ็นเซอร์ความละเอียด 61 ล้านพิกเซล ที่เรียกได้ว่าเป็นเซ็นเซอร์ที่มีความละเอียดสูงสุดในค่ายหมี ณ ขณะนี้ก็ว่าได้ โดยทางผู้บริหารของ Sony บอกว่า "61 ล้านพิกเซลบนเซ็นเซอร์ CMOS 35 มม. เทียบได้เท่ากับเซ็นเซอร์ขนาด Medium Format (120 มม.)" ซึ่งการที่เพิ่มความละเอียดมาเป็น 61 ล้านพิกเซล จะทำให้เก็บรายละเอียดได้มากขึ้น และไฟล์ที่ได้มาก็สามารถนำมาปรับแต่งได้ดีกว่า มันเหมาะกับตากล้องสายขุดไฟล์ อย่าง ตากล้องสายกลางคืนที่ชอบการล่าช้างเผือก (ถ่ายรูปทางช้างเผือก), ตากล้องสายแลนด์ (landscape) และสายพอร์ตเทรต (portrait)

และจากที่ลองใช้ Sony a7R IV คู่กับเลนส์ Tele เก็บภาพในงานมาแต่งดูถึงกับต้องร้องว่า "โอ้โห้ 61 ล้านฯ คมจริงอะไรจริง" ถ่ายไฟล์ RAW ดัน ISO เกินครึ่งหมื่นแล้ว แล้วเอามาดึงแสงเพิ่มรูปยังไม่ช้ำเท่าไร แถมเก็บรายละเอียดได้ดีมากๆ อีกด้วย เป็นยังไงลองดูในรูปเปรียบเทียบด้านล่างได้เลย 

^{การตั้งค่ากล้อง : 1/1600, f/5.6, iso 12,800}

คมยิ่งกว่ากับ 240 ล้านพิกเซล ในโหมด Pixel Shift Shooting

ปกติแล้วโหมดการถ่ายภาพความละเอียดสูง หรือ Pixel Shift Shooting มีอยู่ใน Sony a7R III รุ่นก่อนหน้าอยู่แล้ว แต่พอมันมาคู่กับ Sony a7R IV แล้วถือว่าเด็ดเกินความคาดหมาย เพราะว่ามันสามารถรวมรูปภาพ 16 รูปเข้าด้วยกันจนมีความละเอียดรวม 976 ล้านพิกเซล (61*16 ภาพ) และบีบให้มีความคมชัดจนเหลือ 240 ล้านพิกเซลทีเดียว มันจะละเอียดแค่ไหนมาดูกัน

^{หมายเหตุ : ซูมที่ 5%, 10%, 50%, 100%, 200%}

Real-time Tracking และ Eye AF เกาะติดหนึบทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ

ปกติแล้ว Real-time Tracking และ Eye AF ของตระกูล a7R ทำงานได้ดีอยู่แล้ว แต่ในรุ่น Sony a7R IV นั้นถือว่าดีกว่าอีกขั้นหนึ่งเลยทีเดียวเพราะว่ามีจุด Auto Focus ที่เป็น Phase Detection 567 จุด ที่ทำงานร่วมกับ Contrast Detection 425 จุด พร้อมกับระบบ AI ที่ช่วยจับโฟกัสอีกแรง ทำให้การทำงานของ Real-time Tracking และ Eye AF ทำงานได้ดียิ่งขึ้น 

^{ระบบ Real-time Tracking และ Eye AF ในโหมดวิดีโอ}

จากที่ได้ทดลองในงานมาก็รู้สึกว่า เจ้า Real-time Tracking มันตามติดจิกเก่งยิ่งกว่าไก่ ไม่ว่าตัวแบบจะขยับไปทางไหนก็โฟกัสเข้าได้แน่นเหนียวหนึบหนับ และ Eye AF ก็ยังทำงานได้รวดเร็วอีกด้วย

การทำงานของ Real-time Tracking ในส่วนของการเล่นกีฬา

ซึ่งมันรวมไปถึงการเคลื่อนไหวร่างกายเร็วๆ อย่างการเล่นบาสเกตบอลด้วยนะ Real-time Tracking สามารถโฟกัสออกมาได้อย่างดี แม้ว่าจะมีคนเดินตัดหน้าแต่ AF ก็ยังเกาะติดอยู่ที่ตัวแบบ และความพิเศษของมันอีกอย่างก็คือ Real-time Tracking และ Eye AF รองรับการใช้ถ่ายวิดีโอแล้ว เป็นยังไงดูจากด้านบนได้เลย การที่ใช้ในโหมดวิดีโอได้นั้นทำให้การถ่ายงานวิดีโอง่ายขึ้น ไม่ต้องกังวลมากในเรื่องการหลุดโฟกัสอีกด้วย

