แชร์หน้าเว็บนี้ :
ตัดต่อวิดีโอง่าย ๆ ด้วย Windows Video Editor พร้อมฟีเจอร์ให้ใช้งาน เพียบ ใน Windows 10
จากที่เราเคยแนะนำ โปรแกรมตัดต่อวิดีโอฟรี บน PC และ Mac ใช้ง่าย มีคุณภาพ ไปในครั้งก่อน รู้หรือไม่ว่ายังมีอีกโปรแกรมหนึ่งที่ถือว่าเป็นของฟรี ใช้ดี และใช้ง่ายด้วยเหมือนกัน นั่นก็คือ โปรแกรม Windows Video Editor ที่มีติดมาให้กับการติดตั้ง ระบบปฏิบัติการ Windows ในทุก Edition ที่สามารถทำตั้งแต่เรื่องง่าย ๆ อย่างการสร้างสไลด์รูปภาพเป็นคลิปวิดีโอ ไปจนถึงการใส่เอฟเฟคเพื่อให้คลิปน่าสนใจขึ้นได้ด้วย ซึ่งโปรแกรมที่ว่า มันสามารถทำอะไรได้บ้าง เราจะพาคุณไปส่องฟีเจอร์ของมันกัน
บทความเกี่ยวกับ Windows อื่นๆ
ทำความรู้จักกับองค์ประกอบต่าง ๆ ใน Windows Video Editor
โปรแกรม Windows Video Editor เป็นโปรแกรมที่มีหน้าตาเรียบ ๆ ใช้งานง่าย เมื่อเทียบกับรุ่นพี่อย่าง Windows Movie Maker โดยเราสามารถเรียกใช้งานได้โดยพิมพ์คำว่า "Video Editor" ลงไปในแถบค้นหา หรือไอคอนแว่นขยายที่แถบทาส์กบาร์ หน้าตาโปรแกรมจะมีอยู่ 4 ส่วนหลัก ๆ ได้แก่
- Home Screen : ในหน้านี้ เราจะสามารถนำเข้าไฟล์, สร้างไฟล์สำรองของไฟล์ที่มีอยู่แล้ว หรือตั้งค่าตัวแก้ไขได้ ซึ่งคุณสามารถเข้าถึงบรรดารูปภาพที่จะนำมาใช้งานได้ง่าย ๆ ใน "แท็บ Photos"
- Project Library : ทำหน้าที่เสมือนคลังไฟล์มีเดียของเราสำหรับการสร้างคลิปวิดีโอ โดยบรรดารูปภาพหรือคลิปที่ถูกเพิ่มเข้ามา จะปรากฎให้เห็นที่นี่
- Storyboard : คลิปและรูปภาพที่เราทำการตัดต่อ จะต้องถูกเพิ่มลงสตอรี่บอร์ดเสียก่อน โดยจะอยู่ที่แผงด้านล่างของโปรแกรม
- Preview Pane : คือส่วนที่สามารถพรีวิววิดีโอได้โดยคลิกที่ "ปุ่ม Play"
วิธีเริ่มต้นใช้งาน Windows Video Editor แบบง่าย ๆ
การสร้างวิดีโอแบบง่าย ๆ จาก โปรแกรม Windows Video Editor สามารถทำได้สองแบบ นั่นก็คือการเลือกภาพหรือวิดีโอมาใส่ และเริ่มต้นดัดแปลงแก้ไขพวกมันเพื่อทำให้เป็นคลิปใหม่ขึ้นอีก 1 คลิป หรือเริ่มสร้างจากพื้นที่แคนวาสสีขาวว่าง ๆ แล้วเลือกไฟล์มีเดียที่ต้องการ ใส่เอฟเฟคและลูกเล่นอื่น ๆ เข้าไปตามชอบ
วิธีสร้างวิดีโอแบบอัตโนมัติ
- ในหน้า Home Screen คลิกที่ "ปุ่ม ..." ถัดจาก "ปุ่ม New Video Project" และเลือก "เมนู Make a Video for Me"
- เลือกไฟล์มีเดียมาอย่างน้อย 2 ไฟล์, ตั้งชื่อคลิปวิดีโอ แล้วคลิกที่ "เมนู Create"
- ใส่ชื่อที่ต้องการให้กับวิดีโอแล้วคลิกที่ "ปุ่ม OK"
