วันนี้เราได้มีโอกาสพูดคุยกับ คุณกิต หรือคุณกฤษณ์ เปลี่ยนแพ เจ้าของบริษัท ไอแอปเดฟ จำกัด พูดชื่อนี้หลายคนอาจจะไม่คุ้นไม่รู้จัก แต่ถ้าบอกว่าเค้าคือ คุณ rainbow ผู้พัฒนาคีย์บอร์ดไทย 4 แถว บน iOS หลายคนที่ใช้ไอโฟนน่าจะรู้จักกันดีครับ เพราะเค้าเป็นผู้บุกเบิกคนแรกๆเลยในการพัฒนาคีย์บอร์ดและยังทำเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้
ครั้งนี้ไทยแวร์ได้มีโอกาสพูดคุยสัมภาษณ์กับคุณกิตครับ ได้แนวคิดมุมมองใหม่ๆเกี่ยวกับการเจลเบรค และเรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ ลองมาฟังกันดูครับ
ไทยแวร์ : แนะนำตัวหน่อยครับ
คุณกิต : ผม กฤษณ์ เปลี่ยนแพ (ชื่อเล่น กิต) ตอนนี้ทำงานเป็น iOS Consultant บริษัท ไอแอปเดฟ จำกัด และ IT Director เจ้าของเว็บไซต์ https://www.iappdev.com
ไทยแวร์ : เริ่มต้นงานเขียนโปรแกรมบนไอโฟนได้อย่างไรครับ
คุณกิต : ผมเรียนจบวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี พอเรียนจบก็เริ่มทำงานในด้านไอทีมาก่อน ระหว่างทำงานนั้นก็ได้ศึกษาต่อปริญญาโทจนจบ ที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ สาขา Internet & E-commerce แล้วหลังจาก Apple เปิดตัวไอโฟนและ AppStore จึงมีความสนใจและหันมาเริ่มพัฒนาแอปบนไอโฟน ตัดสินใจเปิดบรัษัทเองในชื่อ บริษัท ไอแอปเดฟ จำกัด และมีพัฒนาเป็นส่วนตัวนอกเหนือจากงานบริษัทด้วย โดยในยุคนั้นไอโฟนเป็นที่ สนใจของคนทั่วไปเป็นอย่างมาก ผมมองว่ามีอนาคตจึงได้ตัดสินใจที่จะเริ่มพัฒนาแอปฯบนไอโฟนครับ
ไทยแวร์ : ในการเริ่มต้นเขียนแอปฯ บนไอโฟน เราจำเป็นต้องมีความรู้ในด้านไหนบ้างครับ
คุณกิต : สำหรับคนที่สนใจเริ่มต้น อย่างแรกเลยคือ จำเป็นต้องมีเครื่อง Mac ครับ เพราะการเขียนโปรแกรมบน iOS นั้นจะทำได้บน Mac อย่างเดียว ถึงแม้จะมี Tool ให้สามารถพัฒนาจาก Platform อื่น แต่เวลา Sign Application เพื่อขึ้นบน Appstore ก็ยังต้องทำใน XCode บน Mac อยู่ดี และควรมีพื้นฐานโปรแกรม C++ ด้วย ก็จะทำให้การเรียนรู้ในภาษา Objective-C ที่ใช้ในการเขียน iOS Application นั้นรวดเร็วขึ้น
ไทยแวร์ : ตอนนี้เขียนโปรแกรมมานานแค่ไหนแล้วครับ
คุณกิต : พัฒนามาแล้วได้ประมาณ 4 ปีครับ
ไทยแวร์ : ผลงานที่ผ่านๆ มามีอะไรบ้างครับ
คุณกิต : ที่น่าจะรู้จักกันก็อย่าง TH Key iOS5 บน Cydia ครับ หรือถ้าใน AppStore ก็มี The Nation ที่ใช้อ่านข่าวของหนังสือพิมพ์ The Nation และอื่นๆอีกหลายแอปฯ ครับที่เราได้มีส่วนพัฒนาให้
ไทยแวร์ : คุณกิตได้พัฒนาแอปฯทั้งบน AppStore และ Cydia ด้วย ในสายตาคนทั่วไปการเจลเบรค เพื่อลง Cydia มันคือการละเมิดลิขสิทธิ์ใช้ของเถื่อน ในเรื่องนี้คุณกิตมีมุมมองแบบไหนครับ ?
