เคยสงสัยกันบ้างไหมว่า ฟิล์มกันรอยหน้าจอมือถือ และ กระจกกันรอยมือถือ ทั้งหลายถูกผลิตขึ้นมาได้อย่างไร ทำจากวัสดุอะไร ถึงมีความแข็งแกร่งและยืดหยุ่นในคราวเดียว รวมถึงกรรมวิธีการผลิตที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน
วันนี้ทาง Thaiware จึงขอพาไปชมโรงงานฟิล์มและกระจกกันรอยมือถือ ชื่อดังอย่าง Focus (โฟกัส) เพื่อรับชมขั้นตอนการผลิตและทดสอบ จนออกมาเป็นสินค้าคุณภาพดีสู่มือผู้ใช้ในราคาที่ไม่แพงจนถึงทุกวันนี้
สำหรับ Focus Ultimate Glass กระจกกันรอยมือถือที่ทาง Focus ให้นิยามว่า "แข็งแกร่งที่สุดที่เคยมีมา" มันมีคุณสมบัติ และความสามารถ ในการรับแรงกดขอบกระจกได้มากถึง 2 เท่า, ทดสอบการตกกระแทกจากระยะ 1 เมตรและ 3 เมตรก็ยังไม่แตกร้าว และทนต่อรอยขีดข่วนมากกว่า 3,000 ครั้ง
โดยคุณสมบัติทั้งหมดนี้เกิดจากการผลิตด้วยกระบวนการ Strength Plus Technology ทั้งการตัดกระจกด้วยใบมีดชนิดพิเศษ ไม่ทำให้เกิดรอยบิ่นที่นำไปสู่โอกาสที่ทำให้กระจกแตกง่ายขึ้น แช่น้ำยาชนิดพิเศษสร้างความแข็งแกร่งให้กับขอบกระจก และอบชิ้นกระจกซ้ำ 2 รอบ เป็นเวลา 6-8 ชั่วโมง เพื่อเปลี่ยนแปลงโมเลกุลภายในกระจกให้เหนียวและมีความยืดหยุ่นมากกว่ากระจกทั่วไป แต่กว่าจะเป็นกระจกกันรอยมือถือ สักชิ้น ย่อมผ่านขั้นตอนที่มากกว่าสิ่งที่กล่าวไว้ข้างต้นอย่างแน่นอน
ซึ่งโรงงานผลิตฟิล์มและกระจกกันรอยมือถือ Focus ตั้งอยู่ที่ อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ซึ่งได้แบ่งส่วนของสำนักงาน และโรงงานผลิตแยกออกจากกัน โดยภายในโรงงานมีมาตรการป้องกัน COVID-19 ด้วยการวัดอุณหภูมิ บริการเจลล้างมือ พร้อมหน้ากากป้องกันกลิ่น ฝุ่นควัน ส่วนพนักงานในโรงงานใส่หน้ากากอนามัยทุกคน พนักงานในบางแผนกก็จะมีอุปกรณ์ป้องกันอื่นๆ เช่น หมวก เสื้อคลุม แตกต่างกันไป จึงมั่นใจได้ในเรื่องของความสะอาดและมาตรการความปลอดภัยที่รัดกุม
ส่วนขั้นตอนการทำกระจกกันรอยมือถือ เริ่มจากการตัดกระจก 1 แผ่นใหญ่ออกเป็นหลายชิ้นเล็กๆ ให้ได้ขนาด ซึ่งวัสดุที่ใช้ทำกระจกกันรอยมือถือ ทาง Focus ตั้งใจนำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น จากนั้น นำแผ่นกระจกที่ตัดออกมาแล้ว ไปเจียรให้ได้ตามแบบที่ต้องการ ขัดกระจกให้มีความเงาสวยทุกจุด ทุกมุม ล้างชิ้นกระจกให้สะอาด และส่งให้พนักงานตรวจคุณภาพ (ตรวจ QC) เบื้องต้นในรอบแรก เพื่อเช็ครอยขีดข่วน ฝุ่นบนกระจก รอยแตกหรือบิ่นตามขอบ จากนั้น กระจกที่ผ่านการตรวจแล้วจะถูกนำเข้าเตาอบตามอุณหภูมิและเวลาที่ตั้งไว้ เพื่อให้เนื้อกระจกแข็งตัว