- เลือกออปชันเพิ่มเติมในการปรับแต่งวิดีโอ เช่น ใส่ธีม, ใส่เพลง, หรือเอฟเฟคลงไป
- เมื่อปรับแต่งเสร็จเรียบร้อย ให้กด "ปุ่ม Finish Video"
- เลือกคุณภาพวิดีโอที่ต้องการจากรายการที่มีให้ แล้วกด "ปุ่ม Export"
- บันทึกวิดีโอให้เรียบร้อย
วิธีสร้างวิดีโอจากหน้าเปล่า (Blank Canvas)
- ใน "หน้า Home Screen" ให้คลิกที่ "ตัวเลือก New Video Project"
- ใส่ชื่อที่มีความหมายให้กับวิดีโอแล้วคลิกที่ "ปุ่ม OK"
- ใน "หน้า Project Library" ให้คลิกที่ "ไอคอน +Add" เพื่อนำเข้ารูปภาพและวิดีโอจากภายในเครื่อง หรือจากบนอินเตอร์เนตมาใช้งาน
- คลิกเลือกรูปที่ต้องการนำเข้ามาใช้ แล้วคลิกที่ "เมนู Place in the Storyboard"
วิธีแก้ไขวิดีโอด้วย Windows Video Editor ในรูปแบบต่าง ๆ
นอกเหนือจากความสามารถในการนำรูปภาพและคลิปวิดีโอมารวมกันแล้ว โปรแกรม Windows Video Editor ยังมีความสามารถอื่น ๆ ในการแก้ไขวิดีโออีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น การเพิ่มข้อความ, การเพิ่มเพลงและเสียง, การเพิ่มฟิลเตอร์, และการเพิ่มการเคลื่อนไหวเข้าไปในวิดีโอ
วิธีเพิ่มข้อความ
- ในสตอรี่บอร์ดของเรา ให้เลือกรูปภาพที่ต้องการใช้มาให้เรียบร้อยก่อนที่จะใส่แคปชันลงไป แล้วคลิกที่ "เมนู Add Title Card" ซึ่งในค่าเริ่มต้นนั้น ชื่อเรื่องจะอยู่ในส่วนเริ่มต้นของวิดีโอ
- เลือก "ซีน Title Card" แล้วกดเลือก "เมนู Text"
- ใส่ข้อความที่ต้องการลงไป เลือกแบบอักษร สีตัวอักษร สีพื้นหลัง และการจัดวางได้ที่แผงควบคุมทางด้านขวา
- ลากจุดเวลาไปที่ช่วงเวลาที่ต้องการจะให้ข้อความขึ้นบนวิดีโอ ซึ่งเราสามารถเลื่อน "ปุ่ม Seek" เพื่อเปลี่ยนขนาดตัวอักษรและสีของตัวอักษรได้ด้วย
- เมื่อเพิ่มข้อความเสร็จสิ้น คลิกที่ "ปุ่ม Done"
วิธีเพิ่มเพลงและเสียง
การเพิ่มเสียงที่ว่านี้ เราสามารถที่จะเพิ่มเสียงจากที่ภายในโปรแกรมมีให้ หรือจะเพิ่มเสียงหรือเพลงจากที่เรามีอยู่ในคลังก็ได้ ซึ่งในปัจจุบัน ตัวโปรแกรมสามารถเพิ่มได้เพียง 1 แทรคต่อ 1 คลิปวิดีโอเท่านั้น
Credit: https://www.makeuseof.com/how-to-use-video-editor-windows-10/
- ที่ด้านขวามุมบนของหน้าจอ Home Screen เลือก "เมนู Background Music"
- คลิกที่ "ปุ่ม Play" เพื่อฟังเพลง โดยมีตัวเลือก "Sync Your Video to the Music's Beat" เพื่อให้เพลงสามารถซิงก์กับเข้ากับจังหวะการเปลี่ยนฉากได้ด้วย