ช่องมองภาพสีสดคมชัด OLED 5.76 ล้านฯ แถมลื่น 120fps

ปกติแล้วความแตกต่างระหว่างช่องมองภาพ (VF) ของกล้อง DLSR กับช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ (EVF) กล้อง Mirrorless ก็คือความคมชัดและความคลื่นไหล จุดนี้กล้อง Mirrorless มันจะถูกหยิบยกมาเปรียบเทียบเสมอๆ ว่าคมชัดสู้ VF ของกล้อง DLSR ไม่ได้ แต่ไม่ใช่กับ Sony a7R IV เพราะว่ามันมีช่องมองภาพที่เรียกได้ว่าละเอียดมาก และใช้เทคโนโลยีจอขั้นสูง อย่าง OLED ของ LG มาใช้ในตัวกล้อง 

จากสเปคเป็นจอแบบ UXFA OLED 5.76 ล้านพิกเซล ที่มีความลื่นไหล 120fps (เท่าๆ กับจอ iPad Pro) ถือว่าดีทั้งสีและความลื่น มองเห็นภาพ ณ เวลานั้นจริงๆ เรียกได้ว่าดีงามเลยทีเดียว อาจจะบอกได้ว่า EVF (Electronic Viewfinder) ได้ก้าวข้าม VF (Viewfinder) ที่เป็นกระจกอย่างเดียวของกล้อง DSLR แล้วก็ว่าได้ 

ครั้งแรกกับระบบรับสัญญาณเสียงแบบ Digital

ไมโครโฟน Shotgun รุ่นล่าสุด ที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่ไมค์ทั่วไปๆ แต่มันเป็นไมโครโฟนที่มีคุณภาพสูงที่มีขนาดเล็กเพียงแค่ 99.3 มม. (ราวๆ 4 นิ้ว) ติดบนหัวกล้องได้สบายๆ พร้อมกับการเชื่อมต่อ Multi Interface Shoe เสียบใช้ได้เลยโดยไม่ต้องต่อสายเพิ่ม โดยรับเสียงผ่านไมค์จำนวน 8 ตัวประมวลผลโดยตรงสู่กล้องในรูปแบบดิจิตอล ไม่สูญเสียคุณภาพเหมือนไมค์แอนะล็อก ตัวไมค์มีทิศทางการรับเสียง Super-Directional ที่ปรับทิศทางได้ 3 แบบ ด้านหน้า, หน้า-ข้าง, และรอบทิศทาง เสริมด้วยฟังก์ชั่น Noise-Cancelling ตัดเสียงรบกวนได้ อัดเสียงได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

"RX100 mark VII: กล้องคอมแพคสเปคระดับปีศาจ"

แม้ว่ากล้อง RX100 mark VII (มาร์คเซเว่น) จะเป็นกล้องคอมแพครูปร่างเล็กกะทัดรัด เน้นการพกพาที่สะดวก และพร้อมหยิบขึ้นมาถ่ายทุกสถานการณ์ แต่ด้านประสิทธิภาพการใช้งานและฟีเจอร์ของมันถือว่าอยู่ในระดับปีศาจ (Monster) เลยทีเดียว

ซึ่งในต่างประเทศให้ฉายา RX100 VII ว่า "Mini a9" หรือทางค่ายเองก็เรียกว่า "Compactable a9" เพราะสเปคและฟีเจอร์ใช้งานแทบจะถอดแบบกันออกมาเป๊ะๆ ทั้ง ระบบ AF / Eye AF ที่แม่นยำ และระบบถ่ายภาพต่อเนื่อง 20fps นอกจากนี้ยังมีช่วงเลนส์ครบช่วงตั้งแต่ 24-200 มม. และยังถ่ายวิดีโอ 4K ได้สบายๆ เลย  โดยจุดเด่นที่น่าสนใจมีดังนี้ 

• ราคาเปิดตัว 38,990 บาท
• เซ็นเซอร์ CMOS ขนาด 1 นิ้ว ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล
• เลนส์ซูม 24-200mm F2.8-4.5 มีกันสั่นในตัว 
• ถ่ายต่อเนื่อง 20 fps แบบไม่มี Blackout (การคั่นจอดำ)
• Auto-Focus แบบ Phase Detection 357 จุด และ Contrast Detection 425 จุด
• เปิด Eye AF ในโหมดวิดีโอได้
• มีโหมดถ่ายภาพต่อเนื่อง Single Burst ถ่าย 90 fps ใน 1 วินาทีแล้วเลือกออกมา 7 ภาพ 
• ช่องมองภาพ 2.36 ล้านพิกเซล 
• ถ่ายวิดีโอ 4K สูงสุด 5 นาทีต่อคลิปในโหมดปกติ
• ถ่ายวิดีโอ High speed ได้สูงสุด 1000 fps
• ถ่ายวิดีโอ 4K HDR Hyubrid Log Gramma (HLG) และรองรับ S-Log 3

