ดาวน์โหลดโปรแกรมฟรี
       
   สมัครสมาชิก   เข้าสู่ระบบ
ไทยแวร์รีวิว
 

5 เทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อม (Green Technology) ที่ช่วยประหยัดต้นทุน และ รักษาสิ่งแวดล้อม

5 เทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อม (Green Technology) ที่ช่วยประหยัดต้นทุน และ รักษาสิ่งแวดล้อม

เมื่อ :
|  ผู้เข้าชม : 96,267
เขียนโดย :
0 5+%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B9%82%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%A2%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1+%28Green+Technology%29+%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%99+%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0+%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1
A- A+
แชร์หน้าเว็บนี้ :

เทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อม (Green Technology) มีอะไรบ้าง ?

เทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อม หรือ เทคโนโลยีสีเขียว (Green Technology) เป็นเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาขึ้นมาโดยยึดหลักการเพื่อใช้สอยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น วัสดุที่สร้างจะต้องนำกลับมาใช้ใหม่ได้ หรือ เทคโนโลยีนั้น ๆ ต้องใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างประหยัด และ คุ้มค่าที่สุด และยังหมายถึงเทคโนโลยีที่ผลิตพลังงานสะอาดมาใช้ทดแทน อย่าง แผงโซลาร์เซล หรือเครื่องกำเนิดไฟฟ้าพลังน้ำ

บทความเกี่ยวกับ Green อื่นๆ

ในปี พ.ศ. 2564 (ค.ศ. 2021) มีผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่านี่เป็นปีทองของการประยุกต์ใช้พลังงานสีเขียว (Green Energy) เพราะหลายหน่วยงานส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน และ ลดการปล่อยมลพิษในอุตสาหกรรมมากขึ้น สิ่งที่ตามมาก็คือบทบาทหน้าที่ของเทคโนโลยีสีเขียวจะเริ่มชัดเจน ตัวอย่างที่เราเห็นและน่าจับตามองตอนนี้ ก็คือ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (Electric Vehicle) นั่นเอง

และในวันนี้เราจะมาพูดถึง 5 ตัวอย่างของ เทคโนโลยีในองค์กรที่เราพบเห็นกันได้ในปัจจุบัน และคุณอาจไม่เคยรู้มาก่อนว่า มันก็มีบทบาทในเรื่องของการเซฟโลกเช่นกัน และหากองค์กรกำลังมองหาวิธีประหยัดต้นทุนระยะยาว เทคโนโลยีเหล่านี้ก็สามารถช่วยได้เหมือนกัน ...

เนื้อหาภายในบทความ

  1. ระบบอาคารอัตโนมัติ (Building Automation System)
  2. ศูนย์ข้อมูลเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Data Center)
  3. ระบบพลังงานทดแทน (Renewable Energy Systems)
  4. เครื่องพิมพ์ 3 มิติ (3D Printer) 
  5. การประมวลผลแบบคลาวด์ (Cloud Computing)

1. ระบบอาคารอัตโนมัติ (Building Automation System)

ระบบบริหารควบคุมอาคารอัตโนมัติ หรือ Building Automation System (BAS) ซึ่งถ้าเห็นชื่อ ก็คงทำให้นึกถึง พวกระบบ IoT (Internet of things) ใช่ไหมล่ะครับ ? ซึ่งมันก็อาจจะคล้าย ๆ กัน เพราะนี่เป็นระบบอัตโนมัติที่นำเทคโนโลยีและคอมพิวเตอร์มาควบคุมอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์ภายในอาคาร หรือ ควบคุมระบบทั้งหมด เช่น ระบบไฟฟ้า ระบบน้ำ ระบบรักษาความปลอดภัย (Surveillance) และ ระบบระบายอากาศ (HVAC) เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อลดความยุ่งยากในการดูแล และช่วยให้มั่นใจว่าระบบต่าง ๆ จะทำงานอย่างถูกต้องและได้ประสิทธิภาพมากที่สุด โดยเฉพาะเรื่องของการใช้พลังงาน

โดยระบบต่าง ๆ จะเชื่อมถึงกันผ่านเครือข่าย และ ส่งผ่านไปยังห้องควบคุม (Control Room) ส่วนกลาง ที่ใช้เพื่อสังเกตการณ์และควบคุมด้วยผู้ดูแลอีกที

ระบบอาคารอัตโนมัติ (Building Automation System)
ภาพตัวอย่างระบบ Building Automation System (BAS) ของ Delta ที่ให้บริการในประเทศไทย

