ก่อนหน้านี้เราเคยพรีวิว GoPro HERO7 Black ไปบ้างแล้ว (ตอนนั้นไปงานเปิดตัว เลยได้เล่นอยู่แค่ประมาณครึ่งวัน) แต่ตอนนี้เราได้ HERO7 Black มาอยู่ในมือเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็เลยจับมารีวิวอีกครั้งในแบบที่เจาะลึกยิ่งกว่าเดิม หลังจากที่ได้เล่นมันมาหลายวันจนคิดว่ารู้จักมันดีแล้ว เราก็พร้อมที่จะมาบอกคำตอบแล้วว่า "HERO7 Black น่าซื้อไหม?"
สำหรับคนรีบขี้เกียจอ่านยาว มาอ่านข้อดี-ข้อเสียก่อนเลยละกัน
ข้อดี
| ข้อเสีย
|
ตัวเครื่องของ HERO7 Black ภายนอกไม่ได้มีอะไรแตกต่างจากรุ่นก่อนอย่าง HERO6 Black มากนัก ซึ่งก็ดีแล้วล่ะ เพราะทำให้เราสามารถใช้อุปกรณ์เสริมของ HERO6 ได้เกือบทั้งหมด ไม่ต้องซื้อใหม่ให้สิ้นเปลืองแต่อย่างใด
ที่ต่างจากเดิมอย่างเห็นได้ชัดเลยก็คือด้านข้างของตัวเครื่อง สังเกตว่าสีจะเป็นสีเดียวทั้งหมดแล้วทั้งด้านข้าง และด้านหน้า ไม่ได้เป็นสีทูโทนแบบในรุ่นก่อนแล้ว ทำให้เวลาจับแล้วรู้สึกเรียบเนียนไปทั้งตัวเลย ไม่มีสะดุดขอบข้างเหมือนรุ่นก่อนหน้านี้
ด้านหลังแบบเดิมที่แสนคุ้นเคย อย่างไรก็ตาม หากเปิดเครื่องขึ้นมาจะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน แต่เราขอยกไปเล่าต่อในช่วงถัดไปละกันนะ
ด้านข้างจะมีช่อง USB-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ และโอนถ่ายข้อมูล กับช่อง Mini HDMI ครับ ตัวฝาปิดมีซีลกันน้ำด้วย จุดนี้มีลูกเล่นเล็กๆ น้อย คือ ตัวฝาสามารถ "ถอด" ออกมาได้นะครับ เผื่อเราใช้ในงานที่ต้องต่อสายคาทิ้งไว้ จะช่วยเพิ่มความสะดวกในการจัดทิศทางสายมากกว่าเดิม
ด้านล่างยังเปิดออกมาเป็นช่องสำหรับใส่แบตเตอรี่ และการ์ด ตรงจุดนี้ก็จะเป็นฝาปิดแบบ 2 ชั้นเช่นกัน เพื่อให้มันกันน้ำได้โดยไม่ต้องใส่เคสนั่นเอง
ต้องออกตัวก่อนเลยว่า ผมเป็นคนที่ไม่พึงพอใจกับเมนูของพวกแอคชั่นคาเมร่าสักเท่าไหร่ จับมาหลายยี่ห้อก็รู้สึกไม่เคยเป็นมิตรสักยี่ห้อ แต่เมนูของ HERO7 นั้นทำมาใช้ง่ายมากๆ ปัดลงจากด้านบนเพื่อเข้าเมนูตั้งค่ากล้อง ปัดขึ้นจากด้านล่างเพื่อเข้าสู่อัลบัม
การเปลี่ยนโหมดกล้องทำได้ 2 วิธี คือ กดปุ่มด้านข้างของตัวเครื่อง หรือจะใช้ปัดซ้าย ปัดขวา บนจอเลยก็ได้ โดยจะมีให้ถ่ายอยู่ 3 โหมด คือ วิดีโอ, ภาพนิ่ง และ Time Lapse
การปรับพวกความละเอียด และค่าต่างๆ ก็ทำได้สะดวก แค่แตะไปที่แถบเมนูที่อยู่ตรงกลางด้านล่าง ก็จะเข้าสู่หน้าปรับค่าการถ่ายแล้ว ใช้ง่ายมากเลยล่ะ
อีกหนึ่งลูกเล่นที่ผมชอบมาก็คือ Voice Control หรือการสั่งงานด้วยเสียง ซึ่ง HERO7 Black นั้นรองรับได้หลายคำสั่งเลยล่ะ เท่าที่เราทดสอบดู สำเนียงบ้านๆ สไตล์ไทยๆ ก็สั่งงานได้ไม่มีปัญหานะครับ คำสั่งที่สั่งได้ก็จะมีดังนี้
การทำ Live บน Facebook ก็ง่ายมาก สามารถเชื่อมต่อ GoPro เข้ากับสมาร์ทโฟน แล้วเริ่ม Live ได้เลยโดยตรง อย่างไรก็ตาม มันจะไลฟ์ลงหน้า Facebook ของเรา หากต้องการจะไลฟ์ลงแฟนเพจ ต้องทำการเซ็ตอัพบนคอมพิวเตอร์ก่อนครับ (ต้องเอา Stream Key มาใส่)
