ไม่ว่าเทรนด์สมาร์ทโฟนจะเป็นอย่างไร แต่มีสมาร์ทโฟนประเภทนึงที่ไม่มีวันตาย และยังมีหลายๆ แบรนด์เปิดตัว จำหน่ายเรื่อยๆ ก็คือ เกมมิ่งสมาร์ทโฟน และซีรีส์ที่น่าจะติดหูติดตาหลายๆ คนก็คือ ซีรีส์ ROG Phone จากแบรนด์ ASUS แม้สมาร์ทโฟนซีรีส์อื่นจากแบรนด์นี้จะไม่ได้ทำตลาดในไทยแล้ว แต่ซีรีส์ ROG Phone ก็ยังส่งมาให้แฟนๆ ได้ชื่นใจ
ข้อดี
| ข้อสังเกต
|
เรียกได้ว่ามือถือ ROG Phone 3 มีความสวยงาม พิถีพิถันในการออกแบบตั้งแต่กล่อง Packaging กันเลยทีเดียว แต่ในส่วนของอุปกรณ์เสริมก็เรียกได้ว่าใส่มาให้ครบครันเช่นกัน ได้แก่
เริ่มด้วยส่วนสำคัญที่ต่อให้ไม่ใช่เกมมิ่งสมาร์ทโฟน ก็ต้องใช้สิ่งนี้เพื่อสั่งการ เลือกเมนู และอื่นๆ นั่นก็คือหน้าจอแสดงผล โดยมือถือ ROG Phone 3 ใช้หน้าจอ AMOLED 6.59 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2340 พิกเซล เมนูดีไซน์สวยเข้ากับตัวเครื่องด้วย ROG UI มีจุดเด่นอย่างอัตรารีเฟรชเรตสูงถึง 144Hz ที่แสดงภาพเคลื่อนไหวได้ลื่นไหลดีมากๆ และอัตราการตอบสนองของหน้าจอ 270Hz รวมถึงความเที่ยงตรงของการแสดงสีสันนั้นสูงมาก วัดค่าความเที่ยงตรง Delta-E < 1 ฉะนั้น จึงมั่นใจในหน้าจอของมือถือ ROG Phone 3 ได้เลย
ส่วนการใช้งานหน้าจอเพื่อเล่นเกมนั้นถือว่าค่อนข้างสะดวก ไม่ว่าจะเล่นบนตัวเครื่องเดี่ยวๆ หรือใช้อุปกรณ์เสริมร่วมด้วย แต่การเล่นเกมที่ต้องใช้พื้นที่ทั่วทั้งจอ เช่น Cytus คนมือเล็กจะเล่นเกมไม่สะดวกนัก เพราะต้องใช้การเอื้อมนิ้วบ่อยๆ ประกอบกับหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ อัตราส่วน 19.5:9 จึงทำให้กวาดสายตาขณะเล่นเกมได้ไม่ทั่วถึงหากเล่นเกมที่มีรายละเอียดบนจอเยอะๆ อย่างเช่น Cytus ด่านสูงๆ ที่มีตัวโน้ตเยอะๆ
หากพูดถึงมือถือ ROG Phone 3 จะนึกถึงอะไรไปไม่ได้นอกจากการเล่นเกม เพราะนี่เป็นสมาร์ทโฟนที่เกิดมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ ตั้งแต่สเปกภายในอย่างชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 865+ 5G, RAM ที่มากถึง 12GB ROM พื้นที่ความจุ 512GB ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 10 และ ROG UI แสดงผลบนหน้าจอหน้าจอ AMOLED 6.59 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2340 พิกเซล อัตรารีเฟรชเรตสูงถึง 144 Hz ความสว่างสูงสุด 650 nits