ตัวอย่างการทำงานของ Building Automation System เช่น การควบคุมระบบปรับอากาศ ควบคุมแรงลม อุณหภูมิ และ การระบายอากาศ หรือ ระยะเวลาการเปิด-ปิดใช้งานภายในท่อลม เป็นต้น โดยมันจะมีโปรแกรมที่สามารถใช้มอนิเตอร์ระบบได้ ซึ่งหากมีความทันสมัยหน่อย ก็จะมีแอปพลิเคชันให้สามารถมอนิเตอร์ผ่านมือถือ ได้อีกด้วยเช่นกัน

ระบบอาคารอัตโนมัติ (Building Automation System)
ภาพจาก : https://www.smkautomation.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539684636

และนอกจากจะเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานได้แล้ว ยังสามารถช่วยลดอัตราเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุได้เช่นกัน เช่น ห้องเซิร์ฟเวอร์ที่มักจะมีความร้อนสูง เมื่อเกิดปัญหากับเครื่องปรับอากาศ ผู้ดูแลก็จะได้รับการแจ้งเตือนทันทีจากในห้องควบคุม เป็นต้น

สรุปง่าย ๆ Building Automation System (BAS) ไม่ใช่เรื่องของเทคโนโลยีเพียงชิ้นเดียว และในปัจจุบันมีหลายองค์กรที่ให้บริการติดตั้ง Building Automation System (BAS) ภายในอาคารอยู่เยอะมาก บางรายก็ครอบคลุมทั้งโปรแกรม อุปกรณ์ และ ระบบทั้งหมดภายในตึกเลยทีเดียว

2. ศูนย์ข้อมูลเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Data Center)

ศูนย์ข้อมูลเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือ Green Data Center เป็นชื่อที่ใช้เรียกระบบศูนย์ข้อมูล (Data Center) ที่พยายามประยุกต์เทคโนโลยีต่าง ๆ มาช่วยทำให้สิ้นเปลืองพลังงานน้อยลงแต่ยังคงเสถียรภาพของการทำงานได้ เพราะ Data Center เป็นระบบที่ต้องใช้ทรัพยากรมาก จะต้องมีการระบายความร้อนและทำความเย็นอย่างเหมาะสมให้กับเครื่องเซิร์ฟเวอร์ หรือ อุปกรณ์อะไรก็ตามแต่ที่อยู่ในห้องนั้น อีกทั้งยังต้องจ่ายพลังงานไฟฟ้าให้กับระบบต่าง ๆ อย่างเพียงพอ จึงเป็นเรื่องของค่าใช้จ่ายที่ตามมา

ศูนย์ข้อมูลเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Data Center)
ภาพจาก https://hmsifmipauntan.com/indonesia-berpotensi-besar-untuk-pembangunan-data-center/

มีข้อมูลระบุว่า Data Center เป็นระบบที่ขึ้นชื่อเรื่องการใช้ทรัพยากรไฟฟ้ามากคิดเป็น 3 - 5 เปอร์เซ็นต์ของอัตราการใช้พลังงานบนโลกกันเลยทีเดียว และยิ่งถ้ามีการใช้อินเทอร์เน็ต มีการจัดเก็บข้อมูลมากขึ้นเท่าไหร่ อัตราการเติบโตของการสร้าง Data Center ก็จะโตขึ้นเป็นเงาตามตัวไปด้วยเช่นกัน

ศูนย์ข้อมูล (Data Center) คืออะไร ?

Data Center คือ ห้องที่ออกแบบไว้เป็นศูนย์รวมของอุปกรณ์เซิร์ฟเวอร์คอมพิวเตอร์ (Server Computer) รวมถึงอุปกรณ์ระบบเครือข่าย (Network) และอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล (Storage) ที่ธุรกิจต่าง ๆ ทำเป็นต้องใช้เพื่อความสะดวกในการสื่อสาร และ เก็บข้อมูลอันมหาศาลของบริษัท และถ้าย่อขนาด Data Center ลงมาหน่อยก็คือ ตู้แร็ค  หรือบางทีตู้แร็คก็จะถูกวางใน Data Center เป็นต้น

และตัวอย่างเทคโนโลยีที่ถูกคิดค้นขึ้นมา เพื่อลดการใช้พลังงานของศูนย์ข้อมูล และ เปลี่ยนธุรกิจให้เป็นสีเขียว เช่น อุปกรณ์เซิร์ฟเวอร์พลังงานต่ำ (Low Power Servers) ที่ใช้พลังงานน้อย ปล่อยความร้อนไม่มาก และ ยังคงประสิทธิภาพของการทำงาน

ศูนย์ข้อมูลเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Data Center)
Low Power Servers 
ภาพจาก : https://i.dell.com/sites/doccontent/shared-content/data-sheets/en/Documents/power-efficiency-how-to-13g-servers_030216.pdf

