รีวิว Sony Tablet S เหนือกว่าด้วยรายละเอียด

Sony Tablet S

หลังจากซุมเงียบมานาน Sony ก็ได้รุกตลาดแอนดรอยส์แล้วครับ งานนี้ Sony ทำการบ้านมาดีมาก ทั้งการออกแบบตัวเครื่องที่แตกต่างจาก Tablet ค่ายอื่นๆในท้องตลาด และ UI ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ สวยงามมากครับ เครื่องทรงแปลกตารูปร่างเหมือนหนังสือที่เปิดหน้าพับไว้พร้อมให้เราได้หยิบขึ้นมาอ่าน(เล่น?) มีฟังค์ชั่นที่ไม่มีใครเคยทำมาใส่ Tablet อย่างการทำงานเป็น Remote ที่ใช้ควบคุมได้ตั้งแต่แอร์ยันไปถึงวิทยุ ไม่ต้องเป็นยี่ห้อ Sony ก็ควบคุมได้นะ แถมด้วยการจับ PlayStation Certified (ที่ตอนนี้มีใน Xperia Play) ให้เราเอาเกมสุดคลาสสิคต่างๆในสมัยเครื่อง PlayStation 1 มาย้อนอดีตเล่นกันได้อีกด้วย ...มาเริ่มแกะกล่องกันเลยดีกว่าครับ

ในกล่องที่ให้มาจะมี

• Sony Tablet S
• สายคล้อง
• สายชาร์จและหม้อแปลง
• คู่มือการใช้งาน

Designed

แทนที่จะออกแบบให้เหมือนกับ Tablet ธรรมดาทั่วๆไป Sony เลือกที่จะออกแบบ Tablet ของตนให้ฉีกแนวออกไป รูปร่างเครื่องจะเหมือนหนังสือที่จับพับทบไปข้างหลังครับ เป็นการออกแบบโดยคำนึงถึงการใช้งานเป็นอันดับแรก ผลลัพธ์ที่ได้คือเครื่องจะลาดเอียงหนาข้างหนึ่ง บางข้างหนึ่ง เพื่อให้การวางน้ำหนักในขณะถือเฉลี่ยน้ำหนักมาทิ้งที่อุ้งมือ ทำให้สามารถถือใช้งานได้มือเดียวเป็นระยะเวลานานๆ โดยไม่อ่อนล้าไปกับการเกร็งนิ้วพยุงเครื่อง  นอกจากนี้เวลาที่เราวางเครื่องไว้บนโต๊ะ หน้าจอก็จะเข้ากับระนาบสายตาพอดีอีกด้วยละครับ

สำหรับคนที่เห็นภาพด้านข้างๆของเครื่องแล้ว อาจจะสงสัย หนาแบบนี้จะไม่หนักเหรอ? ขอตอบว่าไม่หนักครับ ด้วยการใช้วัสดุเป็นพลาสติกทั้งหมด แต่ว่า พลาสติกที่นำมาใช้เป็นอย่างดีทีเดียว

โดยตัวกรอบนอกของเครื่อง(ตรงที่เป็นสีดำ) จะเป็นพลาสติกสีดำเงาแบบชิ้นเดียวดัดโค้งไร้รอยต่อ ด้านหน้าบริเวณจอจะเป็นพลาสติกเงา แต่ว่าด้านหลังจะมีจุดนูนเล็กๆ เพื่อกันลื่นครับ และส่วนตัวเครื่องจะใช้พลาสติกด้านสีเทาด้าน เว้าลึกเข้าไปอีกที เวลาถือนิ้วเราจะช่วยพยุง ทำให้โอกาสหลุดมือยากยิ่งขึ้นครับ

ด้านหน้าไม่มีปุ่มใดๆ มีเพียงกล้องหน้า ความละเอียด 0.3 MP 

ด้านหลังของตัวเครื่อง มีกล้อง ความละเอียด 5 MP วางไว้ด้านบนตรงกลางครับ เหนือกล้องไปตรงกลาง มีรูเล็กๆ ซ่อนอยู่เป็นช่องสำหรับแสงอินฟาเรด เพื่อใช้สำหรับส่งสัญญาณฟังค์ชั่นรีโมทคอนโทรลครับ