ต่อมา เป็นขั้นตอนการสกรีนขอบกระจกให้เป็นสีดำตามแบบฉบับกระจกกันรอยมือถือ จากนั้น นำกระจกเข้าเตาอบเพื่อให้กระจกเซ็ตตัวอีกครั้ง และเคลือบสารต่างๆ ตามคุณสมบัติน้ำยาชนิดนั้นๆ เช่น เพื่อไม่ให้ของเหลวหกใส่แล้วทิ้งคราบติดกระจก เพื่อช่วยตัดแสงสีฟ้า ฯลฯ และในขณะที่กระจกจำนวนมากกำลังถูกสกรีน ก็มีอีกส่วนงานหนึ่งที่กำลังผลิตแผ่นฟิล์มและแผ่นกาวโดยการเข้าเครื่องตัดแบบบล็อกสำเร็จ หลังจากที่ทั้งสองส่วนนี้ผลิตออกมา ก็ถึงขั้นตอนการประกบทั้งกระจกและฟิล์มกาวเข้าด้วยกัน กลายเป็นชิ้นกระจกกันรอยมือถือ ที่สมบูรณ์
แต่ก่อนที่จะวางจำหน่าย กระจกกันรอยมือถือ เหล่านี้จะต้องผ่านการ QC แบบสมบูรณ์อีกครั้ง ทั้งการเช็คขอบกระจกว่าบิ่น เบี้ยวหรือไม่ เช็ครอยขีดข่วน คราบฝุ่นบนเนื้อกระจกรอบสุดท้าย ก่อนจะส่งไปบรรจุกล่องเพื่อส่งจำหน่ายต่อไป
ทาง Focus เองยังได้ทดสอบความแข็งแรงรูปแบบต่างๆ ในสื่อมวลชนดู ทั้งการทดสอบรอยขีดข่วนด้วยของแข็งระดับเดียวกับดินสอ 9H ที่มีความแข็งของไส้สูงที่สุด ทดสอบค่าองศาและคุณสมบัติการสัมผัสหน้าจอด้วยการหยดน้ำ ทดสอบความแข็งแรงด้วยการขัดกระจกซ้ำๆ ไปมา ทดสอบความใสของกระจก เพื่อเช็คว่าแสงหน้าจอมือถือลดลงหรือไม่
และนอกจากนี้แล้วก็ยังทดสอบแรงกดและลักษณะการร้าวของกระจกเมื่อถูกตกกระแทก ฯลฯ ด้วยเครื่องมือมากมายหลายชนิด รวมถึงวิธีง่ายๆ แต่เร้าใจอย่างการทดสอบ Focus Ultimate Glass รุ่นใหม่ล่าสุดด้วยการทดสอบหย่อนลูกเหล็กตกมาจากที่สูง 3 เมตรมายังหน้าจอมือถือที่ติดกระจกไว้
จะดีกว่าไหม ? ถ้าการติดฟิล์ม หรือติดกระจกกันรอยมือถือ ให้มือถือสักครั้ง จะได้ของที่มีคุณภาพ ในราคาถูกใจ ซึ่งกระจกกันรอยมือถือทุกรุ่นของ Focus ผ่านการผลิตและทดสอบที่รัดกุม มีเกณฑ์มาตรฐานการผลิตและคุณภาพ จึงมั่นใจได้ในตัวสินค้า ว่าจะมีคุณภาพที่ดีเท่ากันทุกชิ้น หรือถ้าเกิดปัญหาใดๆ ระหว่างใช้งาน ก็สามารถส่งเคลมหรือเปลี่ยนใหม่ ภายใต้ราคาถูก หรือราคาที่สามารถเอื้อมถึงได้เช่นกัน
|
Web Content Editor ท่านหนึ่ง นิยมการเล่นมือถือเป็นชีวิตจิตใจ |