หรืออีกตัวอย่าง เช่น ระบบกักเก็บลมร้อนภายในศูนย์ข้อมูล (Hot Aisle Containment) หรือตู้เก็บลมร้อน ที่ใช้ครอบตู้แร็คอีกที ซึ่งจะช่วยควบคุมการกระจายตัวของความร้อนก่อนส่งความร้อนผ่านปล่องออกมานอกศูนย์ Data Center ลดภาระของเครื่องปรับอากาศ

ศูนย์ข้อมูลเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Data Center)
ตู้เก็บลมร้อน ภาพจาก : https://www.colocationamerica.com/blog/hot-vs-cold-aisle-containment

นอกจากนี้ก็ยังมีระบบกักเก็บความเย็น (Hot Aisle Containment) หรือ ตู้เก็บความเย็น ที่แตกต่างจากตู้เก็บความร้อน คือ ช่วยแยกลมร้อนที่ปล่อยออกมาจากตู้แร็ค และ ทำความเย็นเฉพาะส่วน เพื่อลดภาระของเครื่องปรับอากาศภายในห้อง Data Center ได้เช่นกัน

ศูนย์ข้อมูลเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Data Center)
ตู้เก็บลมเย็น
ภาพจาก : https://sitem.co.th/cold-aisle-containment-2/#.YKNT2agzaUk

หรือทันสมัยหน่อยอย่าง ศูนย์ข้อมูลสมัยใหม่ (Modular Data Center) ก็กำลังได้รับความนิยมในหมู่ผู้ประกอบการและองค์กรต่าง ๆ เพราะลงทุนง่ายโดยมันมีพร้อมทั้ง เซิร์ฟเวอร์ (Server), อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล (Storage Device) และอุปกรณ์ด้านงานเครือข่าย (Network Device) พร้อมด้วยอุปกรณ์สนับสนุนอื่นๆ ที่ครบถ้วนพร้อมระบบการจ่ายไฟ (Power Supply System) และ ระบบการทำความเย็น (Cooling System) ในตัว ซึ่งจะวางจำหน่ายโดยผู้ให้บริการที่เชี่ยวชาญในการออกแบบ จากหลายแบรนด์ตัวอย่างเช่น ศูนย์ข้อมูล Microsoft Azure Modular เป็นต้น

ศูนย์ข้อมูล Microsoft Azure Modular

3. ระบบพลังงานทดแทน (Renewable Energy Systems)

ระบบพลังงานทดแทน (Use Renewable Energy) ถ้าพูดถึงการใช้พลังงานสิ่งทดแทน เรามักเคยได้ยินเรื่องเทคโนโลยีแผงโซลาร์เซลล์ (Solar Cell Panel) และ พวกระบบพลังงานไฮโดรเจน (Hydrogen Energy) แต่ถ้าพูดถึงการใช้ในธุรกิจ ที่เหมาะสมสุดก็น่าจะเป็น แผงโซลาร์เซลล์ อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการรายย่อย ก็ยังคงกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง เรื่องเวลาที่จะถึงจุดคุ้มทุน และยังมีเรื่องของ พื้นที่ที่เหมาะอีกด้วย

ระบบพลังงานทดแทน (Use Renewable Energy)
ภาพจาก : https://www.eco-business.com/news/australian-and-thai-firms-team-up-to-launch-renewable-energy-credit-marketplace-spanning-southeast-asia/

แต่แผงโซลาร์เซลล์ก็น่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจที่จะช่วยลดผลกระทบจากค่าใช้จ่ายระยะยาวอย่างค่าไฟและมันยังสามารถช่วยลดผลกระทบของระบบนิเวศน์ได้ด้วย เจ้าของธุรกิจขนาดกลางบางรายสามารถประหยัดค่าไฟฟ้าได้มากถึง 80 % ด้วยการติดตั้งแผนโซลาร์เซลล์เลยทีเดียว ดังนั้นอย่าปล่อยให้งบประมาณมาขัดขวางแนวทางการทำธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของคุณครับ

4. เครื่องพิมพ์ 3 มิติ (3D Printer) 

เครื่องพิมพ์ 3 มิติ (3D Printer) จัดเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ขึ้นรูปวัตถุต่าง ๆ ซึ่งออกแบบมาจากโปรแกรมคอมพิวเตอร์ จำพวก โปรแกรมออกแบบโมเดล CAD (Computer-Aided Design Software) ในอุตสาหกรรมออกแบบ หรืออุตสาหกรรมผลิตโมเดล 3 มิติ แบบจำลอง และพวกของเล่น เป็นต้น โดยจะผลิตออกมาเป็นชิ้น ๆ ไป

เครื่องพิมพ์ 3 มิติ (3D Printer)
ภาพจาก : https://www.3dnatives.com/en/low-cost-3d-printer290320174/