สารภาพตามตรงว่าในงานเปิดตัว Sony มีบูธให้ลองกล้อง RX100 VII เพียงแค่บูทเดียว ที่เหลือเป็นการทดสอบความสามารถของกล้อง a7R IV เกือบทั้งหมด ทำให้ได้จับกล้องกล้อง RX100 VII น้อยมากๆ อาจจะไม่ค่อยมีรูปในโหมดอื่นๆ มาฝาก แต่ยังไงจะขึ้นเป็นรูปสไลด์ให้แทนนะ

ถ่ายรัวๆ 20 fps และโหมด Single Burst 

เห็นตัวเล็กแบบนี้ แต่สเปคของ RX100 VII บอกได้เลยว่าจัดเต็มมากๆ และจุดที่ไม่พูดถึงไม่ได้คงหนีไม่พ้นระบบถ่ายภาพต่อเนื่องแบบ 20fps ที่เทียบเท่ากับกล้องตัวท๊อป a9 และยังมีโหมด Single Burst ที่ถ่ายได้ 90 fps แล้วเลือกช็อตที่ดีที่สุด 7 ภาพมาให้ เป็นยังไงดูจากรูปภาพด้านบนได้เลย

เลนส์ซูมครบช่วง 24-200 มม. 

ประโยชน์ของเลนส์ซูมครบช่วง 24-200 มม. ในกล้อง RX100 VII ก็คือสามารถถ่ายภาพไดัทุกระยะ จะถ่ายใกล้ๆ 24-40 อย่าง Vlog ก็ได้ หรือถ่ายระยะกลางๆ อย่างภาพ Portrait บุคคลก็ซูมช่วง 50-70 ได้เลย แต่ถ้าต้องการถ่ายภาพระยะไกลก็ซูมเป็นช่วง 70-200 ได้เลย เรียกได้ว่ามีเลนส์ตัวเดียวเทียบเท่ากับเลนส์ Normal - Telephoto ของกล้องตัวใหญ่อย่าง APS-C หรือ Full-Frame เลยทีเดียว นอกจากนี้แล้วเลนส์ยังเป็น ZEISS Vario-Sonnar T* อีกด้วยจากที่ทดลองถ่ายดูก็เห็นว่าเก็บสีได้อยู่ในระดับโอเคเลยทีเดียว 

Focus แม่นขึ้นรองรับ Real-time Tracking / Eye AF ในโหมดวิดีโอ

ในรุ่นก่อนหน้าอย่าง RX100 VI มีการใส่ Eye AF เข้ามาอยู่แล้วแต่ทำได้แค่เพียงโหมดถ่ายรูปนิ่งเท่านั้นส่วนวิดีโอจะเป็นโหมดจับใบหน้า (Face detect) แต่สำหรับ RX100 VII มีการอัปเกรดระบบ Real-time Tracking และ Eye AF ให้ใช้งานได้ในโหมดวิดีโอได้ จุดนี้ถือว่าดีสำหรับนักถ่าย Vlog เพราะว่าจะได้มั่นใจว่าโฟกัสเข้าตาแน่นอน ไม่หลุดไปโฟกัสที่ฉากหลัง หรือโฟกัสผิดที่

นอกจากนี้แล้วจำนวนจุดโฟกัส AF ยังมากขึ้นอีกด้วย โดยกล้อง RX100 VII มาพร้อมกับจุดโฟกัสแบบ Phase Detection 357 จุด และ Contrast Detection 425 จุด ที่สามารถทำงานได้พร้อมกัน ช่วยให้การโฟกัสแม่นยำขึ้น 

เหมาะกับสาย Vlog และตากล้องระดับโปร 

ความสามารถที่เรียกได้ว่าเป็น Mini a9 ทาง Sony เลยตั้งกลุ่มเป้าหมายไว้เป็นคนที่ทำคอนเทนต์วิดีโอ Vlog หรือ นักถ่ายภาพระดับมืออาชีพ ส่วนผู้ใช้งานกลุ่มอื่นก็สามารถใช้ได้เช่นกัน

เป็นอย่างไรบ้างสำหรับกล้องถ่ายรูปจากค่ายหมี อย่างฟูลเฟรมเซ็นเซอร์เทพ a7R IV และ RX100 VII นี่เป็นข้อมูลทั้งหมดที่เรานำมาฝากจากงานเปิดตัว หวังว่าคงมีประโยชน์กับทุกคนนะครับ