ด้านขวาล่างของด้านหลังมีสัญลักษณ์ PlayStation Certified และรูสำหรับร้อยสายคล้องข้อมือ

ฝั่งซ้ายมือ จะมีช่องสำหรับเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม. และมีช่องสำหรับเชื่อมต่อ USB และใส่การ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ SD Card (ใส่ได้สูงสุด 32 GB)

ด้านขวา จะมีปุ่ม Power ที่ใช้พักหน้าจอ/ปิดเครื่อง และปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง และปุ่ม Reset ครับ ตรงจุดนี้ เป็นอีกจุดหนึ่งที่ประทับใจ เพราะเราสามารถถือมือเดียวและไม่จำเป็นต้องใช้อีกมือในการกดปุ่มเลย เพราะมันจะวางอยู่ตรงนิ้วชี้พอดีในขณะถือเครื่อง (แต่งานนี้คนถนัดซ้ายอาจจะลำบากหน่อย )

อ้อ แล้วก็เหนือปุ่ม Power มีซ่อนไฟแจ้งเตือนด้วยนะครับ เป็นไฟสีเขียวซ่อนเอาไว้

ด้านล่างมีช่องสำหรับเชื่อมสายชาร์จครับ

ให้ดูความบางของอีกด้านหนึ่งครับ 

คุณสมบัติอย่างเป็นทางการจาก https://store.sony.com

• ซีพียู Tegra 2 Dual-Core ความเร็ว 1 GHz  กราฟฟิคชิพ ULP GeForce
• แรม 1 GB 
• หน้าจอขนาด 9.4 นิ้ว ความละเอียด 1280 x 800 พิกเซล (161 ppi) แสดงผล 16 ล้านสี พร้อมเทคโนโลยี TruBlack ที่แสดงผลสีดำได้ดำสนิท (ไม่เห็นไฟแบคไลท์) รองรับ Multitouch 10 จุด
• ระบบปฏิบัติการ Android Honeycomb 3.2.1 รองรับ ICS 4.0 ในอนาคต
• หน่วยความจำภายใน 16 GB/32 GB รองรับ SD การ์ดสูงสุด 32 GB
• การเชื่อมต่อ Bluetooth version 2.1 + EDR / Wi-Fi : IEEE802.11b/g/n (รุ่นที่จำหน่ายในไทยไม่รองรับ 3G) / IR remote control 
• กล้องหน้าความละเอียด 0.3 MP กล้องหลังความละเอียด 5.0 MP รองรับวิดีโอระดับ Full HD 1080p
• มี GPS และเข็มทิศดิจิตอล
• รองรับเกมส์ระดับ PlayStation PS1 / PSP ผ่าน PlayStation Store 
• แบตเตอรี่ แบบ Li-Ion ขนาด  5000mAh
• Video: 3gp, mp4, wmv, mkv (Codec: MPEG4, H.263, H.264, XviD)
  Audio: MP3, AAC, FLAC, WMA, WAV, OGG, MIDI

INTERFACE

ด้วยซีพียูความเร็วสูงแบบดูเอลคอร์และแรมที่ให้มาถึง 1GB น่าจะเป็นสเปคที่น่าจะสามารถใช้งาน Honeycomb ได้อย่างลื่นไหลสบายๆ

แต่ว่าครั้งแรกที่ได้เล่นดู มันกลับไม่ลื่นเท่าที่คาดหวัง ยังมีอาการหน่วงอยู่บ้างในบางจังหวะ ซึ่งน่าจะเกิดจากการปรับแต่งการแสดงผลให้มีกราฟฟิคและแอนิเมชั่นสวยงาม แต่มันก็สวยมากพอที่จะทำให้เรายอมรับความลื่นที่ลดลงไปบ้างได้อย่างไม่ยากเท่าไหร่ครับ 

