ความจริง 5 ข้อเกี่ยวกับศิลปินผู้อยู่เบื้องหลังเกมซีรีส์ Persona และ Catherine

ความจริง 5 ข้อเกี่ยวกับศิลปินผู้อยู่เบื้องหลังเกมซีรีส์ Persona และ Catherine

Shigenori Soejima (ต่อไปนี้จะเรียกว่า โซเอจิม่า) ถือเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการออกแบบงานศิลป์บางส่วนของแฟรนไชส์เกมในค่าย Atlus ซึ่งสไตล์และเอกลักษณ์เฉพาะตัวในงานศิลป์ของเขา ถูกใช้เพื่อแสดงถึงการต่อสู้กับการคอรัปชั่นของพวก Phantom Thieves ใน Persona 5 และสื่อถึงการแสดงออกทางเพศอย่างเปิดเผยในรักสามเส้าของ Catherine

ซึ่งการที่โซเอจิม่าเป็นเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในงานศิลป์หลักของเกมนี้เอง ทำให้ Atlus ตัดสินใจจัดงานแสดงภาพงานออกแบบต่างๆ ของเขาขึ้นที่ Gallery Nucleus ในเมืองอาลัมบรา รัฐแคลิฟอร์เนีย ทำให้ทางทีมงาน Gameinformer ได้มีโอกาสสัมภาษณ์เกี่ยวกับเส้นทางอาชีพของโซเอจิม่าและโปรเจกต์ในอนาคตข้างหน้ามาฝากกันค่ะ
 

1. ตอนแรกเขาคิดว่าผู้กำกับพูดเล่นเรื่อง Catherine...

การอกแบบตัวละคร Catherine นั้น ทำให้โซเอจิม่าได้ก้าวออกจากคอมฟอร์ทโซนและได้ลองอะไรใหม่ๆ เพื่องานนี้ ซึ่งเจ้าตัวเปรียบเทียบให้ฟังว่า "Catherine นั้นเป็นอะไรที่ค่อนข้างท้าทายต่อตัวผมเองที่จะลองเปลี่ยนชุดเปลี่ยนของสวมใส่ไปโดยสิ้นเชิงและสร้างอะไรใหม่ๆ ขึ้นมา ซึ่งความแตกต่างหลักๆ อันแรกเลยคือต้องทำให้ Catherine ดูเซ็กซี่และมีความดึงดูดทางเพศอย่างชัดเจน ทำให้การออกแบบนั้นผิดแผกออกไปจากซีรี่ส์อื่นๆ ของ Persona อย่างแน่นอน

ความขี้เล่นของ Catherine และความมีเสน่ห์ของตัวละคร คือสิ่งที่โซเอจิม่าคิดว่า "ท้าทายที่สุด" เพราะมันห่างไกลจากอะไรๆ ที่เคยทำมาก่อนหน้าเอามากๆ เลยทำให้ตัวเขาไม่แน่ใจว่า เมื่อทีมเสนอออกไปแล้ว ผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร "ตอนที่พวกเค้ามาหาผมทีแรกเพื่อให้ออกแบบตัวละครตัวนี้ให้ ผมคิดจริงๆ เลยนะว่าพวกเค้าแค่อำผมเล่น" เจ้าตัวพูดไปขำไป "Hashino (ฮาชิโนะ) รู้ว่าผมชอบวาดตัวละครแล้วออกแบบออกมาเป็นแนวไหน เพราะงั้นผมก็เลยรู้ว่าเค้าต้องการให้ผมทำให้สิ่งที่ผมไม่เคยทำมาก่อนแน่นอน"

