เชื่อว่าหลายคนคงมีหนังในดวงใจ และในหนังบางเรื่อง คงจะมีโมเมนต์ที่ทำให้เราจำได้ บางโมเมนต์ก็ดราม่า ซึ้ง เศร้าเคล้าน้ำตา หรือทำให้เราขนลุก แต่ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปดู โมเมนต์ที่ “เท่สุด ๆ” จากหนัง ภาพยนตร์ 5 เรื่อง ที่ทำให้คนจำได้กันค่ะ
เชื่อว่าแฟน ๆ หนังซูเปอร์ฮีโร่ต้องจำโมเมนต์นี้ จาก หนัง ภาพยนตร์ Avengers: Endgame ได้แน่นอน หลังจากที่เหล่าฮีโร่พ่ายแพ้ให้แก่ธานอส ไททันที่รวบรวมพลังมากวาดล้างสรรพสิ่งในจักรวาลไปกว่าครึ่ง พวกเขาก็ใช้ความพยายามอย่างมากจนรวบรวมทีมกลับมาทำแต้มต่อได้อีกครั้งหนึ่ง ด้วยเทคโนโลยีสร้างเครื่องย้อนเวลาสุดล้ำ ทำให้พวกเขาเรียกสหายร่วมรบที่เคยหายตัวไปหลังวิกฤติกลับมาได้
ที่มาภาพ : https://www.youtube.com/watch?v=cT9mxZUQ2JM
ในซีนนี้ กัปตันอเมริกา ผู้ซึ่งเป็นผู้นำของเหล่าอเวนเจอร์สได้เรียกรวมพลให้ทุกคนออกสู้ในศึกครั้งสุดท้าย ด้วยประโยคติดปากของเขา คือ
อเวนเจอร์ส รวมพล (Avengers, assemble)
ซึ่งสาว ๆ ที่ดูอยู่คงจะกรี้ดกับความเท่ของกัปตันแน่นอน ส่วนคนอื่น ๆ คงจะรู้สึกขนลุกอยู่ไม่น้อย กับการแสดงที่สมบทบาทของคริส อีแวนส์ ผู้สวมบทกัปตันครั้งนี้
ใน หนัง ภาพยนตร์ The Lord of the Rings: The Return of the King หลังจากที่โฟรโดและแซมได้นำแหวนไปทำลาย อาณาจักรต่าง ๆ ก็กลับมาสงบสุขอีกครั้งหนึ่ง พลังมืดที่เคยปกคลุมอยู่ทั่วอาณาจักรได้หายไป และอารากอน สหายร่วมรบกับเหล่าฮ็อบบิทก็ได้คืนสู่บัลลังค์ในฐานะราชาที่แท้จริง ในพิธีราชาภิเษก เหล่าประชาชนต่างสรรเสริญราชาองค์ใหม่
ที่มาภาพ : https://billcoffin.com/2017/11/20/lord-of-the-rings-the-return-of-the-king/
จนกระทั่งเหล่าฮ็อบบิทเดินทางมาถึง และทำท่าจะคำนับอารากอน พวกเขากลับถูกห้ามไว้ และอารากอนก็พูดว่า
เพื่อนของข้า เจ้าไม่ต้องคำนับให้ใคร
ก่อนจะคุกเข่าลงต่อหน้าเหล่าฮ็อบบิท จากนั้นประชาชนทั้งเมืองก็คุกเข่าลงด้วย ถือเป็นฉากหนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ของภารกิจที่เหล่าฮ็อบบิทได้ไปทำมา และเห็นว่าพวกเขาเสียสละมากจริง ๆ
ถือเป็นอีกหนังที่ให้ข้อคิดดี ๆ กับคนดู สำหรับ หนัง ภาพยนตร์ Green Book ที่เล่าเรื่องราวของดอน เชลลี นักดนตรีผิวสี ที่ออกเดินทางทัวร์คอนเสิร์ตไปทั่วอเมริกา ในสมัยที่คนผิวดำยังถูกเหยียดเป็นพลเมืองชั้นสอง โดยได้โชเฟอร์ผิวขาวเชื้อสายอิตาเลียน โทนี ลิป เป็นคนดูแลความปลอดภัยและจัดการสิ่งต่าง ๆ ให้
ที่มาภาพ : https://www.imdb.com/title/tt6966692/mediaviewer/rm2868601344/