คุณกิต : ในมุมมองของบุคคลทั่วไปมักจะมองว่า การเจลเบรกเนี่ยคือการใช้ของเถื่อน แต่ที่จริงแล้วไม่ใช่ครับ การเจลเบรกคือการปลดล็อกความสามารถของเครื่องที่แอปเปิลไม่ต้องการให้ผู้ใช้งานเข้าไปใช้ ให้สามารถใช้ได้ซึ่งก็คือการเข้าถึง Root ไฟล์ของเครื่อง ถ้าถามว่าทำไมถึงไม่อนุญาตให้ใช้ เพราะแอปเปิลต้องการรักษาความเสถียรของเครื่องให้สูงมากที่สุดเท่าที่เป็นได้ วิธีที่ง่ายที่สุดก็คือการป้องกันไม่ให้สามารถเข้าไปแก้ Root ไฟล์ของเครื่องได้ ดังนั้นแอปฯทุกแอปฯ บน AppStore ก็จะเป็นแอปฯ ที่ทำงานภายใต้กฏของแอปเปิลเท่านั้น ไม่สามารถสร้างแอปฯที่ต้องปรับแต่งไฟล์ของระบบได้ จึงมีผู้ใช้ที่ต้องการปรับแต่งหาทางเจาะระบบเพื่อให้เข้าถึง Root ไฟล์ ซึ่งก็คือสิ่งที่เรียกว่าการ JailBreak ครับ
สรุปคือจุดประสงค์ของการเจลเบรค คือการปรับแต่งโทรศัพท์ของเราให้เป็นไปตามที่เราต้องการมากที่สุดครับ ส่วนเรื่องของการใช้แอปฯเถื่อนนั้น เป็นผลพลอยได้ที่ตามมาจากการเจลเบรก แต่ว่าทางผู้พัฒนา Cydia ก็ไม่ได้สนับสนุนการติดตั้งแอปฯที่ละเมิดลิขสิทธิ์นะครับ เรารู้ได้จากเวลาเราเพิ่ม Source ใน Cydia ถ้าเป็น Source ที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดลิขสิทธิ์ จะมีแจ้งเตือนให้เรารับทราบและยืนยันเจตนารมย์ก่อนครับ
นอกจากนี้การละเมิดลิขสิทธิ์นั้นอาจจะไม่ได้หมายถึงแค่การเจลเบรกเท่านั้นครับ ในบ้านเราร้านจำหน่ายมือถือมากมายต่างโฆษณาประมาณว่า เสียแค่ 500 บาท ได้แอปฯแท้เต็มเครื่อง 11 หน้าเลย จริงๆการกระทำแบบนี้ก็ถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ครับ ผู้ใช้อาจจะเถียงว่า ก็เป็นแอปฯแท้นี่ และชั้นก็เสียเงินซื้อมาตั้ง 500 มันจะเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ได้ยังไง
ผมต้องอธิบายก่อนว่าจริงๆแล้วทาง Apple กำหนดไว้ให้เรา ในหนึ่ง Account เนี่ย สามารถนำไปใช้ลงลงแอปได้ทั้งหมด 5 เครื่องต่อ 1 ไอดี แต่ร้านเหล่านี้เอาไอดีที่ตนเองลงทุนซื้อแอปฯไปอาจจะลงไปเท่าไหร่ก็ตาม แต่เค้าก็มาเก็บเกี่ยวทุนคืนจากเรา ทั้งๆที่เราจ่ายเงินซื้อแอปฯไป แต่ว่าเจ้าของแอปฯ ก็คือเจ้าของร้านเหล่านั้น เราไม่สามารถอัพเดตแอปฯ ในเครื่อง หรืองแอปฯเพิ่มได้เอง ต้องไปอัพเดตที่ร้านเท่านั้นอย่างเดียว นั่นก็คือเราไม่ได้เป็นเจ้าของแอปฯอย่างแท้จริง เงินที่เราจ่ายไปก็ไม่ได้ตกถึงมือผู้พัฒนาแอปฯเลย ผลประโยชน์ก็อยู่ที่ร้านเหล่านี้ครับ
ไทยแวร์ : แล้วแบบนี้เราแก้ปัญหากันอย่างไรครับ คุณกิตก็ประกอบอาชีพพัฒนาแอปฯ แล้วเราจะมีรายได้จากทางไหน ในเมื่อการจำหน่ายแอปฯ เป็นไปได้ยาก
คุณกิต: เราต้องยอมรับว่าคนไทยนิยมของฟรีและหาทางที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แอปฯทุกวิถีทาง ถ้าเราทำขายก็จะหาทาง Crack ใช้ฟรีจนได้ หรือระบบ Donate ก็ยังเป็นระบบที่คนไทยส่วนมากยังไม่เข้าใจหลักการ Donate คือการที่ผู้ใช้ช่วยสนับสนุนผู้พัฒนา ไม่ใช่การจ่ายเงินซื้อและจะมีสิทธิ์เรียกร้องให้ผู้พัฒนาแอปทำนั่นโน่นนี่ได้ตามใจชอบ ทางออกที่มีในตอนนี้ที่ผมเลือกใช้คือ การปล่อยให้โหลดแอปฯได้ฟรี แต่ว่าถ้าจะใช้งานจำเป็นต้องชำระเงินเพื่อ Activate ผ่านภายในแอปฯก่อน โดยอาจจะชำระเงินผ่านทาง ธนาคารหรือ Paypal แล้วเราถึงจะทำการปลดล็อกแอปฯให้ใช้งานได้