ที่แอบแปลกใจคือตัว UI ไม่มีการใส่ Timescape หรือ UXP ที่เป็น UI เฉพาะของ Android Sony มาด้วย แม้กระทั่ง Widgets เฉพาะของ Sony ก็ไม่มีมาให้ แต่จะมีการปรับแต่งในตัว Android เลย เช่น ไอคอน และเมนูต่างๆ ที่จะคล้ายในเครื่อง Sony PlayStation 3 หน้าจอหลักในการทำงาน Sony ได้แบ่งออกเป็น 5 หน้า การเปลี่ยนหน้าทำได้ลื่นไหลไม่มีหน่วง มีลูกเล่น 3 มิติ เล็กน้อย เวลาเลื่อนเปลี่ยนหน้าครับ 

มีการปรับแต่งเมนูเพิ่มขึ้นมาจาก Android ปกติ คือ ด้านซ้ายบน ด้านขวาของปุ่มค้นหาจะมีเมนูเรียงอยู่อีก 4 เมนู คือ Web Browser , E-mail , Remote , Social Feed Reader ส่วน ฝั่งด้านขวาจะมีไอคอน Favourites เพิ่มขึ้นมาครับ

Web Browser แสดงผลได้รวดเร็ว มีการปรับแต่งสีเมนูเป็นโทนสีดำ สวยดีครับ 

E-mail แสดงผลครบถ้วน เหมือนเล่นบนเครื่องคอมพิวเตอร์เลยละครับ มีการดึงข้อมูล Folder เหมือนที่เราตั้งไว้มาแสดงผลได้เนียนดีครับ

Remote control

ฟังค์ชั่นนี้ เป็นหนึ่งในจุดเด่นของ Tablet รุ่นนี้เลยครับ ด้วยแนวคิดที่ว่า เรานิยมใช้ Tablet ที่บ้านมากกว่านอกบ้าน Sony เลยจับ IR มาใส่ใน Tablet ซะเลย เพื่อให้สามารถใช้ Tablet แทนรีโมตคอนโทรลควบคุมอุปกรณ์ต่างๆภายในบ้านได้ซะเลย แน่นอนว่าใช้ได้กับหลายยี่ห้อครับ ไม่จำเป็นต้องเป็นของ Sony เท่านั้น

เมื่อเราเข้ามาโปรแกรมจะให้เราทำการ Register อุปกรณ์ที่จะเชื่อมต่อก่อนครับ

จากนั้นก็จะมีให้เลือกประเภทของอุปกรณ์ที่เราจะทำการเชื่อมต่อก่อน มีให้เลือกเยอะเหมือนกันครับ

จากนั้นก็เลือกยี่ห้อ ตรงนี้มีให้เลือกเยอะมากครับ เป็นสิบๆยี่ห้อเลย แบรนด์ดังมาครบครันครับ แบรนด์แปลกๆก็มีเยอะนะครับ 

ถ้าเกิดว่า เราหาไม่เจอ เราสามารถใช้วิธี Copy สัญญาณได้ด้วยนะครับ ด้วยการเอารีโมตที่เรามีจ่อกับ Tablet ได้เลย

หลังจาก Register เสร็จแล้ว เราก็ใช้งานได้ทันทีครับ ที่สำคัญเราสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้หลายชิ้นและบันทึกค่าไว้ได้ด้วยครับ เก็บรีโมตตัวเก่าไปได้เลย 

มาต่อกันที่โปรแกรมถัดไปครับ

Social Feed Reader เป็นโปรแกรมสำหรับอัพเดตสเตตัสจาก Twitter และ Facebook ได้อย่างรวดเร็วครับ

หน้าตาการแสดงผลเรียบง่ายแต่สวยงามครับ ใช้สัญลักษณ์ในการแยกประเภทว่าเป็นโพสที่มาจาก Facebook หรือ Twitter สามารถเขียนโพส Status ใหม่ พร้อมแนบรูป รวมถึงการ Search และ Filter การแสดงผลได้ด้วยครับ

เราสามารถกด Like และ Comment หรือ Reply, Retweet ได้โดยตรงผ่านแอปฯ นี้เลยครับ สะดวกดี