ในระหว่างทาง พวกเขาถูกตำรวจผิวขาวจับ ทำให้โทนี ลิป หัวเสีย และระบายอารมณ์ด้วยความโกรธ แต่ดอน เชลลีกลับสงบนิ่งอย่างใจเย็น และติดต่อคนรู้จักที่ช่วยให้เขาแก้ปัญหานี้ได้ ในซีนนี้ ดอน เชลลี สอนโทนีว่า การแก้ปัญหาด้วยกำลังไม่ช่วยอะไร แต่
ศักดิ์ศรีต่างหากจะทำให้เราชนะ
ซึ่งถือเป็นประโยคที่แทนตัวดอน เชลลีได้อย่างดี เพราะเขาต่อสู้เรื่องสีผิวมาตลอดอย่างมีศักดิ์ศรีจริง ๆ
สำหรับคอหนังบู๊ น้อยคนนักจะไม่รู้จักงานขึ้นหิ้งของผู้กำกับ เควนติน ทารันทิโน่ อย่าง หนัง ภาพยนตร์ Kill Bill เรื่องราวของอดีตนักฆ่าสาว (ในหนังเรียกว่า “เจ้าสาว”) ที่ถูกหักหลังโดยสามีและเหล่าแก๊งค์นักฆ่า พวกเขาพยายามฆาตกรรมเธอในพิธีแต่งงาน ทั้งที่เธอเป็นคุณแม่ท้องแก่ เธอจึงถูกทำให้เป็นอัมพาตและอยู่ในอาการโคม่าอยู่นาน แต่แล้วเธอกลับฟื้นขึ้น และเตรียมเช็คบิลแค้นกับทุกคนที่ทำให้เธออยู่ในสภาพนี้
ที่มาภาพ : https://blogup.io/a/kill-bill-whistle-ringtone/
ฉากสุดเท่ฉากหนึ่งคือฉากที่แอล ไดรเวอร์ นักฆ่าหมายเลขสี่ในบัญชีดำของเจ้าสาวปลอมตัวเป็นพยาบาล และเตรียมจะฉีดยาพิษให้เธอถึงแก่ความตาย โดยเธอเดินผิวปากไปตามโถงทางเดินของโรงพยาบาลอย่างใจเย็น และดูเลือดเย็นมาก ยิ่งประกอบกับผ้าคาดตาข้างหนึ่งของเธอที่ดูคล้ายโจรสลัดแล้ว ทำให้ฉากนี้เป็นภาพจำที่เท่ไม่เหมือนใคร
จบลิสต์นี้ด้วยหนังสุดหม่นที่เล่าที่มาของอาชญากรคู่ปรับตลอดกาลของแบทแมน อย่าง หนัง ภาพยนตร์ เรื่อง Joker เรื่องราวของชายสุดมืดมน อาร์เธอร์ เฟลค ที่อาศัยอยู่กับแม่ที่ป่วย โดยหาเลี้ยงชีพด้วยการแสดงตลกแลกกับค่าจ้างต่ำเตี้ยไปวัน ๆ เขามีโรคประจำตัว คือโรค PLC หรือ Pathological Laughter and Crying (เป็นภาวะที่มีการแสดงออกทางอารมณ์มากผิดปกติ ที่ขัดกับอารมณ์ภายใน ณ ขณะนั้น และไม่สามารถควบคุมการแสดงออกของอารมณ์ได้ เช่น หัวเราะในเรื่องเศร้า) ทำให้เขาถูกรังแกจากคนรอบตัวอยู่เสมอ
จนอยู่มาวันหนึ่ง เขาได้ปืนจากเพื่อน และก่อคดียิงพนักงานของบริษัทมหาเศรษฐีตระกูลเวย์น ทำให้เขากลายเป็นไอค่อนให้แก่คนทั่วเมือง ที่อยากเรียกร้องความเป็นธรรมจากคนรวยที่กดขี่
ที่มาภาพ : https://www.dailymotion.com/video/x7mtrop
ในฉากนี้ อาร์เธอร์แต่งตัวเป็นโจ๊กเกอร์เตรียมไปสัมภาษณ์กับรายการของเมอร์เรย์ แฟรงคลิน พิธีกรสุดโปรดของเขา โดยเขามีแผนการบางอย่างอยู่ในใจ และความคลั่งของเขาก็เริ่มปรากฏออกมาผ่านท่าทางการเต้นแบบไม่สนใจโลก เพราะในวันนี้ เขารู้แล้วว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางของโลกใบนี้ ที่จะเปลี่ยนโฉมหน้าไปตลอดกาล
|
นักเขียนอิสระให้กับสื่อออนไลน์ ชอบวิจารณ์หนังและหนังสือ |