ในบรรดาโปรแกรมทั้งหมดที่มีในคอมพิวเตอร์ของคุณ จะมีสักกี่โปรแกรมกันที่คุณได้ใช้มันเป็นประจำ คนส่วนใหญ่มักจะมีโปรแกรมที่ไม่จำเป็นติดตั้งเอาไว้ บ้างก็เป็นโปรแกรมที่เพิ่งตกรุ่นไป, บ้างก็เป็น Bloatware หรือไม่ก็เป็นโปรแกรมที่มีอันตรายแอบแฝงอยู่
มาดูกันดีกว่า ว่าโปรแกรมไม่จำเป็นที่ควรลบทิ้งเหล่านั้น มีอะไรบ้าง มาดูกันเลย ..
ก่อนจะไปลบ เราอยากแนะนำวิธีตรวจสอบโปรแกรมที่มีติดตั้งเอาไว้ในคอมพิวเตอร์ และวิธีลบมันเสียก่อน เผื่อมีคนทำไม่เป็น
วิธีการก็ง่าย ๆ ให้เราเข้าไปที่ "Settings → Apps → Apps & Features" เราก็จะเจอกับรายชื่อโปรแกรมทั้งหมดที่ถูกติดตั้งเอาไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ หากต้องการลบโปรแกรมไหนออก ก็คลิกที่ชื่อโปรแกรมดังกล่าว แล้วคลิก "ปุ่ม Uninstall" ได้เลย
ภาพจาก https://allpcworld.com/download-quicktime-player-7-7-9-free/
โปรแกรม QuickTime เป็นโปรแกรมเล่นไฟล์มัลติมีเดียของ Apple แม้ว่าในปัจจุบัน โปรแกรมนี้จะยังมีใช้งานบน macOS อยู่ แต่สำหรับเวอร์ชันบนระบบปฏิบัติการ Windows แล้ว มันไม่ได้รับการสนับสนุนมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559) แล้ว
หลังจากที่ Apple ได้ละทิ้ง โปรแกรม QuickTime สำหรับ Windows ไปได้ไม่นานทาง เทรนด์ไมโคร (Trend Micro) บริษัทด้านความปลอดภัยได้ออกมาเปิดเผยว่า โปรแกรมดังกล่าวมีช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่ร้ายแรงอยู่ แต่เพราะ Apple เลิกให้การสนับสนุนไปแล้ว ตัวโปรแกรม QuickTime ก็เลยไม่เคยได้รับการอัปเดตแพทช์เพื่อปิดช่องโหว่ดังกล่าว เราจึงไม่ควรใช้งานมันอีกต่อไป
การลบ QuickTime ออกจากเครื่อง จะไม่สร้างปัญหาใด ๆ ให้แก่ระบบปฏิบัติการ Windows ของคุณเลย ต่อให้คุณใช้ iPhone และมีการใช้ iTunes อยู่ โปรแกรม iTunes ก็ไม่ได้พึ่งพา โปรแกรม QuickTime ในการทำงานแต่อย่างใด
หากคุณจำเป็นต้องใช้ QuickTime ในการรับชมไฟล์ Multimedia อยู่ ลองเปลี่ยนไปใช้ โปรแกรมดูหนังฟังเพลง VLC แทนก็ได้
ภาพจาก https://review.thaiware.com/580.html
ในอดีตนั้น โปรแกรม CCleaner เคยเป็นโปรแกรมที่ได้รับความไว้วางใจในการจัดการกับไฟล์ขยะ แต่ชื่อเสียงของมันดิ่งเหวลงอย่างรวดเร็วในปี ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560) หลังจากถูกทาง อแวทส (Avast) ตรวจสอบพบว่า โปรแกรม CCleaner มีการบังคับให้อัปเดตตัวเองโดยไม่ขออนุญาตจากผู้ใช้, แอบเก็บข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้ และเคยถูกใช้เป็นช่องทางในการแพร่กระจายมัลแวร์อีกด้วย
แม้ว่า โปรแกรม CCleaner เวอร์ชันในปัจจุบัน จะได้รับการอัปเดตแก้ไข จนไม่เหลือจุดด่างพร้อยแล้ว แต่เอาจริง ๆ มันก็ไม่ใช่โปรแกรมที่จำเป็นต้องมีติดเครื่องอยู่ดี ระบบปฏิบัติการ Windows ในปัจจุบัน มีเครื่องมือทำความสะอาดเครื่องมาให้ในตัวอยู่แล้ว (อ่านวิธีใช้งาน : https://tips.thaiware.com/1233.html)
นอกจาก CCleaner แล้ว มีหลายคนที่ติดตั้ง (หรือเผลอติดตั้ง) โปรแกรมทำความสะอาดเครื่อง (PC-cleaner) ที่เคลมว่าสามารถล้างไฟล์ Registry ช่วยให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้เร็วขึ้นได้ เช่น MyCleanPC, PC Optimizer Pro ฯลฯ ส่วนใหญ่แล้ว โปรแกรมเหล่านี้ถ้าไม่ไร้ประโยชน์ ก็แอบแฝงอันตรายเอาไว้ ต่อให้มันลบ Registry ที่ไม่จำเป็นได้จริง มันก็ไม่ได้ช่วยให้คอมพิวเตอร์เร็วขึ้นได้แต่อย่างใด