ไทยแวร์ : คุณกิตคิดว่าการเจลเบรคมีผลต่อการพัฒนา iOS หรือไม่ครับ
คุณกิต : การเจลเบรกมีส่วนร่วมในการพัฒนา iOS ให้ดีและน่าใช้กว่าเดิมมากครับ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนก็อย่างการที่ iOS5 มีการรวมเอาแอปฯยอดนิยมต่างๆใน Cydia เข้าในเฟริมแวร์ของตนเองเลย โดยแอปยอดนิยมต่างๆใน Cydia ก็อย่างเช่น Notification Center ที่เดิมใน iOS4 ผู้ใช้จำเป็นต้องเจลเบรกก่อนถึงจะติดตั้งได้ แต่ใน iOS5 Apple ได้ซื้อลิขสิทธิ์และรับผู้พัฒนาเข้าทีมของบริษัทเลย เราจึงได้เห็น Notification Center ใน iOS5 แบบตอนนี้ แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะโชคดีครับ เพราะหลายฟีเจอร์ใน Cydia ทาง Apple ก็จับไปใส่เลยเนียนๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่นักพัฒนาแอปฯต้องทำความเข้าใจก่อนถึงจุดนี้ด้วยครับ
ไทยแวร์ : มองอนาคตการพัฒนาแอปฯ ในไทยเป็นอย่างไรบ้างครับ
คุณกิต : ผมมองว่าการพัฒนาแอปฯในไทยตอนนี้ มีโอกาสเติบโตได้ขึ้นอีกเยอะ Smart Phone กลายเป็นช่องทางสำหรับให้นักพัฒนาแอปได้มีโอกาสเผยแพร่แอปฯที่ตนเองเขียนได้ง่ายขึ้น เพราะใครๆก็สามารถเขียนแอปฯลงไปใน AppStore ใน iOS , Android , BlackBerry และ Windows Phone ได้ ไม่เหมือนในสมัยก่อนที่มีตลาดแอปฯแค่บนคอมพิวเตอร์เท่านั้น
ไทยแวร์ : ตอนนี้คุณกิตพัฒนาแอปฯลงบนไอโฟนอย่างเดียว มีแผนจะพัฒนาบนแอนดรอยส์ด้วยไหมครับ เพราะตอนนี้กระแสแอนดรอยส์มาแรงมาก
คุณกิต : Android ตอนนี้มาแรงมากครับ เพราะเป็น OpenSource ต่างจาก iOS ที่แอปเปิลเปนคนถือทุกอย่างในมือ Android ผู้ผลิตมือถือสามารถนำไปใช้ได้ทุกค่าย แต่ว่าแอปฯบน android นั้นจะพัฒนายากกว่าเพราะว่า Hardware ของ Android มีมากมายและหน้าจอหลายขนาด นักพัฒนาจำเป็นต้องออกแบบเลย์เอาท์ของโปรแกรมให้ดี และเลือกแนวทางการพัฒนาแอปให้เหมาะสมกับผู้บริโภค เพราะราคามือถือของ Android มีตั้งแต่ถูกถึงแพง และการรองรับแอปอาจจะไม่ครอบคลุมได้ทุกรุ่น ถ้าเกิดแอปที่เราสร้างนั้น ต้องการทรัพยากรเครื่องที่สูง มาก เราก็อาจจะจับกลุ่มเป้าหมายพลาดไปได้ครับ
ไทยแวร์ : ตอนนี้นักเรียนนักศึกษาก็หันมาสนใจพัมนาแอปฯ กันมากขึ้น มีอะไรฝากถึงน้องๆไหมครับ ในฐานะรุ่นพี่ที่ได้เดินทางสายนี้มาก่อนแล้ว
คุณกิต : สำหรับน้องๆหรือนักพัฒนา ผมมองว่ายังมีโอกาสและช่องทางอีกเยอะ สำหรับการเขียนและเผยแพร่ ไม่จำเป็นต้องเรียนวิศวฯคอมมาถึงจะเขียนได้ แต่ควรจะกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจนว่าจะเขียนแอปให้กับอะไร และเลือกเรียนรู้ภาษานั้นๆครับ เช่นถ้าหากอยากทำใน Android ก็ไปทาง Java ครับ ถ้า iOS ก็ Objective-C ควรจะรู้ก่อนครับว่าถนัดแบบไหนและรักสิ่งไหนมากกว่ากัน
ไทยแวร์ : คุณกิต รู้จักกับเราบ้างไหมครับ รู้จักกันมานานยังเอ่ย :D?
คุณกิต : สวัสดีครับ :)
ความคิดเห็นที่ 2
25 เมษายน 2556 20:43:35
|
||
GUEST |
TNT
I miss you
|
|
ความคิดเห็นที่ 1
10 มีนาคม 2555 02:37:23
|
||
GUEST |
ชาเขียว56789
[3][14]คนไทยเก่ง[6][10]นะคะอย่ากไช้จังได้พิมไวๆ่ิืำ[5][1]
|
|