มาดูต่อกันที่...เมนู Favorites ครับ

เป็นทางลัดสำหรับเรียกใช้งาน สิ่งที่เราเรียกใช้บ่อยๆ  เมื่อเรากดเข้ามา จะมี Shortcut 9 รายการที่เราสามารถตั้งค่าได้ครับ

Applications ใช้พื้นหลังโทนสีขาว มีลูกเล่นการแสดงผลเวลาเราทำการลากเพื่อเลื่อนหน้าจอ จะมีการกระจายไอคอนดูมีชีวิตชีวาดีครับ

MULTIMEDIA

มาเจาะลึกด้านมัลติมีเดียกันหน่อยครับ เพราะขึ้นชื่อว่า Sony ชื่อเสียงของ Walkman และ Cybershot นั้นโด่งดังอยู่แล้ว และไม่ผิดหวังครับ Sony ใส่เครื่องเล่นเพลงเฉพาะตัวมาแบบที่เรียกว่า สวยงามและน่าใช้งานมากครับ (ไม่ได้โม้ มันเหนือกว่าด้วยรายละเอียดจริงๆ)

Sony มี Music Player ให้มาถึง 2 โปรแกรม ครับ 

เรามาดูกันที่โปรแกรมแรกกันก่อน ตัวแรกมีชื่อว่า Music ครับ ตัวนี้เหมาะกับการฟังเพลงแบบเรื่อยๆ ที่ไม่ต้องการปรับแต่งอะไรมากครับ การแสดงผลจะแสดงผลแยกเป็นอัลบั้ม ซ้อนกันเป็น 3 มิติ โดยที่ปกแผ่นแรก จะเป็นคำสั่ง Shuffle ครับ อยากฟังอัลบั้มไหน ก็กดเข้าไปเลยครับ หรือถ้าคิดไม่ออกว่าจะฟังอะไรดี กด Shuffle all  โปรแกรมจะสุ่มเพลงให้เองครับ โดยสุ่มจากอัลบั้มทั้งหมดในเครื่องของเรา

ส่วนอีกโปรแกรมหนึ่งชื่อว่า Music Player โปรแกรมนี้ จัดเต็มครับ ทั้งการแสดงผล ลูกเล่น และการปรับแต่งต่างๆ
เมื่อเราเรียกโปรแกรมนี้ขึ้นมา ด้านบนจะเป็นแถบควบคุมเครื่องเล่นเพลงครับ ด้านซ้ายมือเป็นเมนูสำหรับการจัดการการแสดงผล โดยค่าเริ่มต้นนั้น จะเหมือนเป็นโต๊ะที่เราวางแผ่น CD กองไว้ เราสามารถลากแผ่นซีดีไปมาได้ และการกดไปที่ CD ก็จะเป็นการเล่นเพลงในแผ่นทันที

แต่การแสดงผลแบบนี้แม้จะสวยงามและเก๋ แต่ว่าถ้าเกิดเรามีอัลบั้มในเครื่องเยอะๆ CD จะกองทับกันจนยากที่จะมองหาแผ่นที่ต้องการได้ครับ ดังนั้นถ้าเพลงในเครื่องเราเยอะ ให้ใช้การแสดงผลแบบ Libraly จะดีกว่า

นอกจากนี้ยังมีฟังค์ชั่น SensMe ที่เป็นอีกลูกเล่นหนึ่งบน Walkman ของ Sony ใส่มาให้ด้วย ลูกเล่นนี้จะทำการเล่นเพลงตามอารมณ์ของผู้ฟังได้ครับ โดยจับจังหวะจากการเคลื่อนไหว

สำหรับการควบคุมการเล่นเพลงนั้นเมื่อเรากดแตะไปที่ ปกเพลง มุมซ้ายบน จะเป็นการแสดงผลการเล่นแบบเต็มจอ
สามารถใส่ปกอัลบั้มและเนื้อร้องได้ด้วยครับ