ถ้าต้องการตั้งค่าคอมพิวเตอร์ให้ทำงานได้เร็วขึ้น ลองอ่านเทคนิคในบทความนี้ดูได้ที่ : https://tips.thaiware.com/389.html
ภาพจาก https://forum.utorrent.com/topic/106241-utorrent-not-connecting-to-peers/
ในอดีตนั้น โปรแกรม uTorrent เคยเป็นเหมือนเสาหลักที่รันวงการ โปรแกรมประเภท Torrent หากใครจะพัฒนาโปรแกรม Torrent มาแข่งขันด้วย อย่างน้อยคุณสมบัติในการทำงานต้องทำได้ไม่แพ้ โปรแกรม uTorrent อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้มันไม่น่าเชื่อถืออีกต่อไป
ต่อให้เรามองข้ามเรื่องป้ายโฆษณาที่แปะอยู่ในหน้าจอของผู้ใช้งานไป ตัว โปรแกรม uTorrent ก็ยังพยายาม "ยัดเยียด" นำเสนอโปรแกรมอื่น ๆ ให้เราอย่างสม่ำเสมอ สร้างความน่ารำคาญเป็นอย่างมาก สถานการณ์เลวร้ายลงถึงขีดสุดในปี ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558) เมื่อมันถูกตรวจพบว่าแอบใส่เครื่องมือขุด Cryptocurrency เอาไว้ โดยที่ไม่บอกให้ผู้ใช้รู้ ทำให้คอมพิวเตอร์ต้องสูญเสียทรัพยากรไปอย่างเปล่าประโยชน์ เพื่อทำเงินให้กับเจ้าของ uTorrent
ตัวเลือกที่ดีกว่าในการดาวน์โหลดโปรแกรม Torrent คือ โปรแกรม qBittorrent ที่เป็น ซอฟต์แวร์เปิดเผยซอร์สโค้ด (Open-source Software) และปราศจากโฆษณากวนใจ
ตัว โปรแกรม Adobe Flash Player นั้นไม่ได้รับการสนับสนุนมาตั้งแต่เดือนมกราคม ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564) นั้น เว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) รุ่นใหม่ทุกค่ายก็ปิดกั้นการทำงานของมันไปแล้วเช่นกัน
ในขณะที่ โปรแกรม Adobe Shockwave Player ที่เป็น Runtime plugin ก็ถูกยกเลิกการสนับสนุนตั้งแต่ปี ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) ทาง Adobe ผู้พัฒนาปิดการดาวน์โหลดมันไปแล้ว และแทบไม่มีเว็บไซต์ไหนต้องการมันในการทำงานอีกต่อไป
ดังนั้น หากในคอมพิวเตอร์ของคุณยังมี โปรแกรม Adobe Flash Player และ โปรแกรม Shockwave Player อยู่ในเครื่อง เก็บไว้ก็เหมือนมีฟอสซิลดองอยู่ในเครื่อง ลบมันทิ้งไปเพื่อประหยัดพื้นที่ดีกว่า
ภาพจาก https://1000logos.net/java-logo/
จาวา (Java) เป็นซอฟต์แวร์ประเภท Media runtime ประกอบไปด้วย Java Desktop และ Java Plugin สำหรับเบราว์เซอร์ (ที่เต็มไปด้วยปัญหาด้านความปลอดภัย) Java เคยได้รับความนิยมในการใช้งานบนเว็บไซต์อย่างแพร่หลาย แต่ในปัจจุบันแทบไม่มีใครใช้งานแล้ว จากการสำรวจของ W3techs พบว่ามีเว็บไซต์ใช้งานอยู่เพียง 0.02% เท่านั้น
ภาพจาก https://w3techs.com/technologies/details/cp-javaruntime
เว็บเบราว์เซอร์ยอดนิยมอย่าง Chrome และ Firefox ก็ไม่รองรับการใช้งาน Java ดังนั้น การลบมันไม่ได้สร้างความเสียหายอะไร เว้นเสียแต่ว่าคุณเป็นนักพัฒนา Android developer หรือจำเป็นต้องใช้งานบางโปรแกรมที่พึ่งพา Java ในการทำงาน
โปรแกรม Microsoft Silverlight เป็นระบบ Web Framework เหมือนกับ โปรแกรม Adobe Flash ที่ใช้ในการแสดงผลมัลติมีเดียบนหน้าเว็บไซต์ หลายปีก่อนยังมีการใช้อยู่บ้าง แต่ปัจจุบันแทบไม่มีใครใช้มันแล้ว จากการสำรวจของ W3techs พบว่ามีเว็บไซต์ใช้งานอยู่เพียง 0.03% เท่านั้น
