แอป Telegram แตกต่างกับ LINE หรือ Messenger อย่างไรบ้าง ?

แอป Telegram แตกต่างกับ LINE หรือ Messenger อย่างไรบ้าง ?

หลังจากที่สมาร์ทโฟนกลายเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องมีติดตัวไว้จนแทบขาดไม่ได้สำหรับหลายๆ คนนั้น แอปพลิเคชันที่จำเป็นจะต้องมีติดสมาร์ทโฟนเอาไว้ก็คือแอปพลิเคชันโซเชียลเน็ตเวิร์กและแอปพลิเคชันเพื่อการติดต่อสื่อสารต่างๆ อย่างแอปพลิเคชันแชท

ซึ่งในประเทศไทยแล้วนั้น แอปพลิเคชันแชท ยอดนิยมที่คุ้นเคยกันดีก็น่าจะเป็น แอป LINE อย่างแน่นอน เพราะนอกจากจะใช้งานง่ายแล้ว ยังมีฟีเจอร์ต่างๆ ที่ครอบคลุมการใช้งานค่อนข้างครบถ้วน และอีกแอปพลิเคชันที่ได้รับความนิยมมากไม่แพ้กันก็ได้แก่ แอป Messenger ของ Facebook นั่นเอง

แต่ว่าในช่วงนี้ดูเหมือนว่าผู้ใช้จะหันมาสนใจใช้งาน แอปพลิเคชัน Telegram กันมากขึ้น เนื่องจากยอดการดาวน์โหลดและใช้งาน แอป Telegram นั้นแซงทั้ง LINE และ Messenger ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งไประยะหนึ่งเลยทีเดียว และหลังจากนั้นไม่นานก็ตกลงมาอยู่ที่อันดับ 4 ในเวลาต่อมา

ฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ LINE, Messenger และ Telegram

อันที่จริงแล้วคำถามที่หลายๆ คนสงสัยน่าจะเป็น “ควรดาวน์โหลด Telegram มาใช้งานเพิ่มจาก LINE หรือ Messenger ดีไหม?” มากกว่า เพราะเชื่อว่า LINE น่าจะเป็นหนึ่งในแอปพลิเคชันพื้นฐานที่หลายๆ คนต้องมีติดเครื่องไว้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ส่วนใครที่ใช้งาน Facebook ก็คงจะมี Messenger ติดเครื่องไว้ควบคู่กันด้วยเช่นกัน แต่สำหรับ Telegram นั้น คาดว่าบางคนอาจเคยได้ยินชื่อมาบ้างแต่ยังไม่เคยทดลองใช้

และสำหรับผู้ที่สงสัยว่าทั้ง 3 แอปพลิเคชันนี้มีข้อดีข้อเสียต่างกันอย่างไรบ้าง ก็ลองพิจารณาข้อมูลด้านล่างนี้เพื่อเป็นตัวเลือกในการใช้งานเพิ่มเติมได้

แอป LINE

ในส่วนของ LINE ที่หลายๆ คนคุ้นตากันเป็นอย่างดีนั้นเป็นแอปพลิเคชันแชทสัญชาติญี่ปุ่นที่เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554) โดยบริษัท Naver (ก่อนหน้านี้ได้เปิดบริการในเกาหลีใต้ แต่ไม่สามารถดึงความนิยมมาจาก Kakao ได้จึงเปลี่ยนมาตีตลาดในญี่ปุ่นแทน) ซึ่งหลังจากที่เปิดตัวในญี่ปุ่นก็ได้รับความนิยมค่อนข้างมากจนขยายตลาดไปยังประเทศอื่นๆ ในแถบเอเชียอย่างไต้หวันและไทย

แอป Messenger

สำหรับแอปพลิเคชันแชทของ Facebook อย่าง Messenger นั้น ทางบริษัทได้ตัดสินใจแยกบริการนี้ออกมาอีกแอปพลิเคชันหนึ่งในปี ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557) เนื่องจากต้องการเพิ่มขอบเขตการใช้งานของฟีเจอร์ต่างๆ ให้รองรับความต้องการของผู้ใช้งานที่มากขึ้นนั่นเอง และและช่วงเดือนตุลาคม ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) ทางบริษัทก็กำลัง ทดสอบการใช้งานร่วมกับ DM ของ Instagram อีกด้วย

แอป Telegram

ส่วนเหตุผลที่หลายๆ คนหันมาใช้งาน Telegram กันมากขึ้นก็น่าจะเป็นเรื่องของ “ความปลอดภัยในการใช้งาน” เพราะ Telegram ที่เปิดตัวในปี ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556) นั้นมีจุดเริ่มต้นมาจากการที่รัฐบาลรัสเซียเข้ามาแทรกแซงกิจการของ VK (โซเชียลมีเดียของรัสเซียที่มีการทำงานคล้าย Facebook) ทำให้ผู้พัฒนาตัดสินใจสร้างแอปพลิเคชันแชทที่มีความปลอดภัยสูงขึ้นมาเพื่อป้องกันการเจาะข้อมูลของรัฐบาลนั่นเอง

ส่วนฟีเจอร์อื่นๆ ที่น่าสนใจของทั้ง 3 แอปพลิเคชันก็มีดังนี้

จะเห็นได้ว่าทั้ง 3 แอปพลิเคชันนี้ก็มีจุดเด่นการใช้งานที่แตกต่างกันออกไปตามความต้องการของผู้ใช้ เช่น LINE ก็มีฟีเจอร์รองรับการใช้งานที่หลากหลาย ส่วน Messenger ก็สามารถเชื่อมต่อแอคเคาท์กับ Facebook และ Page ได้ (ในอนาคตจะสามารถใช้งานร่วมกัน Instagram ได้อีกด้วย) และ Telegram ก็มีจุดเด่นอยู่ที่ความปลอดภัยในการใช้งาน การสร้างกลุ่มและการส่งไฟล์ขนาดใหญ่ที่ไม่มีวันหมดอายุ

อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ ก็ขึ้นอยู่กับการพูดคุยตกลงกันกับ “ผู้ใช้งานร่วม” อยู่ดี เพราะถึงแม้ว่าเราจะต้องการใช้ LINE, Messenger หรือ Telegram ในการสื่อสาร แต่ผู้ใช้คนอื่นไม่สะดวกใช้งานแอปพลิเคชันนั้นๆ ก็ต้องพูดคุยเพื่อปรับเปลี่ยนการใช้งานอีกทีอยู่ดี (ส่วนใครที่มีพื้นที่ในสมาร์ทโฟนเหลือๆ จะใช้งานทั้ง 3 แอปพลิเคชันควบคู่กันไปก็ได้นะ)