จุดเด่น
| ข้อสังเกต
|
เป็นอีกเทรนด์หนึ่งที่น่าสนใจสำหรับการใช้ผลิตภัณฑ์โปรเจคเตอร์สร้างโรงฉายหนังภายในบ้าน ที่ได้คุณภาพของภาพและอารมณ์เหมือนอย่างโรงภาพยนตร์ในห้าง แต่สุขกายสบายใจกว่าเพราะอยู่ในบ้านแสนสุขของเราเอง และนอกจากฟีลลิ่งเบื้องต้นที่กล่าวมาแล้ว การใช้โปรเจคเตอร์ฉายหนังแทนทีวี ทำให้เราได้ ชมภาพยนตร์บนจอที่ใหญ่กว่า ในราคาที่ถูกกว่า หลายเท่าตัวอีกด้วย ซึ่งบทความนี้ เราหยิบ โปรเจคเตอร์ BenQ W1700M มาแนะนำให้ได้รู้จักกัน
โปรเจคเตอร์ BenQ W1700M เป็นโปรเจคเตอร์ดูหนัง 4K ที่ได้รับการอัพเกรดมาจาก BenQ W1700 ที่เปิดตัวไปเมื่อปลายปี 2017 ถูกจัดอยู่ในกลุ่มโปรเจคเตอร์สำหรับการชมภาพยนตร์ภายในบ้านระดับเริ่มต้น ที่มีทั้งความคมชัด สีสันที่แม่นยำไม่ผิดเพี้ยน รวมทั้งระยะการฉายเพียง 3 เมตรนิดๆ ก็ได้รับชมภาพยนตร์ที่จอขนาดใหญ่เทียบเท่า 100 นิ้ว กันเลยทีเดียว โดยมันสามารถรองรับได้สูงสุด 300 นิ้ว (ถ้ามีพื้นที่) ถือว่าเป็นโปรเจคเตอร์ดูหนัง ระดับเริ่มต้น สำหรับคนที่ต้องการดูหนังความละเอียดระดับ 4K ได้ฟิลลิ่งแบบอยู่ในโรงหนัง
โปรเจคเตอร์ดูหนัง BenQ W1700M ถูกจัดอยู่ในกลุ่มโปรเจคเตอร์ 4K สำหรับดูหนังรุ่นเริ่มต้น จึงถูกดีไซน์ตัวเครื่องให้ดูมีความเป็นมิตรกับผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นตัวเครื่องบอดี้สีขาว ที่เข้ากับเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านได้เป็นอย่างดี มีหน้ากากด้านหน้าสีเทาดำพร้อมขอบสีทองบริเวณช่องเลนส์ที่ทำให้ตัวเครื่องไม่ดูขาวโพลนจนเกินไป ด้านปุ่มควบคุมและวงแหวนปรับเลนส์ก็ถูกออกแบบให้ใช้งานง่าย เหมาะกับผู้ใช้งานมือใหม่ (W1700M ใช้ดีไซน์เดียวกับรุ่น W1700)
สำหรับการติดตั้งใช้งาน โปรเจคเตอร์ดูหนัง BenQ W1700M สามารถติดตั้งแบบวางบนโต๊ะ หรือแขวนผนังก็ได้ การติดตั้งบนโต๊ะ จะมีขาตั้ง 3 ขา ที่สามารถปรับระดับความสูงได้เล็กน้อยประมาณ 2 - 3 เซนติเมตร เพื่อให้หน้าจอตรงและสมมาตรกับฉาก
ด้านข้างของตัวเครื่องเป็นช่องสำหรับระบายความร้อนและลำโพงดอกเล็กๆ ส่วนพอร์ตต่างๆ จะอยู่ด้านหลังทั้งหมด ซึ่งก็จะเหมือนกับ W1700 เป๊ะๆ ไม่ว่าจะเป็น
