หลายคนคงจะได้เห็นแล้วว่าทาง Sony ได้หยิบเอาตัวละคร Marvel อีกหนึ่งตัวละครมาทำเป็นหนัง กับเรื่องราวของ Morbius the Living Vampire ในหนัง ภาพยนตร์ Morbius ที่เป็นเรื่องที่สามต่อจาก หนัง ภาพยนตร์ Venom: Let there be Carnage (2021) ที่อยู่ในจักรวาล SSMU (Sony' Spider-Man Universe)
ผลงานการกำกับของ Daniel Espinosa ที่เคยฝากผลงานไว้ใน Life ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560) หนังเอเลี่ยนระทึกขวัญ ในครั้งนี้เขาจะมาถ่ายทอดหนัง Anti-Hero ที่นำแสดงโดย Frontman แห่ง 30 Second to Mars อย่าง จาเรด เลโท (Jared Leto) ในบท Dr. Michael Morbius
Daniel Espinosa
ที่มาภาพ: imdb.com
Jared Leto ในบท Dr. Michael Morbius จากหนัง Morbius
ที่มาภาพ: imdb.com
รู้หรือไม่ว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกกับการปรากฏตัวในหนังของตัวละคร Morbius เพราะก่อนหน้านี้เขาเคยปรากฏตัวมาแล้วในหนังเรื่อง Blade ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541) ซึ่งตัวละคร Morbius โผล่มาในตอนจบฉาก Delete Scene แต่เราจะได้เห็นฉากนี้กันในฉบับ DVD
คงต้องรอดูกันว่าในเรื่องนี้จะมีการกล่าวถึง Blade หรือในอนาคตเราจะได้เห็น Morbius เวอร์ชัน Jared Leto ปะทะกับ Blade เวอร์ชัน มาเฮอร์ชาลา อาลี (Mahershala Ali) หรือไม่ ?
Morbius ฉาก Delete Scene ในหนัง Blade
และในบทความนี้เราจะพาทุกคนมาพบกับประวัติ เรื่องราวต้นกำเนิดของ Morbius the Living Vampire ในฉบับคอมิกส์กัน
ที่มาภาพ: https://spider-man.fandom.com/es/wiki/Michael_Morbius_(Tierra-616)
Morbius ปรากฏตัวครั้งแรกในคอมิกส์ Amazing Spider-Man #101 โดยต้นกำเนิดของตัวละครนี้เขามีชื่อจริงว่า Michael Morbius เขาเกิดและโตที่ Nafplio ประเทศกรีซ เป็นลูกของ Makarioa Morbius เขาถูกเลี้ยงดูโดยแม่เพียงลำพังหลังจากที่พ่อทิ้งเขาไปตั้งแต่ยังเด็ก เขามีวัยเด็กที่น่าสงสารเพราะเขาเป็นโรคเลือดหายาก ร่างกายอ่อนแอ แต่ถึงแม้เขาจะเป็นโรคร้าย เขาก็มีสติปัญญาดีและใช้เวลาส่วนมากไปกับการอ่านหนังสือ
ด้วยโรคเลือดนั้นทำให้เขาเป็นเด็กที่แปลกแยกไม่มีใครอยากยุ่ง เขามีเพื่อนสนิทเพียง 2 คนเท่านั้น หนึ่งก็คือ Emil Nikos และน้องสาวของเขา Liza Nikos ทั้งสามสนิทกันราวกับครอบครัว และ Liza ก็ชอบ Morbius มาโดยตลอดด้วย
เมื่อโตขึ้น ทั้ง Morbius และ Emil ได้เรียนมหาวิทยาลัยด้านชีวเคมี และความฉลาดทางด้านวิทยาศาสตร์ของทั้งคู่ก็ส่งให้พวกเขาคว้ารางวัล Nobel Prize เลยทีเดียว
ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่โรคเลือดของ Morbius เริ่มร้ายแรงมากขึ้นทำให้เขาและ Emil พยายามหาทางที่จะรักษาโรคเลือดนี้ด้วยการใช้ของเหลวจากค้างคาวแวมไพร์และกระตุ้นด้วยไฟฟ้า ทั้งคู่จึงตัดสินใจไปหาทางรักษาบนเรือที่ห่างไกล แต่ Martine Bancroft คู่หมั้นของ Morbius อยากไปด้วยโดยไม่ได้รับรู้ถึงการรักษาอันตรายนี้
เมื่อออกสู่ทะเลทั้งคู่ก็เริ่มทำการทดลอง โดย Emil เตือนว่าการทดลองมันอันตราย แต่ Morbius บอกว่าถ้าการรักษาครั้งนี้มันล้มเหลวฉันก็จะไม่ได้มีชีวิตอยู่เห็นแผ่นดินอีก
คืนนั้นทั้งคู่ก็ได้ทำการทดลองจนสำเร็จ Emil ก็รีบปรี่เข้าไปดูอาการของ Morbius ซึ่งตัวของ Morbius รู้สึกหนาวและบอกว่าแสงในห้องนี้มันสว่างเกินไป Emil จึงพา Mobrbius ไปพักฟื้นในห้องหนึ่ง แต่เมื่อ Emil เห็นว่า Morbius ปกติดีแล้วเขาจึงเปิดประตูออกและสังเกตว่าเพื่อนรักของเขาหน้าตาเปลี่ยนไป ผิวขาวซีดและหูแหลม จมูกแบน หน้าตาคล้ายค้างคาวยังไงยังงั้น
หลังพินิจพิเคราะห์ได้ไม่นาน Mobrius ก็ควบคุมตัวเองไม่ได้พุ่งจู่โจม Emil และคร่าชีวิตเขาในทันที ใช่แล้ว…ผลการทดลองมันได้เปลี่ยนให้เขากลายเป็นแวมไพร์ ต้องกินเลือดเพื่อประทังชีวิต และเพื่อความปลอดภัยของ Martine คู่หมั้นเขา เขาจึงตัดสินใจโดดน้ำเพื่อฆ่าตัวตาย แต่สัญชาตญาณการเอาชีวิตรอดก็ทำให้เขาต่อสู้ดิ้นรนโผล่ขึ้นมาเหนือผิวน้ำ
และความหิวกระหายก็นำพาเขาไปเจอกับเรืออีกลำหนึ่ง และลูกเรือบนเรือลำนั้นก็กลายเป็นอาหารอันโอชะของ Morbius อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
หลังจากอิ่มเอมแล้วเขาจึงว่ายน้ำมายังดินแดนแห่งเสรีภาพอย่าง อเมริกา และได้กบดานอยู่ในคฤหาสถ์ของ Dr. Connors
หากใครได้เห็นตัวอย่างแรก ๆ ของหนัง ภาพยนตร์ Morbius จะสังเกตได้ว่ามีฉากนึงในตัวอย่าง มีภาพ Spider-Man อยู่บนกำแพง พร้อมด้วยข้อความว่า "Murderer" หลายคนอาจจะสงสัยว่าเกี่ยวข้องกันยังไง ซึ่งทั้งคู่ตามคอมิกส์อยู่ในจักรวาลเดียวกันครับ
ภาพจากตัวอย่าง Morbius
เพราะหลังจากเหตุการณ์ที่ Morbius มากบดานอยู่ในคฤหาสถ์ Dr. Connors ด้าน Spider-Man ก็มาที่คฤหาสถ์นี้พอดี เพราะตอนนั้น Peter Parker เริ่มเบื่อหน่ายและอยากเลิกเป็น Spider-Man เพื่อตัวเขาเองและเพื่อ Gwen Stacey เขาจึงได้คิดค้นยาขึ้นมาเพื่อทำให้เขากลับกลายเป็นคนปกติ เขาได้ดื่มมันโดยไม่ได้ทดสอบใด ๆ ทั้งสิ้น ผลปรากฏว่าแทนที่พลังทั้งหมดจะหายไป มันกลับแย่กว่าเดิม เพราะมีแขน 4 แขนงอกออกมาจากลำตัวเขา
ด้วยเหตุนั้น Spider-Man จึงได้เดินทางมายังคฤหาสถ์ของ Dr. Connors เขาก็ได้ใช้เวลาในการหาทางรักษาแขนที่งอกมาของเขา แต่ในขณะเดียวกันนั้นเอง Morbius ก็ตื่นขึ้นและได้เห็น Spider-Man นั่นคือการเจอกันครั้งแรกและได้เกิดการปะทะกันของทั้งคู่ขึ้น ฝีไม้ลายมือ พละกำลังของ Morbius นั้นไม่ธรรมดา ทำให้ Spider-Man พ่ายแพ้สลบไป