มีลูกเล่นให้ปรับแต่งใน Setting ดังนี้ครับ

• Equalizer ปรับแต่งแนวเสียง มีทั้งแบบสำเร็จรูป และปรับแบบ Custom 

• Dynamic normalize ที่จะควบคุมให้ความดังของแต่ละเพลง นั้นมีเสียงดังเท่ากัน
• xLOUD เพิ่มความดังให้กับลำโพงครับ (ใช้ในกรณีที่ไฟล์เพลงนั้นเบากว่าปกติ)
• Clear Phase ปรับปรุงคุณภาพเสียงให้กับลำโพงครับ ลดนอยซ์ของเสียงที่แตกพร่า เมื่อเปิดเสียงดังๆ
• Update database ใช้รีเฟรชเพลงภายในเครื่องครับ
• About Music Player บอกรายละเอียดของเครื่องเล่น

สำหรับคุณภาพเสียง ถือว่าผ่านมาตรฐานครับ เสียงออกแนว FLAT แต่ว่าแอบผิดหวังเล็กๆ เพราะผมคาดหวังว่า Sony จะใส่ระบบเสียงใน Walkman อย่าง S-Master , Noise Cancelling มาให้ด้วย

การเล่นวิดีโอ

สามารถแสดงรายการวิดีโอบนเครื่องได้ 3 แบบ คือ Grid view, List view และ Cover art view ครับ

การเล่นวิดีโอ มีการควบคุมไม่ต่างจากเครื่องเล่นเพลงมากนัก ต่างกันแค่เพียงที่ไม่สามารถปรับ Equalizer ได้ แต่จะเป็นการ Zoom ภาพแทนครับ

ขอชมเรื่องลำโพงนะครับ ว่า Tablet ตัวนี้ลำโพง เสียงเค้าดังดีจริงๆ และให้เสียงค่อนข้างใสใช้ได้ทีเดียวละ

ในด้านมัลติมีเดีย Sony Tablet S ก็ให้มาค่อนข้างครบครันนะครับ แต่ว่ามีสิ่งที่ขาดไปอยู่บ้างคือ ไม่มีช่องสำหรับต่อ Video Out ครับ แต่ว่า Sony ใส่เทคโนโลยี DLNA ที่จะแบ่งปันไฟล์ภาพและเสียงรวมถึงวิดีโอผ่าน Wi-Fi ไปหาอุปกรณ์อื่นที่รองรับได้อย่างง่ายดาย เพียงแต่ ในปัจจุบันยังมีอุปกรณ์ที่รองรับได้น้อยอยู่

Camera

หน้าตาเรียบๆ ไม่หวือหวา ไม่มี Filter ในการถ่ายภาพ สามารถปรับได้แค่ WB, EV และตัวช่วยถ่ายในสถานการณ์ต่างๆเท่านั้นครับ

เมื่อเราเข้าสู่โหมดกล้อง Sony จะไม่ใช้ทั้งจอเป็น Viewfinder แต่จะย่อเหลือเพียงกรอบตรงกลางเท่านั้น  ด้านซ้ายมือจะเรียงเมนูการปรับแต่งต่างๆไว้ ปกติจะแสดงเมนูแค่แถวเดียว แต่กดขยายออกมาเป็น 2 แถวได้ ด้านขวามือจะมีปุ่มกด Shutter ขนาดใหญ่(มาก) ก็ดีครับ เวลากดถ่ายรูปกดง่ายดี เหนือปุ่ม Shutter จะเป็นปุ่มสำหรับสลับกล้องหน้า/หลัง และเมื่อเราทำการถ่ายภาพ รูปจะถูกเก็บลงบนแผ่นฟิลม์ด้านล่างดู Retro ดีครับ 

สำหรับคุณภาพของกล้อง

ด้วยกล้องหลังความละเอียด 5 MP พร้อม Auto-Focus คุณภาพของภาพถ่าย อยู่ในเกณฑ์รับได้ การถ่ายภาพกลางแจ้งทำได้ประทับใจ สีที่ได้ใกล้เคียงกับธรรมชาติโทนออกแนวนุ่มนวล การถ่ายภาพระยะใกล้จับโฟกัสได้ดีพอตัว แต่อย่างไรก็ตาม การถ่ายในที่ร่มทำได้ไม่ดีนัก ค่อนข้างติด Grain และ Noise และการที่ไม่มี Flash ด้วย ทำให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อยยังไม่ประทับใจเท่าที่ควร (ผมว่าถ้า Sony จับ Exmor R มาใส่ให้ด้วยนี่จะเยี่ยมไปเลย)

