ปัจจุบันมีเกมออกใหม่มามากมายหลายรูปแบบ หนึ่งในประเภทที่ยังครองความเป็นที่นิยมท่ามกลางเหล่าเกมเมอร์เสมอมาคือเกมที่เล่น "ยาก" ความยากที่ว่าไม่ใช่เกมควบคุมยากหรือหาเล่นได้ยาก แต่คือระดับความยากในการเคลียร์หรือผ่านข้อกำหนดที่เกมต้องการเพื่อผ่านไปเล่นยังด่านถัดไป ในวันนี้เราจะพาคุณไปพบกับสิบอันดับเกมยากที่สุดที่อยู่มาตั้งแต่ยุคคริสตศักราช 1980 - 1999 จะยากจริงหรือไม่ให้คุณเป็นคนพิสูจน์
เกมนี้ถือเป็นเกมที่ต้องใช้การควบคุมแบบหลากหลายทิศทางในการสำรวจเขาวงกต ฆ่าหุ่นยนต์ และหลบหลีกศัตรูตัวฉกาจอย่าง Evil Otto โดยปีศาจตัวนี้จะมีหน้ายิ้มที่คอยไล่ล่าผู้เล่นในแต่ละแมพแถมยังไม่สามารถกำจัดมันให้พ้นทางได้ ฟังดูเหมือนจะเป็นเกมที่แค่ท้าทายเฉยๆ ไม่น่ามีอะไรยาก แต่เพราะผลพวงที่ตามมาหลังจากนั้นคือเครื่องบ่งบอกว่ามันน่าจะเป็นหนึ่งในเกมที่ยากที่สุด ในปี 1981 หลังจากที่ทำชื่ออยู่ใน High Score ได้สำเร็จ Jeff Dailey ในวัย 19 ปีก็ได้เสียชีวิตลงเนื่องจากโรคหัวใจ และปีต่อมาในเดือนตุลาคม หลังจากทำคะแนนสูงสุดได้สำเร็จอีกสองอันดับ Peter Burkowski ก็เสียชีวิตไปด้วยโรคหัวใจเช่นกัน (หรือเกมนี้จะมีอาถรรพ์?)
เกมเมอร์ยุค 80 เกือบทุกคนล้วนแล้วแต่เคยสัมผัสกับเกมนี้มาแล้วทั้งสิ้น หากให้อธิบายเกมนี้ออกมาโดยสังเขปก็คงจะบอกว่าเป็นเกมที่ฮีโร่ของเรา Sir Arthur ใส่กางเกงตัวเดียววิ่งไปทั่วเพื่อกำจัดศัตรูที่ไร้ความเมตตาปราณี มีเวลาจำกัด แถมบอสตัวสุดท้ายยังเปรียบเสมือน "กับดักที่ถูกเตรียมไว้โดยซาตาน" อีกด้วย ถือเป็นหนึ่งในเกมที่ยากที่สุดในประเภทเกมแบบผ่านฉากด้านข้าง (side-scrolling) บนแพลตฟอร์มเครื่องเล่นโดยเฉพาะ
ตามปกติแล้ว เกมทุกเกมในลิสต์นี้จะเป็นเกมที่ขึ้นชื่อว่ายากที่สุด โหดหินที่สุด แต่เกมนี้คือข้อยกเว้น เพราะมันคือเกมที่ทำให้เรารู้สึกฉลาดน้อยและหัวไหม้เอาได้ง่ายๆ ถูกพัฒนาขึ้นโดยนักแสดงชาวญี่ปุ่น Takeshi 'Beat' Kitano ซึ่งเราจับมันมารวมอยู่ในลิสต์นี้ด้วยเพราะว่าเกมนี้มีความเสี่ยงแฝงอยู่ในทุกๆ อย่างจนอาจทำให้ลืมหายใจได้ ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้, คาราโอเกะ, ร่อนเครื่องร่อน, แต่งงาน, หางาน, และการพนัน ซึ่งทุกอย่างที่ว่ามานี้ก็ฟังดูน่าสนุก แต่การออกแบบและเกมเพลย์คือความโหดร้ายที่แท้จริง เพราะมีการสุ่มอุปสรรคอะไรบางอย่างที่ทำให้เกมจบได้เลยในทันที, การควบคุมที่จู่ๆ ก็หยุดทำงานไปดื้อๆ, และมีอยู่ด่านหนึ่งที่จะให้ผู้เล่นปล่อยมือจากจอย ไม่ให้ทำอะไรใดๆ เป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง เป็นต้น
เป็นเกมเล่นคนเดียวแบบที่ให้เราเป็นตัวร้าย ซึ่งปัจจุบันนั้นมีมากมายหลากหลายเวอร์ชันและยังเป็นที่ถกเถียงกันถึงปัจจุบันว่าเวอร์ชันไหนดีที่สุด ซึ่งเกมนี้อาจทำให้ผู้เล่นต้องใช้เวลานานนับปีกว่าจะเรียนรู้ได้อย่างสมบูรณ์ ทุกวันนี้ก็ยังคงมีผู้เล่นสามารถหารูปแบบใหม่ในการเล่นได้อยู่เรื่อยๆ แม้ว่าเกมจะเปิดมานานถึง 25 ปีมาแล้วนับตั้งแต่เกมเปิดตัวครั้งแรก
เป็นที่รู้กันดีว่าเกมนี้ต้องใช้การตอบสนองที่รวดเร็วและใช้ความจำในการจดจำตำแหน่งของศัตรู เพื่อให้สามารถผ่านด่านมหาโหดไปได้ แถมเกมนี้ยังมีจุดเซฟแบบอัตโนมัติที่น้อยมากๆ ไหนจะบรรดาระเบิดและศัตรูที่มีหลากหลายรูปแบบในแต่ละด่าน ก็ทำให้เกมในแฟรนไชส์นี้ขึ้นหิ้งเป็นเกมที่ยากที่สุดเกมหนึ่งไปแบบไม่ต้องสงสัย