- หากต้องการเพิ่มไฟล์เพลงจากในเครื่อง ให้เลือก "เมนู Custom Audio" แล้วเลือกเมนู "Add the Audio File"
- คลิกที่ "ปุ่ม Done"
วิธีเพิ่มฟิลเตอร์
ฟิลเตอร์ที่มีให้ จะคล้าย ๆ กันกับที่มีให้ใช้กันในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook และ Instagram ซึ่งเราสามารถใช้ฟิลเตอร์กับรูปหรือคลิปใด ๆ ที่ใส่ลงมาในโปรแกรมนี้ก็ได้
- ในสตอรี่บอร์ดของเรา ให้เลือกรูปหรือคลิปที่ต้องการใส่ฟิลเตอร์ลงไป
- คลิกที่ "เมนู Filters" แล้วเลือกฟิลเตอร์ที่ต้องการ
- คลิกที่ "ปุ่ม Play" เพื่อพรีวิวดูเอฟเฟคของฟิลเตอร์ว่าตรงตามต้องการแล้วหรือไม่ จากนั้นให้กด "ปุ่ม Done"
วิธีเพิ่มการเคลื่อนไหว (Motion) เข้าไปในวิดีโอ
เอฟเฟคการเคลื่อนไหวที่ว่า คือเอฟเฟคที่สามารถทำให้รูปภาพที่ใส่ลงไป สามารถเฟดเข้า, แพนออกจากเฟรม, หรือหมุนขึ้นได้ โดยใช้ฟีเจอร์ Motion
- ในสตอรี่บอร์ดของเรา ให้เลือกไฟล์มีเดียที่ต้องการ
- คลิกที่ "เมนู Motion" เลือกเอฟเฟคที่ต้องการใช้งาน ซึ่งเราสามารถกด "ปุ่ม Play" เพื่อพรีวิวเอฟเฟคที่เพิ่งใส่เข้าไปได้
- คลิกที่ "ปุ่ม Done"
ความสามารถอื่นๆ ที่น่าสนใจของ โปรแกรม Windows Video Editor
นอกเหนือจากฟีเจอร์อื่น ๆ ที่เราได้นำเสนอไปข้างต้นแล้ว เรายังสามารถแก้ไขระยะเวลาที่จะให้รูปภาพหรือคลิปวิดีโอถูกแสดงขึ้นได้ หรือจะจัดการใส่ธีมสำเร็จเข้าไปให้กับคลิปของเรา ก็สามารถทำได้ด้วยเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชันอื่น ๆ ที่สามารถทำได้ภายในโปรแกรม Windows Video Editor ด้วย โดยคลิกที่ "ปุ่ม ..." ที่มุมขวามือด้านบน เช่น
- Duplicate : ทำซ้ำโปรเจกต์ปัจจุบันที่กำลังทำอยู่ (เช่น อาจจะมีเวอร์ชั่น 1 เวอร์ชั่น 2 ให้ช่วยกันพิจารณา)
- Back Up : สำรองข้อมูลโปรเจกต์วิดีโอที่กำลังทำอยู่ ไว้แก้ไขต่อในภายหลัง
- 16:9 Landscape : ข้อความตรงนี้สามารถเปลี่ยนเป็น 4:3 หรือ เพื่อเปลี่ยนอัตราส่วนของคลิปวิดีโอที่เรากำลังแก้ไขอยู่ หรือคลิกที่ "เมนู Make Portrait" เพื่อปรับให้คลิปเป็นแนวตั้งได้
โดยคลิกที่ "ปุ่ม ..." ที่มุมขวามือด้านบน ซึ่งถ้าหากเราแก้ไขวิดีโอเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถกดที่ "ปุ่ม Finish Video" ที่มุมขวามือด้านบน แล้วเลือก "เมนู Export" ตัวคลิปวิดีโอที่เราทำเสร็จแล้ว จะถูกบันทึกลงเครื่องโดยอัตโนมัติ ถ้าหากเราล็อกอิน OneDrive ไว้ คลิปก็จะถูกบันทึกลงใน OneDrive แทน
ที่มา : www.makeuseof.com , support.microsoft.com