ระยะการฉายของ โปรเจคเตอร์ดูหนัง BenQ W1700M จะอยู่ที่ 3.32 เมตร ก็จะได้ขนาดหน้าจอที่กว้างถึง 100 นิ้วด้วยกัน (วัดตามแนวทแยง) สามารถถอยโปรเจคเตอร์เพิ่มระยะฉายเพื่อขยายหน้าจอให้ไกลสุดได้ถึง 300 นิ้ว มี Keystone ที่สามารถปรับให้จอตรงอัตโนมัติ มีวงแหวนซูม 1.1x ที่สามารถปรับขนาดจอได้เล็กน้อย (เผื่อฉายบนฉากแล้วล้นหรือไม่เต็มใบ)
ตัวรีโมทก็มีปุ่มเมนูสำหรับการใช้งานครบถ้วน และแน่นอนว่าการใช้งานโปรเจคเตอร์ส่วนใหญ่จะอยู่ในห้องมืด ตัวรีโมทจึงมีแสงไฟสำหรับการใช้งานในห้องที่ไม่มีแสงสว่างได้
โปรเจคเตอร์ดูหนัง BenQ W1700M รองรับการฉายภาพความละเอียดถึงระดับ 4K (8.3 ล้านพิกเซล - 3840 x 2160 พิกเซล) ซึ่งเป็นบรรทัดฐานใหม่ของเครื่องฉายภาพหรือจอแสดงผลในปัจจุบัน ซึ่งถ้าหากว่าตัวเนื้อหาที่ฉายมีความละเอียดไม่ถึง 4K ตัวเครื่องก็มีเมนู Pixel Enhancer 4K ที่ช่วยให้ภาพมีความคมชัดมากขึ่นได้อีกด้วย รวมทั้งยังมีเทคโนโลยี HDR10 และ HLG ที่ช่วยแสดงรายละเอียดทั้งภาพในโทนมืดและสว่างให้ดูมีมิติใกล้เคียงกับที่ตาเห็นมากขึ้น
นอกจากเรื่องความละเอียดของภาพแล้ว เรื่องสีที่ควรกังวลของการใช้งานโปรเจคเตอร์ก็ไม่น่าห่วง เนื่องจาก BenQ มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่เรียกว่า CinematicColor ที่ให้สีสันของภาพตรงกับความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนกำลังดูหนังในโรงภาพยนตร์
โดย โปรเจคเตอร์ดูหนัง BenQ W1700M ได้รับการรับรองเรื่องความถูกต้องของสีทั้งใน Certificate ภายในกล่องสินค้า ว่าโปรเจคเตอร์ทุกเครื่องได้รับการ Calibrate สีจากโรงงานเป็นที่เรียบร้อย รวมทั้งในรุ่น W1700M ยังมีขอบเขตสีที่กว้างถึง Rec.709 100% ซึ่งครอบคลุมสีมากกว่า W1700 ซึ่งเป็นรุ่นก่อนหน้าที่ครอบคลุมเพียง Rec.709 96% อีกด้วย
แหล่งกำเนิดสีของอุปกรณ์ฉายภาพประกอบด้วยกลุ่มสี RGB (แดง/เขียว/น้ำเงิน) ซึ่งแต่ละสีจะมีอุณหภูมิสีที่ไม่เท่ากัน การใช้แสงในการส่งผ่านสีแต่ละสีจึงใช้ในปริมาณที่เท่ากันไม่ได้ อย่างเช่น สีน้ำเงิน ถ้าให้แสงในปริมาณที่มากเกินไป สีก็จะอ่อนลงไม่เป็นสีน้ำเงินตามที่ต้องการ ทาง BenQ จึงได้ค้นคว้าวิจัยแหล่งกำเนิดแสงผ่านวงล้อสี RGBRGB ที่ให้แสงไม่เท่ากันตามความต้องการของแต่ละสีนั่นเอง
| |
|
มาตรฐานสี Rec. 709 |
