MITSUTA MAP450 เครื่องฟอกอากาศในราคาน่ารักๆ ที่ใครก็เป็นเจ้าของได้ไม่ยาก ดีไซน์ตัวเครื่องสีขาวสะอาดตา ตัวเครื่องไม่ใหญ่โต หาที่จัดวางได้ไม่ยาก และเข้ากับสไตล์การตกแต่งที่พักอาศัยได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับการใช้งานในห้องที่มีพื้นที่ขนาด 30-40 ตารางเมตร
และด้วยความจริงที่ว่า สภาพอากาศในปัจจุบันเต็มไปด้วยมลพิษและเชื้อโรค กลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อ และ แพร่เชื้อ ส่งผลเสียต่อผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ หรือโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ แน่นอนว่าเราไม่สามารถควบคุมสภาพแวดล้อมภายนอกได้ แต่เราสามารถทำให้อากาศภายในบ้าน หรือในสำนักงานของเราดีขึ้น ทำให้ห้องของเรา บ้านของเรากลายเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยอย่างแท้จริงด้วยเครื่องฟอกอากาศดีๆ สักเครื่อง
น้ำหนักตัวเครื่องเบา ขนย้ายไปใช้งานในห้องต่างๆ ของบ้านได้สะดวก และประหยัดไฟ เพราะมีการเคลมว่าเจ้าเครื่องฟอกอากาศนี้ กินไฟเพียง 25 สตางค์ต่อชั่วโมง คือถ้าเปิดเครื่องวันละ 8 ชั่วโมง ก็จ่ายค่าไฟเพียงวันละ 2 บาทเท่านั้น
ข้อดี
| ข้อสังเกต
|
แผงปุ่มกดที่อยู่ทางด้านบนตัวเครื่อง
การใช้งานเครื่องฟอกอากาศตัวนี้ก็ไม่มีอะไรยุ่งยากครับ แค่เพียงยกตัวเครื่องไปตั้งวางในห้องที่ต้องการใช้งาน จากนั้นก็เสียบปลั๊กแล้วสั่งงานผ่านปุ่มกดที่อยู่ทางด้านบนตัวเครื่อง โดยที่แต่ละปุ่มมีหน้าที่ดังนี้
และเราสามารถใช้ปุ่ม Timer นับเวลาถอยหลังเพื่อปิดเครื่องอัตโนมัติได้ด้วย โดยการกดปุ่มนี้ในขณะที่เครื่องกำลังทำงานอยู่ ก็จะตั้งเวลาปิดเครื่องไว้ที่ 1 , 2 หรือ 4 ชั่วโมงได้ตามต้องการ เหมาะสำหรับในกรณีที่เราจะออกไปเที่ยว หรือออกไปทำงาน แต่ยังไม่อยากให้ปิดเครื่องในทันที ก็สามารถตั้งเวลาให้เครื่องปิดลงในภายหลังได้
ถึงแม้จะเป็นเครื่องฟอกอากาศราคาย่อมเยา แต่มีระบบฟอกอากาศถึง 6 ขั้นตอน โดยมีรายละเอียดดังนี้
ความพิเศษของเครื่องฟอกอากาศนี้คือ ขั้นตอนการฟอกอากาศตั้งแต่ขั้นที่ 1 - 5 นั้นรวมอยูในรูปแบบของไส้กรองชิ้นเดียวทำให้ง่ายกับการถอดเปลี่ยน โดยไส้กรองชิ้นนี้มีราคา 1,000 บาท และเพื่อประสิทธิภาพในการทำงาน ก็ควรเปลี่ยนไส้กรองปีละครั้ง
ขั้นตอนการถอดชิ้นไส้กรองออกมาจากเครื่อง ขั้นแรกให้ดึงถอดฝาครอบชิ้นใหญ่ทางด้านหน้าตัวเครื่องออก จะเห็นชิ้นไส้กรองขนาดใหญ่อยู่ภายใน ถอดออกมาได้เลย
ทดสอบประสิทธิภาพของเจ้า MITSUTA MAP450 ในห้องที่มีขนาดประมาณ 30 ตารางเมตร ด้วยการเปิดแรงพัดลมดูดที่ระดับสูงสุด (3) เนื่องจากในห้องที่เราทดสอบมีปริมาณฝุ่น PM 2.5 อยู่ในระดับประมาณ 46 ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่สูงอยู่เล็กน้อย พร้อมด้วยเปิดการปล่อยประจุไอออนลบ (Ion) เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็ก และเราทำการวัดปริมาณฝุ่น PM 2.5 ในห้อง ด้วยเครื่องวัดของแบรนด์ Xiaomi
เครื่องวัดปริมาณผุ่น PM 2.5 ของแบรนด์ Xiaomi
คลิกเพื่อขยายดูภาพขนาดใหญ่
ผลก็ออกมาตามกราฟด้านบนนี้ครับ โดยเมื่อเราสั่งเปิดการทำงานของเครื่องฟอกอากาศ บนหน้าจอเครื่องวัดปริมาณฝุ่น PM 2.5 ของ Xiaomi รายงานว่าปริมาณฝุ่นในห้องอยู่ที่ระดับ 46.1 ซึ่งตามมาตรฐานแล้ว เป็นระดับค่า PM 2.5 ที่อยู่ในโซนสีเขียวคือ มีคุณภาพอากาศดี และเมื่อปล่อยให้เครื่องทำงาน ปริมาณ PM 2.5 ก็ลดลงเรื่อยๆ พอเมื่อเวลาผ่านไป 10 นาที ปริมาณฝุ่นก็ลดลงจนต่ำกว่าระดับ 26 ซึ่งตามมาตรฐานแล้ว เป็นระดับค่า PM 2.5 ที่อยู่ในโซนสีฟ้าคือ มีคุณภาพอากาศดีมาก และเมื่อปล่อยให้เครื่องทำงานไปเรื่อยๆ ระดับค่า PM 2.5 ในห้องก็สวิงตัวอยู่ในระดับ 12 - 16 ซึ่งก็เป็นระดับคุณภาพอากาศที่ดีมาก โดยเมื่อพิจารณาในเรื่องของค่า PM 2.5 ก็ต้องบอกว่า เจ้าเครื่องฟอกอากาศตัวนี้ สามารถรับมือกับฝุ่น PM 2.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เครื่องฟอกอากาศขนาดกลาง ในราคาน่ารักๆ ที่เป็นเจ้าของได้ไม่ยาก เหมาะสำหรับการใช้งานในห้องที่มีขนาด 30 - 40 ตร.ม. การใช้งานก็ง่ายๆ ไม่ต่างอะไรกับพัดลมตั้งพื้น แค่เปิดเครื่อง ตั้งความเร็วรอบพัดลม แล้วปล่อยให้มันทำงาน แถมยังตั้งเวลาให้เปิด/ปิดเครื่องอัตโนมัติได้ด้วย และจัดการกับฝุ่น PM 2.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
|
ไม่เสพติดไอที แต่ชอบเสพข่าวเทคโนโลยี หาความรู้ใหม่ๆ มาใส่สมอง |