เกม Contra จากค่าย Konami กับความคุ้นเคยในการหยอดเหรียญใส่ตู้เพื่อเล่นกับเพื่อน เราจะได้รับบทบาทให้เป็นทหารหน่วยคอมมานโดติดอาวุธไรเฟิลพร้อมกระสุนไม่จำกัด ซึ่งตัวเกมและบทบาทที่ให้ก็ไม่ได้ฟังดูแย่จริงมั้ย? แต่เมื่อคุณตระหนักได้ว่า การโดนตัวศัตรูหรือได้รับดาเมจจากศัตรูเพียงครั้งเดียวแม้แค่เฉียดๆ ก็ทำให้ตายได้เลยในทันที
หลังจากที่เกมเริ่มฮิตติดลมบน ทางค่ายก็เลยนำไปลงเครื่องคอนโซลต่อโดยใช้ชื่อว่า Probotector (เป็นชื่อสำหรับโปรโมทเกมในยุโรป)
แวบแรกที่เห็นเกมนี้เราอาจจะรู้สึกว่ามันดูจะเป็นเกมที่น่าเล่นแล้วมีความสุขสนุกสนาน แต่ในความเป็นจริงแล้ว เกมนนี้มีชีวิตให้เพียงชีวิตเดียวเท่านั้น และดูจะมีปัญหากับระบบช่องเก็บของ การหาเรือเพื่อที่จะพา Dizzy กลับไปยัง Yolkfolk ถือเป็นเรื่องที่ยากมากๆ ในครั้งแรกที่มันปรากฎตัว และยังวิกฤติขึ้นไปอีกขั้นเมื่อผู้เล่นต้องเก็บเหรียญให้ครบทั้งหมด 30 เหรียญที่กระจายอยู่ทั่วเกาะเพื่อให้สำเร็จภารกิจแรก แถมแผนที่ที่ถูกปล่อยออกมาโดย Commodore Format ก็ไม่มีตำแหน่งเหรียญบอกให้อีกต่างหาก
และหนึ่งในความน่ารำคาญที่สุดของความยากในเกมนี้ คือการที่เราจะหยิบของใต้น้ำแล้วตัวละครทิ้งแว่นตาดำน้ำไป ทำให้ตัวละครเอกของเราจมน้ำตายในทันที (แล้วจะเก็บของได้ยังไงฟะ)
เดิมทีเกมนี้ถูกปล่อยออกมาเพื่อต่อกรกับเกม Teenage Mutant Ninja Turtles เกมนี้เป็นที่รู้จักในฐานะที่เป็นเกมที่มีรูปแบบการโจมตีตลกๆ และความยากระดับสาหัส มาพร้อมกับจำนวนชีวิตที่มีจำกัดและต้องการ reflex (การตอบสนองฉับพลัน) ระดับสูง Battletoads ถือเป็นหนึ่งในเกมที่ดีที่สุดบนเครื่อง NES ทั้งในแง่ของกราฟฟิคและความบันเทิง ซึ่งเกมดังกล่าวกำลังจะกลับมาอีกครั้งจากการประกาศของ Microsoft ในงาน E3 2018
เกม Mario ภาคนี้เดิมเป็นชื่อ Super Mario Bros 2 ในญี่ปุ่น ส่วนเกมที่เรารู้จักในชื่อเดียวกันนั้นคือเวอร์ชันปรับปรุงของ Doki Doki Panic เดิมที่ Nintendo ได้ลงความเห็นว่าภาคต่อในฉบับภาษาญี่ปุ่นนั้นยากเกินไปสำหรับเกมเมอร์ชาวตะวันตก และความเห็นนี้ได้ตกไปเมื่อปี 1993 เพราะหลังจากนั้น SNES Mario All Stars Collection ก็ได้โอกาสพิสูจน์ตัวเองและได้คะแนนดีทีเดียว ถึงแม้ว่าเกมจะดูคล้ายกับต้นฉบับเกม Super Mario Bros ภาคแรก แต่ Lost Levels จะมีความยากกว่ากันอยู่พอสมควรสำหรับชาวคอนโซล แถมยังมีของใหม่อย่างเห็ดพิษเพิ่มพลังเข้ามาด้วย
เกมนี้สร้างจากซีรี่ส์ Terry Pratchett ในชื่อเดียวกัน ซึ่งความยากไม่ได้อยู่ที่การต้องใช้ทักษะ แต่อยู่ที่ปริศนาแบบน่าขำปนกำกวม เช่น ให้วางกบในปากของ Rincewind เพื่อให้หยุดกรนและทำให้ผีเสื้อกลัว (อิหยังหว่า), หรือให้จับผีเสื้อแล้วกดใช้กับเสาแขวนตะเกียง เพื่อที่จะให้นักบวชในอนาคตถูกพัดโดยพายุแล้วทำให้เสื้อคลุมหลุด (มันเกี่ยวอะไรกันหนอ) ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือความจงใจจากผู้พัฒนาที่ต้องการให้ผู้เล่นหาคำตอบด้วยตัวเอง (จะหาได้ไหมน่ะ)
|
เกมเมอร์หญิงทาสแมว ถ้าอยู่กับแมวแล้วจะน้วยแมวทั้งวัน |