การทดสอบเล่นเกมครั้งนี้ ใช้เกม Speed Drifters และเกม Cytrus เพื่อทดสอบการเล่นเกมที่แสดงรีเฟรชเรต 144Hz ซึ่งเรื่องการตอบสนอง ความลื่นไหลขณะเล่นเกมนั้นทำได้ดีมากๆ เฟรมเรตอยู่ที่ 140-144 Hz อุณหภูมิตัวเครื่องอยู่ที่ 37-39 องศาเซลเซียส ซึ่งไม่ร้อนเลยเมื่อจับถือ แต่ถ้าเล่นไปพร้อมๆ กับการสตรีมภาพสด เฟรมเรตจะตกลงมาที่ 117-120 Hz ซึ่งก็ยังอยู่ในระดับที่สูงอยู่ หรือแม้แต่เกม Call of Duty Mobile ก็แสดงผลได้ที่เฟรมเรต 120Hz เช่นกัน
ทดสอบเล่นเกม Cytrus แสดงผลเฟรมเรตถึง 144Hz
แต่ทว่า บางเกมที่น่าจะสามารถแสดงผล 120Hz ได้ กลับมีเฟรมเรตอยู่ที่ 60Hz เท่านั้น อย่างเช่นเกมยอดฮิตอย่าง PUBG Mobile กับ ROV ซึ่งทดสอบโดยการเปิดสุดในทุกๆ ด้าน พบว่าเฟรตอยู่ในระดับ 44-47Hz แต่ความร้อนตัวเครื่องขณะเล่นสะสมสูงขึ้นเรื่อยๆ จนถึง 45 องศาเลยทีเดียว ส่วนอีกเกมที่ทดสอบอย่าง Black Desert Mobile แม้จะเริ่มต้นเล่นเกมด้วยเฟรมเรต 60Hz แต่ไม่สามารถรันภาพในอัตรารีเฟรชเรต 60Hz ได้ตลอดการเล่น จะมีการปรับเหลือ 30Hz โดยอัตโนมัติระหว่างเล่นแทน
และอีกจุดหนึ่งที่น่าเสียดายก็คือมือถือ ROG Phone 3 เครื่องทดสอบยังไม่รองรับเกมบางเกม คาดว่าเวอร์ชันของเกมอาจยังไม่รองรับบนมือถือ ROG Phone 3 เช่น Dead by Daylight ซึ่งในอนาคตคาดว่าอาจมีการอัปเดตแก้ไขปัญหาอีกครั้ง
ส่วนใครที่อยากซื้อมือถือ ROG Phone 3 มาเพื่อสตรีมสดโดยเฉพาะ ขอบอกว่านี่ก็เป็นสมาร์ทโฟนที่น่าสนใจ ส่วนหนึ่งมาจากสเปกที่อยู่ในระดับสูง และมีฟีเจอร์อำนวยความสะดวกในการสตรีมอยู่แล้ว อย่าง Game Genie ที่ครบครันทั้งเมนูการ Boost พลังเครื่อง การปิดแจ้งเตือนเพื่อไม่ให้รบกวนเวลาเล่นเกม การล็อกปุ่มตัวเครื่องทุกปุ่มเพื่อป้องกันการออกจากเกมโดยไม่ตั้งใจ รวมถึงการสตรีมสดผ่าน YouTube ส่วนใครที่ต้องสตรีมผ่าน Facebook ขอแนะนำให้ใช้แอปพลิเคชันหรือวิธีอื่นๆ แทน
หน้าจอขณะสตรีมเกมแบบสดๆ จะมีสัญลักษณ์ Live สีแดงแสดงอยู่ (ซ้ายบน)
ส่วนการแสดงผลเกมขณะสตรีม มือถือ ROG Phone 3 ก็ยังแสดงผลภาพกราฟิกและตอบสนองขณะเล่นเกมได้ดี ภาพไม่กระตุก แต่เฟรมเรตตกลงเหลือ 72-100Hz ซึ่งก็ไม่ได้เห็นชัดแต่อย่างใด ยังทำให้เล่นเกมได้แบบลื่นๆ อยู่ ส่วนเรื่องของความร้อน พบว่ามีอุณหภูมิที่สูงขึ้นขณะเล่นเกมอย่างเห็นได้ชัด ถ้าใครที่ใส่พัดลมระบายความร้อน AeroActive Cooler 3 ก็สามารถช่วยได้ในระดับหนึ่ง
อีกหนึ่งไฮไลต์บนมือถือ ROG Phone 3 ก็คือ เซนเซอร์ AirTrigger 3 ที่เป็นมากกว่าปุ่มควบคุมการเล่นเกมทั่วไป เพราะนี่คือปุ่มควบคุมที่มีลักษณะพิเศษ จับการเคลื่อนไหวของนิ้ว ซึ่งจากการทดสอบเล่นเกมด้วย AirTrigger 3 บนเกม Call of Duty Mobile พบว่าหากเป็นมือผู้หญิงหรือคนมือเล็กๆ นิ้วจะเอื้อมสัมผัสเซนเซอร์ได้ไม่มากนัก แต่เมื่อทดลองด้วยมือของคุณผู้ชาย พบว่าจะสามารถใช้งานได้ถนัดกว่า