การทำงานของ เครื่องพิมพ์ 3 มิติ จะใช้การเติมเนื้อวัสดุลงไปขึ้นรูปโมเดลจากฐานขึ้นมาทีละส่วนตามไฟล์ที่ออกแบบมาทำให้ไม่มีชิ้นส่วนวัสดุเหลือทิ้ง แถมยังจัดเก็บง่าย ได้ชิ้นงานเร็ว ซึ่งจะเหมาะกับธุรกิจขนาดเล็ก ในด้านของการผลิต แตกต่างกับการใช้เครื่องจักรผลิตทั่วไปที่ตัดชิ้นส่วนวัสดุทีละชิ้น เพื่อประกอบเป็นรูปร่างวัตถุซึ่งจะมีขยะที่หลงจากวัสดุที่ใช้ทำจำพวก พลาสติก ไทเทเนียม อลูมิเนียม โคบอลต์โครเมี่ยม และ วัสดุอื่น ๆ ที่สิ้นเปลือง

เครื่องพิมพ์ 3 มิติ (3D Printer)
ภาพจาก : https://www.flam3d.org/environmental-list-2020-provides-a-nice-incentive-for-am-in-the-netherlands/

นอกจากนี้เครื่องพิมพ์ 3 มิติส่วนมากยังใช้วัสดุที่เป็น PLA Filament หรือเส้นพลาสติกเกรดพรีเมี่ยมที่ย่อยสลายได้ง่าย ซึ่งนับเป็นการช่วยโลกร้อนได้อีกด้วย

5. การประมวลผลแบบคลาวด์ (Cloud Computing)

การประมวลผลแบบคลาวด์ (Cloud Computing) ที่หลายคนรู้จักกันจากชื่อบริการยอดนิยม เช่น Google Workspace (ชื่อเดิม G Suite) และ Microsoft 365 ก็เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีในห้วงกระแส Green Technology ที่ได้รับความนิยม เพราะเป็นบริการที่ครอบคลุมทั้ง เรื่องของการติดต่อสื่อสาร ยกตัวอย่างเช่น แพลตฟอร์ม Microsoft Teams, Google Meet, Zoom Meeting, LINE ฯลฯ

และนอกจากนี้ยังรวมไปถึง บริการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลออนไลน์บนคลาวด์ (Cloud Storage) อย่าง Google Drive, Onedrive, Dropbox หรือให้บริการแอปพลิเคชันบนระบบออนไลน์ต่าง ๆ อีกด้วยเช่นกัน

การประมวลผลแบบคลาวด์ (Cloud Computing)

ข้อดีของคลาวด์ ทำให้องค์กรสามารถลดต้นทุนการติดตั้ง ฮาร์ดแวร์ (Hardware) สำหรับระบบเครือข่าย และการจัดเก็บข้อมูลได้นั่นเองไม่ต้องเสียค่าบำรุงระบบ เพียงแค่จ่ายเงินค่าบริการ Cloud Computing ก็ใช้ได้แล้ว และยังได้ใช้ของใหม่ ๆ ตลอดเวลา แถมยังสามารถเข้าถึงระบบต่าง ๆ ได้จาก มือถือ และ แท็บเล็ต อีกด้วย

และสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้ คือการพัฒนาระบบติดต่อสื่อสารอย่างโปรแกรมประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอ (Video Conference Software) มีความก้าวหน้าขึ้นมาก ทำให้เราไม่จำเป็นต้องติดต่อคุยงานกับลูกค้ากันแบบตัวต่อตัวอีกแล้ว เพราะสามารถใช้เปิดกล้องคุยกันผ่านโปรแกรม Video Conference ได้เลยทันที และภาพแรกที่เราพอจะนึกกันออกว่ามันสามารถช่วยโลกได้อย่างไร คือ การที่คุณไม่ปล่อยก๊าซ CO2 จากท่อไอเสีย เพียงเพื่อไปพบป่ะลูกค้านั่นเองครับ


ที่มา : medium.com , www.johnsoncontrols.com , www.deltathailand.com , guides.smartbuildingsacademy.com , www.smkautomation.com , www.colocationamerica.com , thenextweb.com

 
0 5+%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B9%82%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%A2%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1+%28Green+Technology%29+%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%99+%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0+%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1
แชร์หน้าเว็บนี้ :
Keyword คำสำคัญ »
เขียนโดย
ระดับผู้ใช้ : Admin    Thaiware
งานเขียนคืออาหาร ปลายปากกา ก็คือปลายตะหลิว
 
 
 

รีวิวที่เกี่ยวข้อง

 


 

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 1
8 มกราคม 2566 18:14:39
GUEST
Comment Bubble Triangle
ArthurIngex
สั่งซื้อฟาร์มพร็อกซี่มือถือ
 


 

รีวิวแนะนำ