ภาพจากกล้องหลัง

ภาพจากกล้องหน้า

การบันทึกวิดีโอ

PlayStation Certified

Sony ได้พยายามใช้สื่อต่างๆที่ตนเองมีในมือ มาเป็นจุดขายในอุปกรณ์ของตนเอง หนึ่งในนั้นก็คือระบบ "PlayStation Certified" ที่จะอนุญาตให้ สามารถติดตั้งเกมจาก PlayStation มาเล่นได้ผ่าน PlayStation Store โดยเกมที่จะมีมาให้กับเครื่องเลย คือ เกม Crash Bandicoot และสำหรับคนที่ไม่ถนัดการเล่นผ่านทัชสกรีน สามารถใช้คอนโทรเลอร์ของเครื่อง PS3 มาเชื่อมต่อเพื่อควบคุมเกมได้ครับ 

E-Book Reader

แน่นอนว่า Tablet ทุกตัวต้องอ่าน E-Book ได้  ทาง Sony ก็มีแอปฯเฉพาะตัว Sony Reader ให้มาครับ เราจะลาก E-Book ที่เรามีอยู่แล้วใส่ไว้ในเครื่องโดยตรง หรือโหลดผ่านร้านหนังสือบนแอปฯครับ

การแสดงผลแบ่งออกเป็น 2 แบบตามลักษณะการถือ ถ้าแนวนอนจะแสดงผล 2 หน้า แนวตั้งจะแสดงผล หน้าเดียว การเปลี่ยนหน้าใช้การแตะที่ขอบซ้ายเพื่อกลับหน้าเดิมหรือขอบขวาเพื่อไปยังหน้าต่อไป การเปลี่ยนหน้าไม่มีลูกเล่นอะไร เรียบๆครับ

สมรรถนะ

จากการใช้งานทั่วไป ก็ไม่พบอาการหน่วงหรือ Force Close นะครับ อย่างไรก็ตาม ผมได้ทำการทดสอบความแรงด้วยโปรแกรมต่างๆมาให้ชมด้วยครับ

ทดสอบด้วย Neocore ได้ 47.7 ครับ

ทดสอบด้วย Quadrant Standard

ทดสอบด้วย Antutu Benchmark

ทดสอบการเล่นเกม 3 มิติ ด้วยเกม Brother In Arms ครับ

แบตเตอรี่ ความจุ 5,000 mAH ให้มาค่อนข้างน้อยหากเทียบกับคู่แข่ง แต่จากประสบการณ์ตรงจากใช้ ก็เพียงพอต่อ 1 วัน อย่างสบายๆ ผมตั้งค่าความสว่างหน้าจอแบบปรับอัตโนมัติ เล่นเว็บ เช็คอีเมล รวมถึงการถ่ายรูปและเล่นเกม จบวัน ยังเหลือแบตราวๆ 25% ครับ

บทสรุป

สำหรับผู้ที่สนใจจะหา Tablet ดีๆมาใช้สักตัว และเบื่อการออกแบบอันซ้ำซาก จำเจในท้องตลาด Sony Tablet S เป็นตัวเลือกที่ดี ด้วยดีไซน์ที่ไม่เหมือนใคร ออกแบบโดยคำนึงถึงความสะดวกสบายขณะใช้งานเป็นหลัก สามารถตอบสนองการใช้งานด้านมัลติมีเดียอย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมหรือควบคุมเครื่องใช้ต่างๆภายในบ้าน
อย่างไรก็ดีถ้าตั้งใจจะซื้อมาเล่นเกมเพียงอย่างเดียว ตอนนี้ในประเทศไทย PlayStation Store ยังไม่เปิดให้ดาวน์ โหลดนะครับ