ก่อนที่ Morbius จะดูดเลือดของ Spider-Man ทางด้าน Dr. Connors ก็ปรากฏตัวขึ้น และได้แปลงร่างเป็น The Lizard และก็แพ้ไปอีกราย แต่ก่อนที่ Morbius จะกินเลือด Lizard เขาก็ตัดสินใจหนีไปเสียก่อน
และหลังจากนั้น Lizard ก็กลายร่างกลับเป็น Dr. Connors แต่กลับมาแบบครึ่ง ๆ เท่านั้น ทั้ง Dr. Connors และ Spider-Man จึงได้วิเคราะห์กันว่าในตัวของ Morbius น่าจะมี Enzyme บางอย่างที่อาจช่วยให้พวกเขาคืนสภาพเดิมได้ และ Dr. Connors ก็ได้กลับร่างเป็น Lizard เต็มตัวอีกครั้ง
ด้วยความร่วมมือของทั้งคู่ พวกเขาก็ได้เจอตัว Dr. Morbius และได้ปะทะกันอีกครั้ง คราวนี้ Morbius พลาดท่า ทำให้ Dr. Connors ได้เลือดเขามาผสมเป็น Serum รักษาและมันก็ส่งผลให้เขากลับเป็นมนุษย์อย่างรวดเร็ว แต่ก่อนที่ Spider-Man จะใช้บ้าง Morbius ก็ฟื้นขึ้นและหนีไป
แต่แล้ว Spider-Man ก็ไล่ตามทันและสอย Morbius ตกน้ำ เขาได้คว้า Serum มาได้ แต่ร่างของ Morbius ก็หายไปในแม่น้ำ และ Spider-Man ก็รักษาตัวเองจนกลับไปเหลือสองแขนเช่นเดิม
แน่นอนว่า Morbius ไม่ได้เสียชีวิตไปแต่อย่างใด เขายังคงมีชีวิต และสร้างวีรกรรมไว้อีกมากมาย ทั้งการเผชิญหน้ากับ Human Torch, เผชิญหน้ากับ X-Men, ปะทะกับ Blade นักล่าแวมไพร์ ที่เดี๋ยวญาติดีเดี๋ยวตีกัน, เจอ Doctor Strange และปะทะกับ Spider-Man อีกหลายครั้งเพราะ Morbius ค้นพบว่าเลือดของ Spider-Man สามารถรักษาเขาได้ และก็ร่วมงานกันก็มีเช่นกัน
มันก็เดินทางมาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญจุดนึง นั่นก็คือ Martine Bancroft คู่หมั้นของ Morbius หลังจากไปขอความช่วยเหลือ Fantastic Four ที่ Human Torch มาช่วยแต่ก็ไม่สำเร็จ ภายหลังสองพี่น้อง Ghost Rider อย่าง Johnny Blaze และ Danny Ketch ก็ได้ออกตามหา Morbius โดยมาหา Martine เพื่อสืบเรื่องราว เนื่องจากพวกเขาต้องการรวมทีม Midnight Sons เพื่อต่อกรกับ มารดาของเหล่าปีศาจ Lilith
สองพี่น้อง Ghost Rider สามารถจับตัว Morbius ได้ และให้ Dr. Langford ทำยารักษามาให้ แต่แทนที่จะหายมันกลับกลายทำให้ Morbius กลายร่างหนักกว่าเดิม เพราะมันโดนผสมเลือดของปีศาจเข้าไป เขาจึงรีบหนีไปหาเพื่อนนักวิทยาศาสตร์ของเขาที่ช่วยฉีดยารักษาให้ แต่ผลของยาอยู่ได้ไม่นานเขาก็คืนร่าง
Martine สงสัยในตัว Dr. Langford จึงตามสืบและรู้ความจริงว่าเขาโดนจ้างมาให้ฆ่า Morbius อีกที จึงทำให้ Martine พลาดท่าโดน Dr. Langford ยิงทิ้ง