ภาพจาก https://w3techs.com/technologies/details/cp-silverlight
เว็บเบราว์เวอร์ยอดนิยมอย่าง โปรแกรม Google Chrome และ โปรแกรม Mozilla Firefox ก็ไม่รองรับการใช้งาน Silverlight แม้แต่ โปรแกรม Microsoft Edge ที่พัฒนาโดย Microsoft ก็ยังไม่รองรับเลย มันรองรับแค่ โปรแกรม Internet Explorer เท่านั้น ดังนั้น ถ้ายังมีอยู่ในเครื่องก็ลบมันทิ้งไปเสียเถอะ
ถ้าคิดอยู่ว่าจะลบอะไรออกจาก Windows ของเครื่องเราดี หนึ่งในตัวเลือกที่ดี คือเหล่าโปรแกรมประเภทแถบเครื่องมือ (Toolbar) และส่วนขยายของเว็บเบราว์เซอร์ (Browser Extension) ต่าง ๆ ที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว ข่าวดี คือ เว็บเบราว์เซอร์ยุคใหม่ได้พยายามต่อต้านกำจัดพวก Toolbars และส่วนขยายที่ไร้ประโยชน์ออกจากระบบไปได้หลายส่วนแล้ว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า มันยังมีหลงเหลืออยู่
ลองสำรวจภายในระบบของคุณว่า มีพวกโปรแกรม Toolbar อย่างเช่น Bing Bar, Google Toolbar, Ask Toolbar, Yahoo! Toolbar, Babylon Toolbar ฯลฯ อยู่หรือไม่ ส่วนใหญ่ผู้ใช้มักจะเผลอติดตั้งไปจากการถูกแถมพ่วงมาในขณะที่ติดตั้งโปรแกรมฟรี จากนั้นให้สำรวจดูว่าส่วนขยายในเว็บเบราว์เซอร์มีตัวไหนบ้างที่ใช้งานไม่ได้แล้ว ตัวไหนที่ไม่ได้ใช้ ก็ให้ลบออกให้หมด
คอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน ผู้ผลิตจะนิยมติดตั้ง โปรแกรมมาให้ล่วงหน้า (Bloatware) บางโปรแกรมก็มีประโยชน์ ช่วยให้ผู้ใช้จัดการกับระบบคอมพิวเตอร์ได้ง่ายขึ้น แต่ส่วนใหญ่แล้ว เรามักจะได้โปรแกรมไร้ประโยชน์แถมมาเสียมากกว่า ไม่เป็นโปรแกรมที่เป็นเวอร์ชันทดลองใช้ ก็เป็นโปรแกรมที่มีคุณสมบัติทับซ้อนกับเครื่องมือที่มีอยู่แล้วในระบบปฏิบัติการ Windows
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผู้ผลิตแต่ละค่าย มีการใส่ Bloatware ลงในอุปกรณ์แต่ละรุ่นแตกต่างกัน ทำให้เราไม่สามารถบอกได้ว่าควรลบตัวไหนออก อาจจะต้องลองใช้ดูก่อนด้วยตัวเอง แล้วพิจารณาดู ตัวไหนจำเป็นก็เก็บไว้ ตัวไหนไม่จำเป็นก็ลบออก
การลบ Bloatware จากผู้ผลิตอาจจะเป็นเรื่องน่ารำคาญ แต่การลบ Bloatware ที่แถมมากับ Windows 10 จะค่อนข้างง่ายหน่อย เพราะส่วนใหญ่จะเป็นแอปพลิเคชันบน Microsoft Store
โดยวิธีการที่ง่ายที่สุดคือ คลิก "ปุ่ม Start" แล้วคลิกขวาที่ไอคอนแอปพลิเคชันที่ไม่ต้องการ แล้วเลือก Uninstall
ภาพจาก https://software.thaiware.com/1523-WinRAR-Download.html
แม้การบีบอัดไฟล์ และแตกไฟล์ จะยังนิยมใช้งานกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน แต่ โปรแกรบีบอัดไฟล์ คลายไฟล์ WinRAR ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับงานนี้ ด้วยความที่มันเป็น ซอฟต์แวร์ทดลองแบบจำกัดการใช้งาน (Shareware) แม้ว่าจะครบกำหนดที่สามารถใช้งานได้ฟรีแล้วจะยังใช้งานได้ก็ตาม
แต่มันก็ไม่มีเหตุผลที่จะใช้ โปรแกรม WinRAR เพราะเรามีตัวเลือกที่ฟรี และดีอย่าง โปรแกรม 7-Zip สำหรับไว้ใช้แตกไฟล์ .RAR ส่วนไฟล์ .ZIP นั้น Windows 10 สามารถแตกไฟล์ได้อยู่แล้ว
ทั้งหมดที่เรากล่าวไปด้านบน ก็คือ รายชื่อโปรแกรมที่ไม่จำเป็นอีกแล้วในปัจจุบัน ถ้าหากลบแล้ว ในกาลต่อมามีเหตุจำเป็นต้องใช้ ก็ค่อยดาวน์โหลดมาติดตั้งใหม่ก็ได้
|
แอดมินสายเปื่อย ชอบลองอะไรใหม่ไปเรื่อยๆ รักแมว และเสียงเพลงเป็นพิเศษ |