สำหรับการเล่นไฟล์ 3 มิติ โปรเจคเตอร์ก็รองรับรูปแบบการเล่นไฟล์ 3D ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแบบ Frame Sequencial, Frame Packing, Top-Bottom และ Side-by-Side ซึ่งจะเปิดฟังก์ชั่น Auto ก็ได้ ถ้าไม่ทราบว่าไฟล์ที่ได้รับมาเป็นรูปแบบไหน ส่วนการรับชมคอนเทนท์ประเภท 3 มิติก็ต้องใช้แว่น 3D Glasses ที่ต้องซื้อเพิ่มเติมนะครับ ตัวเครื่องไม่ได้ให้มาด้วย
BenQ W1700M เป็นโปรเจคเตอร์ที่ออกแบบมาเพื่อดูหนังโดยเฉพาะ จึงให้ค่าความสว่าง 2,000AL ดังนั้นพื้นที่ที่ต้องการใช้งานก็ควรเป็นห้องที่สามารถควบคุมแสงได้ ก็เหมือนกับโรงภาพยนตร์ที่เราไปดูหนัง
ใน Picture Mode จะมีโหมด Bright ที่ให้แสงมากกว่าปกติ แต่การบูสแสงจะทำให้ภาพออกโทนเขียวๆ หน่อย ซึ่งเอาจริงๆ แล้ว ก็หาพื้นที่มืดๆ ในการฉายโปรเจคเตอร์จะดีกว่า
เปรียบเทียบ Bright Mode กับโหมดปกติ
ถึงแม้ว่าจะเป็นลำโพงติดตัวเครื่องโปรเจคเตอร์มา แต่ด้วยความที่มีซับวูฟเฟอร์ (Subwoofer) ดอกเล็กๆ อยู่ด้วย จึงทำให้ลำโพงสามารถขับเสียงเบส หรือเสียงทุ้ม ออกมาให้สัมผัสได้อยู่บ้าง ทำให้เสียงมีมิติอยู่บ้างไม่แบนจนเกินไป ใช้ควบคู่กับการดูภาพยนตร์ในช่วงใช้งานแรกๆ ได้อยู่ แต่ถ้าเอาจริงๆ ก็หาลำโพงดีๆ มาเพิ่ม เพื่ออรรถรสที่คุ้มค่ากับภาพสวยๆ ที่ได้จากโปรเจคเตอร์ดีกว่า
โปรเจคเตอร์ดูหนัง BenQ W1700M มีโหมดยืดอายุการใช้งานของโคมไฟโปรเจคเตอร์ในชื่อ LampSave ซึ่งปกติแล้วการใช้งานปกติ โคมไฟจะมีอายุการใช้งานประมาณ 4,000 ชั่วโมง ซึ่งถ้าเปลี่ยนไปใช้โหมด LampSave ก็จะทำให้มีอายุการใช้งานได้นานขึ้นถึง 15,000 ชั่วโมงด้วยกัน (นอกจากนี้ยังมีโหมด SmartEco และ Economic ที่ให้อายุการใช้งาน 8,000 และ 10,000 ชั่วโมงตามลำดับ)
สำหรับ โปรเจคเตอร์ดูหนัง BenQ W1700M ก็ถือว่าเป็นโปรเจคเตอร์สำหรับการฉายหนังภายในบ้านระดับเริ่มต้นที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลย ไม่ว่าจะเป็นความละเอียดที่สูงถึง 4K ความแม่นยำของสีที่ไว้ใจได้ว่าจะไม่ทำให้เสียอรรถรสด้วยมาตรฐาน Rec. 709 ที่ครอบคลุมขอบเขตสีถึง 100% ทำให้เราเห็นสีได้มากขึ้นซึ่งได้ภาพและอารมณ์ตรงตามที่ผู้กำกับต้องการ รวมทั้งการใช้งานที่ง่ายมาก ทั้งการติดตั้งและเลือกใช้งานเมนูต่างๆ
แต่ด้วยความที่เป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Home Use ก็จะมีการใช้งานที่เจาะจงโดยเฉพาะ ที่เหมาะกับการฉายหนังดูภายในห้องที่มีความมืดเพียงพอ จึงจะได้อรรถรสอย่างเต็มที่
|
... |