Morbius มาถึงที่เกิดเหตุทันที เขาเข้าโอบกอดคู่หมั้นสุดรักเป็นครั้งสุดท้าย และเลือดที่ท่วมตัวเธอมันได้ปลุกสัญชาติญาณ Morbius อีกครั้งและเขาก็ดื่มเลือดเธอไปอย่างเต็มที่
Morbius เต็มไปด้วยไฟแค้น และบอกว่าเรื่องนี้ต้องจบสักทีก่อนจะมีใครตายไปมากกว่านี้ เขาจึงจัดการเล่นงานทุกคนที่นั่นอย่างเลือดเย็น และได้เจอกับเซรุ่มที่อาจรักษาเค้าได้ แต่ที่นั่นก็ระเบิดขึ้นจนทำให้เซรุ่มกระเด็นออกไป
สองพี่น้อง Ghost Rider อยู่ข้างล่างที่เกิดเหตุ และถือเซรุ่มนั้นไว้ พร้อมได้เผชิญกับ Morbius และใช้ The Penance Stare ให้ Morbius เห็นถึงสิ่งที่เขาเคยทำ จนทำให้ Morbius ตระหนักได้และได้ให้สาบานไว้ว่า
ฉันจะไม่ดื่มเลือดผู้บริสุทธิ์อีก ถ้าฉันต้องดื่มเลือด ขอให้เป็นเลือดของพวกคนที่สมควรตาย เลือดของผู้มีมลทิน
เขาเสียคนรัก เขามีเป้าหมายใหม่ในการใช้ชีวิต และเขายังมีความหวังกับการหาทางรักษาตัวเอง จากวายร้ายเขาได้ทำตามคำสาบานและดื่มเลือดแต่พวกชั่วเท่านั้น จนภายหลังเขาก็ได้มารวมทีม MIdnight Sons ต่อกรกับ Lilith และกองทัพปีศาจ
ตัวละผู้หญิงอีกคนที่มีส่วนในชีวิตของ Morbius นั่นก็คือ Liza Nikos หรือ Elizabeth น้องสาวของ Emil Nikos พี่ชายผู้โดน Morbius ฆ่าตายด้วยความไม่ตั้งใจ
หลังจาก Emil ตาย Liza ก็เคียดแค้น Morbius มาโดยตลอด เธอพยายามตามสืบหาตัว Morbius เข้าเป็นทหาร และฝึกทักษะการต่อสู้ต่าง ๆ เพียงเพื่อเหตุผลเดียว การล้างแค้น
Morbius ใช้ชีวิตมาตลอดโดยพยายามหาทางรักษาตัวเองให้หายจากการเป็นแวมไพร์กระหายเลือด แต่นั่นมันทำให้อาการของเขากลับแย่ยิ่งกว่าเดิม เขาเริ่มกลายเป็นปีศาจแวมไพร์มากขึ้น ความเป็นมนุษย์น้อยลง มันนำพาให้เขามาเจอกับ Liza ที่หมายเอาชีวิตของเขา
Morbius ใช้ชีวิตโดยพยายามหาทางรักษาตัวเองให้หายจากการเป็นแวมไพร์กระหายเลือดมาตลอด แต่นั่นมันทำให้อาการของเขากลับแย่ยิ่งกว่าเดิม เขาเริ่มกลายเป็นปีศาจแวมไพร์มากขึ้น ความเป็นมนุษย์น้อยลง มันนำพาให้เขามาเจอกับ Liza ที่หมายเอาชีวิตของเขา
แต่ในที่สุดทั้งคู่ก็ญาติดีกัน ด้วยความช่วยเหลือจาก Spider-Man ทั้งหมดก็ร่วมมือกันปราบ Melter และลูกน้องที่ขโมยงานวิจัยของ Morbius ไป พวกมันได้เปลี่ยนเป็นสัตว์แต่ละตัวเหมือนอย่าง Morbius หลังจากจบศึก ยารักษาก็ได้ใช้ไปกับพวกของ Melter จนเหลืออันสุดท้าย แต่มีพวกของ Melter หนีไปได้คนนึง ทางด้าน Morbius ก็ปฏิเสธจะใช้ยารักษาตนเอง จะนำไปรักษาพวก Melter ที่หนีไป ทางด้าน Liza ก็ออกเดินทางตามหาตัวเอง และเขาก็มุ่งหน้าหาทางทำยารักษาตัวเองต่อไป