2. รู้สึกกดดันในตอนที่ต้องเพิ่มระดับ "ความมีสไตล์" ให้มากขึ้น

สำหรับหลายๆ คนแล้ว เกม Persona กับคำว่า "มีสไตล์" นั้นถือเป็นสิ่งที่มาคู่กันตลอด และโซเอจิม่าคิดว่ามันเป็นสิ่งที่น่าทึ่งมากที่หลายคนคิดแบบนั้น ในความคิดของเขาเองแล้ว มันต้องใช้เวลาเหมือนกันกว่าจะไปถึงจุดนั้นได้ "ตอนที่ผมมองย้อนกลับมาที่ Persona ประมาณภาค 3 ผมไม่ได้รู้สึกว่ามันดูทันสมัยหรืออะไรเลย" เจ้าตัวเผย "เราแค่นำองค์ประกอบกราฟิกบางอย่างเพิ่มเข้ามา ซึ่งมันก็ไม่ได้ดูดีดูเก๋ดูเท่อะไรขนาดที่จะทำให้ทุกคนพูดถึงกันขนาดนั้น"

ความคาดหวังสูงของแฟนๆ กลายเป็นแรงขับเคลื่อนสำหรับทีม และกลายเป็นเครดิตที่ทำให้เกม Persona 5 นั้น มีการพัฒนาการออกมาในระดับที่เป็นอยู่ "หลังจากนั้น การทำเกม Persona 4 และ 5 ออกมา ก็เลยมีช่องว่างระยะเวลาที่ค่อนข้างห่างอยู่พอสมควร ซึ่งหลังจากที่ได้ยินว่า 'ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามันเป็นเกมที่มีเอกลักษณ์มากๆ' ก็ทำให้เกิดแรงกดดันกับทีมเพิ่มขึ้นด้วย" โซเอจิม่ารำลึกความหลัง "ผมคิดว่าการที่เราได้ยินฟีดแบคเหล่านั้นทำให้ทีมตอบสนองต่อความต้องการของแฟนๆ ได้ดีขึ้น และทำให้ Persona กลายเป็น Persona ในทุกวันนี้"
 

3. เมื่อการสร้างดีไซน์ตัวละครขึ้นอยู่กับจินตนาการของเขาล้วนๆ

ตัวละครในเกม Persona ทุกตัวล้วนมีบุคลิกและสไตล์ดั้งเดิมที่แตกต่างกันออกไป หลายคนอาจคิดว่า ขั้นตอนการวางแผนออกแบบตัวละครอาจมีความซับซ้อนหรือมีหลายขั้นตอนก่อนที่จะได้เอาออกมาใช้งานจริง  ซึ่งในความจริงแล้วก็ไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไป เพราะส่วนใหญ่แล้วภาพงานศิลป์จะถูกออกแบบมาก่อนเลยอันดับแรก "มันจะมีตัวละครบางตัวที่ถูกกำหนดลักษณะเฉพาะตัวไว้โดยเฉพาะอยู่ก่อนแล้ว" เขาเผย "แต่ในตัวละครหลักเช่นในภาค 5 ของ Phantom Thieves ผมเริ่มจากการพัฒนารูปวาดขึ้นมาก่อนในตอนที่ผู้กำกับพูดว่า 'ผมอยากให้เรื่องนี้เป็นศูนย์กลางของเด็กๆ ที่เป็นโจร' ซึ่งมีข้อมูลค่อนข้างเยอะในการจะเริ่มออกแบบ เพราะฉะนั้นพวกงานภาพต่างๆ ก็เลยออกมาก่อน หลังจากนั้นผมก็ค่อยไปคุยกับพวกคนเขียนบท, ผู้กำกับ, และดีไซเนอร์ในการทำให้งานศิลป์เหล่านั้นมันดูเมคเซ้นส์ขึ้นมาว่า ต้องเป็นแบบไหนถึงจะดู "ใช่" สำหรับเด็กกลุ่มนี้ และเพื่อทำให้ลักษณะนิสัยและตัวละครนั้นไปในทิศทางเดียวกัน

4. ตัวละคร Kasumi ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการ์ตูนคลาสสิกเรื่อง Archetype