แม้จะเป็นเกมมิ่งสมาร์ทโฟน แต่ฟีเจอร์สำหรับใช้งานในชีวิตประจำวันก็ต้องมีให้เลือกสรรครบครัน อย่างเช่นฟีเจอร์ยอดฮิตอย่างกล้องถ่ายภาพ ที่ทางมือถือ ROG Phone ใจดี ส่งมาให้ทั้งกล้องหลัง 3 เลนส์ (เลนส์ Wide 64 ล้านพิกเซล, เลนส์ Ultrawide 13 ล้านพิกเซล และเลนส์ Macro 5 ล้านพิกเซล) และกล้องหน้าความละเอียดสูง 24 ล้านพิกเซล อีกทั้งยังถ่ายวิดีโอ 8K ได้ ซึ่งมีสมาร์ทโฟนน้อยรุ่นที่สามารถทำแบบนี้ได้ ฉะนั้น ถ้าใครยังต้องใช้มือถือ ROG Phone 3 ถ่ายภาพ เรื่องนี้ก็ยังไม่ถือว่าขาดตกบกพร่องแต่อย่างใด
มือถือ ROG Phone 3 ยังคงความจุแบตเตอรี่ที่ 6,000mAh แบบในมือถือรุ่น ROG Phone รวมถึงการชาร์จเร็ว 30W และ Reverse Charging 10W สำหรับอุปกรณ์อื่นๆ แต่ในรุ่นนี้เพิ่มเทคโนโลยี Power Delivery 3.0 เข้ามาด้วย การันตีการชาร์จเร็ว แต่ระยะเวลาการใช้งานยาวนานแค่ไหน อันนี้ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคนจริงๆ ว่าเน้นเล่นเกมหรือการสตรีมมากน้อยแค่ไหน
นอกจากนี้ ASUS ยังใจดี ส่งอุปกรณ์เสริมมาให้ทดลองใช้งานร่วมกับมือถือ ROG Phone 3 เพราะการเป็นเกมมิ่งสมาร์ทโฟนก็ควรมีอุปกรณ์เสริมคู่ใจที่แตกต่างจากสมาร์ทโฟนทั่วไป
เรื่องความแรง ประสิทธิภาพการเล่นเกมและการใช้งานทั่วไป เหมือนมือถือ ROG Phone 3 จะไม่มีปัญหาอะไร แต่ทว่า สิ่งที่ต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วนก่อนซื้อก็คือเรื่องของน้ำหนักตัวเครื่องที่มีถึง 240 กรัมและความร้อนขณะเล่นเกมนานๆ ถ้าไม่ใช่คอเกมตัวจริงที่เล่นเกมยาวนานหลักชั่วโมง ปัญหาความร้อนและความหนักเอาเรื่องของเจ้าเครื่องนี้ก็ไม่น่าจะส่งปัญหาใหญ่ใดๆ แต่ทางที่ดีควรไปลองจับถือตัวจริงก่อนจะดีที่สุด ส่วนราคาเปิดตัวของมือถือ ROG Phone 3 (12 GB/512 GB) อยู่ที่ราคา 32,990 บาท และมือถือ ROG Phone 3 Strix Edition (8 GB/256 GB) ราคา 24,990 บาท วางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2563 เป็นต้นไป
ส่วนใครที่สนใจอุปกรณ์เสริม ทาง ASUS ก็มีจำหน่ายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น TwinView Dock 3 (ราคา 7,990 บาท) ROG Phone 3 Lighting Armor case (ราคา 1,990 บาท) ROG Clip (ราคา 1,990 บาท) และ ROG Kunai 3 Gamepad (ราคา 3,990 บาท) จะวางจำหน่ายในช่วงเดือน พ.ย. 2563
|
Web Content Editor ท่านหนึ่ง นิยมการเล่นมือถือเป็นชีวิตจิตใจ |