หลังจากนั้น เขาได้เป็นพันธมิตรกับฮีโร่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการร่วมมือกับ The Thing กู้โลก, ร่วมกับหน่วย S.H.I.E.L.D. หลังจากตัวเองลงทะเบียนเปิดเผยตัวตนพวก Superhuman และไปปะทะกับ Blade เพื่อบังคับให้เขามาลงทะเบียน, A.R.M.O.R. ปกป้องภัยจากต่างมิติ เป็นส่วนสำคัญในการช่วยกู้วิกฤติซอมบี้, เข้าร่วมทีม Legion of Monsters ปกป้องเหล่าสัตว์ประหลาดที่โดนไล่ล่า, ร่วมสู้กับ Carnage และอีกมากมาย
ที่มาภาพ: https://9xwallpapers.com/morbius-wallpapers/
ถึงแม้ Morbius จะมีรูปร่างหน้าตาเป็นแวมไพร์ หูแหลม จมูกแบน มีเขี้ยว ผิวขาว แต่มันเกิดจากการทดลอง ไม่ใช่เป็นแวมไพร์จริงแต่อย่างใด เพราะฉะนั้น น้ำมนต์ กระเทียมหรือไม้กางเขนก็ไม่ได้มีผลโดยตรงกับเขาแต่อย่างใด และเขายังมีความเป็นมนุษย์อยู่ เขายังคงเป็นนักวิทยาศาสตร์เจ้าของรางวัล Nobel Prize ที่มีความฉลาดแบบสุด ๆ
Morbius จะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นอยู่กับเลือดที่ดื่ม ณ ตอนนั้น ยิ่งดื่มมากก็จะยิ่งมีพลังมาก
Morbius มีความเร็วเหนือมนุษย์ แถมยังคล่องแคล่วว่องไวด้วย
Morbius มีปฏิกิริยาตอบสนองที่รวดเร็วกว่ามนุษย์ทั่วไป และยังสามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่น โดยเฉพาะเลือดได้ในระยะไกล และรับเสียงไวเป็นพิเศษ แถมยังสามารถมองเห็นในที่มืดได้เป็นอย่างดี
Morbius สามารถรักษาร่างกายตัวเองได้ในเวลาไม่กี่ชั่วโมงบางครั้งก็ไม่กี่นาที แต่ไม่ถึงกับสร้างอวัยใหม่ขึ้นมาได้ ่เช่นถ้าแขนขาดก็ขาดไปเลย
Morbius บินไม่ได้แต่เขาสามารถร่อนได้เป็นระยะทางสั้น ๆ
Morbius สามารถเปลี่ยนคนอื่นกลายเป็นแวมไพร์เหมือนเขาได้ผ่านการดูดเลือด เขาสามารถควบคุมแวมไพร์ที่เขาสร้างได้ ซึ่งแวมไพร์พวกนั้นมีพลังเหนือมนุษย์ แต่ไม่มี Healing Factor เหมือนอย่าง Morbius พอพวกมันตายก็จะสลายกลายเป็นธุลีไป
Morbius ไม่แก่ตาย เรียกได้ว่าถ้าไม่โดนฆ่าก็มีความเป็นอมตะ จากคำกล่าวอ้างของเจ้าตัว
แสงแดดไม่สามารถฆ่าเขาได้ แต่มันทำให้เขาอ่อนแอ ตาของเขาไวต่อแสง และผิวหนังก็จะโดนแผดเผา
จุดอ่อนสำคัญที่สุดของ Morbius คือเมื่อใดที่เขาหิวกระหายเลือดเขาจะเสียสติ เสียสัญชาติญาณความเป็นมนุษย์ชั่วคราวและทำอะไรลงไปอย่างไม่รู้ตัว ยิ่งเขาไม่ได้ดื่มเลือดนานเท่าไหร่ เขายิ่งเสียการควบคุมมากเท่านั้น
ที่นี้เราคงต้องไปหาคำตอบกันในหนัง ภาพยนตร์ Morbius ว่าจะเหมือนหรือแตกต่างจากในคอมิกส์มากแค่ไหน และจะมีโอกาสได้เห็นเขาไปเผชิญกับ Blade, Venom หรือ Spider-Man หรือเปล่า
โปสเตอร์ Morbius
ที่มาภาพ: imdb.com
วายร้าย หรือผู้พิทักษ์ ภัยอันตรายหรือแค่ชายที่น่าสงสาร เตรียมหาคำตอบเรื่องราวเหล่านี้ได้ใน Morbius
ตัวอย่าง Morbius
|
สบายสบายให้มันสมายเวลาสบายแล้วจะได้สบายสมาย... :) |