ในภาค Persona 5 Royal โซเอจิม่าได้เอาตัวเองเข้าไปอยู่ในโลกของ Phantom Thieves ในขณะที่เพิ่ม 'ชีวิตใหม่' เข้าไปด้วย "มันเป็นอะไรที่ท้าทายเสมอเมื่อต้องใส่อะไรใหม่ๆ ลงไปในของหรืออะไรบางอย่างที่แฟนๆ รักอยู่แล้ว" เขากล่าว "ยกตัวอย่างเช่น Kasumi เราต้องการใครบางคนที่อยู่นอกกลุ่ม Phantom Thieves ใครคนนึงที่มองสถานการณ์ด้วยมุมมองที่แตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง และเราอยากให้เธออยู่ใกล้ชิดกับตัวละครหลักตัวใดตัวหนึ่งชนิดที่เป็นตัวสำคัญของเรื่อง ที่แฟนๆ จะสามารถเห็นเรื่องราวต่างๆ ได้ในมุมมองใหม่ๆ จากตัวละครใหม่

และเมื่อมาถึงการออกแบบตัวละคร Kasumi โซเอจิม่าใช้วิธีการกลับไปอ่านมังงะที่เขาเคยอ่านเพื่อหาแรงบันดาลใจ "ผมต้องการที่จะสร้างตัวละครที่เป็นคนตรงๆ แบบเถรตรง" เขาอธิบาย "ซึ่งอาจจะแตกต่างรูปแบบคนตะวันตกเล็กน้อย แต่ในญี่ปุ่นแล้ว มังงะที่ผมอ่านตอนโตมา ตัวละครหลัก (หญิง) จะไว้ผมหางม้าและมีกิจกรรมชมรมเป็นยิมนาสติกเสมอ ผมก็เลยต้องการตัวละครแบบที่เป็นตัวเอกแบบนี้แหละ ถ้าในโลกตะวันตกก็จะประมาณผู้หญิงที่เป็นเชียร์ลีดเดอร์นั่นแหละ ซึ่งตัวละครส่วนใหญ่ใน Persona 5 พวกเราจะชอบออกแบบให้มีมิติ มีเอกลักษณ์ และแตกต่างออกไปจากพื้นฐานที่ตัวละครทั่วๆ ไปควรจะเป็น แต่กับ Kasumi แล้ว เราอยากให้เป็นผู้หญิงแบบตรงไปตรงมามากกว่า 
 

5. Project Re Fantasy จะไม่เหมือนเกมอื่นที่เคยทำมา

ฮาชิโนะถือเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในเรื่องนี้อีกเช่นเดียวกันในการกระตุ้นโซเอจิม่าให้ออกจากคอมฟอร์ทโซน ในครั้งนี้เป็นการสร้างเกมใหม่ในชื่อ Project Re Fantasy ที่ยังไม่มีรายละเอียดอะไรถูกเปิดเผยออกมามากไปกว่าการเป็นเกม RPG แฟนตาซีและกำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนา ซึ่งในตอนนี้ก็ดูประสบความสำเร็จอยู่พอสมควร

"นี่จะเป็นอะไรที่แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิงกับงานอื่นๆ ที่ผมเคยทำมา ผมรักความแฟนตาซีมาตลอด แต่เมื่อผมลองเริ่มทำมันขึ้นมาจริงๆ ก็กลายเป็นว่าแบบ - 'เออ สรุปแล้วอะไรคือแฟนตาซีกันแน่ แล้วจะทำให้เป็นเกมแฟนตาซีที่มีความหมายกับโลกใบนี้ได้ยังไง แล้วเราจะจัดมันไปอยู่ในเกมหมวดหมู่ไหน ประเภทไหนดี' ซึ่งก็มีการลองผิดลองถูกเต็มไปหมด แถมยังต้องมานั่งคิดด้วยว่าจะจัดให้มันไปอยู่ในแนวไหน และจะสร้างมันขึ้นมายังไง"

"และผมก็รู้สึกว่า ในที่สุด เราก็ได้จุดยืนและทิศทางที่สามารถเดินไปข้างหน้าได้แล้ว และหวังว่าเราจะได้แสดงบางอย่างให้ทุกคนได้เห็นในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งมันจะเป็นออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ และเป็นสิ่งที่แฟนๆ มองหาอยู่อย่างแน่นอน"

อนึ่ง เกม Persona 5 Royal มีกำหนดวางขายในวันที่ 31 มีนาคมนี้ ทั่วโลก