อีกหนึ่งกิมมิคเล็กๆ แต่ว่าเพิ่มความสะดวกมากมาย คือ ใน HERO7 เนี่ย เมนูจะหมุนตาม ซึ่งหมุนได้ทุกทิศเลยล่ะ
ในส่วนของคุณภาพ ทาง GoPro เขาก็พัฒนามาตลอดเรื่อยๆ อยู่แล้ว สีสดขึ้น ภาพชัดขึ้น บันทึก Fps ได้ดีขึ้น บันทึกวิดีโอความละเอียดที่ 4K60fps/50fps, 2.7K120fps/100fps และ 1080p240fps/200fps ซึ่งตรงจุดนี้เราขออนุญาตข้ามไป ขอพูดถึงทีเด็ดเฉพาะของ HERO7 Black เลย นั่นก็คือ ระบบ HyperSmooth
HyperSmooth เป็นลูกเล่นใหม่จาก GoPro ที่ในปัจจุบันนี้ มีแค่ใน HERO7 Black เท่านั้น (HERO7 รุ่นอื่นไม่มีนะ) มันเป็นระบบกันสั่น Electronic Image Stabilization (EIS) แบบใหม่ ซึ่งได้มาจากการอัพเกรดประสิทธิภาพของชิปประมวลผล GP1 และแรม 2GB ในตัวเครื่อง ทำให้กล้องบันทึกวิดีโอได้เสมือนใช้กิมบอล (ไม้กันสั่น) อยู่เลยล่ะ
อย่างไรก็ตาม จากการทดสอบใช้งาน ภาพที่ได้แตกต่างจากการใช้ไม้กิมบอลอยู่นะ พูดตรงๆ คือ มันยังนิ่งได้ไม่เท่ากับการใช้กิมบอลหรอก แต่ เรายอมรับเลยว่ามันนิ่งกว่ารุ่นก่อนๆ มาก นิ่งพอที่จะใช้งานได้จริงอย่างสบายๆ
การใช้ไม้กิมบอลนั้น แม้ภาพที่ได้จะนิ่งสุดๆ แต่ข้อเสียมันก็เยอะนะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำหนัก, ราคาที่ต้องจ่ายเพิ่ม, ความสะดวกในการจับถือ ในขณะที่กันสั่น HyperSmooth ของ HERO7 Black เราไม่ต้องจ่ายเพิ่มเลย รวมถึงน้ำหนักที่เบากว่าด้วย ซึ่งเราได้เดินไปถ่ายไป หรือใช้ตอนขับโกคาร์ท งานที่ได้ ถือว่าใช้งานได้สบายๆ ครับ (ในส่วนของการทดสอบรบกวนดูได้จากคลิปวิดีโอที่อยู่ด้านบนของบทความนะครับ)
ทดสอบถ่ายในโหมด HyperSmooth
ทดสอบถ่ายในโหมด TimeWarp
TimeWarp จะทำงานเหมือนกับการถ่าย Time Lapse แต่เราสามารถเคลื่อนที่ระหว่างการถ่ายได้
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมด SuperPhoto
HERO7 เป็นอุปกรณ์ประเภทแอคชั่นคาเมร่ารุ่นใหม่ล่าสุดจากค่าย GoPro ซึ่งคำถามที่หลายคนสงสัยก็คือ น่าซื้อหรือไม่? HERO6 ที่ราคาถูกกว่า (เพราะตกรุ่น) น่าสนใจกว่าหรือไม่
คำตอบนั้นผมคงไม่กล้าฟันธง เพราะเหตุผลของแต่ล่ะคนย่อมไม่เหมือนกัน แต่ในมุมมองผม คือ ถ้าเงินถึงก็ซื้อ HERO7 Black เถอะ เพราะระบบ HyperSmooth นั้นดีจริงๆ ตอน HERO5 อัพเดทเป็น HERO6 ผมรู้สึกว่ามันก็เหมือนเดิม ก็แค่ภาพชัดขึ้น ถ่ายวิดีโอดีขึ้น แต่สำหรับ HERO7 นั้น มีการอัพเดท "ของเล่นใหม่" เข้ามาเยอะมาก ทั้งในเรื่องระบบกันสั่น, เมนูแบบใหม่ที่ใช้งานง่าย และระบบไลฟ์ ซึ่ง HERO 6 รุ่นก่อนทำไม่ได้ ดังนั้นหากต้องการใช้งานฟีเจอร์ใหม่ที่ผมบอกไป ก็ต้อง HERO7 เท่านั้น
ส่วนตัวมองว่าคุ้ม เพราะเราไม่ต้องเสียเงินซื้อไม้กันสั่นเพิ่ม คล่องตัวกว่าเยอะ แถมราคารวมมาถูกกว่าด้วย ก็ลองนำข้อมูลนี้ไปตัดสินใจกันดูนะครับ
|
แอดมินสายเปื่อย ชอบลองอะไรใหม่ไปเรื่อยๆ รักแมว และเสียงเพลงเป็นพิเศษ |